โรคบาดทะยัก
เชื้อ
ชื่อ Clostridium tetani
เป็นเชื้อแบคทีเรีย (รูปร่างคล้ายไม้ตีกลอง)
อาศัยอยู่ในดินฝุ่น สัตว์ ผิวหนังคน
ถูกทำลายได้ด้วยความร้อน
แต่สปอร์ของเชื้อ มีความทนทานต่อน้ำเดือด 20 นาที /สารเคมี /ยาฆ่าเชื้อ
การติดเชื้อ
ผ่านทางแผลสด เล็กแต่ลึก
ผ่านทางแผลเรื้อรัง
ผ่านางสายสะดือในเด็กทารกแรกคลอด
จากการเป็นโรคหูชั้นกลาง
บางกรณีไม่ทาบสาเหตุว่าผ่านทางไหน
ลักษณะโรค
จัดอยู่ในดรคางประสาทและกล้ามเนื้อ
เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งผลิด Exotosin มีพิษต่อเส้นประสาทที่มีพิษต่อการทำงานของกล้ามเนื้อ
เริ่มแรกขากรรไกรเกร็งทำให้อ้าปากไม่ได้
(โรคขากรรไกรเกร็ง) Lockjaw
ระยะฟักตัวของโรค
ประมาณ 4 วัน- 3อาทิตย์
เฉลี่ยประมาณ 10 วันขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม ตำแหน่งแผล และเชื้อที่เข้าสู่ร่างกาย
การติดต่อ
เชื้แโรคจะเข้าสู่ร่างกายทางผิวหนังจากบาดแผลถูกของแหลมมีคมตำหรือบาดโดยเฉพาะ ตะปู หรือมีดที่เป็น สนิท
ระยะการติดต่อ
ไม่ติดต่อจากบุคคลหนึ่งไปยังบุคคลหนึ่งโดยตรง
ความไวและความต้านทานต่อผู้รับเชื้อมีโอกาสทุกคน
ไม่หานอย่างถาวร ควรฉีดวัคซีนป้องกันสำหรับผู้เสี่ยงต่อการติดเชื้อ โดยเฉพาะมารดาทารกและทารกในครรภ์
อาการ
ปวดเกร็ง
กระวนกระวาย ปวดศีรษะ
มีอาการเกร็งโดยเป็นมากที่ขากรรไกร
อ้าปากไม่ขึ้น (lockjaw)
มองดูคล้ายอาการแสยะยิ้ม (risus Sardonicus)
คอแข็งกลืนลำบาก
ทำให้การหายใจและกาทำงานหัวใจไม่ปกติ
มีอาการเกร้งกระตุกของกล้ามเนื้อตามร่างกาย
การรักษา
ยาฉีด
tetanus Antitoein ขนาด 10000 หน่วย ฉีดเข้าเส้นดลหิตดำ
Tetanus immune globulin ขนาด 5000 แีดเข้ากล้ามเนื้อ
ยาทาน
ให้ยาระงับประาท Diazepam Valium ลดอาการเกร็ง
ให้ยากันชัก Chorproazine 50-100 มก. วันละ 4 ครั้ง
พักผ่อนในห้องที่ไม่มีแสงสว่าง
ไม่มีการรบกวนทั้งแสงและการกระทบกระเทือน
การฉีดวัคซีน
ไม่เคยรับวัคซีนมาก่อน
ให้ Tetanus toxoid 2เข็ม ห่างกัน เข็มละ1 เดือน ตามด้วยกระตุ้น 1 เข็มจากเข็มที่ 2 1 ปี
ขนาด 05 มล. แีดเข้ากล้ามเนื้อ
ฉีดกระตุ้นทุก 10 ปี
ถ้าบาดแผลใหญ่ หรือสกปรก
ฉีด Human tetanus immune globlin / tetanus antitoxin
เคยฉีดมาก่อน 2 ครั้ง
มากกว่า 10ปี ควรเริ่มฉีดใหม่
ครั้งสุดท้ายมากกว่า 5ปี ควรแีดกระตุ้น 1 เข็ม
ไม่ต้องฉีด immune globulin /เซรุ่มแก้พิษ
ได้รับภายใน 5 ปี ไม่ต้องฉีดกระตุ้น
การพยาบาลต่อโรคบาดทะยัก
- แยกผู้ป่วยไว้ในห้องแยกที่เงียบสงบ ไม่มีแสงรบกวน ระมัดระวังอย่าให้มีเสียงดังเพื่อหลีกเลี่ยงการกระตุ้นให้ผู้ป่วยชักเกร็งมากขึ้น
- หมั่นดูแลความสุขสบายของผู้ป่วย และความสะอาดของร่างกาย
- เมื่อผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับยาประเภท sedative ควรดูแลการให้ยา และสังเกตอาการข้างเคียงจากยาด้วย
- ดูแลการให้อาหารเหลวทางสายยาง และระวังการสำลักอาหาร
- ขณะที่ผู้ป่วยมีอาการชักเกร็ง ต้องระมัดระวังไม่ให้ผู้ป่วยตกเตียง ระวังการกัดลิ้นโดยใช้ mouth gag ใส่ไว้ สังเกตการหายใจขณะชัก ดูแลให้ได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ สังเกตอาการ ลักษณะ ระยะเวลาในการชัก
- หมั่นดูดเสมหะ น้ำมูก น้ำลาย เพื่อให้ทางเดินหายใจโล่ง จัดท่านอนโดยหันหน้าตะแคงศีรษะไปข้างใดข้างหนึ่ง
- การทำแผล ควรแยกเครื่องมือเครื่องใช้เฉพาะ
- ดูแลการได้รับน้ำอย่างเพียงพอในแต่ละวัน
- ปลอบใจบิดามารดาให้คลายความวิตกกังวล และให้คำแนะนำเกี่ยวกับโรค และการป้องกัน
อ้างอิง
นางสาว ดาริณี สมศรีกุมภาพันธ์. (2017). บาดทะยัก (Tetanus). การพยาบาลบาดทะยัก (Tetanus). จากเว็บไซต์ (ออนไลน์): https://1th.me/MX9cS. สืบค้นวันที่ 27 มีนาคม 2564
ผศ.น.พ.สุพจน์ ตุลยาเดชานนท์. (2018). บาดทะยักภัยใกล้ตัว. สาระน่ารู้ด้านการแพทย์สาธารณสุข คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล. จากเว็บไซต์ (ออนไลน์): https://med.mahidol.ac.th/th/knowledge_awareness_health/. สืบค้นวันที่ 27 มีนาคม 2564
นางสาวกาญจนา คนหลัก
62111301007 รุ่น 37 เลขที่ 6