Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การดูแลเด็กที่มีปัญหา ระบบทางเดินหายใจที่พบบ่อยในเด็ก - Coggle Diagram
การดูแลเด็กที่มีปัญหา ระบบทางเดินหายใจที่พบบ่อยในเด็ก
กล่องเสียงและหลอดลมอักเสบเฉียบพลัน (Acute laryngotracheobronchitis, viral croup )
viral croup เป็นโรคที่เกิดจาก การติดเชื้อของทางเดินหายใจได้แก่ ไวรัส และแบคทีเรีย
ไวรัส ได้แก่
parainfluenza viruses (type 1-3) พบได้ร้อยละ 50- 75 ของผู้ป่วยโรคนี้
ไวรัสอื่นๆ ที่พบเป็น สาเหตุ ได้แก่
influenza A และ B
respiratory syncytial virus (RSV)
พยาธิสภาพที่พบในเด็ก
การอักเสบและบวมของกล่องเสียง หลอดคอ และหลอดลม
ส่งผลทำให้เกิดภาวะอุดกั้นของทางเดินหายใจส่วนบนแบบ เฉียบพลัน
โดยเฉพาะที่ตำแหน่ง ใต้กล่องเสียง (Subglottic region )
อาการที่พบ
ไข้
เจ็บคอ
หายใจลำบาก
Dyspnea
ผู้ป่วยจะไอเสียงก้อง (barking cough)
มีเสียงแหบ (hoarseness)
หายใจได้ยินเสียง stridor
Tonsilitis / Pharyngitis
สาเหตุ
การติดเชื้อ แบคที่เรีย ไวรัส เช่น
Beta Hemolytic
streptococcus gr. A
อาการ
ไข้
ปวดศีรษะ
ไอ
เจ็บคอ
ในรายที่มีตุ่มใสหรือแผลตื้นที่คอหอย หรือเพดานปาก
สาเหตุจะเกิดจาก Coxsackie Virus เรียกว่า Herpangina
คำแนะนำที่สำคัญคือ ให้กินยา Antibiotic ให้ครบ 10 วัน เพื่อป้องกัน ไข้รูห์มาติค และหัวใจรูห์มาติค หรือ กรวยไตอักเสบเฉียบพลัน AGN
การผ่าตัดต่อมทอนซิล(tonsillectomy)
การผ่าตัดต่อมทอนซิล (tonsillectomy) จะทำเมื่อมีข้อบ่งชี้ในเรื่องของการ ติดเชื้อเรื้อรัง (chronic tonsillitis) หรือเป็นๆหายๆ (recurrent acute tonsillitis)
อาการ
มีไข้, เจ็บคอ, เจ็บคอมากเวลากลืนหรือกลืนลำบาก อย่างเรื้อรังหรือเป็นๆ หายๆ จนรบกวนคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย ต้องหยุดเรียนบ่อยๆ
หรือมีการอุดกั้นทางเดินหายใจส่วนบน ทำให้เกิดอาการนอนกรน และ/ หรือมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (obstructive sleep apnea)
การดูแลผู้ป่วยหลังผ่าตัด Tonsillectomy
หลังผ่าตัดควรให้เด็กนอนตะแคงไปด้านใดด้านหนึ่ง เพื่อสะดวกต่อการ ระบายเสมหะ
สังเกตอาการและการเปลี่ยนแปลงอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะระยะแรกหลัง ผ่าตัด
เมื่อเด็กรู้ตัวดี จัดให้เด็กอยู่ในท่านั่ง 1-2 ชั่วโมง ให้อมน้ำแข็งก้อนเล็กๆ
หลังการผ่าตัด 1-2 วันแรก เพดานอ่อน หรือผนังในคออาจบวมมากขึ้นได้ ทำให้หายใจอึดอัด ไม่สะดวก ดังนั้นจึงควรนอนศีรษะสูง
หลีกเลี่ยงการแปรงฟันเข้าไปในช่องปากลึกเกินไป
การประคบหรืออมน้ำแข็งควรประคบหรืออมสลับกับพักประมาณ 10 นาที แล้วจึงเอาออกประมาณ 10 นาที สลับกันไปเรื่อย ๆ
ควรรับประทานอาหารอ่อน
ไซนัสอักเสบ(Sinusitis)
เป็นอาการอักเสบของโพรงอากาศข้างจมูก
สาเหตุ
การติดเชื้อ
เชื้อไวรัส
แบคทีเรีย
เชื้อรา
เมื่อเกิดการติดเชื้อจะทำให้เกิดการบวมของเยื้อบุในโพรงอากาศ และ ส่งผลทำให้เกิดภาวะอุดตันช่องระบายของโพรงอากาศข้างจมูก
ผลของการติดเชื้อทำให้การทำงานของ cilia ผิดปกติ ร่วมกับมีสารคัดหลั่ง ออกมามาก และมีความหนืดมากขึ้น
ระยะของโรค
Acute sinusitis ระยะของโรคไม่เกิน 12 สัปดาห์
Chronic sinusitis อาการจะต่อเนื่องเกิน 12 สัปดาห์
อาการ
มีไข้สูงมากกว่า 39
ปวดศีรษะ
มีน้ำมูกไหล
ไอ
ปวดเมื่อยตามตัว
ในรายที่ติดเชื้อแบคทีเรีย อาการมักจะนานมากกว่า 10 วัน
อาการ Acute จะรุนแรง กว่า Chronic
การวินิจฉัย
X-ray paranasal sinus
CT scan ได้ผลดีกว่าวิธีอื่น
การตรวจด้วยการส่องไฟผ่าน
การดูแลรักษา
ให้ยา antibiotic ตามแผนการรักษา
ให้ยา paracetamal เพื่อลดไข้ และบรรเทาอาการปวดศีรษะ
ยาแก้แพ้จะช่วยลดอาการจาม น้ำมูกไหล และเยื่อบุจมูกบวม
ให้ยาSteroid เพื่อลดอาการบวม
การล้างจมูก
การล้างจมูกคือ การทำความสะอาดโพรงจมูก ป้องกันการลุกลามของเชื้อโรคจากจมูกและไซนัสไปสู่ปอด ช่วย ลดจำนวนเชื้อโรค ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น บรรเทาอาการ คัดแน่นจมูก
ล้างจมูกวันละ 2 ครั้ง ตามแผนการรักษาของแพทย์
น้ำที่ใช้ล้างคือ...น้ำเกลือความเข้มข้น 0.9% NSS เนื่องจากมีคุณสมบัติ ช่วยลดความเหนียวของน้ำมูกและทำให้เชื้อโรคไม่เจริญเติบโต
หอบหืด Asthma
Asthma เป็นภาวะที่มีการอักเสบเรื้อรังของหลอดลม Chronic airway inflammation มีความไวต่อสิ่งกระตุ้นทำให้เกิดพยาธิสภาพ 3 อย่างคือ
ทำให้หลอดลมหดเกร็งตัว(Brochospasm)
ทำให้หลอดลมตีบแคบลง (Stenosis)
มีการสร้างเมือกเหนียวจำนวนมาก (Hypersecretion) ทำให้ช่องทางเดินอากาศในหลอดลมแคบลง
การดูแล
ต้องให้ผู้ป่วยได้รับยาขยายหลอดลม ได้รับออกซิเจน ให้พัก เพื่อลด activity
ในรายที่มีเสมหะ จะไม่ใช้วิธีการเคาะปอดในเด็กที่เป็น Asthma ที่กำลังหอบ
ในเด็กเล็กๆ ที่อายุ 1 - 2 ปี โรคหอบหืดมักเกิดตามหลังอาการ การติดเชื้อไวรัส
เด็กวัยเรียน หอบหืดมักจะเกิดจากการมี ประวัติภูมิแพ้
อาการ
มักเริ่มต้นด้วยอาการหวัด ไอ มีเสมหะ ถ้าไอมากขึ้นเรื่อย ๆ
มักจะมีเสียง Wheezing ในช่วงหายใจออก
บางครั้งการเกร็งตัวของหลอดลมเกิดขึ้นไม่มากนัก
ผู้ป่วยเด็กบางคนจะมีอาการไออย่างเดียว และมักจะมีอาการอาเจียนร่วมด้วย
การรักษา
หลีกเลี่ยงจากสิ่งกระตุ้นและการใช้ยาอย่างถูกต้อง
ยาขยายหลอดลม ( Relievers ) มีทั้งชนิดพ่น และชนิด รับประทาน
ยาชนิดพ่นจะให้ผลได้เร็ว ช่วยให้หายใจโล่งขึ้น เพราะไปขยาย กล้ามเนื้อเล็กๆ
ยาลดการบวม และการอักเสบของหลอดลม (Steroid ) ควรใช้ เพียงระยะสั้นๆ คือ 3 - 5 วัน เพื่อการรักษา และป้องกันไม่ให้โรค รุนแรงขึ้น
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง
ควันบุหรี่
ตัวไรฝุ่น
ไม่ควรมีตุ๊กตาที่มีขนในห้องนอน
ควรซักผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน หมอน สัปดาห์ละ 1 ครั้ง
ไม่นำสัตว์เลี้ยงเข้าห้องนอน
การออกกำลังกาย
อากาศเย็น เด็กบางคนกระทบอากาศเย็น มักจะไอ
การใช้ baby haler
Baby haler ต้องล้างทำความสะอาดบ่อยๆ แต่ไม่จำเป็นต้องทุกครั้งหลัง ใช้ ล้างด้วยน้ำยาล้างจานตากให้แห้ง ไม่ควรใช้ผ้าเช็ดถู
หลังล้างทำความสะอาดให้พ่นยาทิ้ง 1 ครั้ง เพื่อให้ยาจับผนังของ Spacer ก่อน
หลอดลมอักเสบ( Bronchitis) หลอดลมฝอยอักเสบ(Bronchiolitis)
เป็นปัญหาติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนล่างที่พบบ่อยในเด็กเล็ก
เกิดขึ้นเนื่องจากมีการอักเสบลอุดกลั้นของหลอดลม
เชื้อทีเป็นสาเหตุที่พบบ่อย Respiratory syncytial virus : RSV
เด็กที่ไม่กินนมแม่จะพบได้ค่อนข้างสูงกว่าเด็กทั่วไปพบในเด็กเล็กมากกว่าเด็กโต
อาการ
เริ่มจากไข้หวัดเพียงเล็กน้อย
น้ำมูกใส
จาม
เบื่ออาหาร
ต่อมาไอเป็นชุด ร้องกวน หายใจเร็ว หอบ
การรักษา
ให้ยาลดไข้ ยาปฏิชีวนะ ยาต้านการอักเสบ
การดูแลให้เด็กได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ
ดูแลปัญหาการติดเชื้อ
ปอดบวม Pneumonia
สาเหตุ
สำลักสิ่งแปลกปลอม
ติดเชื้อ
แบคทีเรีย
ไวรัส
อาการ
ไข้
ไอ
หอบ
ดูดน้ำ
ดูดนมน้อยลง
ซึม
เกณฑ์ที่องค์การอนามัยโลกใช้ตัดสิน Pneumonia
เด็กแรกเกิด อัตราการหายใจที่มากกว่า 60 ครั้งต่อนาที
เด็กอายุ2เดือนถึง1ปีอัตราการหายใจมากกว่า50ครั้งต่อนาที
เด็กอายุ 1-5 ปี อัตราการหายใจมากกว่า40ครั้งต่อนาที
การรักษา
ดูแลเรื่องไข้ Clear airway suction เพื่อให้การแลกเปลี่ยนออกซิเจนเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดูแลแก้ไขปัญหาพร่องออกซิเจน ให้ยาขยายหลอดลมยาขับเสมหะ ยาฆ่าเชื้อ
ดูแลให้ได้รับน้ำอย่างเพียงพอ เป็นเรื่องสำคัญเพื่อให้เสมหะอ่อนตัวขับ ออกได้ง่าย ช่วยลดไข้
การพยาบาลผู้ป่วยเด็ก Pneumonia
ปัญหาการอุดกั้นทางเดินหายใจเป็นปัญหาสำคัญจำเป็นต้องดูแลแก้ไข
ในรายที่เสมหะอยู่ลึกให้ Postural drainage โดยการเคาะปอด และ Suction เพื่อป้องกันภาวะปอดแฟบ (Atelectasis)
การทำ Postural drainage จะช่วยทำให้เสมหะ ถูกดูดออกจาก หลอดลมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอตามแผนการรักษา
จัดให้ผู้ป่วยนอนศีรษะสูง