Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

:explode:Case Study :explode: Myoma Uteri & Gestational Diabetes…

- - - - :red_flag:Elderly Pregnancy
        
        การตั้งครรภ์ในสตรีที่มีอายุมาก
        หมายถึง หญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป ในวันครบกำหนดคลอด ซึ่งการตั้งครรภ์เมื่ออายุ 35 ปีขึ้นไป ถือว่าเป็นการตั้งครรภ์ที่มีความเสี่ยงสูง
        
        ผลกระทบต่อมารดา
        
        ความผิดปกติของการตั้งครรภ์ : การตั้งครรภ์นอกมดลูก , อายุมากกว่า 35 ปี มีโอกาสตั้งครรภ์แฝดถึงร้อยละ 3.5
        
        การแท้งบุตร : การสูญเสียทารกในระหว่าง 20 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์
        
        ปัญหาในระยะคลอด : การคลอดก่อนกำหนด , การผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง
        
        ภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์ : รกเกาะต่ำ , ความดันโลหิตสูง , :check: เบาหวาน
        
        ผลกระทบต่อทารก
        
        ความผิดปกติของโครโมโซมทารก : Down's syndrome
        
        ทารกน้ำหนักตัวน้อย
        
        ทารกเจริญเติบโตช้าในครรภ์
        
        คลอดก่อนกำหนด หรือเกินกำหนด
        
        ทารกตัวโตและคลอดไหล่ยาก
        
        อัตราทพลภาพและอัตราตายปริกำเนิดสูงขึ้น มากกว่า
        อายุ 20-34 ปี 4 เท่า
      - :check: ตรวจคัดกรองเบาหวาน
    - - :red_flag: Obesity
        
        ผลกระทบต่อมารดา
        
        ระยะตั้งครรภ์
        
        ภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์
        
        เสี่ยงต่อภาวะความดันโลหิตสูงจากการตั้งครรภ์
        
        เสี่ยงต่อภาวะลิ่มเลือดอุดตัน
        
        เสี่ยงต่อภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกลั้น
        
        เสี่ยงต่อภาวะน้ำคร่ำแตกก่อนกำหนด
        
        เสี่ยงต่อภาวะแท้งบุตร
        
        หญิงตั้งครรภ์ตรวจ Glucose (50 gm) = 166 mg/dL
        
        ระยะคลอด
        
        เสี่ยงต่อภาวะการคลอดล่าช้า
        
        เสี่ยงต่อการได้รับการชักนำการคลอด
        
        เสี่ยงต่อการได้รับการผ่าตัดทางหน้าท้อง
        
        ระยะหลังคลอด
        
        เสี่ยงต่อการตกเลือด เนื่องจากมดลูกหดรัดตัวไม่ดี
        
        ผลกระทบต่อทารก
        
        เสี่ยงต่อภาวะตายคลอด (Stillbirth)
        
        เสี่ยงต่อพิการแต่กำเนิด
        
        เสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด/ทารกมีขนาดใหญ่กว่าอายุครรภ์
        
        ทารกแรกเกิดเสี่ยงต่อน้ำตาลในเลือดต่ำ
        
        เสี่ยงต่อภาวะเลือดข้น
        
        เสี่ยงต่อการบาดเจ็บจากการคลอด
        
        ภาวะอ้วนในสตรีตั้งครรภ์ หมายถึง สตรีตั้งครรภ์มีดัชนีมวลกายก่อนตั้งครรภ์ มากกว่าหรือเท่ากับ 30 kg/m2
        
        น้ำหนักก่อนตั้งครรภ์ 70 kg
        
        ส่วนสูง 153 cm.
        :star:- BMI 29.91 kg/m2
        
        น้ำหนักปัจจุบัน 75.2 kg
        
        น้ำหนักขึ้นตลอดการตั้งครรภ์ 5.2 kg
        (ตลอดการตั้งครรภ์ควรเพิ่ม 7.0-11.5 )
  - - - ยาที่ได้รับ
        
        Iodine 1*1 oral pc.
        
        Folic acid 1*1 oral pc.
- - - - ไตรมาสที่ 1
        
        ANC ครั้งแรก GA 11+5 wks by date
        
        น้ำหนัก 69.9 kg
        
        น้ำหนักก่อนตั้งครรภ์ 70 kg
        (ควรเพิ่ม 0.5-2 kg/ไตรมาส)
        
        Glucose (50 gm) = 166 mg/dL (สูงกว่าปกติ)
        
        U/S ครั้งที่ 1
        
        GA 10+1 wks by U/S
        
        CRL 110+ เชื่อ U/S
        
        ตรวจพบ Myoma Rt. ขนาด 3.7*3.8 cm
        
        GA 11+1 wks by U/S
        
        น้ำหนัก 69.2 kg
        
        OGTT :red_cross:97-151-119-103
        
        พบนักโภชนาการ
        
        นัด OGTT อีก 4 wks
      - ไตรมาสที่ 2
        
        GA 15+1 wks by U/S
        
        น้ำหนัก 68.3 kg
        
        น้ำหนักก่อนตั้งครรภ์ 70 kg
        (ควรเพิ่ม 0.2-0.5 kg/wks)
        
        OGTT :red_cross:99-:red_cross:207-145-127
        :red_flag:- GDMA1
        
        นัด OGTT อีก 4 wks
        
        HF 2/3 > PS
        
        FHS 140 bpm
        
        GA 18 wks by U/S
        
        น้ำหนัก 69.7 kg
        
        U/S MFM
        
        Maternal Structures
        Uterus :
        Fibroid 1: Size : 5 mm x 5 mm. Type : intramural fibroid. Right lower anterior wall.
        
        แพทย์วินิจฉัย : Myoma uteri 5 cm x 5 cm
        
        GA 19+1 wks by U/S
        
        น้ำหนัก 69.3 kg
        - FBS = 86
        - 2 hr PP = 90
        
        dT1 at 10.05
        
        นัด F/U อีก 4 wks : FBS , 2 hr PP
        
        HF ระดับสะดือ
        
        FHS 140 bpm
        
        GA 23+3 wks by U/S
        
        น้ำหนัก 71.5 kg
        
        ตรวจปัสสาวะ Alb = +1
        - FBS = 87
        - 2 hr PP = 75
        
        dT2 at 10.20
        
        นัด F/U อีก 4 wks : FBS , 2 hr PP
        
        HF 1/4 > สะดือ
        
        ขนาดมดลูก 25 cm
        
        FHS 150+ bpm
      - ไตรมาสที่ 3
        
        GA 27+1 wks by U/S
        
        น้ำหนัก 71.7 kg
        
        น้ำหนักก่อนตั้งครรภ์ 70 kg
        (ควรเพิ่ม 2.3 kg/ไตรมาส)
        - FBS = 85
        - 2 hr PP = 93
        
        นัด F/U อีก 4 wks : FBS , 2 hr PP
        
        HF 1/4 > สะดือ
        
        ขนาดมดลูก 25 cm
        
        FHS 155 bpm
        
        GA 31+1 wks by U/S
        
        น้ำหนัก 73.5 kg
        - FBS = 94
        - 2 hr PP = 107
        
        นัด F/U อีก 4 wks : FBS , 2 hr PP
        
        HF 2/4 > สะดือ
        
        FHS 145 bpm
        
        GA 35+1 wks by U/S
        
        น้ำหนัก 73.1 kg
        - FBS = 78
        - 2 hr PP = 79
        
        นัด F/U อีก 4 wks : FBS , 2 hr PP
        
        HF 3/4 > สะดือ
        
        ขนาดมดลูก 33 cm
        
        ส่วนนำ cephalic
        
        การลง Head float
        
        FHS 155 bpm
        
        GA 36+1 wks by U/S
        
        น้ำหนัก 75.2 kg
        
        ทำ NST
        
        HF 3/4 > สะดือ
        
        ขนาดมดลูก 33.5 cm
        
        ส่วนนำ Vx
        
        การลง Head float
        
        FHS 150 bpm
  - - - GA 36+1 wks by U/S
        
        น้ำหนัก 75.2 kg
        
        BP 104/59 mmHg
        
        P 96 bpm
        
        การดู
        
        ตา : Conjunctiva ไม่ซีด
        
        ช่องปาก : ฟันไม่ผุ มีเหงือกบวม (ยังไม่ได้รับการรักษา)
        
        ต่อมไทรอยด์ : ต่อมไทรอยด์ไม่โต กดไม่เจ็บ
        
        เต้านม&หัวนม :
        -> ข้าง Rt. ปกติ ลานนมใหญ่ หัวนมไม่สั้น ไม่บอด ไม่บุ๋ม
        -> ข้าง Lt. ลานนมใหญ่ หัวนมบอดและบุ๋ม
        
        ขา : ไม่มีบวม กดบุ๋ม
    - - การดู
        
        ท้อง :
        -> มี Striae gravidarum สีชมพู
        -> Linea nigra : เป็นเส้นยาวสีน้ำตาล แนวตรงกลางหน้าท้อง
        -> ทารกอยู่ในแนว : Oblique line
        
        การคลำ
        (4 ท่า)
        
        Hight fun dus = 3/4>สะดือ
        
        ขนาดมดลูก 33.5 cm
        
        ระดับส่วนนำ = Head float
        
        Position = LOA
        
        พบก้อน myoma ที่บริเวณ Rt. lower
        
        การฟัง
        
        FHS = 150 bpm
- - - - เนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรง ประกอบด้วยกล้ามเนื้อมดลูกเป็นส่วนใหญ่ และมีเนื้อเยื่อเกี่ยวพันเป็นองค์ประกอบอยู่บ้าง ลักษณะเนื้องอกกลมแข็ง อาจมีได้หลายก้อน สันนิษฐานว่าฮอร์โมน Estrogen และ Progesterone เป็นตัวเร่งการเจริญเติบโตของเนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูก
    - - Hypermenorrhea or Menorrheagia
        (เลือดระดูออกมากและนานกว่าปกติ)
      - Palpable mass
        (ก้อนในห้องน้อย)
      - Pressure symtoms
        (ก้อนเนื้อกดเปิยดอวัยวะข้างเคียง)
      - Pelvic pain
        (อาการปวดท้องน้อย)
      - Leucorrhea
        (ตกขาว)
      - Infertility
        (ภาวะมีบุตรยาก)
      - Dyspnea
        (หายใจลำบาก)
      - Meigs' syndrome
      - เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์
      - มีอาการท้องอืดท้องเฟ้อ
    - - การกลายพันธ์ุของยีนส์ (Mutation)
        ของเซลล์กล้ามเนื้อมดลูก
      - ภาวะที่ระดับฮอร์โมน estrogen และ Progesterone สูง
        เนื่องจากฮอร์โมนทั้งสองชนิดนี้เป็นตัวเร่งการเจริญเติบโต
        ของเนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูก
    - - Subserosa Myoma
        (ชนิดอยู่ภายใต้ชั้น serosa)
        
        Intramural Myoma
        (แทรกอยู่ภายในชั้นกล้ามเนื้อมดลูก)
        
        :!?:เปรียบเทียบกับหญิงตั้งครรภ์ :!?:
        Intramural fibroid
        
        Submucous Myoma
        (ชนิดอยู่ภายใต้เยื่อบุโพรงมดลูก)
    - - การตรวจทางหน้าท้อง พบก้อนบริเวณท้องน้อยตรงแนวกลางเหนือหัวหน่าว เป็นก้อนเรียบ ค่อนข้างแข็ง ถ้าคลำพบเป็นก้อนตะปุ่มตะป่ำไม่เรียบยิ่งทำให้แน่ใจมากขึ้น
      - การตรวจภายในและทางทวารหนัก
      - การตรวจทางรังสี
      - การตรวจอัลตราซาวนด์ (ultrasound)
        
        :!?:เปรียบเทียบกับหญิงตั้งครรภ์ :!?:
        Maternal Structures
        Uterus :
        Fibroid 1: Size : 5 mm x 5 mm. Type : Intramural fibroid. Right lower anterior wall.
        
        แพทย์วินิจฉัย : Myoma uteri 5 cm x 5 cm
      - Laparoscopy หรือ hysteroscopy ช่วยการ
        วินิจฉัยให้แน่นอน
      - MRI และ computed tomography วินิจฉัย
        ได้แม่นยำกว่าอัลตราซาวนด์
    - - Conservative management
        
        รักษาด้วยยา
        
        1. ฮอร์โมนเพศชาย
        เช่น danazol และ gestrinone หรือการให้โปรเจสเตอโรน รักษาการมี hypermenorrhea ร่วมกับ myoma แต่ผลในการลดขนาดเนื้องอกไม่แน่นอน
        
        2. GnRH agonists
        เป็นฮอร์โมนที่มีฤทธิ์ทำให้ระดับเอสโตรเจนลดลงชั่วคราว มีผลให้ขนาด
        myoma ลดลงและเลือดที่ออกผิดปกติก็ลดลง
        
        ผลข้างเคียงของ GnRH agonist
        นอกจากเป็นอาการของเอสโตรเจนต่ำแล้ว ถ้าได้ยานี้นานเกิน 6 เดือน อาจทำให้กระดูกบางมี trabecular bone density ลคลงคือเกิด osteoporosis
      - รายที่ไม่ต้องรักษา
        
        เนื้องอกก้อนเล็ก ไม่มีอาการเฉพาะ แต่นัดตรวจติดตามทุก 3-6-12 เดือน
        
        อาการที่ตัดผ่าตัด
        
        ก้อนโตเท่ากับหรือเกินกว่าขนาดครรภ์
        อายุ 12 สัปดาห์
        
        มีภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ หรือ
        คาคว่าอาจจะเกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้น
        
        มีการบิดของขั้วเจ็บปวดมาก
        
        ไม่แน่ใจว่าเป็นเนื้อร้ายหรือไม่
        
        ก้อนโตเร็ว
        
        มีน้ำในท้องร่วมด้วย
        
        การผ่าตัด
        
        Myomactomy
        
        การผ่าตัดเฉพาะก้อนเนื้องอกออก มักใช้ในกรณีผู้ป่วย
        ต้องการเหลือมดลูกไว้เพื่อมีบุตรหรือสาเหตุอื่นๆ
        
        Hysteractomy
        
        การผาตัดมดลูกออก มักใช่ในกรณีที่ผู้ป่วยมีก้อนเนื้องอก
        อยู่ในบริเวณที่ไม่สามารถตัดเฉพาะก้อนเนื้องอกออกได้
        
        :!?:เปรียบเทียบกับหญิงตั้งครรภ์ :!?:
        ไม่ได้รับการรักษา เนื่องจากก้อนยังมีขนาดเล็กอยู่ และยังไม่มีผลต่อทารกในครรภ์ แต่นัดติดตามไตรมาสที่ 3 เริ่มนัดติดกันทุกสัปดาห์ เพื่อดูสภาพทารกในครรภ์
    - - การแท้งและการคลอดก่อนกำหนด
        1.1 ขัดขวางการเจริญเติบโตของมดลูก
        1.2 ทำให้เกิดการบีบตัวอย่างผิดปกติของมดลูก
        1.3 การฝังตัวของไข่ที่ผสมแล้วที่เยื่อบุมดลูกเป็นไปไม่ได้ดี
        1.4 ทำให้มดลูกอัดแน่นอยู่ในอุ้งเชิงกราน
        
        เป็นหมัน อาจจะรบกวนขัดขวางการฝังตัวของไข่ที่ผสมแล้ว หรืออาจะอุดกั้นทางผ่านของเชื้ออสุจิที่จะเข้าท่อนำไข่ หรือไม่ก็อุดกั้นท่อนำไข่ส่วนต้น หรือรบกวนการตกไข่
        
        ทารกอยู่ผิดที่ (malposition) และผิดท่า(malpresentation)
        
        ขัดขวางการคลอด
        
        มดลูกหดรัดตัวได้ไม่ดี อาจทำให้เกิด uterine inertia ตกเลือดหลังคลอด และมดลูกเข้าอู่ช้ำ (subinvolution)
        
        Submucous myomaที่ร่วมกับการตั้งครรภ์ อาจก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง คือ
        6.1 ก้อนเล็กลง
        6.2 เนื้อตายแล้วหลุดออกมาเอง
        6.3 เนื้องอกที่ตายยื่นออก (prolapse) ทางช่องคลอด จำเป็นต้องตัดออก(myomectomy)
        6.4 ติดเชื้อหรือตกเลือด
  - - - โรคเบาหวานที่วินิจฉัยได้ก่อนตั้งครรภ์
        (Pregestational Diabetes Mellitus/ Overt DM)
      - โรคเบาหวานที่วินิจฉัยได้เป็นครั้งแรกขณะตั้งครรภ์ (Gestational Diabetes Mellitus GDM)
        
        Class A1
        
        Class A2
        
        การคัดกรอง GDM
        
        One – step
        
        คัดกรองด้วยการทำ 75 g , Oral Glucose Tolerance Test ( 75 g, 2 hours OGTT)
        
        NPO ก่อนตรวจ
        
        การวินิจฉัย
        เมื่อค่าระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดค่าใดค่าหนึ่ง ≥
        
        Fasting value 92 mg/dL
        
        1-hour value 180 mg/dL
        
        2-hour value 153 mg/dL)
        
        Two – step screening
        
        50 g Glucose Challenge Test
        (50 g GCT)
        
        ไม่ต้อง NPO ก่อนตรวจ
        
        เกณฑ์การวัดผล
        
        2 more items...
        
        100 g, 3 hours Oral Glucose Tolerance Test
        (100 g 3-h OGTT)
        
        Fasting 95 mg/dL
        
        1 hr 180 mg/dL
        
        2 hr 155 mg/dL
        
        3 hr 140 mg/dL
        
        Class A1
        ผิดปกติ 2 ค่าขึ้นไป โดย
        
        FBS < 95 mg/dL
        
        2 hr PP < 120 mg/dL
        
        การรักษา : ควบคุมอาหาร
        
        1 more item...
        
        Class A2
        ผิดปกติ 2 ค่าขึ้นไป โดย
        
        FBS ≥ 95 mg/dL
        
        2 hr PP ≥ 120 mg/dL
        
        การรักษา : ควบคุมอาหาร และ ฉีดอินซูลิน
        
        แนวทางการดูแลสตรีตั้งครรภ์ที่มีภาวะเบาหวานครั้งแรกระหว่างตั้งครรภ์
    - - มีประวัติบิดา/มารดา/พี่/น้อง (ญาติสายตรง)เป็นเบาหวาน
      - อายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป
        
        :!?:หญิงตั้งครรภ์ อายุ 34 ปี :!?:
      - ภาวะอ้วน โดยมี BMI มากกว่าหรือเท่ากับ 27 kg/m2
        
        :!?:BMI = 29.91 kg/m2 :!?:
      - ทารกเสียชีวิตในครรภ์ โดยไม่ทราบสาเหตุ
      - เคยคลอดบุตรน้ำหนักแรกเกิดตั้งแต่ 4 กิโลกรัมขึ้นไป
      - เคยคลอดบุตรที่มีความพิการแต่กำเนิดโดยไม่ทราบสาเหตุ
      - เคยมีประวัติเบาหวานขณะตั้งครรภ์ในท้องก่อน
      - เคยมีประวัติความดันโลหิตสูงในท้องก่อน
      - เคยคลอดบุตรน้ำหนักแรกเกิดน้อยกว่า 2.5 กิโลกรัม
      - พบภาวะครรภ์แฝดน้ำ
      - ตรวจพบน้ำตาลในปัสสาวะ 1+
    - - มารดา
        
        Spontaneous abortion
        
        Gestational hypertension/preeclampsia
        
        Polyhydarmnios
        
        ภาวะฉุกเฉิน DKA (Diabetic ketoacidosis)
        
        Hypo-Hyperglycemia
        
        Infection
        
        Dystocia
        
        Preterm
        
        ภาวะตกเลือดหลังคลอด (Postpartum Hemorrhage)
      - ทารกในครรภ์และทารกแรกเกิด
        
        ความผิดปกติแต่กำเนิด เช่น ท่อประสาทไขสันหลังบกพร่อง
        
        ทารกเจริญเติบโตช้าในครรภ์
        
        บาดเจ็บจากการคลอด
        
        กลุ่มอาการหายใจลำบาก
        
        Hypoglycemia
        
        Hypocalcemia
        
        Hyperbilirubunemia
        
        ภาวะเลือดข้น
- - - - ข้อมูลสนับสนุน
        
        OD. : หญิงตั้งครรภ์ อายุ 34 ปี
        
        OD. : Notify : Eldery Pregnancy
        
        วัตถุประสงค์
        
        ไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์เมื่ออายุมาก
        
        เกณฑ์การประเมินผล
        
        สัญญาณชีพ อยู่ในเกณฑ์ปกติ โดยเฉพาะ BP < 140/90 , HR 60-100 bpm
        
        ไม่พบโปรตีนในปัสสาวะ
        
        ผลตรวจ amniocentesis ปกติ ไม่พบความผิดปกติของทารก
        
        ไม่เกิดภาวะรกเกาะต่ำ (Placenta previa)
        
        FHS 110-160 bpm
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        ประเมินสัญญาณชีพ โดยเฉพาะ BP , HR เพื่อประเมินภาวะความดัน โลหิตสูง เนื่องจากมารดาที่มีอายุมากจะเพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดความดันโลหิตสูงได้มาก
        
        ตรวจคัดกรองเบาหวาน โดยจะคัดกรอง BS 50 gm เมื่อมาฝากครรภ์ครั้งแรก หากผลเป็นปกติจะนัดมาตรวจอีกครั้ง เมื่ออายุครรภ์ 24-28 wks แต่ถ้าหากค่า BS 50 gm > 120 gm/dL จะนัดตรวจ OGTT อีก ครั้ง ใน 1 สัปดาห์ ซึ่งหากผลผิดปกติ 2 คำขึ้นไป จะถือว่าเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์
        
        ให้คำแนะนำมารดาเกี่ยวกับการตรวจคัดกรองดาวน์ชิน โดรมและความผิดปกติ ของโครโมโชม เนื่องจากความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นตามอายุของสตรีตั้ง ครรภ์ที่เพิ่มขึ้น โดยจะทำการเจาะน้ำคร่ำ (Amniocentesis) เพื่อตรวจดู โครโมโชม และ ตรวจดูความผิดปกติของทารก เมื่อมีอายุครรภ์ 16-18 wks
        
        ประเมินสภาพทารกในครรภ์ ได้แก่ การฟัง FHS โดยปกติอยู่ระหว่าง 110-160 ครั้ง/นาที การตรวจครรภ์ด้วยวิธี Leopold maneuver เพื่อ ประเมินลักษณะของทรกในครรภ์ และประเมินความสัมพันธ์ของขนาด และอายุครรภ์
        
        ติดตามผลการตรวจอัลตราชาวด์เพื่อประเมินความผิดปกติของทารก เช่น ความผิดปกติของโครงสร้างของทารกภายในครรภ์ ความผิดปกติของ ลำไส้ ปากแหว่งเพดานโหว่ การตรวจดูปริมาณน้ำคร่ำ รวมถึงประเมิน ความผิดปกติของรกด้วย
        
        แนะนำมารดาให้รับประทานวิตามินที่ได้รับ ได้แก่
        
        lodine 1x1 oral pc. , Folic acid 1x1 oral pc. อย่างสม่ำเสมอ
        
        ติดตามผล lab โดยเฉพาะ Protein, Creatinine เพื่อประเมินการรั่วของโปรตีนในปัสสาวะและประเมินการทำงานของไต ซึ่งใน elderly pregnancy มีโอกาสจะเกิดขึ้น
        
        การประเมินผล
        
        BP 104/59 mmHg (16/03/64)
        
        HR 96 bpm (16/03/64)
        
        ผลตรวจ amniocentesis ปกติ ไม่พบความผิดปกติของทารก
        
        ไม่เกิดภาวะรกเกาะต่ำ (Placenta previa)
        
        ไม่พบโปรตีนในปัสสาวะ
        
        FHS 150 bpm (16/03/64)
    - - ข้อมูลสนับสนุน
        
        OD. : หญิงตั้งครรภ์ อายุ 34 ปี
        
        OD. : Notify : Eldery Pregnancy
        
        OD. : BMI 29.91 kg/m2
        
        วัตถุประสงค์
        
        เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์
        
        เกณฑ์การประเมินผล
        
        การตรวจคัดกรองด้วย 50 กรัม glucose challenge test เท่ากับ 140 มก./ดล. หรือมากกว่า ถือว่าผิดปกติ
        
        การตรวจวินิจฉัยด้วย 100 กรัม oral glucose tolerance test (OGTT) เจาะเลือดขณะอดอาหาร และหลังให้รับประทาน glucose 100 กรัม ที่ 1, 2 และ 3 ชั่วโมง ตามลำดับ
        โดยใช้เกณฑ์ คือ 95,180,155,140
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        ซักประวัติ เพื่อหาปัจจัยเสี่ยงในการวินิจฉัยภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์
        
        ให้ความรู้เกี่ยวกับการเกิดภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ประเภทและวิธีการคัดกรอง
        
        การตรวจคัดกรองด้วย 50 กรัม glucose challenge test เท่ากับ 140 มก./ ดล.หรือมากกว่า ถือว่าผิดปกติ
        
        การตรวจวินิจฉัยด้วย 100 กรัม oral glucose tolerance test (OGTT) เจาะเลือดขณะอดอาหารและหลังให้รับประทาน glucose 100 กรัม ที่ 1, 2 และ 3 ชั่วโมง ตามลำดับ โดยใช้เกณฑ์ คือ 95,180,155,140
        
        ตรวจ FBS & 2-hr PP งดน้ำงดอาหาร 8-12 ชม.
        มีค่าน้อยกว่า 95,120mg/dL ผลเป็น GDMA1
        มีค่ามากกว่า 95,120mg/dL ผลเป็น GDMA2
        
        ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการรักษาและดูแลตนเอง
        GDMA1 ควบคุมอาหาร
        GDMA2 ควบคุมอาหาร+การใช้ยา
        
        การประเมินผล
        
        OD. : ผล BS 50 gm = 166 mg/dL (GA 10+1 wks by U/S)
        
        OD. : ผล OGTT :red_cross:97-151-119-103 (GA 11+1 wks by U/S)
  - - - ข้อมูลสนับสนุน
        
        OD. : ผล BS 50 gm = 166 mg/dL (GA 10+1 wks by U/S)
        
        OD. : ผล OGTT :red_cross:97-151-119-103 (GA 11+1 wks by U/S)
        
        OD. : ผล OGTT :red_cross:99-:red_cross:207-145-127 (GA 15+1 wks by U/S)
        
        OD. : FBS = 86 , 2 hr PP = 90 (GA 19+1 wks by U/S)
        
        OD. : แพทย์วินิจฉัยเป็น GDMA1 (GA 15+1 wks by U/S)
        
        OD. : หญิงตั้งครรภ์มีภาวะ Obesity
        (BMI = 29.91 kg/m2)
        
        วัตถุประสงค์
        
        เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น การแท้งเอง การคลอดก่อนกำหนด ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง/ต่ำ ติดเชื้อ
        
        เกณฑ์การประเมินผล
        
        ไม่เกิดภาวะแทรกซ่อน สามารถบอกอาการผิตปกติที่ต้องมาโรงพยาบาลก่อนกำหนดได้
        
        ระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ในเกณฑ์ที่ปกติไม่เกิน
        140 mg/dL และไม่ต่ำกว่า 70 mg/dL
        
        ทารกดิ้น > 10 ครั้ง/วัน
        
        ไม่มีมูกเลือดออกทางช่องคลอด
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        อธิบายให้หญิงตั้งครรภ์สังเกตอาการและอาการแสดงของภาวะแทรกซ้อนดังต่อไปนี้
        1.1 การคลอดก่อนกำหนด
        ㆍ แนะนำให้หญิงตั้งครรภ์มาตรวจตามแพทย์นัดอย่างสม่ำเสมอ
        ㆍ นอนหลับพักผ่อนอย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง
        ㆍสังเกตอาการเจ็บครรภ์เตือน : มตลูกหดรัดตัวไม่รุนแรงและไม่สม่ำเสมอ , เจ็บครรภ์นานๆ ครั้ง 15 นาที/ครั้ง พักแล้วหาย
        ㆍสังเกตอาการเจ็บครรภ์จริง : เจ็บครรภ์ทุก ๆ 5-10 นาที เป็นจังหวะและสม่ำเสมอ ปวดบริเวณหลังร้าวไปที่หน้าท้อง ส่วนบนแล้วร้าวลงขา อาการเจ็บครรภ์ไม่หายไป
        1.2 ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง/ต่ำ
        ㆍ แนะนำสังเกตอาการแสดงของน้ำตาลในเลือดสูง : เพลีย หน้าแดง ผิวร้อน ปากแห้ง กระหายน้ำ ปัสสาวะบ่อย หายใจเร็วลึก
        ลมหายใจมีกลิ่น acetone เชื่องซึม ปวดศีรษะ ปฏิกิริยาโต้ตอบลดลง
        ㆍแนะนำสังเกตอาการแสดงของน้ำตาลในเลือดต่ำ : ตัวสั่น เหงื่อออก ผิวซีด ตัวเย็น ปวดศีรษะ หิว ตาพร่ามัว
        1.3 การติดเชื้อ
        ㆍ แนะนำสังเกตอาการ : มีไข่สูง เจ็บคอ มีเสมหะ ปัสสาวะแสบขัด ตกตะกอน ช่องคลอดมีความเป็นด่าง เกิดการอับเสบ
        1.4 การแท้งเอง
        ㆍแนะนำสังเกตอาการ : ปวดท้องน้อย มีเลือดหรือมูกเลือดออกทางช่องคลอด มดลูกแข็งตัวหรือบีบตัวปอย ทารกดิ้นน้อยลง หรือไม่ดิ้นเลย
        
        แนะนำให้หญิงตั้งครรภ์ควบคุมอาหารในได้รับแคลอรี่ วันละ 30-35 kcal/kg คารโบไฮเดร์ตร้อยละ 40-50 โปรตีนร้อยละ 20-25 ไขมันร้อยละ 20-30 เพื่อไม่ให้เกิดคีโตน (Ketone) คั่งในเลือด และน้ำหนักตัวที่ควรเพิ่มขึ้นตลอดการตั้งครรภ์ คือ 7.0-11.5 kg
        
        แนะนำให้หลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูง เพื่อป้องกันภาวะน้ำตาลในเลือดสูง ได้แก่ น้ำตาล น้ำผึ้ง ขนมหวานต่าง ๆ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ผลไม้รสหวาน เช่น ลำไย มะม่วงสุก เป็นต้น
        
        แนะนำเกี่ยวกับการออกกำลังกาย เพื่อกระตุ้นให้เพิ่มการใช้กลูโกส ทำให้อินซูลินดูดซึมได้ดีขึ้น ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ เช่น การเดินวันละ 15-30 นาที 4-6 ครั้ง/สัปดาห์
        
        ประเมินสภาพทารกในครรภ์ ได้แก่ การตรวจ Nonstress Test (NST) การฟัง FHS โดยปกติอยู่ระหว่าง 110-160 ครั้ง/นาที การตรวจครรภ์ด้วยวิธี Leopold maneuver เพื่อ ประเมินลักษณะของทรกในครรภ์ และประเมินความสัมพันธ์ของขนาด และอายุครรภ์
        
        แนะนำให้หญิงตั้งครรภ์มาตรวจตามนัดทุกครั้ง เพื่อประเมินสุขภาพและสภาวะของหารกในครรภ์
        
        การประเมินผล
        
        หญิงตั้งครรภ์เข้าใจสามารถบอกอาการผิดปกติที่ต้องมาโรงพยาบาลได้
        
        ระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ในเกณฑ์ปกติ
        
        ทารกดิ้น > 10 ครั้ง/วัน
        
        ไม่มีมูกเลือดออกทางซ่องคลอด
  - - - ข้อมูลสนับสนุน
        
        OD. : ทำ MFM พบ Size : 5 mm x 5 mm. Type : intramural fibroid. Right lower anterior wall.
        
        OD. : แพทย์วินิจฉัย : Myoma uteri 5 cm x 5 cm
        
        วัตถุประสงค์
        
        เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะคลอดยาก
        
        เกณฑ์การประเมินผล
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        สังเกตอาการที่เกี่ยวข้องกับเนื้องอกมดลูก เช่น อาการปวดท้อง ถ้าปวดมากควรรีบพบแพทย์เพื่อรับยาแก้ปวด อย่าซื้อยาแก้ปวดรับประทานเอง อาจส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ นอกจากนี้หากมีเลือดออกทางช่องคลอดผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
        
        หลีกเลี่ยงกิจกรรมหนักๆ ที่อาจกระตุ้นให้เกิดการคลอดก่อนกำหนด เช่นการทำงานหนัก หรือการมีเพศสัมพันธ์ในระหว่างที่มีอาการปวดท้อง เพื่อลดความเสี่ยงในการคลอดก่อนกำหนด
        
        รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นโปรตีน ผักผลไม้ เพื่อควบคุมน้ำหนักไม่ให้เกินเกณฑ์ ในระหว่างตั้งครรภ์ มิเช่นนั้นทารกในครรภ์ตัวใหญ่เกินไป จะเสี่ยงคลอดก่อนกำหนดมากขึ้นหรือทำให้คลอดยากมากยิ่งขึ้น
        
        ประเมินสภาพทารกในครรภ์ ได้แก่ การตรวจ Nonstress Test (NST) การฟัง FHS โดยปกติอยู่ระหว่าง 110-160 ครั้ง/นาที การตรวจครรภ์ด้วยวิธี Leopold maneuver เพื่อ ประเมินลักษณะของทรกในครรภ์ และประเมินความสัมพันธ์ของขนาด และอายุครรภ์
        
        พบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอเป็นระยะ เพื่อดูขนาดเนื้องอก ติดตามการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์
        
        การประเมินผล
        
        ทารกดิ้น > 10 ครั้ง/วัน
        
        FHS 150 bpm (16/03/64)
        
        FHS 110-160 bpm
        
        เนื้องอกไม่มีขนาดใหญ่ขึ้น
        
        ทารกดิ้น > 10 ครั้ง/วัน
    - - ข้อมูลสนับสนุน
        
        SD. : หญิงตั้งครรภ์บอกว่า "รู้สึกแสบขัดตอนปัสสาวะ"
        
        OD. : ทำ MFM พบ Size : 5 mm x 5 mm. Type : intramural fibroid. Right lower anterior wall.
        
        OD. : แพทย์วินิจฉัย : Myoma uteri 5 cm x 5 cm
        
        วัตถุประสงค์
        
        เกณฑ์การประเมินผล
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        อธิบายเกี่ยวกับอาการปัสสาวะบ่อย เนื่องจากมีก้อนเนื้อกดเปิยดอวัยวะข้างเคียง และมดลูกจะโตเมื่อนอน ตัวมดูลูกจะไปกดทับที่ inferior vena cava และหลอดเลือดตำใหญ่ ทำให้เลือดไปเลี้ยงไตมากขึ้นจึงมีการกรองมีสสาวะเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งให้คำแนะนำกับหญิงตั้งครรภ์ ดังนี้
        ㆍแนะนำสังเกดอาการผิดปกติที่แสดงถึงการติดเชื้อของทางเดินปัสสาวะ เช่น ปัสสาวะแสบชัต , ปัสสาวะมีเลือดปน
        ㆍแนะนำการถ่ายปัสสาวะทุกครั้งที่ปวด ไม่ควรกสั้นปัสสาวะ
        ㆍ แนะนำให้ดื่มน้ำสะอาดในเวลากลางวัน 6-8 แก้ว และพยายามไม่ดื่มน้ำหรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนก่อนนอน
        ㆍป้องกันอุบัติเหตุระหว่างทางเดินไปยังห้องน้ำ
        
        แนะนำให้หญิงตั้งครรภ์มาพบแพทย์อย่างต่อเนื่อง เพื่อประเมินสภาพทารกในครรภ์ ได้แก่ การตรวจ Nonstress Test (NST) การฟัง FHS โดยปกติอยู่ระหว่าง 110-160 ครั้ง/นาที การตรวจครรภ์ด้วยวิธี Leopold maneuver เพื่อ ประเมินลักษณะของทรกในครรภ์ และประเมินความสัมพันธ์ของขนาด และอายุครรภ์
        
        แนะนำให้หญิงตั้งครรภ์สังเกตอาการผิดปกติ แล้วรีบมาพบแพทย์ทันที
        
        การประเมินผล
        
        หญิงตั้งครรภ์รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
        
        หญิงตั้งครรภ์เข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาของร่างกาย
        
        หญิงตั้งครรภ์รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
        
        หญิงตั้งครรภ์เข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาของร่างกาย
        
        เพื่อให้หญิงตั้งครรภ์รู้สึกสุขสบายมากขึ้น
    - - ข้อมูลสนับสนุน
        
        OD. : หญิงตั้งครรภ์ G1P0000 GA 36+1 wks by U/S
        
        วัตถุประสงค์
        
        เพื่อให้หญิงตั้งครรภ์รู้สึกสุขสบายมากขึ้น
        
        เกณฑ์การประเมินผล
        
        หญิงตั้งครรภ์รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
        
        หญิงตั้งครรภ์เข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาของร่างกาย
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        อธิบายเกี่ยวกับอาการปัสสาวะบ่อย เนื่องจากมีก้อนเนื้อกดเปิยดอวัยวะข้างเคียง และมดลูกจะโตเมื่อนอน ตัวมดูลูกจะไปกดทับที่ inferior vena cava และหลอดเลือดดำใหญ่ ทำให้เลือดไปเลี้ยงไตมากขึ้นจึงมีการกรองมีสสาวะเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งให้คำแนะนำกับหญิงตั้งครรภ์ ดังนี้
        ㆍแนะนำสังเกดอาการผิดปกติที่แสดงถึงการติดเชื้อของทางเดินปัสสาวะ เช่น ปัสสาวะแสบชัต , ปัสสาวะมีเลือดปน
        ㆍแนะนำการถ่ายปัสสาวะทุกครั้งที่ปวด ไม่ควรกสั้นปัสสาวะ
        ㆍ แนะนำให้ดื่มน้ำสะอาดในเวลากลางวัน 6-8 แก้ว และพยายามไม่ดื่มน้ำหรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนก่อนนอน
        ㆍป้องกันอุบัติเหตุระหว่างทางเดินไปยังห้องน้ำ
        
        อธิบายเกี่ยวกับอาการนอนไม่หลับ เนื่องจากมดลูกโตขึ้นทำให้นอนลำบาก ไม่สุขสบายเวลานอน และทารกในครรภ์มักดิ้นแรง ทำให้มารดารู้สึกไม่สุขสบายหรือเจ็บได้ และเมื่ออายุครรภ์ใกล้ครบกำหนดทำให้มารดาวิตกกังวล เกี่ยวกับการคลอดจนนอนไม่หลับ สามารถให้คำแนะนำได้ ดังนี้
        ㆍแนะนำให้พยายามผ่อนคลายอารมณ์
        ㆍ การอาบน้ำอุ่น ดื่มเครื่องดื่มอุ่น ๆ หรืออ่านหนังสือเบาสมอง จะช่วยให้หลับง่ายขึ้น
        ㆍการนวดหลังด้วยโลชั่นจะทำให้รู้สึกผ่อนคลาย หลับได้ง่าย
        ㆍควรนอนพักกลางวันอย่างน้อยวันละ 30 นาที
        ㆍ แนะนำให้นอนตะแคงใช้หมอนบางๆ หนุนท้องและวางขาบนหมอน เพื่อให้กล้ามเนื้อหย่อนตัว
        
        อธิบายเกี่ยวกับอาการหายใจลำบาก เนื่องจากมดลูกใหญ่ขึ้น
        ไปตันกล้ามเนื้อกระบังลม ทำให้คล้ามเนื้อกระบังลมหดตัวได้น้อย อาการนี้จะเกิดขึ้นในระยะหนึ่ง เมื่อท้องลดอาการก็จะหายไปใด้เอง
        
        การประเมินผล
        
        หญิงตั้งครรภ์รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
        
        หญิงตั้งครรภ์เข้าใจ สามารถตอบคำถามใส่ในการดูแลตนเอง
    - - ข้อมูลสนับสนุน
        
        SD. : หญิงตั้งครรภ์บอกว่า "เนื้องอกที่เป็นนี้ มีผลกระทบต่อลูกไหม"
        
        OD. : ทำ MFM พบ Size : 5 mm x 5 mm. Type : intramural fibroid. Right lower anterior wall.
        
        OD. : แพทย์วินิจฉัย : Myoma uteri 5 cm x 5 cm
        
        วัตถุประสงค์
        
        เพื่อให้มารดาคลายความวิตกกังวลและมีความรู้เกี่ยวกับการfดูแลดูทารกในครรภ์
        
        เกณฑ์การประเมินผล
        
        มารดามีสีหน้าสดชื่น พูดคุยด้วยความเป็นกันเอง มีท่าทางผ่อนคลาย
        
        มารดามีความเข้าใจถึงกระบวนการให้การช่วยเหลือทารกแรกเกิด
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        เปิดโอกาสให้หญิงตั้งครรภ์ระบายความวิตกกังเกี่ยวกับบุตร
        
        อธิบายถึงกระบวนการช่วยเหลือทารกแรกเกิด โดยมีทีมกุมารแพทย์ พยาบาล และเตรียมอุปกรณ์ช่วยฟื้นคืนชีพทารกแรกเกิดให้พร้อมเพื่อให้การช่วยเหลือในภาวะวิกฤต เพื่อให้มารดาคลายความวิตกกังวล
        
        สนับสนุนให้หญิงตั้งครรภ์และบุคคลในครอบครัว มีส่วนร่วม ประคับประคอง ให้กำลังใจมารดา เพื่อความคลายความวิตกกังวล
        
        แนะนำให้เลี้ยงดูบุตรด้วยนมมารดาอย่างเดียวนานอย่างน้อย 6 เดือน เพราะน้ำนมมารดา มีประโยชน์ มีคุณค่าทางสารอาหารสูง เหมาะสำหรับเลี้ยงทารก สะอาด ประหยัด และมีภูมิต้านทานโรค
        
        เปิดโอกาสให้มารดาได้ซักถามข้อสงสัย และให้กำลังใจในเลี้ยงดูทารก
        
        แนะนำให้มาพบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอเป็นระยะ เพื่อดูขนาดเนื้องอก ติดตามการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์
        
        การประเมินผล
        
        มารดาคลายความวิตกกังวลมารดา มีสีหน้าสดชื่นขึ้น
        
        เข้าใจถึงกระบวนการให้การ ช่วยเหลือทารกแรกเกิด