Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Term pregnancy with Induction of labor with GDMA1 - Coggle Diagram
Term pregnancy with Induction of labor with GDMA1
GDMA1
ความเสี่ยง
ㆍ อายุ 30 ปีขึ้นไป
มารดา G3P1011 อายุ 33ปี
ㆍเคยมีประวัติ gestational diabetes (GDM) ในครรภ์ก่อน
ㆍ น้ำหนักตัวมาก BMI >27
ㆍ มีญาติสายตรงเป็นเบาหวาน (บิดามารดาหรือพี่น้องท้องเดียวกัน)
ㆍ ตรวจพบน้ำตาลในปัสสาวะ มากกว่า 1+
ㆍ มีประวัติไม่ดีทางสูติศาสตร์
ทารกตายคลอดไม่ทราบสาเหตุ
ทารกพิการโดยกำเนิด
ㆍ มีประวัติคลอดบุตรน้ำหนักมากกว่า 4,000 กรัม
ทารกเสียชีวิตในครรภ์
ตรวจพบมีภาวะความดันโลหิตสูงในขณะตั้งครรภ์หรือมีประวัติโรคความดันโลหิตสูงเรื้อรัง
ㆍ พบภาวะตั้งครรภ์แฝดน้ำ
การตรวจคัดกรอง
สตรีในกลุ่มนี้ให้ตรวจกรองเบาหวานทันทีเมื่อมาฝากครรภ์ครั้งแรก ในกรณีผลตรวจกรองปกติ ให้ตรวจซ้ำเมื่ออายุครรภ์ 24-28 สัปดาห์ หรือเมื่อมีอาการแสดงของภาวะน้ำตาลในเลือดสูง
วิธีการคัดกรองเบาหวาน
BS 50 gm :ไม่ต้องงดอาหาร ให้ผู้ป่วยรับประทานกลูโคส 50 กรัม จากนั้นเจาะเลือดตรวจหลังรับประทานกลูโคส 1 ชั่วโมง
ถ้าระดับน้ำตาลในเลือดมีค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 140 mg/dL ถือว่าผิดปกติให้ตรวจต่อโดยใช้ 100-gm-3-hr OGTT (Oral glucose tolerance test)
การตรวจจำเพาะเพื่อ
การวินิจฉัยเบาหวานในสตรีตั้งครรภ์
คืนก่อนวันนัดตรวจ ต้องงดอาหารและน้ำอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง
เจาะเลือดเวลาเช้าขณะงดอาหาร (fasting) หลังจากนั้นให้รับประทานกลูโคส 100 กรัม และเจาะเลือดวัดระดับน้ำตาลชั่วโมงที่ 1,2 และ 3 หลังรับประทานกลูโคส
การแปลผล OGTT
1 more item...
โรคเบาหวานในหญิงตั้งครรภ์ หมายถึง หญิงตั้งครรภ์ที่มีความผิดปกติของการเผาผลาญคาร์โบรไฮเดรท เนื่องจากมีความไม่สมดุลระหว่างความต้องการและการสร้างหรือการใช้อินซูลินของร่างกายทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติขณะตั้งครรภ์ เนื่องจากมีการทำลายอินซูลินโดยรกและฮอร์โมนจากรกซึ่งมีฤทธิ์ต้านอินซูลินทำให้การเผาผลาญภายในร่างกายผิดปกติ
Induction of labor : การชักนำการคลอด
ข้อบ่งชี้
ทารก
Fetal growth restriction :ทารกโตช้าในครรภ์
Premature rupture of membranes(PROM) :ภาวะน้ำเดินก่อนกำหนด
Chorioamnionitis :ภาวะถุงน้ำคร่ำอักเสบ
Oilgohydramnios : ภาวะน้ำคร่ำน้อย
Postterm pregnancy
GA > 42 wks นับจาก LMP
สาเหตุ
-ความผิดปกติของการสร้าง prostaglandins หรือ
ปากมดลูกไม่ตอบสนองต่อ prostaglandins
ลดการหลั่ง oxytocin receptor ในกล้ามเนื้อมดลูกทำให้ไม่เจ็บครรภ์
41 wk
ผลกระทบ
มารดา
วิตกกังวล เครียด กลัวทารกจะได้รับอันตราย
ได้รับอันตรายหรือภาวะแหรกช้อนจากการคลอดหรือทำสูติศาสตร์หัตถการ เช่น การฉีกขาดของช่องทางคลอด, CPD, การคลอดติดไหล่ :modingได้ยาก, การตกเลือด
ทารก
2.Oligohydramnios
Dysmaturity syndrome (การเจริญเติบโตหยุดชะงัก)
Meconium aspiration
Placenta insufficiency
การเปลี่ยนแปลงของสายสะดือ,
1.macrosomia
Abruptio placenta : :ภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด
Fetal demise :ทารกเสียชีวิตในครรภ์
มารดา
Hypertensive disorder in pregnancy ( preeclampsia, eclampsia,CHT,PAH)
Maternal medical problems ( DM , heart ,lung and renal disease)
GDMA2
Precipitate labor / rapid labor :การคลอดเฉียบพลัน prolong progress labor
การคลอดในระยะที่ 1 Prolong labor
ข้อห้าม
Placenta previa
Vasa previa
Funic presentation
Prolapsed cord
Transverse lie
CPD
การประเมินสภาวะของปากมดลูก
หญิงตั้งครรภ์
Bishop score (10/13)
Dilation (cm) : 2 cm = 1
Effacement (%) :75 % = 3
Station -1 =2
ความนุ่มของปากมดลูก : 2
ตำแหน่งของปากมดลูก : 2
วิธีการ
การชักนำการคลอดโดยหัตถการ (Surgical Induction of labor)
การเซาะแยกถุงน้ำคร่ำ (Membrane stripping or membrane sweeping)
การเจาะถุงน้ำคร่ำ (Amniotomy)
การกระตุ้นเต้านม ( Breast stimulation )
การใช้บอลลูนถ่างขยายปากมดลูก
การใช้ Hygroscopic Dilators
การชักนำการคลอดโดยการใช้ยา (Medical induction of labor)
Syntocinon เป็น octapeptide hormone ที่สร้างจาก hypothalamus และมาเก็บที่ต่อมใต้สมองส่วนหลังโดยระดับของ Syntocinon ในกระแสเลือดจะสูงขึ้นตามอายุครรภ์ ขณะที่ในกล้ามเนื้อมดลูกก็มี syntocinon receptors ซึ่ง receptor ก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นตามอายุครรภ์ ดังนั้นการตอบสนองของกล้ามเนื้อมดลูกต่อ Syntocinon จึงสูงขึ้นตามอายุครรภ์
รักษา 5% D N/2 1000 ml + syntocinon 10 unit IV drip ในinfusion pump rate 12 ml/hr
ภาวะแทรกซ้อนจากการชักนำการคลอด
ทารก
ทารกคลอดกำหนด จากความผิดพลาดในการคะเนอายุครรภ์
ทารกขาดออกซิเจนจากมดลูกหดรัดตัวมากเกินไป
อันตรายต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการเจาะถุงน้ำ เช่น สายสะดือย้อย การติดเชื้อ การเจาะถูกเส้นเลือดที่ทอดอยู่บนถุงบริเวณที่เจาะ (vasa previa)
ภาวะตัวเหลือง เกิดได้น้อยในรายที่ได้ oxytocin มากหรือนานเกินไป
มารดา
มดลูกแตกจากการหดรัดตัวที่มากหรือแรงเกินไป
การคลอดที่เร็วเกินไป อาจทำให้ปากมดลูกหรือช่องคลอดฉีกขาดได้
การติดเชื้อในโพรงมดลูกถ้าระยะเวลาตั้งแต่เจาะถุงน้ำจนกระทั่งคลอดนานเกินไป
การตกเลือดหลังคลอด จากการที่มดลูกอ่อนล้า
Amniotic fluid embolism อาจเกิดขึ้นได้ในขณะที่เจาะถุงน้ำ
ภาวะแทรกซ้อนจากการให้ยา เช่น prostaglandins (ไข้ คลื่นไส้ ท้องเสีย แต่ขนาดที่ใช้ชักนำการคลอดพบผลข้างเคียงน้อยมาก) Nitric oxide (เวียนศีรษะ ใจสั่น ความดันโลหิตลดต่ำลง)
หญิงตั้งครรภ์อายุ 33 ปี G3P1011 อายุครรภ์ 41 สัปดาห์ by U/S
อาการสำคัญที่มา รพ : มาตามนัด Induction
8/9/64 มาตรวจ ANC ตามนัดเนื่องจากอายุครรภ์ 40 สัปดาห์ 6 วัน near postterm U/S EFW 3550 gm AFI 17.6 และ มารดาเป็น GDMA1 มีน้ำเดิน PV 3 cm eff 100 % station 0 ML clear pH 7 cough + จึง admit LR เพื่อ observe อาการและกลับบ้าน เพื่อนัดมาทำ induction 9/3/64 (5.50) มา ER เนื่องจากมีน้ำเดิน admit LR เพื่อนัด induction เนื่องจาก GA 40 wks PV Dil 2 cm eff 75% sta -1 OL FHS 142 Interval >10’ No contraction แพทย์จึงมี order ให้ NPO ส่งตรวจ lab CBC และ FBS เปิดเส้นให้ RLS 1000 ml rate 100 ml/hr และ 5% D N/2 1000 ml + syntocinon 10 unit IV drip ในinfusion pump rate 12 ml/hr tritate keep good contraction และshave , fleet edema เพื่อเตรียมคลอด
ผู้ป่วยเป็นหอบหืดรักษาไม่สม่ำเสมอ ที่ รพ.สำโรง ปี 2558 ได้วัคซีนบาดทะยัก 2 เข็ม ปี 2549 อายุครรภ์ 1 เดือน spontaneous abortion ไม่ได้ขูดมดลูก ปี 2558 คลอด full term normal labor ทารกเพศหญิง 3,420 gm รพ.ปากน้ำ ผู้ป่วยให้ประวัติตกเลือดหลังคลอดไม่ได้ให้เลือด ปฏิเสธการเจ็บป่วยในครอบครัว ปฏิเสธการแพ้ยา/แพ้อาหาร
ประวัติการตั้งครรภ์และการคลอดในอดีต G2P1011 ปี 2549 อายุครรภ์ 1 เดือน spontaneous abortion ไม่ได้ขูดมดลูก ปี 2558 คลอด full term normal labor ทารกเพศหญิง 3,420 gm รพ.ปากน้ำ
ประวัติการตั้งครรภ์ปัจจุบัน G2P1011 LMP 20 มิถุนายน 2564 x 4 วัน Preg 41 สัปดาห์ by U/S ANC ที่โรงพยาบาลตำรวจ 12 ครั้ง ครั้งแรกตอนอายุครรภ์ 13 สัปดาห์ 5 วัน Notify GDMA1 และ Asthma ได้รับวัคซีนป้องกันบาดทะยัก 2 เข็มเมื่อปี 2558 ได้รับวัคซีน dT toxoid กระตุ้น 1 เข็ม
อายุครรภ์ 15 สัปดาห์ 6วัน OGTT 75-183-168-101 (GDMA1)
อายุครรภ์ 33 สัปดาห์ 6 วัน FBS = 106 , 2 hour postprandial = 134
น้ำหนัก 79.7 กิโลกรัม ส่วนสูง 152 เซนติเมตร BMI = 26.84 kg/m^2 ผลตรวจ urine พบprotein = negative sugar = negative สัญญาณชีพ อุณหภูมิร่างกาย 36.7 องศาสเซลเซียส ชีพจร 106 ครั้ง/นาที หายใจ 20 ครั้ง/นาที BP 118/85 mmHg. O2 sat 98 % Pain score = 0
ตรวจครรภ์
ระดับยอดมดลูกอยู่ที่ 3⁄4 > สะดือ ส่วนนํา Vx , OL HF , FHS = 142 ครั้ง/นาที , PV 2 cm eff 75 % station -1 MI เด็กดิ้นดี
กิจกรรมการพยาบาล
1.เสี่ยงต่อการคลอดยาก
การพยาบาล
1.ให้ข้อมูลเกี่ยวกับความก้าวหน้าของการคลอดแนวทางการเบ่งที่ถูกวิธีและแนวทางการช่วยเหลือของแพทย์ เพื่อให้ผู้คลอดเข้าใจให้ความร่วมมือในการให้การช่วยเหลือ และเกิดความมั่นใจ ไว้วางใจ
2.ส่งเสริมให้ผู้คลอดเบ่งคลอดอย่างถูกวิธีและมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ส่วนนำเคลื่อนต่ำ มีการก้มและหมุนภายในเป็นไปตามปกติ พยาบาลยืนอยู่ข้างเตียง ใช้มือข้างหนึ่งวางไว้ที่หน้าท้อง บริเวณยอดมดลูกเพื่อประเมินการหดรัดตัวของมดลูก
ดูแลให้ได้รับยา 5% D N/2 1000 ml + syntocinon 10 unit IV drip ในinfusion pump rate 12 ml/hr และประเมินความก้าวหน้าของการคลอด ดู contraction ในระยะ latent phase ทุก 1 ชม. ระยะ Active phase ทุก 30 นาที และฟัง FHS หลังให้ยา เพื่อประเมินการหดรัดตัวของมดลูกและสภาพทารกในครรภ์
2.เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนจากการชักนำการคลอด
การพยาบาล
1.อธิบายให้หญิงตั้งครรภ์ทราบถึงเหตุผลและวิธีการให้ยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูกเพื่อชักนำการคลอด
2.เตรียมยาให้ถูกต้องตามแผนการรักษา 5% D N/2 1000 ml + syntocinon 10 unit IV drip ในinfusion pump rate 12 ml/hr
3.ประเมินความก้าวหน้าของการคลอด ดู contraction ในระยะ latent phase ทุก 1 ชม. ระยะ Active phase ทุก 30 นาที และฟัง FHS หลังให้ยา เพื่อประเมินการหดรัดตัวของมดลูกและสภาพทารกในครรภ์
4.หากหญิงตั้งครรภ์หายใจเหนื่อยหอบหรือหายใจไม่สะดวกให้นอนตะแคงซ้ายหรือให้ oxygen cannula 5 LPM
.เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนจากการได้รับยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก(syntocinon)
การพยาบาล
1.ประเมินความก้าวหน้าของการคลอด ดู contraction ในระยะ latent phase ทุก 1 ชม. ระยะ Active phase ทุก 30 นาที และฟัง FHS หลังให้ยา เพื่อประเมินการหดรัดตัวของมดลูกและสภาพทารกในครรภ์เพื่อป้องกันภาวะtetanic contraction
PV เพื่อประเมินความก้าวหน้าของการเปิดของปากมดลูก ทุก 4 ชั่วโมง
3.สังเกตอาการของผู้คลอดแสดงความเจ็บปวดออกมาก กระวนกระวายกระสับกระส่าย
4.เสี่ยงต่อภาวะน้ำตาลในเลือดสูงหรือต่ำในระยะคลอด
การพยาบาล
1.สังเกตระดับความรู้สึกตัวและอาการเปลี่ยนแปลงของผู้ป่วย
-ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ : มือเท้าสั่น กระสับกระส่าย เหงื่อออก หน้ามืด ใจสั่น
-ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง : ซึม ชักหรือหมดสติ
2.ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำต่มแผนการรักษาของแพทย์
5.ทารกเสี่ยงต่อการเกิดภาวะพร่องออกซิเจน
การพยาบาล
1.ประเมินความก้าวหน้าของการคลอด ดู contraction ในระยะ latent phase ทุก 1 ชม. ระยะ Active phase ทุก 30 นาที และฟัง FHS หลังให้ยา เพื่อประเมินการหดรัดตัวของมดลูกและสภาพทารกในครรภ์
2.หาก fetal heart sound ทารกในครรภ์ < 110 – 160 จัดท่าให้มารดาตะแคงซ้าย หรือ on oxygen cannula 5 LPM ตามแผนการรักษาของแพทย์
3.หลังคลอดประเมินประเมินสี กลิ่น จำนวนของน้ำคร่ำ โดยน้ำคร่ำปกติจะมีสีใสไม่มีกลิ่นเพื่อประเมินความผิดปกติความผิดปกติของทารก
6.เสี่ยงต่อการเกิดภาวะตกเลือด
การพยาบาล
1.คลึงมดลูกเพื่อไล่ blood cot และประเมินระดับมดลูกควรอยู่ระดับสะดือหากต่ำกว่าหรือมากกว่าระดับสะดือควรรายงานแพทย์เพื่อวางแผนการรักษา
2.ดูแลให้ยา cytotec 5 tabs ตามแผนการรักษาเพื่อป้องกันภาวะตกือดหลังคลอด และ observe ต่อหลังคลอดโดยการประเมิน สี ปริมาณ และจำนวน pad ที่เปลี่ยน
3.ดูแลให้ได้รับยา amoxicillin (500) 2x2 po pc และสังเกตอาการที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ เช่น ไข้ หนาวสั่น
7.วิตกกังวลเกี่ยวกับการคลอดบุตร
การพยาบาล
1.ช่วยให้ผู้คลอดคลายความวิตกกังวลและความกลัว มีความรู้สึกปลอดภัย เพื่อผ่อนคลายความวิตกกังวล ความกลัวให้ลดน้อยลงและมีความรู้สึกปลอดภัย
2.เปิดโอกาสให้ซักถามปัญหา และกระตุ้นให้ระบายความรู้สึกต่าง ๆ เช่น ความรู้สึกกลัวอันตรายจากกการคลอด และกลัวทารกในครรภ์พิการ
3.อยู่เป็นเพื่อนปลอบใจให้กำลังใจ และเป็นที่ปรึกษาพร้อมที่จะรับฟังยินดีแก้ปัญหาต่างๆให้
4.ปฏิบัติการพยาบาลด้วยความนุ่มนวลมั่นใจ และอยู่ในอาการสงบ ไม่แสดงอาการตื่นตกใจเมื่อมีเหตุการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น
5.หลีกเลี่ยงการตรวจภายในโดยไม่จำเป็น เพราะจะทำให้เจ็บปวดและเกิดความกังวลมากขึ้น
6.นวดหลังให้ผู้คลอดเพื่อช่วยลดความกังวล หรือให้ผู้คลอดบีบลูกบอลในมือเพื่อระบายความกังวล