Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
โรคฉี่หนู (Leptospirosis) - Coggle Diagram
โรคฉี่หนู (Leptospirosis)
เป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน
เกิดได้ตลอดปี แต่พบมากช่วงปลายฤดูฝน ต่อฤดูหนาว
การติดเชื้อมาจากการสัมผัสดิน น้ำ อาหารที่ปนเปื้อนปัสสาวะ เลือด หรือเนื้อเยื่อของของสัตว์ที่ติดเชื้อชนิดนี้ เช่น สุนัข วัว ควาย หนู สุกร ม้า สัตว์ป่า เป็นต้น
ผู้ที่มีความเสี่ยง
เกษตรกร หรือผู้ที่ทำงานปศุสัตว์ที่ต้องทำงานใกล้ชิด หรือสัมผัสสัตว์บ่อย ๆ
ผู้ที่ทำกิจกรรม หรือเล่นกีฬาทางน้ำ
ผู้ที่อยู่ในที่ประสบอุทกภัย หรือพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง
คนงานโรงฆ่าสัตว์ สัตวแพทย์ คนงานเหมืองแร่ คนขุดลอกท่อ
สาเหตุ
เชื้อแบคทีเรียชนิดเกลียวที่ทำให้เกิดโรคฉี่หนูมีชื่อว่า เล็ปโตสไปรา (Leptospira)
มักพบการติดเชื้อชนิดนี้ได้ในสุนัขหรือสัตว์ตามฟาร์ม เช่น สุกร โค กระบือ รวมถึงสัตว์จำพวกหนู
เชื้อที่มากับปัสสาวะสัตว์ติดเชื้อที่ปนเปื้อนมากับน้ำ ดินที่เปียก หรือพืชผักต่าง ๆ
การติดต่อ
เมื่อคนสัมผัสเชื้อซึ่งอาจจะเข้าทางแผล เยื่อบุในปากหรือตา หรือแผล ผิวหนังปกติที่เปียกชื้น
เชื้ออาจจะเข้าร่างกายโดยการดื่มหรือกินอาหารที่มีเชื้อระยะฟักตัวของโรค
การติดเชื้อระยะติดต่อจะเฉลี่ยโดยประมาณ 10 วันหรืออยู่ระหว่าง 4-19 วัน
อาการ
ภาวะเยื่อบุตาบวมแดงเกิดขึ้นในตาทั้งสองข้างภายใน3 วันแรกของโรค และอยู่ได้นานตั้งแต่ 1-7 วัน อาจจะพบร่วมกับเลือดออกที่ตาขาวข้างเดียวหรือสองข้างก็ได้
กดเจ็บกล้ามเนื้ออย่างรุนแรง โดยเฉพาะที่น่อง
มีเลือดออกแบบต่างๆ โดยเฉพาะในรายที่มีอาการรุนแรง
เช่น
จุดเลือดออกตามผิวหนัง petichae
ผื่นเลือดออก purpuric spot
เลือดออกใต้เยื่อบุตา conjunctival haemorrhage
เสมหะเป็นเลือด
ผื่น อาจจะพบได้หลายแบบ ผื่นแดงราบ ผื่นแดง ผื่นลมพิษ
อาการเหลือง อาการเหลืองมักเกิดวันที่4-6 ของโรค
ปวดศีรษะ มีไข้สูง หนาวสั่น
คลื่นไส้ อาเจียน
ภาวะแทรกซ้อน
ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ
ภาวะแข็งตัวของเลือดในหลอดเลือด
มีเลือดออกในกระเพาะอาหาร
ความดันโลหิตต่ำ
โรคหลอดเลือดในสมอง เลือดออกในเยื่อหุ้มสมองชั้นกลาง หลอดเลือดสมองอักเสบ
โรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
ภาวะหัวใจวาย
ผลการตรวจ LAB
ผลการตรวจเลือด
ESR, Alkaline Phosphatase, SGOT, SGPT, BUN และ Creatinine สูงกว่าค่าปกติ
Albumin, Globulin ลดลงกว่าค่าปกติ
ผลการตรวจน้ำไขสันหลัง
WBC, Protein สูงกว่าค่าปกติ
ผลการตรวจปัสสาวะ
จะพบเม็ดเลือด Hyaline granular และ Cellular casts ในปัสสาวะ
ตรวจพบ Bilirubin และ Albumin ในน้ำปัสสาวะ
การตรวจวินิจฉัย
การเพาะเชื้อ (Culture)
จากเลือดและน้ำไขสันหลังในระยะเริ่มมีอาการของโรคหรือในระยะ Leptospiremia
การทดสอบปฏิกิริยาน้ำเหลือง
ภายหลังเกิดอาการ 2 สัปดาห์
โดยวิธี Agglutination test
จะพบค่า LeptoTiter ที่ได้จะสูงกว่าค่าปกติ 4 เท่า
การรักษา
มีอาการไข้ฉับพลันโดยไม่มีภาวะแทรกซ้อน
ให้ยาลดไข้
ในรายที่มีความรุนแรง
รับการรักษา ในโรงพยาบาลเพื่อเฝ้าระวังอาการอย่างใกล้ชิด
เลือดออกผิดปกติ
อาการไอเป็นเลือดร่วมด้วยต้องได้รับการรักษาด้วยการใส่เครื่องช่วยหายใจ
เตรียมการรักษา ภาวะ acute respiratory distress syndrome
ภาวะไตวาย
เฝ้าระวังผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดและ ให้การรักษาด้วยการทำ hemodialysis อย่างรวดเร็วในรายที่ปัสสาวะเริ่มออกน้อย
ไม่มีอาการรุนแรง
รักษาด้วยยาปฏิชีวนะอย่างยาเพนิซิลลิน (Penicillin) หรือดอกซีไซคลิน (Doxycycline)
การป้องกัน
ให้ความรู้เกี่ยวกับการติดต่อของโรคแก่ประชาชน โดยแนะนำให้หลีกเลี่ยงการว่ายน้ำหรือการเดินลุยในน้ำที่อาจปนเปื้อนเชื้อปัสสาวะจากสัตว์นำโรค
หมั่นตรวจตราแหล่งน้ำและดินทรายที่อาจมีเชื้อปนเปื้อน ควรระบายน้ำตามท่อระบายออกแล้วล้างเพื่อกำจัดน้ำที่ปนเปื้อน
ส่งเสริมการป้องกันโรคแก่ผู้ที่ทำอาชีพที่มีความเสี่ยงทั้งหลาย โดยให้สวมถุงมือยางหรือรองเท้าบู๊ต
ควบคุมและกำจัดหนูตามบริเวณที่อยู่อาศัย สถานที่ทำงาน รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบท
แยกสัตว์ที่ติดเชื้อออกจากสัตว์ชนิดอื่น ๆ และบริเวณที่อยู่อาศัย เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค
การพยาบาล
การดูแลผู้ป่วยให้พักผ่อนอย่างเพียงพอ
เช็ดตัวลดไข้ และวัดอุณหภูมิทุก 4 ชั่วโมง
การดูแลให้ได้รับสารน้ำทางหลอดเลือดตามแผนการรักษา
ดูแลให้ได้รับยาปฏิชีวนะ
ดูแลผู้ป่วยให้ได้รับประทานอาหารอ่อน ย่อยง่าย
ถ้ามีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ให้ได้รับยาแก้อาเจียนก่อน
ดูแลให้ผู้ป่วยดื่มน้ำมากกว่า 2000 มิลลิลิตร/วัน
บันทึกปริมาณน้ำเข้าและออก
สังเกตอาการแทรกซ้อนต่างๆ
อ้างอิง
POBPAD.(2559).โรคฉี่หนู.สืบค้นจาก:
https://www.pobpad.com.(สืบค้นวันที่
26 มีนาคม 2564)
โรงพยาบาลศิครินทร์.(2564).โรคฉี่หนู.สืบค้นจาก :
https://www.sikarin.com/content/detail/198/.(สืบค้นวันที่
26 มีนาคม 2564)