Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การดูแลเด็กที่มีปัญหาระบบทางเดินหายใจที่พบบ่อยในเด็ก🌈👶🏻 - Coggle Diagram
การดูแลเด็กที่มีปัญหาระบบทางเดินหายใจที่พบบ่อยในเด็ก🌈👶🏻
กล่องเสียงและหลอดลมอักเสบเฉียบพลัน(viral croup)
เกิดจาก
ไวรัส
parainfluenzaviruses(type1-3)พบร้อยละ50-75
influenza A,B
respiratory syncytial virus (RSV)
แบคทีเรีย
Mycoplasma pneumoniae ซึ่
พยาธิสภาพ
มีการอักเสบและบวม ส่งผลทำให้เกิดภาวะอุดกลั้นของทางเดินหายใจส่วนบนแบบเฉียบพลัน
กล่องเสียง
หลอดคอ
หลอดลม
ใต้กล่องเสียง (Subglottic region )
อาการ
ไข้
เจ็บคอ
หายใจลำบากDyspnea
ไอเสียงก้อง(barking Cough
หายใจได้ยินเสียงstridor
ไม่รุนแรงหายได้เอง
อาการรุนแรงเกิดภาวะพรอ่งออกซิเจนเฉียบพลัน
เกิดขึ้นรวดเร็ว มักไม่ตอบสนองต่อการพ่นยาทั่วไป
ส่วนใหญ่พ่น Adrenaline
ต้องใส่ Endotracheal tube
หอบหืด (Asthma)
ภาวะที่มีการอักเสบเรื้อรังของหลอดลม (Chronic airway inflammation)
การอักเสบของหลอดลมมีผลทำให้เยื่อบุผนังหลอดลม มีปฏิกริยาตอบสนองต่อสารภูมิแพ้มากกว่าปกติ
มีความไวต่อสิ่งกระตุ้น ทำให้เกิดพยาธิสภาพ 3 อย่าง
ทำให้หลอดลมตีบแคบลง(Stenosis) เยื่อบุภายในหลอมลมบวม
มีการสร้างเมือกเหนียวจำนวนมาก((Hypersecetion) ทำให้ช่องทางเดินอากาศในหลอมลมแคบลง
ทำให้หลอดลมหดเกร็งตัว
การดูแล
ได้รับยาขยายหลอมลม ได้รับออกซิเจน ให้พักเพื่อลด activity
ได้ยาลดอาการบวม
ในรายที่มีเสมหะ
จะไม่ใช้วิธีการเคาะปอดในเด็กที่เป็นAsthma ที่กำลังหอบ
จะทำให้หลอดลมเกิดการดเกร็งมากขึ้น
ในเด็กเล็กๆ อายุที่1-2 ปี โรคมักเกิดตามหลังอาการติดเชื้อไวรัส
เด็กวัยเรียน หอบหืดมักจะเกิดจากการมีประวัติภูมิแพ้
อาการ
เริ่มต้นด้วยอาการหวัด ไอ มีเสมหะ ถ้าไอมากขึ้นเรื่อยๆมักจะมีเสียง Wheezing ในช่วงหายใจออก เมื่อขาดออกซิเจนมากขึ้น ก็เกิดอาการหอบมาก ปากซีดเขียว ใจสั่น
การเกร็งตัวของหลอดลมเกิดขึ้นไม่มากนัก จะไม่มีอาการมากแต่เป็นอยู่เรื่อยๆ
เด็กบางคนจะมีอาการไออย่างเดียวและมักมีอาเจียนร่วมด้วย อาการไอจะดีขึ้นหลังจาเด็กได้อาเจียนเอาสมะเหนียวๆออก
การรักษา
ลดอาการของเด็ก ให้เด็กมีกิจกรรมได้ตามปกติ หลีกเลี่ยงจากสิ่งกระตุ้นและการใช้ยาอย่างถูกต้อง
ยาขยายหลอดลม (Relievers)
ชนิดพ่น
ได้ผลเร็ว ช่วยให้หายใจโล่งขึ้น
เพราะไปขยายกล้ามเนื้อเล็กๆซึ่งอยู่ในหลอดลมที่หดเกร็ง
ชนิดรับประทาน
ยาลดการบวมและการอักเสบของหลอดลม
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง
ควันบุหรี่
ตัวไรฝุ่น
ไม่ควรมีตุ๊กตาที่มีขนในห้องนอน
ซักหมอน ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน สัปดาห์ละ 1ครั้ง
ไม่นำวัตว์เลี้ยงเข้าห้องนอน
การออกกำลังต้องงดการออกกำลังกายที่เหนื่อยมาก
อากาศเย็นเนื่องจากมีผลต่อการพัดโบกของcilia
การใช้ bady haler
ล้างทำความสะอาดบ่อยๆ ล้างด้วยน้ำยาล้างจานตากให้แห้ง
หลังล้างทำความสะอาดต้องสอนผู้ป่วย
ให้พ่นยาทิ้ง 1 ครั้ง เพื่อให้ยาจับผนังของ spacer ก่อน เพื่อให้การพ่นครั้งต่อๆไป
Tonsilitis/Pharyngitis
สาเหตุ
ติดเชื้อ แบคทีเรีย ไวรัส
Beta Hemolytic,streptococcus gr.A
อาการ
ไข้
ปวดศรีษะ
ไอ
เจ็บคอ
ในรายที่มีตุ่มใสหรือแผลตื้นที่คอหอย
สาเหตุเกิดจาก Coxsackie virus
Herpangina
คำแนะนำที่สำคัญคือ ให้กินยา Antibiotic ให้ครบ10วันเพื่อป้องกัน ไข้รูมาห์ติค และหัวใจรูห์มาติค หรือกรวยไตอักเสบเฉียบพลันAGN
การผ่าตัดต่อมทอนซิล(tonsillectomy)
ข้อบ่งชี้
ติดเชื้อเรื้อรัง (chronic tonsillitis)
เป็นๆหายๆ(recurrent acute tonsillitis
รบกวนคุณภาพชีวิต
อุดกั้นทางเดินหายใจส่วนบน ทำให้นอนกรนและมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (obstructive sleep apnea)
ในรายที่สงสัยว่าเป็นมะเร็งของต่อม ทอนซิล(carcinoma of tonsils
การดูแลผู้ป่วยหลังผ่าตัดTonsillectomy
ควรให้เด็กนอนตะแคงไปด้านใดด้านนึง เพื่อสะดวกต่อการระบายเสมหะ และโลหิต จนกว่าเด็กจะรู้สึกตัว
สังเกตอาการและการเปลี่ยนแปลงอย่างใกล้ชิด
มีชีพจร120ครั้ง/นาทีต่อเนื่อง
เงียบ
ซีด
ข้อบ่งชี้ว่ามีเลือดออก
เกิดขึ้น6-8ชั่วโมงแรก
เมื่อเด็กรู้ตัวดี
จัดให้เด็กอยู่ในท่านั่ง1-2ชั้วโมง
ให้อมน้ำแข็งก้อนเล็กๆ
รับประทานของเหลว
ในรายที่ปวดแผลผ่าตัดให้ใช้กระเป๋าน้ำแข็งวางรอบคอ
ถ้าปวดมากให้ยาแก้ปวด
ผู้ป่วยจะมีแผลที่ผนังคอทั้งสองข้าง ทำให้รับประทานอาหารไม่สะดวก
แนะนำให้รับประทานอาหารค่อนข้างเย็น
ไอศกรีมข้นๆ
หลังผ่าตัด1-2วันผนังคออาจบวมทำให้หายใจอึดอัด ไม่สะดวก
ควรนอนศรีษะสูง โดยใช้หมอนหนุน
อมและประคบน้ำแข็งบ่อยๆสลับกับประคบน้ำแข็ง10นาที
หลีกเลี่ยงการแปรงฟันในช่องปากลึกเกินไป
ควรรับประทานอาหารอ่อน
โจ๊ก
ข้าวต้ม
ไม่ควรรับประทานอาหารที่แข็งและร้อน
หลอดลมอักเสบ( Bronchitis) หลอดลมฝอยอักเสบ(Bronchiolitis)
ปัญหาติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนล่างที่พบบ่อยในเด็กเล็ก เกิดขึ้นเนื่องจากมีการอักเสบและอุดกลั้นของหลอดลม
เชื้อราเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด Respiratory syncytial virus : RSV
เด็กที่ไม่กินนมแม่จะพบได้ค่อนข้างสูงกว่าเด็กทั่วไป พบในเด็กเล็กมากกว่าเด็กโต
กลไกการเกิดเชื้อไวรัส
ทำลายเนื้อเยื่อของหลอดลมฝอย ทำให้เกิดอาการอักเสบ บวมและมีการคั่งของเสมหะ เกิดการอุดกั้นของหลอดลมฝอย
ผลที่ตามมาคือ เกิด Atelectasis
อาการ
เริ่มจากไข้หวัดเพียงเล็กน้อย มีน้ำมูกใส จาม เบื่ออาหาร
ต่อมาเรื่มไอเป้นชุดๆ ร้องกวน หายใจเร็ว หอบ หายใจมปีกจมูกบาน ดูดนมหรือน้ำได้น้อยหรือไม่ได้เลย
การรักษา
ตามอาการให้ยาลดไข้ ยาปฏิชีวนะ ยาต้านการอักเสล ยาขยายหลอดลม
ให้เด็กได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ ได้รับน้ำ ดูแลไข้
ดูแลปัญหาการติดเชื้อ ดูแลเสริมสร้างภูมิต้านทานให้อาหารที่มีประโยชน์
ปอดบวม Pneumonia
สาเหตุ
สำลักสิ่งแปลกปลอม ติดเชื้อ แบคที่เรีย ไวรัส
อาการ
ไข้ ไอ หอบ ดูดน้ำ ดูดนมน้อยลง ซึม
เกณฑ์ที่องค์การอนามัยโลก
เด็กแรกเกิด อัตราการหายใจที่มากกว่า 60 ครั้งต่อนาที
เด็กอายุ 2 เดือนถึง 1 ปี อัตราการหายใจที่มากกว่า 50 ครั้งต่อนาที
เด็กอายุ 1-5 ปี อัตราการหายใจที่มากกว่า 40 ครั้งต่อนาที
การรักษา
ดูแลให้ได้รับน้ำอย่างเพียงพอ เพื่อให้เสมหะอ่อนตัวขับออกได้ง่าย ช่วยลดไข้
ดูแลเรื่องไข้ Clear airway suction เพื่อให้การแลกเปลี่ยนออกซิเจนเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดูแลแก้ไขปัญหาพร่องออกซิเจน ให้ยาขยายหลอดลม ยาขับเสมหะ ยาฆ่าเชื้อ
การพยาบาล
ปัญหาการอุดกั้นทางเดินหายใจเป็นปัญหาสำคัญจำเป็นต้องดูแลแก้ไข
เด็กโตต้องสอนการไออย่างถูกวิธี กระตุ้นให้ดื่มน้ำมากๆ
รายที่เสมหะอยู่ลึกให้ Postural drainage โดยการเคาะปอดและSuction เพื่อป้องกันภาวะปอดแฟบ
การท า Postural drainage จะช่วยทำให้เสมหะที่อยู่ส่วนปลายถูกกระตุ้นให้เลื่อนขึ้นมาถึงปลายสายดูดเสมหะ ช่วยให้เสมหะถูดดูดออกจากหลอดลมได้อ่างมีประสิทธิภาพ
จัดให้ผู้ป่วยนอนศีรษะสูง หรือนอนทับข้างที่มีพยาธิสภาพเพื่อให้ปอดข้างที่ดีขยายตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ
ไซนัสอักเสบ(sinusitis)
เกิดจาการติดเชื้อ
ไวรัส
แบคทีเรีย
เชื้อรา
เป็นอาการอักเสบของโพรงอากาศข้างจมูก
ทำให้เกิดการบวมของเยื่อบุในโพรงอากาศส่งผลให้
เกิดภาวะอุดตันในช่องระบายอากาศข้างจมูก(Osteomeatal complex
ทำให้เกิดการคั่งของสารคัดหลั่ง
ส่งผลทำให้ความดันโพรงอากาศติดลบ เมื่อจาม สูดน้ำมูกทำให้แบคทีเรียที่ Nasopharynxเข้าโพรงจมูกได้ง่าย
ผลของการติดเชื้อทำให้การทำงานของ ciliaผิดปกติ
ระยะของโรค
Acute sinusitis
ไม่เกิน12wk
Chronic sinusitis
ต่อเนื่องเกิน12wk
อาการ
มีไข้สูงกว่า39
ปวดเมื่อยตามตัว
มีน้ำมูกไหล
ไอ
อาการจะอยู่นานกว่า10วัน Acuteจะรุนแรงกว่า chronic
การวินิจฉัย
CT scan
Transilumination
การดูแลรักษา
ให้ยาantibiotic
ให้ยาparacetamalเพื่อลดไข้
ให้ยาแก้แพ้
ในรายที่ชักนำมาจากโรคภูมิแพ้ ไม่แนะนำให้ใช้ยาแก้แพ้ในผู้ป่วยที่เป็นไซนัสอักเสบแบบเฉียบพลัน
ให้ยาsteroid
ล้างจมูก
ล้างวันละ2ครั้งตามแผนการรักษา
น้ำเกลือความเข้มข้น0.9%NSS