Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
PROM:Premature Rupture of Membranes (ถุงน้ำคร่ำแตกก่อนการเจ็บครรภ์) หรือ…
PROM:Premature Rupture of Membranes (ถุงน้ำคร่ำแตกก่อนการเจ็บครรภ์) หรือ Prelabor rupture of membranes
ความหมาย
Preterm premature rupture of membranes (PPROM) คือการแตกหรือรั่วของถุงน้ำคร่ำก่อนการเจ็บครรภ์คลอด ตั้งแต่อายุครรภ์ <37 สัปดาห์
-
GA ≥34
หญิงตั้งครรภ์ อายุ 23 ปี G2P0A1 GA 36 wk 2 day by date มีน้ำเดิน เวลา 06.00 (16/03/64) ไม่มีอาการเจ็บครรภ์
Term premature rupture of membranes (TPROM) คือการแตกหรือรั่วของถุงน้ำคร่ำก่อนการเจ็บครรภ์คลอด ตั้งแต่อายุครรภ์ 37 สัปดาห์ขึ้นไป
Prolonged ROM เดิมคือภาวะถุงน้ำคร่ำแตกที่มี latency period คือ ระยะเวลาตั้งแต่ถุงน้ำคร่ำแตกจนถึงเริ่มเจ็บครรภ์คลอดนานเกิน 24 ชั่วโมง ปัจจุบันพิจารณาจากระยะเวลาที่ถุงน้ำคร่ำแตกนานกว่า 18-24 ชั่วโมงโดยมีหรือไม่มีอาการเจ็บครรภ์ก็ได้
PROM หมายถึง ภาวะที่ถุงน้ำคร่ำแตกก่อนการเจ็บครรภ์คลอด พบได้ทั้งอายุครรภ์ครบกำหนด หรือในครรภ์ก่อนกำหนด
การวินิจฉัย
การซักประวัติ
- เกี่ยวกับลักษณะสี กลิ่น ปริมาณของน้ำคร่ำที่ไหลออกมา เพื่อวินิจฉัยแยกจากน้ำปัสสาวะ น้ำหรือเมือกในช่องคลอด (vaginal discharge) หรือ มูกจากปากมดลูก (mucus plug)
-
- วันและเวลาที่ถุงน้ำคร่ำแตก เพื่อประเมินระยะเวลา และโอกาสที่จะติดเชื้อ
-
- อายุครรภ์ เพื่อประเมินความสมบูรณ์ของปอดทารก และโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น
การตรวจร่างกาย
Coughing หรือ valsalva โดยการให้หญิงตั้งครรภ์ไอหรือเบ่งลงด้านล่างเบา ๆ จะพบน้ำคร่ำไหลออกมาจากปากมดลูกหรือขังอยู่ในช่องคลอด
-
PV : Pelvic exam, Pelvic examination, Per vaginal examination, Vaginal examination เพื่อประเมินการเปิดของปากมดลูก, ความบางของปากมดลูก, station และ สภาพของถุงน้ำคร่ำ
Sterile speculum examination เข้าไปในช่องคลอดจะเห็นน้ำคร่ำขังที่บริเวณ posterior fornix หรือการกดยอดมดลูก (fundal pressure) จะพบน้ำไหลออกจากปากมดลูก ควรหลีกเลี่ยงการตรวจภายในโดยใช้นิ้วมือ (digital examination) เพราะเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ยกเว้นรายที่มีการเจ็บครรภ์คลอด หรือวางแผนจะชักนำให้คลอดภายใน 24 ชั่วโมง
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
Fern test เป็นการทดสอบโดยนำน้ำในช่องคลอดป้ายบน slide ทิ้งให้แห้ง จากนั้นนำไปส่องด้วยกล้องจุลทรรศน์ ให้ผลบวกเมื่อพบผลึกรูปใบเฟิร์น (aborization or ferning) เกิดจากส่วนประกอบของ electrolytes โดยเฉพาะ NaCl ที่แห้งจับตัวเป็นผลึก ผลบวกลวงอาจเกิดได้จากปนเปื้อนมูกที่ปากมดลูก เลือด ขี้เทา หรือน้ำยาหล่อลื่น
Nile blue test ทำโดยการหยดสารน้ำจากช่องคลอด 1 หยดลงบนกระจกใสหยด 0.1% Nile blue ซัลเฟตลงไป ปิดด้วย cover slid แล้วนำไปอังไฟเล็กน้อย จากนั้นดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ ผลบวกเห็นเซลล์ไขมันของทารกไม่มีนิวเคลียสติดสีส้มแดง
Nitrazine paper test ใช้ทดสอบความเป็นกรด-ด่าง ซึ่งน้ำคร่ำเป็นด่าง มีค่ากรด-ด่างระหว่าง 7.0-7.5 เปลี่ยนกระดาษไนทราซีนจากสีเหลืองเป็นสีน้ำเงิน
-
ผลบวกลวง อาจเกิดจากการปนเปื้อนกับเลือด น้ำอสุจิ น้ำยาฆ่าเชื้อที่มีฤิทธ์เป็นด่าง หรือการติดเชื้อ bacterial vaginosis
-
-
การตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (Untrasonography) ถ้าพบน้ำคร่ำมีปริมาณน้อยมาก (severe oligohydramnios) หรือน้ำคร่ำแห้ง (anhydramnios) ร่วมกับมีประวัติถุงน้ำคร่ำแตกอย่างชัดเจน จะช่วยยืนยันการวินิจฉัย หากปริมาณน้ำคร่ำลดลงไม่มากจะวินิจฉัยได้ยาก
ผล u/s ได้ Vertex, EFW = 2984 g, AFI = 17.5 cm
Indigocarmine ในกรณีที่ตรวจภายในแล้วไม่พบน้ำคร่ำในช่องคลอดแต่ยังสงสัยว่าน้ำคร่ำอาจจะแตกจริง ทดสอบโดยการฉีดสี Indigocarmine 1 cc ละลายใน NSS 9 cc ฉีดผ่านผนังหน้าท้องเข้าไปในถุงน้ำคร่ำ แล้วสังเกตสีน้ำเงินของ Indigocarmine ที่จะไหลผ่านเข้าไปในช่องคลอดหากมีถุงน้ำแตกจริง
อาการและอาการแสดง
ส่วนใหญ่สตรีมีครรภ์รู้สึกมีน้ำใส ๆ หรือน้ำสีเหลืองจาง ๆ ไหลออกทางช่องคลอดทันทีจนเปียกผ้านุ่ง โดยไม่มีอาการเจ็บครรภ์ หรือก่อนที่จะมีอาการเจ็บครรภ์ แต่บางรายอาจไหลซึมเล็กน้อยตลอดเวลา หรือไหลแล้วหยุดไป
-
-
-
ภาวะแทรกซ้อน
ผลต่อมารดา
การคลอดก่อนกำหนด เนื่องจากการแตกหรือการอักเสบของถุงน้ำคร่ำจะมีผลทำให้ prostagiandin หลั่งออกมาทำให้เกิดการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดได้ หากปล่อยไว้นานอาจเกิดการติดเชื้ออย่างรุนแรงทั้งมารดาและทารก จึงจำเป็นต้องให้การตั้งครรภ์ยุติลง
ระยะที่ 2 ของการคลอดยาวนาน เนื่องจากมีน้ำคร่ำไหลออกมา โดยทำให้กลไกในระยะ Internal rotation และการเกิด Extention หยุดชะงัก เนื่องจากศีรษะทารกหรือส่วนนำไม่แนบสนิทกับเชิงกราน และมีน้ำคร่ำไหลตลอดเวลา จนอาจทำให้เกิดการคลอดแห้ง (dry labor) ทำให้คลอดไหล่และลำตัวต้องออกแรงดึงมากกว่าปกติ
การติดเชื้อในโพรงมดลูกและถุงน้ำคร่ำ (intra-amniotic infection) การติดเชื้อที่ถุงน้ำคร่ำ (Chorioamnionitis) การติดเชื้อในกระแสเลือด (sepsis) และติดเชื้อต่อเนื่องถึงตัวมดลูกในระยะหลังคลอด (endometritis)
ผลต่อทารก
-
fetal distress จากภาวะวายสะดือถูกกดจากการที่น้ำคร่ำรั่วออกมามาก ๆ จนเกิดภาวะ Oligohydramnios ถ้าสายสะดือถูกกดมาก ๆ อาจทำให้ทารกเสียชีวิตได้
การติดเชื้อ จากถุงน้ำคร่ำแตกเป็นระยะเวลานาน โดยเฉพาะเมื่อถุงน้ำคร่ำแตก ตั้งแต่ 6 ชั่วโมงขึ้นไปมีโอกาสติดเชื้อได้สูงมาก ตามจำนวนชั่วโมงของการแตกของถุงน้ำคร่ำ
ถ้าถุงน้ำคร่ำรั่วบ่อยๆ จนเกิดภาวะ Oligohydramnios อาจทำให้ทารกในครรภ์เจริญเติบโตช้าได้ (IUGR) หรือทารกอาจเกิดความผิดปกติแต่กำเนิดจากการบีบรัดของถุงน้ำคร่ำชั้น chorian ขณะที่ amnion ฉีกขาด ทำให้ถุงน้ำคร่ำชั้น amnion บีบรัดส่วนแขน ขา อก หน้าท้อง ใบหน้าทารกนาน ทำให้ทารกคลอดออกมาพบส่วนที่ถูกบีบรัดมีลักษณะผิดรูป หรือ พิการได้
-
-
-
-