Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Concept mapping จากกรณีศึกษา - Coggle Diagram
Concept mapping
จากกรณีศึกษา
การวินิจฉัยโรค
โรคหอบหืด (Asthma)
สาเหตุ
อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่ที่มีฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐาน ทำให้เด็กมีความไวต่อการตอบสนอง
อาการและอาการแสดง
หายใจเหนื่อย
ไอถี่
มีเสียงวีด (wheezing)
สัณญาณชีพ
T 37.5 องศาเซลเซียส
PR 100 ครั้ง/นาที
RR 46 ครั้ง/นาที
BP 100/70 ครั้ง/นาที
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาลที่1
เสี่ยงต่อภาวะเนื้อเยื่อในร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอเนื่องจากการหดเกร็งของหลอดลม
กิจกรรมการพยาบาล
ดูแลให้ได้รับยาขยายหลอดลม Salbutamal 1 NB ทันที และ 1 NB ทุก 8 ชั่วโมงและเวลาหอบตามแผนการรักษาของแพทย์และสังเกตอาการขา้งเคียงจากการใช้ยา
ดูแลให้ได้รับยา dexamethazone 2 มิลลิกรัม เข้าหลอดเลือดดำ
ทุก 6 ชั่วโมง ตามแหนการรักษาของแพทย์และสังเกตอาการแพ้ยา
ให้ออกซิเจนแคนนูลา3ลิตรต่อนาทีเพื่อป้องกันภาวะร่างกายขาดออกซิเจน
จัดให้ผู้ป่วยนอนศีรษะสูงประมาณ 45 องศา เพื่อให้กล้ามเน้ือหน้าท้อง
หย่อนตัวปอดขยายตัวได้ดีข้ึนและปอดมีพื้นท่ีในการแลกเปลี่ยนก๊าชเพิ่มข้ึน
สังเกตอาการขาดออกซิเจนที่ผิวหนัง เล็บ เยื่อบุช่องปาก ริมฝีปากเขียวหรือไม่
วัดสัญญาณชีพทุก 30 นาที และติดตามการเปลี่ยนแปลงของผู้ป่วยสังเกตและบันทึกการหายใจ
แนะนำการไออย่างมีประสิทธิภาพและวิธีการไอที่ถูกวิธี
จัดสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมในการดำรงชีวิตประจำวันเพื่อลดการออกแรงและลดการใช้ออกซิเจน
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาลที่ 3
ผู้ป่วยและญาติยังขาดความรู้ในการดูแลตนเองและฟื้นฟูสภาพผู้ป่วยเมื่อ กลับไปบ้าน
กิจกรรมการพยาบาล
ให้ความรู้เกี่ยวกับโรคหืด เพื่อให้ทราบถึงสาเหตุการกําเนิดโรค การรักษาและภาวะแทรกซ้อนท่ีสำคัญ
หลีกเลี่ยงสิ่งท่ีระคายเคืองต่อทางเดินหายใจ หรือสารก่อภูมิแพ้ เช่นขนสัตว์ ฝุ่นในบ้านหรือที่นอน ควันบุหรี่ อาหารทะเล ฯลฯ
กินยาหรือพ่นยาตรงตามการรักษาของแพทย์ ไม่ควรหยุดยาเอง เมื่ออาการเริ่มดีข้ึนอาจทำให้โรคกำเริบได้
ฝึกการหายใจที่ถูกต้อง
แนะนำให้รับประทานยาตามแผนการรักษาของแพทย์อย่างต่อเนื่อง และอธิบายให้ทราบถึงอาการข้างเคียงของยาที่ได้รับ
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาลที่2
บิดามารดามีความวิตกกังวลเนื่องจากความเจ็บป่วยของบุตรและไม่เข้าใจวิธีการรักษา
กิจกรรมการพยาบาล
สร้าสัมพันธภาพที่ดีกับเด็ก บิดา มารดา โดยการพูดคุยให้การพยาบาลอย่างนุ่มนวลด้วยท่าทีเป็นมิตรอย่างสม่ำเสมอ
เปิดโอกาศให้บิดามารดาซักถามปัญหาเกี่ยวกับการเจ็บป่วยของบุตร และตอบข้อซักถามด้วยวาจาที่นุ่มนวล สุภาพ เพื่อคลายความวิตกกังวล
อธิบายให้บิดามารดาเข้าใจเกี่ยวกับพยาธิสภาพของโรค การดำเนินของโรค แผนการรักษาของแพทย์ให้บิดามารดาฟังพอสังเขป เพื่อให้ความไว้วางใจและให้ความร่วมมือในการรักษา
ให้ความรู้ญาติในการดูแลบุตรเมื่อมีอาการเจ็บป่วย
อนุญาตให้บิดาหรือมารดาดูแลบุตรอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับความอบอุ่นไม่เกิดความหวาดกลัว
พยาธิสภาพ
หลอดลมของผู้ป่วยมักไวต่อสารกระตุ้น (bronchial hyperresponsiveness) เมื่อสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้จะเกิดการอักเสบในหลอดลม สารก่อภูมิแพ้จะกระตุ้น T และ B lymphocyte ให้ผลิตสาร interleukin-3และ4 เพื่อกลับไปกระตุ้นให้ B lymphocyte ผลิต lgE มาตอบสนองต่อตัวกระตุ้น หลังจากนั้น lgE จะไปกระตุ้น mast cell. macrophages, eosinophils, neutrophils และ lymphocytes ที่ผนังหลอดลมให้หลั่งสารอักเสบออกมาที่ผนังหลอดลมจนเกิดการเปลี่ยนแปลงของหลอดลม
การรักษา
หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ หรือสิ่งกระตุ้นต่างๆ ซึ่งเป็นหลักสำคัญในการรักษาโรคหืด
การใช้ยา ซึ่งมียาหลายชนิดทั้งในรูปแบบของยาพ่น ยากิน ยาฉีดวัคซีนภูมิแพ้ ซึ่งแพทย์จะให้การรักษาตามความรุนแรงของโรค
พบแพทย์และติดตามการรักษาอย่างต่อเนื่อง
ภาวะแทรกซ้อน
ภาวะขาดน้ำ
ปอดแฟบ (Atelectasis)
ภาวะหมดแรง (Exhaustion)
การติดเชื้อ (ไซนัสอักเสบ หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ)
ภาวะการหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน