Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
โรคฉี่หนู (Leptospirosis), อ้างอิง ยุพิน ศุพุทธมงคล.(2559)…
โรคฉี่หนู (Leptospirosis)
คือ
โรคติดต่อจากสัตว์สู่คน
โรคที่เกิดได้ตลอดปี แต่พบมากช่วงปลายฤดูฝน
ต่อฤดูหนาว
โรคที่สามารถติดต่อได้จากสัตว์หลายชนิด โดยมีหนูเป็นตัวแพร่โรคที่สําคัญ
กลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดโรค
เกษตรกร ชาวไร่ ชาวนา ชาวสวน
คนงานฟาร์มเลี้ยงสัตว์ โค สุกร ปลา
กลุ่มอื่นๆ
แพทย์ เจ้าหน้าที่ห้องทดลอง ทหาร
และตํารวจที่ปฏิบัติงานตามป่าเขา
กลุ่มประชาชนทั่วไป
มักเกิดในที่มีน้ำท่วม ผู้ทีบ้านมีหนูนามาก ผู้ที่ปรุงอาหารหรือรับประทานอาหารที่ไม่สุก หรือปล่อยอาหารทิ้งไว้โดยไม่ปิดฝา
สาเหตุของการเกิดโรค
การติดเชื้อแบคทีเรียรูปเกลียว (spirochete)
เชื้อชนิดนี้อาศัยอยู่ในท่อหลอดไตของสัตว์
เชื้อสามารถมีชีวิตได้นานหลายเดือนหลังจาก ถูกขับออกทางปัสสาวะจากสัตว์ที่มีเชื้อ สัตว์อื่นๆที่เป็นแหล่งรังโรค
การติดต่อของโรค
ทางตรง
การสัมผัสสัตว์ที่มีเชื้ออยู่
โดนสัตว์ที่มีเชื้อกัด
ทางอ้อม
เชื้อจากฉี่หนูปนอยู่ในน้ำหรือดิน แล้วเข้าสู่คนทางบาดแผล
มือสัมผัสเชื้อที่ปนอยู่ในน้ำหรือดิน
แล้วเอาเชื้อเข้าทางเยื่อบุในปาก ตา จมูก
กินน้ำหรืออาหารที่ปนเปื้อนเชื้อโรคเข้าไป
พยาธิกําเนิดและพยาธิสภาพการเกิดโรค
เมื่อเชื้อเข้าสู่ทางผิวหนังหรือเยื่อบุที่มีแผล เชื้อจะเข้าสู่กระแสเลือดภายใน 24 ชั่วโมง และการกระจายไปตามอวัยวะต่าง ๆ เนื่องจากเชื้อสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วจึงไม่มีการอักเสบที่ ตำแหน่งทางเข้าของเชื้อ เมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกายจะอยู่ในสภาวะแวดล้อมต่างจากภายนอกมาก
1-2สัปดาห์ร่างกายจะมีการตอบสนองโดยการสร้างแอนตี้บอดี้จําเพาะต่อโรคชนิด IgM ตามด้วย Ig G ต่อ lipo
ในรายที่มีอาการรุนแรงพบมีการอักเสบของผนังหลอดเลือดแดง (systemic vasculitis) โดยมีการทําลายเซลล์เยื่อบุของหลอดเลือดทําให้มีเลือดออก
เกิดการอักเสบและทํางานผิดปกติทําให้เกิดตาและตัวเหลือง
ระยะของโรค
ระยะแรก (leptospiremic phase)
เป็นระยะ 4-7 วันแรก ของการดําเนินโรค
อาการไข้สูงแบบทันทีทันใดปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้าม เนื้อมาก โดยเฉพาะกล้ามเนื้อน่อง หลัง และต้นคอมีคลื่นไส้อาเจียน
อาการตาแดง ซึ่งเป็นผลจากการทีเส้นเลือดในเยื่อบุตาขยายตัวมักพบใน 3วันแรกของโรคและเป็นอยู่ได้นานถึง 1 สัปดาห์
ระยะที่ 2 (immune phase)
เป็นระยะหลังจากเริ่มมีอาการไข้ ประมาณ1 สัปดาห์
อาการปวดศีรษะ ซึ่งไม่ค่อยตอบสนองต่อยาแก้ปวด
อาจมีอาการสับสน ไข้ตํ่าๆ คลื่นไส้ อาเจียน แต่ไม่รุนแรง
เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ม่านตาอักเสบบ ผื่น และหน้าที่ของตับและไตผิดปรกติ
ระยะนี้อาจกินเวลาตั้งแต่ 4 ถึง 30 วัน
จะพบเชื้อในเลือดและ นํ้าไขสันหลังได้ใน 1-2 วันแรกและหลังจากนั้นเชื้อจะออกมาในปัสสาวะนาน 1-3 สัปดาห
อาการแสดง
ระบบกล้ามเนื้อ
มีอาการปวดกล้ามเนื้อที่รุนแรงโดยเฉพาะบริเวณกล้ามเนื้อน่องซึ่งพบได้บ่อย
อาจพบระดับเอ็นไซม์ที่บ่งถึงการอักเสบของกล้ามเนื้อ
ระบบทางเดินอาหาร
คลื่นไส้อาเจียน ท้องเสีย การกดเจ็บที่ท้อง (abdominal tenderness)
ผู้ป่วยมักมีอาการเหลือง ในช่วงวันที่4-7
ระบบทางเดินปัสสาวะและไต
การตรวจปัสสาวะและการทํางานของไตมีประโยชน์ ในการแยกโรคเล็ปโตสไปโรสิสเป็นอย่างมาก
มีไข่ขาวในปัสสาวะ หรือพบเม็ดเลือดขาว หรือเม็ดเลือดแดง
ระดับยูเรียในเลือด (BUN) พบเพิ่มสูงกว่าปกติได้บ่อยในรายที่มีอาการตัวและตาเหลือง
ระดับครีอะตินิน (creatinine) ที่สูงเกินปรกติมากกว่า 2 เท่า
มักพบในรายที่อาการรุนแรง
ระบบอื่น ๆ
อาการตาแดง(conjunctival suffusion)
มักพบในระยะสัปดาห์แรก
จุดเลือดออก (petichial hemorrhage) พบไม่บ่อย
และพบในรายที่มีตัวและตาเหลือง
ภาวะเกล็ดเลือดตํ่า (thrombocytopenia หรือเกล็ดเลือด <100,000/ มคล.)
พบบ่อยในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง
ภาวะแทรกซ้อน
ภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน
ไตวายเฉียบพลัน
กล้ามเนื้อหัวใจและลิ้นหัวใจอักเสบ
ภาวะเลือดออกในอวัยวะต่าง ๆ จากการมี Thrombocytopenia
เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
ผลการตรวจ LAB
ผลการตรวจเลือด
ESR, Alkaline Phosphatase, SGOT, SGPT, BUN และ Creatinine สูงกว่าค่าปกติ
Albumin, Globulin ลดลงกว่าค่าปกติ
ผลการตรวจน้ำไขสันหลัง
WBC, Protein สูงกว่าค่าปกติ
ผลการตรวจปัสสาวะ
พบเม็ดเลือด Hyaline granular และ Cellular casts ในปัสสาวะ
พบ Bilirubin และ Albumin
การตรวจวินิจฉัยเฉพาะโรค
การเพาะเชื้อ (Culture)
จากเลือดและน้ำไขสันหลังในระยะเริ่มมีอาการของโรคหรือในระยะ Leptospiremia
การทดสอบปฏิกิริยาน้ำเหลือง
ภายหลังเกิดอาการ 2 สัปดาห์ โดยวิธี Agglutination test
จะพบว่าค่า LeptoTiter ที่ได้จะสูงกว่าค่าปกติ 4 เท่า
การรักษา
การรักษาตามอาการ
อาการของโรค
อาการไข้ฉับพลันโดยไม่มีภาวะแทรกซ้อน
วิธีการรักษา ให้ยาลดไขึ่งไม่ใช้ยาใน
กลุ่มต้านการอักเสบที่ไม่ใช้สตีรอยด์
ในรายที่มีความรุนแรง
วิธีการรักษา รับการรักษาในโรงพยาบาลเพื่อเฝ้าระวังอาการอย่างใกล้ชิด
ไอเป็นเลือด
ใส่เครื่องช่วยหายใจอย่างทันท่วงทีและ
เตรียมการรักษาภาวะ acute respiratory distress syndrome
ภาวะไตวาย
การรักษาด้วยการทําhemodialysis
อย่างรวดเร็วในรายที่ปัสสาวะเริ่มออกน้อย
การรักษาจําเพาะ
ชื้อ leptospires เป็นแบคทีเรียที่ไวต่อ
ยาต้านจุลชีพหลายชนิด
ได้แก่
penicillin
ampicillin
amoxicillin
doxycycline
tetracycline
erythromycin
ยาในกลุ่ม cephalosporin
ยากลุ่ม quinolone
วินิจฉัยการพยาบาล
ไม่สุขสบายจากการมีไข้ และปวดกล้ามเนื้อเนื่องจากมีการติดเชื้อLeptospira ในร่างกาย
เสี่ยงต่อการเสียสมดุลน้ำและอิเล็กโทรไลต์เนื่องจากมีไข้สูงหรือมีภาวะไตวาย
อาจได้รับอันตรายจากภาวะแทรกซ้อนเนื่องจากเชื้อ Leptospira แพร่กระจายสู่อวัยวะต่าง ๆ
ขาดความรู้เรื่องโรค การรักษา การปฏิบัติตัวและการป้องกันโรคฉี่หนู
การพยาบาล
การดูแลให้ผู้ป่วยได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ
การเช็ดตัวลดไข้ กระตุ้นให้ดื่มน้ำ และวัดอุณหภูมิทุก 4 ชั่วโมง
การดูแลให้ได้รับสารน้ำทางหลอดเลือดตามแผนการรักษา
การดูแลให้ได้รับยาปฏิชีวนะตามแผนการรักษา
การดูแลให้ผู้ป่วยได้รับประทานอาหารอ่อนย่อยง่ายให้พลังงานสูง
การดูแลให้ผู้ป่วยดื่มน้ำมากกว่า 2000 มิลลิลิตร/วัน ถ้าไม่มีข้อจํากัด
การบันทึกปริมาณน้ำเข้าและออก ประเมินภาวะขาดน้ำ และภาวะน้ำเกิน
สังเกตอาการแทรกซ้อนต่าง ๆ
ให้ความรู้และความกระจ่างเรื่องโรค แผนการรักษา การดําเนินของโรคและการป้องกันโรค
การป้องกันโรค
สวมรองเท้าบูธยาวทุกครั้งที่ต้องลุยน้ำขัง
หลักเลี่ยงการเดินหรือสัมผัสน้ำขังในที่สาธารณะ
ล้างมือล้างเท้าให้สะอาดทุกครั้งหากสัมผัสภาชนะของเสียของสัตว์
ควรขับถ่ายปัสสาวะและอุจจาระลงในโถส้วมทุกครั้ง
ปิดฝาถังขยะ หมั่นกําจัดขยะโดยเฉพาะเศษอาหารทุกวัน ไม่ให้เป็นแหล่งอาหารของหน
รักษาความสะอาดบ้านเรือนและดูแลบริเวณบ้าน
/ที่เลี้ยงสัตว์ไม่ให้มีแอ่งน้ำขัง
อ้างอิง
ยุพิน ศุพุทธมงคล.(2559).พยาธิกำเนิดโรคฉี่หนู.สืบค้นเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2564,
จาก
http://www.ronghosp.org/hosmain/pps-xls-word-show/Leptospirosis/lepto_21.htm
bpl hospital. (2560).การติดต่อโรคฉี่หนู.สืบค้นเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2564,
จาก
https://bangkokhospitalphitsanulok.com/leptospirosisss/