Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

Teenage Pregnancy Preterm Diastasis Recti Abdominis Under Weight :tada…

- - - - :checkered_flag:1.ปัจจัยด้านสตรีวัยรุ่น
        
        1.2 การจัดการเรียนการสอนเพศศึกษาในโรงเรียนที่ไม่จริงจังและเนื้อหาไม่ทันต่อสถานการณ์ของสังคมในปัจจุบัน ทำให้วัยรุ่นขาดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องของเพศศึกษา เพศสัมพันธ์การคุมกำเนิด การป้องกันการตั้งครรภ์ หรือความล้มเหลวในการคุมกำเนิดด้วยวิธีต่างๆ
        
        1.1 การเปลี่ยนแปลงทั้งร่างกายและจิตใจ พัฒนาการทางเพศที่เริ่มมีความสมบูรณ์มากขึ้นมีความสนใจเรื่องเพศ มีความอยากรู้อยากเห็นอยากทดลองที่นำไปสู่การมีเพศสัมพันธ์
        
        1.3 การดื่มสุราหรือการใช้สารเสพติดต่าง ๆ ทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ตั้งใจและเกิดการตั้งครรภ์ตามมา
      - :checkered_flag:2. ปัจจัยด้านครอบครัว
        
        2.1 ภาระหน้าที่ของพ่อแม่ที่ต้องทำงานจนไม่มีเวลาให้กับลูก ขาดความเอาใส่ดูแล ความใกล้ชิดอบอุ่นในครอบครัวน้อยลง วัยรุ่นมีอิสระมากขึ้นทำให้มีโอกาสในการใกล้ชิดและมีเพศสัมพันธ์กับเพื่อนต่างเพศเพิ่มมากขึ้น
        
        2.2 สัมพันธภาพในครอบครัวไม่ดี พ่อแม่ทะเลาะกันเป็นประจำ วัยรุ่นมีความรู้สึกไม่ดีกับครอบครัว บรรยากาศในบ้านไม่น่าอยู่ ส่งผลทำให้วัยรุ่นออกนอกบ้านไปหาเพื่อนหรือแฟน
        
        2.4 การถูกข่มขืนโดยบุคคลในครอบครัวหรือคนใกล้ชิด
        
        2.3 ครอบครัวแตกแยก พ่อแม่แยกทางกัน วัยรุ่นต้องอยู่กับญาติ หรือบุคคลอื่นส่งผลทำให้วัยรุ่นรู้สึกว้าเหว่ ขาดความรักและความอบอุ่น ทำให้แสวงหาความรักในทางที่ไม่เหมาะสม
      - :checkered_flag:3. ปัจจัยด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม
        
        3.1 การเปลี่ยนแปลงของสังคม และวัฒนธรรม ค่านิยม รูปแบบการใช้ชีวิตอย่างเสรีความใกล้ชิดสนิทสนมกับเพื่อนต่างเพศ ทำให้วัยรุ่นมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุน้อย ๆ เพิ่มมากขึ้น
        
        3.2 ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ได้แก่ การเข้าถึงสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ได้ง่ายเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้วัยรุ่นมีความต้องการทางเพศเพิ่มมากขึ้น การติดต่อผ่านทางเฟสบุค (Facebook)ไลน์ (Line) ทำให้วัยรุ่นถูกล่อลวงไปสู่การมีเพศสัมพันธ์ได้ง่าย
    - - ด้านร่างกาย
        
        วัยรุ่นอยู่ในระยะที่มีพัฒนาการและการเจริญเติบโตของร่างกายเพื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ เมื่อมีการตั้งครรภ์อาจทำให้การเจริญเติบโตของร่างกายหยุดชะงักหรือมีพัฒนาการด้านร่างกายไม่สมบูรณ์
        
        สตรีวัยรุ่นบางรายเริ่มมีประจำเดือนครั้งแรกและยังมาไม่สม่ำเสมอ การตั้งครรภ์ที่เกิดจากความไม่ตั้งใจจึงทำให้วินิจฉัยการตั้งครรภ์ได้ล่าช้า การฝากครรภ์ล่าช้าสตรีวัยรุ่นอีกหลายรายไม่กล้ามาฝากครรภ์ ทำให้ไม่ได้รับการตรวจคัดกรองภาวะเสี่ยง และไม่ได้รับการดูแลในระหว่างการตั้งครรภ์ที่เหมาะสม ส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ตามมา
        
        หากเป็นการตั้งครรภ์ที่ไม่ได้วางแผน (unplanned pregnancy) และไม่สามารถยอมรับการตั้งครรภ์ได้ กลายเป็นการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ (unwanted pregnancy) สตรีวัยรุ่นบางคนอาจไปทำแท้งและเกิดภาวะแทรกช้อนตามมา หรือบางรายไม่สนใจดูแลตัวเองในระหว่างการตั้งครรภ์ส่งผลให้สตรีวัยรุ่นเกิดภาวะทุพโภชนาการ โลหิตจาง หรือภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ
        
        เนื่องจากการเจริญของระบบต่าง ๆ ของสตรีตั้งครรภ์วัยรุ่นยังไม่สมบูรณ์ จึงเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนดังต่อไปนี้เพิ่มขึ้น
        
        4.7 อัตราการตายของมารดาสูงขึ้น
        
        4.6 การตกเลือดในระยะหลังคลอด
        
        4.5 ภาวะศีรษะทารกไม่ได้สัดสัดส่วนกับช่องเชิงกราน เกิดระยะการคลอดยาวนาน เสี่ยงต่อการใช้สูติศาสตร์หัตถการในการช่วยคลอด
        
        4.4 การติดเชื้อระหว่างการตั้งครรภ์ โดยเฉพาะโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และโรคติดเชื้อที่มักเกิดในวัยเด็ก เช่น การติดเชื้อในหูชั้นกลาง โรคสุกใส คางทูม ไอกรน เป็นต้น
        
        4.3 ภาวะถุงน้ำคร่ำแตกก่อนกำหนด
        
        4.2 ภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์
        
        1 ภาวะทุพโภชนาการ ภาวะโลหิตจางจากขาดธาตุเหล็ก
      - ด้านจิตสังคม
        
        ทำให้วัยรุ่นไม่พร้อมในการมีบุตรและเกิดความเครียดจากการตั้งครรภ์ที่ไม่คาดคิด มีภาวะเครียด เศร้า หดหู่ หงุดหงิด และวิตกกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ของตนเองทั้งในระยะตั้งครรภ์และหลัง
        
        เกิดความรู้สึกสูญเสียคุณค่าในตนเอง จากการไม่ได้รับการยอมรับจากครอบครัว และสังคม
        
        การปรับตัวต่อบทบาทการเป็นมารดาล่าช้า ไม่มีการเตรียมพร้อมสำหรับการคลอดหรือการเป็นมารดา ก่อให้เกิดปัญหาในการปรับตัวเข้าสู่บทบาทเป็นมารดาและกาสร้างสัมพันธภาพกับทารก เกิดภาวะซึมเศร้าในระยะหลัง
        
        มีปัญหาเรื่องการปรับตัว เนื่องจากวุฒิภาวะทางอารมณ์ยังเจริญไม่เต็มที่ และมักขาดความอดทนต่อสิ่งต่าง ๆ ทำให้เกิดปัญหาการไม่ยอมรับการตั้งครรภ์ และส่วนใหญ่ไม่กล้าบอกเรื่องการตั้งครรภ์
      - ผลต่อทารก
        
        จากการที่สตรีวัยรุ่นได้รับการดูแลในระหว่างการตั้งครรภ์ที่ไม่เหมาะสม ทำให้เกิดภาวะแทรกช้อนต่าง ๆตามมา เช่น ทารกแรกเกิดน้ำหนักน้อยจากภาวะทุพโภชนาการของมารดา การคลอดก่อนกำหนด หรือเกินกำหนด ทารกเจริญเติบโตช้าในครรภ์ อัตราตายปริกำเนิดสูงขึ้น เป็นต้น
        
        ทารกได้รับการดูแลไม่เหมาะสมทั้งด้านร่างกายและจิตใจ บางรายถูกทารุณกรรมหรือถูกทอดทิ้งจากการที่บิดาและมารดามีวุฒิภาวะไม่เหมาะสมทั้งทางด้านอารมณ์และสังคม
      - ผลกระทบด้านเศรษฐกิจและสังคม
        
        การตั้งครรภ์ในวัยรุ่นมีผลต่อเนื่องไปถึงการศึกษา ทำให้เสียโอกาสในการพัฒนาตนเอง
        
        เกิดปัญหาทางสังคมจากการละทิ้งทารก ทารกถูกทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาล หรือที่สาธารณะหรือทิ้งไว้กับย่ายาย หรือผู้รับจ้างเลี้ยง ทำให้ทารกได้รับการเลี้ยงดูที่ไม่เหมาะสม เกิดปัญหาอื่นๆตามมาอีก เช่น การทำร้าย ทารุณกรรม การล่วงละเมิดทางเพศ การฆาตกรรม เป็นต้น
  - - - การเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดคุกคาม(threatened preterm labor) การเจ็บครรภ์และคลอดก่อนอายุครรภ์ 37 สัปดาห์ โดยมีการหดรัดตัวของมดลูกสม่ำเสมออย่างน้อย 1 ครั้งทุก 10 นาที
      - การเจ็บครรภ์เตือน (false labor pain) การเจ็บครรภ์และคลอดก่อนอายุครรภ์ 37 สัปดาห์โดยมีการหดรัดตัวของมดลูกไม่สม่ำเสมอ ทั้งความแรงและความถี่ เมื่อนอนพักอาการเจ็บครรภ์จะหายไปเอง
      - Indicate Preterm labor การคลอดก่อนกำหนดโดยมีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ เช่นรกเกาะต่ำ
      - การเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด (preterm labor) การเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดโดยมีอายุครรภ์ตั้งแต่ 28 สัปดาห์จนถึงน้อยกว่า 37 สัปดาห์ ดดยนับจากวันแรกของประจำเดือนครั้งสุดท้าย ทารกมีน้ำหนัก1000 กรัม แต่น้อยกว่า 2500 กรัม
    - - ภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์
        
        1.1 น้ำเดิน (preterm premature of membrane)
        
        1.2 การเสพโคเคน และบุรี่
        
        1.3 ครรภ์แฝด หรือ แฝดน้ำ ทำให้มดลูกขยายตัวมาก
        
        1.5 รกลอกตัวก่อนกำหนด รกเกาะต่ำ
        
        1.6 การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
        
        1.7 การติดเชื้ออวัยวะสืบพันธ์พบ ร้อยละ 7 - 26 เช่น พบเชื้อ
        trichomoniasis, bacterial vaginosis
        
        1.8 การติดเชื้อถุงน้ำคร่ำ
        
        1.9 มารคาเป็นความดันโลหิตสูง
        
        1.10 มารดาฟันผุ
        
        1.4 ครรภ์เป็นพิษพบ 1 ใน 3
        
        1.11 มีความผิดปกติของมดลูก หรือปากมดลูก
      - 2.ทารก
        
        2.1 ทารกขาดออกซิเจน ทารกโตช้า ทารกตายในครรภ์
        2.2 ทารกพิการแต่กำเนิด
      - 3.ความผิดปกติที่โพรงมดลูก ตัวมดลูกผิดปกติ ปากมดลูกหลวม การตั้งครรภ์ที่ห่วงอนามัยยังอยู่ในโพรงมดลูก
      - 4.การใช้ชีวิตส่วนตัวของหญิงตั้งครรภ์ ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ เครียด วิตกกังวล
      - 5.ลักษณะของมารดา อายุน้อยกว่า 20 ปี หรือมากกว่า 35 ปี ตัวเตี้ย ส่วนสูงน้อยกว่า 145 เซนติเมตร ภาวะเครียด
        
        มารดา อายุ 18 ปี
        
        G1P0000
        
        GA 33^6 wks by u/s
    - - 1.อายุครรภ์เท่ากับ หรือมากกว่า 28 แต่ไม่เกิน 37 สัปดาห์ มีการหดรัดตัวของมดลูกสม่ำเสมอ อย่างน้อย 4 ครั้งใน 20 นาที นานอย่างน้อย 30 นาที
      - 2.ตรวจปากมดลูกบางตัวร้อยละ 80
      - 3.ปากมดลูกขยายมากกว่า 1 เซนติเมตร
      - 4.คอมดลูกเป็นทรงกระบอกยาวประมาณ 2.5-3 cm.
  - - - มารดามีภาวะ Diastasis recti ที่ผนังหน้าท้อง
        มารดาบอกว่ามีอาการปวดหลัง และหน้าขา
      - การที่ผนังหน้าท้องมีการแยกออกจากกันอาจมีผลทำให้มารดาเกิดการคลอดก่อนกำหนด เนื่องจากไม่มีผนังหน้าท้องคอยพยุงเด็กในครรภ์ ทำให้เด็ก engagement เร็วกว่าปกติ
        
        และอาจจะทำให้มารดาไม่มีแรงเบ่งคลอดจากการที่ไม่มีผนังหน้าท้องแยกออกจากกัน
- - - - ข้อมูลสนับสนุน
        
        มารดามี BMI = 15.69 kg/m^2 (underweight)
        
        น้ำหนักก่อนการตั้งครรภ์ 40 กิโลกรัม
        
        มารดาบอกว่าไม่ได้ทานอาหารเสริม ทานแต่นมวันละ 1 กล่อง
      - วัตถุประสงค์ : ทารกในครรภ์ไม่มีภาวะเจริญเติบโตช้า
      - เกณฑ์การประเมิน
        
        น้ำหนักของมารดาขึ้นสัปดาห์ละ 0.5-2 kg.
        
        น้ำหนักของทารกสัมพันธ์กับอายุครรภ์
      - กิจกรรมการพยาบาล
        
        แนะนำให้มารดาติดตามน้ำหนักของตนเองทุกสัปดาห์
        
        แนะนำให้อาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่ เพื่อให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างเหมาะสม แนะนำให้ทานอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ เนื้อ นม ไข่ เพิ่มขึ้น เพื่อเสริมสร้างการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ ทานอาหารให้ครบ 3 มื้อและมีมื้อว่างอีก 2-3 มื้อ
        
        แนะนำให้มารดาประเมินน้ำหนักทารกในครรภ์จากการประเมินกราฟภาวะโภชนาการในหญิงตั้งครรภ์ (Vallop curve)
        
        แนะนำให้มารดาหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารรสจัด
        
        แนะนำให้มารดามาตรวจครรภ์ตามนัดเพื่อประเมินการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์
        
        แนะนำให้มารดาทานยาให้ครบตามที่แพทย์สั่งคือ Nataral 1x1 pc,Caltab 1x1 pc
      - การประเมินผลทางการพยาบาล
        
        ตลอดการตั้งครรภ์มารดาน้ำหนักขึ้น 18.1 kg. ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ปกติ
        
        น้ำหนักของทารกสัมพันธ์กับอายุครรภ์
  - - - ข้อมูลสนับสนุน
        
        มารดาอายุ 18 ปี
        
        BMI = 15.69 kg/m^2
        
        มารดามีภาวะ Diastasis Recti
        
        น้ำหนักก่อนการตั้งครรภ์ 40 กิโลกรัม
      - เกณฑ์การประเมิน : มารดาไม่ภาวะคลอดก่อนกำหนด
      - วัตถุประสงค์ : เพื่อป้องกันภาวะคลอดก่อนกำหนด
      - กิจกรรมการพยาบาล
        
        แนะนำให้หญิงตั้งครรภ์มาตรวจตามนัดอย่างสม่ำเสมอ
        
        แนะนำให้มารดาสังเกตอาการที่ต้องมาพบแพทย์ก่อนนัด เช่น มดลูกหดรัดตัวอย่างสม่ำเสมอ และถี่ขึ้นเรื่อยๆ มีมูกเลือดออกทางช่องคลอด มีน้ำเดิน รู้สึกว่าลูกดิ้นลดลง
        
        แนะนำให้มารดานอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ยกของหนัก ลดการทำกิจกรรม ลดการเดิน ทำจิตใจให้สบาย ไม่เครียด รับประทานผักและผลไม้ป้องกันอาการท้องผูก เพื่อลดความเสี่ยงในการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด
        
        ให้มารดาสังเกตอาการเจ็บครรภ์เตือนและเจ็บครรภ์จริงได้แก่
        
        :warning:เจ็บครรภ์เตือน : มดลูกหดรัดตัวไม่รุนแรง ไม่สม่ำเสมอ ระยะห่างมาก อาการเจ็บครรภ์ไม่สัมพันธ์กับการหดรัดตัวของมดลูก ไม่มีมูกเลือดหรือน้ำเดินทางช่องคลอด เมื่อนอนพักแล้วอาการเจ็บครรภ์จะหายไป
        
        :check:เจ็บครรภ์จริง : เจ็บครรภ์ทุกๆ 5-10 นาที และถี่ขึ้นเรื่อยๆ มดลูกหดรัดตัวสม่ำเสมอ ความแรงของการหดรัดตัวของมดลูกเพิ่มขึ้น มีอาการปวดบริเวณหลังร้าวไปที่หน้าท้องและลงไปที่ต้นขา มีมูกเลือดออกทางช่องคลอด มีน้ำเดิน ให้รีบมาโรงพยาบาลทันที
      - การประเมินผลทางการพยาบาล
        ไม่มีภาวะคลอดก่อนกำหนด
    - - ข้อมูลสนับสนุน
        
        มารดาบอกว่ามีอาการปวดหลัง และปวดหน้าขา
        
        มารดาบอกว่าปัสสาวะบ่อยขึ้นตอนกลางคืน
        
        มารดาบอกว่ากลางคืนนอนไม่ค่อยหลับ
      - วัตถุประสงค์
        เพื่อให้มารดามีความสุขสบายในไตรมาสที่ 3
      - เกณฑ์การประเมิน
        
        มารดาเข้าใจในสรีรวิทยาที่เปลี่ยนไปของร่างกาย
        
        มารดามีอาการปวดหลังลดลง
        
        มารดาสามารถปฏิบัติตัวได้อย่างเหมาะสม
      - กิจกรรมการพยาบาล
        
        อธิบายให้มารดาเข้าใจว่าการเปลี่ยนแปลงต่างๆเกิดจากอะไร
        
        การปัสสาวะบ่อยขึ้นเกิดจากการที่ความจุของกระเพาะปัสสาวะลดลงจากการที่มดลูกใหญ่ขึ้นและไปเบียดกระเพาะปัสสาวะทำให้ความจุลดลง
        
        แนะนำให้มารดาดื่มน้ำสะอาดในเวลากลางวัน ก่อนจะเข้านอนงดการดื่มน้ำ เพื่อจะได้ไม่ตื่นตอนกลางคืน และงดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนก่อนเข้านอน
        
        แนะนำให้มารดานอนตอนกลางวัน วันละ 1-2 ชั่วโมงทดแทนตอนกลางคืนที่นอนไม่ค่อยหลับ
        
        แนะนำให้มารดานอนตะแคงซ้าย และนวดหลังเมื่อรู้สึกว่ามีอาการปวดหลัง เวลาเดินใช้มีช่วยประคองท้องเอาไว้