Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

Systemic Lupus Erythematosus (SLE) with Overweight with GDM A1 นศพต…

- - - - • อาการทั่วไป เช่น ไข้ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามตัว
        
        • อาการทางผิวหนัง มักจะมีผื่นแดงบริเวณใบหน้า บริเวณสันจมูก และโหนกแก้ม 2 ข้าง เป็นรูปคล้ายผีเสื้อ หรือมีผื่นขึ้นเป็นวงแผลเป็นตามใบหน้า หนังศีรษะ หรือบริเวณใบหูหรือมีแผลบริเวณเพดานปาก ซึ่งมักจะไม่เจ็บ บางรายอาจมีผมร่วงมากขึ้นได้
        
        • อาการทางข้อ มักจะมีอาการอักเสบปวดบวมตามข้อ บริเวณข้อนิ้วมือ ข้อมือ ข้อไหล่ ข้อเข่า หรือข้อเท้า
        
        • อาการทางไต ผู้ป่วยจะมีอาการไตอักเสบ โดยจะมีอาการบวม บริเวณเท้าและขา 2 ข้าง บวมบริเวณหน้าและหนังตา ปัสสาวะเป็นฟอง มีโปรตีนในปัสสาวะ ถ้าอาการรุนแรงขึ้นจะมีความดันโลหิตสูงขึ้น ปัสสาวะออกน้อยลง ไตวายเฉียบพลัน
      - • อาการทางระบบเลือด มีอาการซีด อ่อนเพลียจากโลหิตจาง ติดเชื้อโรคได้ง่ายจากที่มีเม็ดเลือดขาวต่ำ มีจุดจ้ำเลือด เลือดออก ผิดปกติจากที่มีเกร็ดเลือดต่ำ
        
        • อาการทางระบบประสาท มีอาการชัก พูดไม่รู้เรื่อง ปวดศีรษะ แขนขาอ่อนแรงได้
        
        • อาการทางระบบหัวใจและปอด มีอาการเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ เยื่อหุ้มปอดอักเสบ แน่นหน้าอก ไอเป็น เลือด หอบเหนื่อย
        
        • อาการทางระบบทางเดินอาหาร เช่น ปวดท้อง ตับอักเสบ
    - - • Fetal loss เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดทารกเสียชีวิตในครรภ์ทั้งในระยะแรกและระยะหลัง โดยเฉพาะ ในรายที่มี active SLE, lupus nephritis และ antiphospholipid syndrome มีความเสี่ยงในการเกิดทารก เสียชีวิตในครรภ์ได้ตั้งแต่อายุครรภ์ 10สัปดาห์เป็นต้นไป
        
        • Fetal growth restriction หญิงตั้งครรภ์ที่เป็น SLE มีโอกาสเกิดภาวะทารกโตช้าในครรภ์ และทารกน้ำหนักตัวน้อยได้โดยเฉพาะในรายที่มี active SLE, lupus nephritis และ hypertension
        
        • Neonatal lupus โดยจะมีอาการแสดงออก ได้แก่
        
        อาการทางผิวหนัง จะเป็นผื่นแดงรูปวงกลมหรือวงรีบริเวณใบหน้า หนังศีรษะ และลำตัว โดยปกติจะ พบบ่อยช่วง 6 สัปดาห์หลังคลอด และจะหายเองหรือเหลือเป็นแผลเป็นเล็กน้อย ไม่เป็นภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง พบ 30-40% ของทารกที่มีภาวะ lupus ในทารกแรกเกิด
        
        ภาวะ thrombocytopenia ภาวะนี้จะกลับสู่ภาวะปกติได้เอง
        
        • Congenital heart block อาการทางหัวใจ จะพบลักษณะของหัวใจที่มีจังหวะเต้นผิดปกติจากความผิดปกติของการนำกระแสไฟฟ้าของหัวใจ ที่พบบ่อยจะเป็น first-degree congenital heart block, second-degree congenital heart block และ third-degree congenital heart block อาการอื่นที่พบน้อย แต่อันตรายต่อชีวิตมากกว่า ได้แก่ endocardial fibroelastosis และโรคกล้ามเนื้อหัวใจ (dilated cardiomyopathy)
    - - ให้คำปรึกษาและความรู้ก่อนการตั้งครรภ์
        หากผู้ป่วยมีแผนว่าจะตั้งครรภ์ควรพบแพทย์หลายแผนกเพื่อประเมินความพร้อมก่อนการ ตั้งครรภ์โดยเฉพาะ rheumatologist และ สูติแพทย์ และหากผู้ป่วยที่ไม่มีข้อห้ามในการตั้งครรภ์และประสงค์ที่จะตั้งครรภ์ ผู้ป่วยควรได้รับการตรวจก่อนการตั้งครรภ์
        
        การดูแลรักษาระหว่างตั้งครรภ์
        
        ควรได้รับการดูแลจากทั้งอายุรแพทย์และสูติแพทย์ เฝ้าระวังตรวจหาอาการและอาการแสดงที่ จะส่อแสดงถึงการกำเริบของโรค
        
        ระวังการเปลี่ยนแปลงโรค ตรวจหน้าที่ตับและไตเป็นครั้งคราว
        
        เมื่อมีการกำเริบของโรค จะต้องมีการปรับขนาดของยาที่ใช้ควบคุมโรค corticosteroid ยังเป็น ยาหลักในการรักษา SLE ควรจะใช้ขนาดที่ต่ำที่สุดเท่าที่จำเป็นในการควบคุม และลดขนาด ของยาลงถึงขนาดต่ำสุดที่จะไม่ทำให้โรคกำเริบ
        
        SLE ไม่เป็นข้อบ่งชี้ในการทำแท้งเพื่อการรักษา เพราะไม่ทำให้การควบคุมโรคดีขึ้น ความเสี่ยงการกำเริบระยะหลังแท้ง อาจพอๆกับการปล่อยให้การตั้งครรภ์ดำเนินต่อไป
        
        ระยะหลังคลอด
        ระยะหลังคลอดอาจมีอาการกำเริบของโรคได้ จึงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไปอีก 4 สัปดาห์ โดยทั่วไปแล้วสามารถเลี้ยงลูกด้วยนมมารดาได้
  - - - เบาหวานที่วินิจฉัยครั้งแรกขณะตั้งครรภ์ (gestational DM)
        
        เบาหวานที่ได้รับการวินิจฉัยมาก่อนการตั้งครรภ์ (pregestational/overt DM)
        
        Class A1 (glucose intolerance)
        รักษาด้วยการควบคุมอาหาร
        Class A2 (overt DM)
        รักษาด้วยอินสุลิน
- - - - ข้อมูลสนับสนุน
        
        25/11/63
        Microscopic exam
        • WBC (UA) 5-10/HPF
        • Epithelial cell 5-10/HPF
        • Mucous 1+
        • Bacteria Few
        Complete blood count
        • WBC ↑12.34 %
        • Neutrophil ↑81.4 %
        • Lymphocyte ↓14.4 %
        • ได้รับยา prenisolone
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        ให้การพยาบาลโดยยึดหลักเทคนิคปราศจากเชื้อ (Aseptic technique)
        
        ตรวจวัดสัญญาณชีพ เพื่อประเมินภาวะติดเชื้อ โดยเฉพาะอุณหภูมิกาย
        
        จัดหาและแนะนำรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อส่งเสริมให้ร่างกายแข็งแรง
        
        กระตุ้นให้ล้างมือฟอกสบู่ทุกครั้งที่มีการจับสิ่งของ
        
        ให้คำแนะนำการดูแลรักษา ให้ทำความสะอาดร่างกายอย่างสม่ำเสมอ
        
        สังเกตอาการผิดปกติ ถ้ามีให้รีบมาพบแพทย์ เพื่อให้การรักษา
        
        การประเมินผล
        
        ไม่อาการแสดงของภาวะติดเชื้อ เช่น V/S ปกติ ไม่มีไข้
        
        ไม่มีอาการกำเริบของโรค SLE
        
        ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการเป็นปกติ
        
        ไม่มีอาการข้างเคียงจากยาที่ได้รับ
        
        เกณฑ์การประเมินผล
        
        ไม่อาการแสดงของภาวะติดเชื้อ เช่น V/S ปกติ ไม่มีไข้
        
        ไม่มีอาการกำเริบของโรค SLE
        
        ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการเป็นปกติ
        
        ไม่มีอาการข้างเคียงจากยาที่ได้รับ
  - - - ข้อมูลสนับสนุน
        
        • มารดามีโรคประจำตัว คือ SLE
        • GDM A1
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        แนะนำให้หญิงตั้งครรภ์มาตรวจครรภ์ตามแพทย์นัดอย่างสม่ำเสมอ
        
        สังเกตอาการที่ต้องมาพบแพทย์ก่อนกำหนดนัด เช่น มดลูกหดรัดตัวสมว่าเสมออย่างน้อยทุก 10-15 นาที มีมูกเลือดออกทางช่องคลอด มีน้ำเดิน รู้สึกลูกไม่ดิ้นหรือดิ้นลดลงต่อวัน
        
        การนอนหลับพักผ่อนอย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง ไม่ยกของหนัก ทำจิตใจให้สบายไม่เครียด รับประอาหารทานผักและผลไม้ป้องกันท้องผูก เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด
        
        ตรวจ NST สัปดาห์ละ 2 ครั้ง และ U/S ทุก 4 สัปดาห์ เพื่อตรวจหาความผิดปกติของทารกในครรภ์
        
        ให้หญิงตั้งครรภ์สังเกตอาการเจ็บครรภ์เตือนและเจ็บครรภ์จริง ได้แก่
        เจ็บครรภ์เตือน อาจเกิดได้ในช่วงใกล้ครบกำหนดหรือครบกำหนดโดยที่ไม่ใช่อาการที่จะ คลอด มีอาการ คือ มดลูกหดรัดตัวไม่รุนแรงและไม่สม่ำเสมอ มีระยะห่างมาก มีอาการเจ็บครรภ์ไม่สัมพันธ์กับการหดรัดตัวของมดลูก ไม่มีการเปิดของปากมดลูกไม่มีมูกเลือด เจ็บครรภ์นานๆครั้ง 15 นาที/ครั้ง พักแล้วหายและไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของทารก
        เจ็บครรภ์จริง คือ อาการที่แสดงถึงทารกใกล้คลอด มีอาการเจ็บครรภ์ทุกๆ 10-15 นาทีเป็น จังหวะและสม่ำเสมอ มีความรุนแรงของการหดรัดตัวของมดลูกปวดบริเวณหลังร้าวไปที่หน้าท้อง ส่วนบนแล้วร้าวลงขา อาการเจ็บครรภ์ไม่หายไป แม้ใช้เทคนิคการผ่อนคลายบรรเทาความปวด มีมูกเลือด หรืออาการ เลือดออกทางช่องคลอด มีอาการเปิดของปากมดลูกและมีการเคลื่อนต่ำของทารก หากมีอาการเจ็บ ครรภ์จริงให้รีบมาโรงพยาบาล
        
        การประเมินผล
        
        ไม่มีอาการเจ็บครรภ์คลอดจริง มดลูกไม่หดรัดตัว ทุก 10 นาที (น้อยกว่า 3 ครั้งใน30 นาที) หดรัดตัวครั้งหนึ่งไม่เกิน 30 นาที ปากมดลูกไม่เปิดเพิ่มขึ้น ไม่มีสิ่งขับหลั่ง เช่นมูกปนเลือด น้ำคร่ำ ออกจากช่องคลอดหลังจากให้ยายับยั้งการคลอดได้ 3 ชั่วโมง 30 นาที
        
        อายุครรภ์ 32 สัปดาห์ 3 วัน
        
        เกณฑ์การประเมินผล
        
        ไม่มีอาการเจ็บครรภ์คลอดจริง มดลูกไม่หดรัดตัว ทุก 10 นาที (น้อยกว่า 3 ครั้งใน30 นาที) หดรัดตัวครั้งหนึ่งไม่เกิน 30 นาที ปากมดลูกไม่เปิดเพิ่มขึ้น ไม่มีสิ่งขับหลั่ง เช่นมูกปนเลือด น้ำคร่ำ ออกจากช่องคลอด
        
        อายุครรภ์มากกว่า 37 สัปดาห์
- - - - • Ketone (UA) Trace
        • Albumin (UA) 1+
        • Leucocyte 3+
        • Ascorbic acid 1+
      - Microscopic exam
        
        • WBC (UA) 5-10/HPF
        • Epithelial cell 5-10/HPF
        • Mucous 1+
        • Bacteria Few
    - - • Hb E screening (DCIP)
        Positive
    - - • Hemoglobin (Hb) ↓9.9 g/dL
        • Hematocrit (Hct) ↓30.9 %
        • RBC ↓3.67 %
        • WBC ↑12.34 %
        • Neutrophil ↑81.4 %
        • Lymphocyte ↓14.4 %
    - - • ABO group : A
        • Rh group : Positive
        • IAT/Ab screening : Negative
        
        • VDRL (RPR) : Non-reactive
        • HBs Ag : Negative
        • HIV Ab : Negative
  - - - • Hb typing EA
        • Hb A 72.2 %
        • Hb E 27.8 %
        • MCV (Hb typing) 84.8 fl
        • Interprete Hb E trait
  - - - Diagnosis : AGA fetus 25+5 wks. Of gestation, No obvious fetal defect.
  - - - • Hemoglobin (Hb) ↓10.4 g/dL
        • Hematocrit (Hct) ↓32.1 %
        • RBC ↓3.79 %
        • Neutrophil ↑79.5 %
        • Lymphocyte ↓13.9 %
- - - - • ประวัติการผ่าตัด : ปฏิเสธ
        
        • ประวัติการได้รับวัคซีนบาดทะยัก :
        ได้รับครบ 3 เข็มเมื่อ พ.ศ.2555
        
        • ประวัติการเจ็บป่วยในอดีต : ตอนอายุ 12 ปี ป่วยเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE) รักษาที่โรงพยาบาลกล้วยน้ำไทย
        
        • ประวัติการแพ้ยา : แพ้ยา Piroxicam
  - - - การตรวจครรภ์
        
        • ดู
        มี Striae gravidarum สีเงิน บริเวณขอบหน้าท้อง
        • คลำ
        Fundal grip : 3/4 มากกว่า Ꙩ
        Umbilical grip : Large part อยู่ด้านขวา (ROA)
        Pawlik’s grip : Patial head engagement, Vertex presentation
        Bilateral inguinal grip : Patial head engagement
        • ฟัง
        FHS : 142 bpm
        
        NST (10/3/64)
        
        NST reactive
        FHS 140 bpm
        
        แบบประเมินความเครียด
        
        2 คะแนน = ไม่มีความเครียด ยังสามารถจัดการกับความเครียดที่เกิดขึ้นได้
- - - - ลดอาการปวดหลัง ท้องผูก ท้องอืด และขาบวม
        อาจช่วยป้องกันการเกิดเบาหวานขณะตั้งครรภ์ และอาจช่วยในการรักษากรณีเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์
        เพิ่มพลังงาน เสริมความสมบูรณ์ ความแข็งแรง และความคงทนของกล้ามเนื้อ
        ช่วยให้อารมณ์แจ่มใสเบิกบาน นอนหลับได้ดีขึ้นช่วยให้รูปร่างดีขึ้น
        เพิ่มความสามารถในการเตรียมตัวเพื่อการคลอด