Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 8 การพยาบาลเด็กที่มีปัญหาระบบทางเดินหายใจ - Coggle Diagram
บทที่ 8 การพยาบาลเด็กที่มีปัญหาระบบทางเดินหายใจ
กล่องเสียงและหลอดลมอักเสบเฉียบพลัน (Acute laryngotracheobronchitis, viral croup)
เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อของทางเดินหายใจ ซึ่งการติดเชื้อจากไวรัสจะมีความรุนแรงกว่า
เชื้อไวรัสที่พบ
Parainfluenza viruses
Influenza A,B
Respiratory syncytial virus(RSV)
พยาธิสภาพ
มีการอักเสบและบวมโดยเฉพาะใต้กล่องเสียง
ทาให้เกิดภาวะอุดกั้นของทางเดินหายใจส่วนบนแบบเฉียบพลัน
อาการที่พบ
ไข้ เจ็บคอ หายใจลำบาก ไอมีเสียงก้อง เสียงแหบ
หายใจได้ยินเสียง stridor
บางรายมีอาการรุนแรงจนเกิดภาวะพร่องออกซิเจนเฉียบพลัน ไม่แนะนำให้พ่นยา ส่วนใหญ่จะพ่น Adrenaline และใส่ Endotracheal tube
Tonsilitis / Pharyngitis
สาเหตุ
การติดเชื้อ แบคทีเรีย ไวรัส
เช่น
Beta Hemolytic
streptococcus gr.
อาการ
ไข้ ปวดศีรษะ ไอ เจ็บคอ
บางรายมีตุ่มใสหรือแผลตื้นที่คอหอยหรือเพดาน
เกิดจาก Coxsackie Virus
เรียกว่า Herpangina
เป็นการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนต้น
คำแนะนำ
กินยา Antibiotic ให้ครบ 10 วัน เพื่อป้องกันไข้รูห์มาติคและหัวใจรูห์มาติคหรือ กรวยไตอักเสบเฉียบพลัน AGN
การผ่าตัดต่อมทอนซิล
ข้อบ่งชี้
การติดเชื้อเรื้อรัง(chronic tonsillitis) หรือเป็นๆหายๆ(recurrent acute
มีไข้, เจ็บคอ, เจ็บคอมากเวลากลืนหรือกลืนลำบาก จนรบกวนคุณภาพชีวิต
มีการอุดกั้นทางเดินหายใจส่วนบน ทำให้เกิดอาการนอนกรนและมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ obstructive sleep apnea)
สงสัยว่าเป็นมะเร็งของต่อมทอนซิล(carcinoma of tonsils)
การดูแลหลังผ่าตัด
หลังผ่าตัดควรให้เด็กนอนตะแคง เพื่อสะดวกต่อการระบายเสมหะ น้ำลายหรือเลือดที่อาจมีคั่งอยู่ในปากและในคอ จนกว่าเด็กจะรู้สึกตัวดี
สังเกตอาการและการเปลี่ยนแปลงอย่างใกล้ชิด สัญญาณชีพ ซีด และมีเลือดออก โดยทั่วไปจะเกิดภายใน 6-8ชั่วโมงแรก
เมื่อเด็กรู้ตัวดี ให้เด็กอยู่ในท่านั่ง 1-2 ชั่วโมง ให้อมน้ำแข็งก้อนเล็กๆ เพื่อให้หลอดเลือดหดตัว รับประทานของเหลว เพื่อลดการระคายเคือง เมื่อปวดมากให้ยาแก้ปวด
บางรายยังมีอาการเจ็บคอกลืนอาหารหรือน้ำลายลำบากทำให้รับประทานไม่ค่อยสะดวก แนะนาให้รับประทานอาหารอ่อนที่ค่อนข้างเย็น เช่น ไอศกรีมข้นๆ
หลังการผ่าตัด 1-2 วันแรก เพดานอ่อน หรือผนังในคออาจบวมมากขึ้นได้ ทำให้หายใจไม่สะดวก จึงควรนอนศีรษะสูง
หลีกเลี่ยงการแปรงฟันที่ออกแรงมาก เพราะอาจทาให้มีเลือดออกจากแผลในช่องปากได้
ประคบหรืออมน้าแข็งควรประคบหรืออมสลับกับพักประมาณ 10 นาที แล้วจึงเอาออกประมาณ 10 นาที แล้วค่อยประคบหรืออมใหม่เป็นเวลา 10 นาที ในกรณีที่เลือดออก
ไซนัสอักเสบ(Sinusitis)
เป็นอาการอักเสบของโพรงอากาศข้างจมูก
สาเหตุ
เกิดจากการติดเชื้อ เชื้อไวรัสแบคทีเรีย เชื้อรา
พยาธิสภาพ
เมื่อเกิดการติดเชื้อจะทำให้เกิดการบวมของเยื้อบุในโพรงอากาศ
ทำให้เกิดภาวะอุดตันช่องระบายของโพรงอากาศข้างจมูก เกิดการคั่งของสารคัดหลั่ง
ส่งผลทำให้ความดันโพรงอากาศเป็นลบ เมื่อมีการไอจาม เชื้อแบคทีเรีย สามารถเข้าสู่โพรงอากาศข้างจมูกได้ง่าย
ผลของการติดเชื้อทำให้การทางานของ cilia cilia ผิดปกติ และมีสารคัดหลั่งออกมามาก
ระยะของโรค
Acute sinusitis ระยะของโรคไม่เกิน 12 สัปดาห์
Chronic sinusitis อาการจะต่อเนื่องเกิน 12 สัปดาห์
อาการ
มีไข้สูงมากกว่า 39 ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว มีน้ามูกไหล ไอ
ในรายที่ติดเชื้อแบคทีเรีย อาการมักจะนานมากกว่า 10 วัน และมีอาการรุนแรง
อาการ Acute จะรุนแรงกว่า Chronic
การวินิจฉัย
X-ray paranasal sinus
CT scan
การตรวจด้วยการส่องไฟผ่าน
การดูแลรักษา
ให้ยา antibiotic ตามแผนการรักษา
ให้ยา paracetamalเพื่อลดไข้ และบรรเทาอาการปวดศีรษะ
ให้ยาแก้แพ้ ในรายที่ไซนัสอักเสบเรื้อรัง ไม่แนะนำให้ใช้ยาแก้แพ้ในผู้ป่วยที่เป็นไซนัสอักเสบแบบเฉียบพลันเพราะจะทำให้จมูกและไซนัสแห้ง
ให้ยาSteroid เพื่อลดอาการบวม
การล้างจมูก
ป้องกันการลุกลามของเชื้อโรคจากจมูกและไซนัสไปสู่ปอด
ช่วยลดจำนวนเชื้อโรค และช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น บรรเทาอาการคัดแน่นจมูก ทาให้หายใจโล่งขึ้น บรรเทาอาการระคายเคืองในจมูก
วิธีการ
ล้างจมูกวันละ 2 ครั้งตามแผนการรักษาของแพทย์
ใช้น้ำเกลือความเข้มข้น 0.9% NSS ในการล้าง
หอบหืด Asthma
เป็นภาวะที่มีการอักเสบเรื้อรังของหลอดลม
พยาธิสภาพ
ทำให้หลอดลมหดเกร็งตัว(Brochospasm)
ทำให้หลอดลมตีบแคบลง (Stenosis Stenosis )เยื่อบุภายในหลอดลมบวม
มีการสร้างเมือกเหนียวจำนวนมาก (Hypersecretion)ทำให้ช่องทางเดินอากาศในหลอดลมแคบลง
อาการ
มีอาการหวัด ไอ มีเสมหะ ถ้าไอมากขึ้นเรื่อยๆ ก็มักจะมีเสียง Wheezing ในช่วงหายใจออก
บางครั้งมีการเกร็งตัวของหลอดลม
การดูแล
ให้ผู้ป่วยได้รับยาขยายหลอดลม ได้รับออกซิเจน ให้พัก เพื่อลด activity
ในรายที่มีเสมหะ จะไม่ใช้วิธีการเคาะปอดในเด็กที่เป็น Asthma ที่กำลังหอบ เพราะจะทำให้หลอดลมเกิดการหดเกร็งมากขึ้น
การรักษา
ใช้ยาขยายหลอดลม
ชนิดพ่น
ให้ผลได้เร็ว ช่วยให้หายใจโล่งขึ้น เพราะไปขยายกล้ามเนื้อเล็กๆ
บางรายอาจได้รับยาพ่นกลุ่ม steroid ต้องดูแลให้บ้วนปากหลังพ่นยาทุกครั้งเพื่อป้องกันเชื้อราในปาก
ชนิดรับประทาน
ยาลดการบวมและการอักเสบของหลอดลม
ใช้เพียงระยะสั้นๆ คือ 3 -5 วัน เพื่อการรักษา และป้องกันไม่ให้โรครุนแรงขึ้น
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง
ควันบุหรี่
ตัวไรฝุ่น เช่น หมอน พรม ตุ๊กตา ควรนำไปตาก หรือผึ่งแดดบ่อยๆ
ไม่นำสัตว์เลี้ยงเข้าห้องนอน
งดการออกกาลังกายที่ทำให้เหนื่อยมาก
หลีกเลี่ยงอากาศเย็น
การใช้ baby haler
ต้องล้างทาความสะอาดบ่อยๆ
ล้างด้วยน้ายาล้างจานตากให้แห้ง
ไม่ควรใช้ผ้าเช็ดถู เพราะจะทำให้เกิดไฟฟ้าสถิต
เวลาจะพ่นยา ให้พ่นยาเก่าออกก่อน เพราะยาจะไปเกาะกับผนังของ Spacer ส่งผลให้ยาจะเข้าผู้ป่วยน้อยลง
หลอดลมอักเสบ( Bronchitis ) หลอดลมฝอยอักเสบ(Bronchiolitis )
เกิดขึ้นเนื่องจากมีการอักเสบและอุดกลั้นของหลอดลม
เชื้อที่เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด Respiratory syncytial virus (RSV)
เด็กที่ไม่กินนมแม่จะพบได้ค่อนข้างสูง
กลไกการเกิด
เชื้อไวรัสทำลายเนื้อเยื่อของหลอดลมฝอยทำให้เกิดอาการอักเสบ บวม และมีการคั่งของเสมหะ เกิดการอุดกั้นของหลอดลมฝอย ผลที่ตามมาคือ เกิด Atelectasis Atelectasis
อาการ
มีไข้หวัดเพียงเล็กน้อย มีน้ำมูกใส จาม เบื่ออาหาร
ต่อมาเริ่มไอมาก ร้องกวน หายใจเร็ว หอบ หายใจมีปีกจมูกบาน ดูดนมหรือน้าได้น้อย หรือไม่ได้เลย
การรักษา
รักษาตามอาการ ให้ยาลดไข้ ยาปฏิชีวนะ ยาต้านการอักเสบ ยาขยายหลอดลม
การดูแล
ให้เด็กได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ
ดูแลปัญหาการติดเชื้อ ดูแลเสริมสร้างภูมิต้านทานให้อาหารที่มีประโยชน์
ปอดบวม Pneumonia
สาเหตุ
สาลักสิ่งแปลกปลอม ติดเชื้อ แบคทีเรีย ไวรัส
อาการ
ไข้ ไอ หอบ ดูดน้า ดูดนมน้อยลง ซึม
การรักษา
ดูแลให้ได้รับน้าอย่างเพียงพอ
ดูแลเรื่องไข้ Clear airway suction เพื่อให้การแลกเปลี่ยนออกซิเจนเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดูแลแก้ไขปัญหาพร่องออกซิเจน ให้ยาขยายหลอดลม ยาขับเสมหะ ยาฆ่าเชื้อ
การพยาบาล
เด็กโตต้องสอนการไออย่างถูกวิธี กระตุ้นให้ดื่มน้ามากๆ
ในรายที่เสมหะอยู่ลึกให้ เคาะปอด และ Suction เพื่อป้องกันภาวะปอดแฟบ
จัดให้ผู้ป่วยนอนศีรษะสูง หรือนอนทับข้างที่มีพยาธิสภาพเพื่อให้ปอดข้างที่ดีขยายตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอตามแผนการรักษา