Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
โรคพิษสุนัขบ้า - Coggle Diagram
โรคพิษสุนัขบ้า
การพยาบาล
ปฐมพยาบาลบาดแผลโดยทันที
ล้างแผลด้วยน้ำฟอกสบู่หลายๆครั้ง
เช็ดแผลด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ควรใช้ยาโพวีเดนไอโอดีน
ไม่ควรเย็บแผลทีนที ควารทิ้งไว้ 2-3วัน เว้นแต่ว่าเสียเลือดมาก
การป้องกันบาดทะยัก
พิจารณาให้ Tetanus toxoid ตามลักษณะแผลและประวัติการได้รับ
ให้ยาปฏิชีวนะตามความเหมาะสม
การรักษาตามอาการ
ให้ยาแก้ปวด
การตัดสินใจใช้วัคซีน และอิมมูโนโกลบุลินป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า
หากเฝ้าระวังสัตว์ครบ 10 วันแล้วยังไม่มีอาการ ให้หยุดฉีดวัคซีน
สาเหตุของโรคพิษสุนัขบ้า
เป็นโรคติดต่อจากสัตว์เลือดอุ่นโดยเฉพาะ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม
ผู้ที่ป่วยด้วยโรคนี้จะเสียชีวิตทุกราย ฉะนั้นการป้องกันโรคจึงสำคัญที่สุด
เกิดจากเชื้อไวรัสพิษสุนัขบ้า (Rabies Virus)
ข้อควรปฏิบัติเมื่อสัมผัสกับสัตว์ที่สงสัยว่าเป็นบ้า
กักดูอาการ
โค 3 เดือน(ปกติ 1 เดือน)
สุนัข 15วัน
ทำการชันสูตรโดยการส่งหัวสัตว์เข้าห้องปฏิบัติการ
เมื่อชันสูตรพบว่าเป็นบ้าให้ผู้ผู้ถูกกัดไปพบแพทย์เพื่อขอวัคซีนหรือฉีดไฮเปอร์อิมมูเซรั่มกรณีแผลใกล้ศีรษะ
การฉีดวัคซีนหลังสัมผัสโรค
ฉีดวัคซีน HDCV,PCEC,PDEV 1 ml หรือ PVRV CPRV 0.5 ml เข้ากล้ามเนื้อต้นแขน ถ้าเด็กฉีดต้นขาด้านนอก
ห้ามฉีดเข้ากล้ามเนื้อสะโพกเพราะมีไขมันแทรกอยู่มาก ทำให้วัคซีนดูดซึมช้า
ฉีดวัคซีนครั้งละ1โด๊ส ในวันที่0,3,7,14,30
การติดต่อ
ติดต่อมาสู่คนโดยถูกสัตว์ที่มีเชื้อพิษสุนัขบ้ากัด ข่วน
สัตว์ที่นำโรคที่สำคัญที่สุดได้แก่ สุนัข แมว และอาจพบในสัตว์อื่นๆ
การให้วัคซีนผู้ที่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน
สัมผัสโรคภายใน 6 เดือน
ให้ฉีดวัคซีนเข้ากล้ามเนื้อ ครั้งเดียวในวันแรก
เข้าในผิวหนัง 1 จุด ในขนาด0.1 ml ครั้งเดียวในวันแรก
สัมผัสโรคหลังจาก 6 เดือนขึ้นไป
ให้ฉีด 2 ครั้ง ในวันที่ 0 และ 3 แบบเข้ากล้ามเนื้อ
เข้าในผิวหนัง 1 จุด ในขนาด0.1 ml
การวินิจฉัยภาวะการสัมผัส
ซักประวัติ
ใช้แบบฟอร์มการซักประวัติผู็ป่วยโรคพิษสุนัขบ้า
ระดับความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าแยกได้เป็น 3 กลุ่ม ตามลักษณะการสัมผัส
กลุ่มที่ 1 การสัมผัสที่ไม่ติดโรค
ถูกสัตว์กัดหรือเลีย ผิวหนังไม่ถลอก
ล้างบริเวณที่สัมผัส
กลุ่มที่ 2 การสัมผัสที่มีโอกาสติดโรค
ถูกงับเป็นรอยช้ำที่ผิว ไม่มีเลือดออก
ล้างและรักษาแผล
ฉีดวัคซีน rabies vaccine(RA)
ถูกข่วนที่ผิวหนังเป็นรอบถลอก ไม่มีเลือดหรือเลือดออกเล็กน้อย
กลุ่มที่ 3 การสัมผัสที่มีโอกาสเกิดโรคสูง
ถูกกัดฟันทะลุเข้าผิวหนัง
ถูกข่วนจนผิวหนังขาดเลือดออก
มีแผลที่ผิวหนัง สัมผัสสารคัดหลั่งจากร่างกาย
กินอาหารปรุงสุกปรุงดิบจากสัตว์ที่เป็น
การปฏิบัติ
ล้างแผลและรักษา
ฉีดrabies vaccine(RA) และ RIG