Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 9 การพัฒนาการแต่งกาย - Coggle Diagram
บทที่ 9 การพัฒนาการแต่งกาย
ประเภทของการแต่งกาย
โอกาสปกติ
ควรแต่งกายสุภาพเรียบร้อยตามสมัยนิยม
เหมาะกับสถานทีาและสภาพอากาศ
การไปทำงาน ประชุม สอบสัมภาษณ์
โอกาสพิเศษ
งานทั่วไป
สุภาพบุรุษ : สามารถสวมเสื้อเชิตผูคเนคไท
สุภาพสตรี : แต่งกายเรียบร้อย มีเครื่องประดับเล็กน้อย
งานเลี้ยงตอนค่ำ
มักเขียนไว้ในบัตรเชิญดินเนอร์
การแต่งกายควรหรูหรา
งานราตรีสโมสร
สุถาพบุรุษ : แต่งกายครบเครื่องเต็มยศ
สุภาพสตรี : สวมชุดยาวเปิดไหล่ หรือเสื้อแขนยาวหรูหรา
งานพิธีการ
งานพระราชทานปริญญาบัตร งานพระราชพิธี
การแต่งกายต้องเป็นไปตามกำหนด
สุภาพสตรีไม่ควรสวมกระโปรงสั้นหรือยาวเกินไป
งานทำบุญที่วัด
ควรแต่งกายสุภาพมิดชิด
งานศพ : สุภาพบุรุษใส่ชุดสูดสีเข้ม สวมเชิ้ตสีขาว เนคไทยสีดำ รองเท้าดำ , สุภาพสตรีสวมชุดดำแบบสุขภาพ
เวลพักผ่อน
แต่งกายให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม
การไปเที่ยวแต่งให้เหมาะสมกับสถานที่
หลักของการแต่งกาย
สีของเสื้อผ้า
ดูแลรักษาง่าย
ความสวยงาม
ความสบาย
ฐานะและโอกาส
ความประหยัด
ประเภทรูปร่างของสตรี
ทรงลูกชมพู่
มีช่วงสะโพกและต้นขาใหญ่กว่าอดและไหล่ เอวเล็ก
ทำให้ดูเป็นคนช่วงล่างหนักเพราะมีก้นและสะโพกที่เห็นชัดกว่าส่วนอื่น
ทรงกระบวก / สี่เหลี่ยมผืนผ้า
ช่วงไหล่ เอว กับ สะโพกมีขนาดกว้างพอๆกัน
ช่วงแขน-ขา อาจจะค่อนข้างยาว แต่โดยรวมๆทุกอย่าง รูปแร่างจะตรงๆ แบนๆ หุ่น
ทรงนาฬิกาทราย
คนที่มีหุ้นแบบ อดอวบ เอวคอด สะโพกผาย ช่วงไหล่กับสะโพก มีความกว้างพอๆกัน ทำให้ดูคล้ายนาฬิกาทราย
ทรงแอปเปิ้ล
คนที่มีช่วงบนที่เต็มทั้งบริวเณ อก เอว และ แผ่นหลัง ส่วนช่วงล่างแม้จะมีหน้าท้อง แต่สะโพกก็จะเล็กและแบน มีลักษณะรูปร่างบนใหญ่กว่าช่วงล่างทำให้เป็นคนตัวหนา
การเลือกชุดแต่งกายให้เหมาะสมกับรูปร่าง
รูปร่างผอม
ไม่ใส่ชุดที่เข้ารูปทั้ฃท่อนบนท่อนล่าง
หลีกเลี่ยงการใส่กางเกงเข้ารูปสีเข้ม
เลือกใส่ชุดลายขวาง
รูปร่างอ้วน
ใส่เสื้อลายแนวตั้งพรางตาให้ดูสูง
กระโปรงยาวคลุมเข่าช่วยให้ดูเพรียว
เลือกกางเกงขายาาวที่มีความยาวพอดีกับข้อเท้า
สะโพกใหญ่
ควรสวมเสื้อหรือกางเกงที่ตัดเย็บจากผ้านิ่มๆ พลิ้วทิ้งทั้งตัว สีเข้มๆมืดๆ
สวมกระโปรงเข้ารูป ให้เลือกที่มีความยาวคลุมเข่าและควรเลือกผ้าที่มีส่วนผสมของเส้นใย lycra ทำให้กระชับสะโพกมากขึ้น
หน้าอกใหญ่
สวมเสื้อหรือกางเกงที่ตัดเย็บจากผ้านิ่มๆ พลิ้วทิ้งทั้งตัว สีเข้มๆมืดๆ
สวมกระโปรงเข้ารูป ให้เลือกที่มีความยาวคลุมเข่า
เลือกซื้อชุดชั้นในให้พอดีกับทรวงอกและที่สำคัญควรจะมีโครงเสริมเพื่อจะได้พยุงทรง
ไม่มีเอว-ทรงตรง
ใส่เสื้อ กางเกง หรือ กระโปรง แยกชิ้นกัน และควรเอาชายเสื้อทับ
เสื้อแบบกิโมโนที่มีสายรัดช่วงเอว จะช่วยให้ดูมีส่วนเว้าส่วนโค้งมากขึ้น
ไหล่แคบ
เลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่มีฟองน้ำที่ไหล่ เพื่อให้ผู้ใส่มีลักษณะท่าท่างที่สง่างาม
ควรเลือกเสื้อผ้าที่มีลักษณะพลิ้วๆเบาบาง
การเลือกเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับรูปหน้าและลำคอ
ใบหน้ากลม
ควรเลือกเสื้อคอวี หรือ คอเหลี่ยม คอปาดกว้าง เพื่อช่วยลดความมนของรูปหน้า
ไม่ควรสวมเสื้อคอกลม เพราะยิ่งเน้นหน้ากลมๆให้เด่นมากขึ้น
ใบหน้าเหลี่ยม
ควรสวมเสื้อคอวี จะช่วยสร้างความนุ่มนวลให้กับคนที่มีใบหน้าทรงเหลี่ยม
ใบหน้าเล็กหรือคางแหลม
ไม่ควรสวมเสื้อคอวี เพราะจะยิ่งทำให้หน้าแหลมยืด
ควรเลือกใส่เสื้อคอกลมหรือคอปาด
ลำคอสั้นหรือคางสองชั้น
ไม่ควรสวมเสื้อคอเต่า คอ กลม เสื้อคอจีน เสื้อคอหลมที่ปีนสูงเพราะ จะยิ่งทำให้คอสั้นขึ้นและหนาขึ้น
ลำคอยาว
ควรใช้ผ้าพันคอจะช่วยได้มาก
ไม่ควรใส่เสื้อคอวี
การเลือกเสื้อผ้าให้เหมาะกับผิวพรรณ
ใบหน้าแดงเปล่งปลั่ง
ควรสวมเสื้อผ้าสีเขียว , สีเขียวแก่
ไม่ควรใส่เสื้อสีเขียวสด เพราะจะทำให้กูไม่ทันสมัย
ใบหน้าเหลือง
ควรสวมใส่สีน้ำเงิน , สีฟ้า
ไม่ควรสวมเสื้อสีน้ำเงินแก่ สีคราม สีกรมท่า เพราะจะทำให้ใบหน้าดูเหลืองมากขึ้น
คนที่มีสีหน้าอิดโรยผิดปกติ
ควรสวมเสื้อสีขาว เพื่อให้แลดูเสมือนสุขภาพดี
ไม่ควรสวมเสื้อสีเทาหรือสีม่วง จะทำให้ดูเหมือนคนอ่อนเพลีย
คนที่มีสีผิวขาวเหลือง
ควรสวมเสื้อผ้าโทนสีอบอุ่น ูอ่อนโยน สีชมพู สีส้ม
ไม่ควรสวมเสื้อสีเขียวและสีเท่าอ่อนจะดูเหมือนคนป่วยขี้โรค
คนที่มีสีผิวคล้ำ
ควรสวมเสื้อผ้าสีอ่อน สีสว่าง เช่น สีเหลืองอ่อน สีชมพูอ่อน สีขาว ซึ่งจะสะท้อนความส่ว่างของสีผิว
คนที่มีผิวไม่ละเอียด
ควรสวมเสื้อที่ทำมาจากผ้าทอหลากสี มีลายนูนเว้่าบ้าง เช่น ผ้าสักหลาดหยาบๆ
ไม่ควรสวมเสื้อเสื้อทำมาจากผ้าทอสีอ่อนที่มีลวดลายเรียบและประณีต
วิธีเลือกทรงผมเหมาะกับรูปหน้า
หน้าทรงกลม
ผมยาวสไลซ์
ผมบ๊อบแสกข้าง
ผมยาวหน้าม้าปัดข้าง
หน้าทรงไข่
ผมบ๊อบสั้น
ผมประบ่าแสกกลาง
ผมยาวลอนเมอร์เมด
หน้าทรงเพชร
ผมสั้นประมาณคาง
ผมซอยสั้นหน้าม้าปัดข้าง
ผมยาวประบ่า
หน้าทรงยาว
ผมยาวดัดลอน
ผมประบ่าม้วนลอนออก
ผมยาวประบ่ามีหน้าม้า
หน้าทรงหัวใจ
ผมยาวสไลซ์ดัดลอน
ผมประบ่าสไลซ์เก๋ๆ
ผมยาวม้าดัดลอน
หน้าทรงเหลี่ยม
ผมยาวดัดลอนอ่อน
ผมบ๊อบประมาณคาง
ผมยาวตรงสไลซ์
10 เทรนด์ผมผู้หญิง
ทรงผมหน้าม้าสไลด์ข้าง
สั้นกุดสุดเปรี้ยว
ทรงรากไทรคัมแบ็ก
บ๊อบง่ายๆ ไม่ต้องเนี๊ยบ
ทรงผมบ๊อบยาวประบ่า
ทรงผมแปลๆ ที่ไม่ซ้ำใคร
การแต่งกายมาตรฐานสุภาพสตรี
เบสิค สูท
เป็นชุดคนละชิ้น แบบเรียบ ตัดเย็บดี สวมใส่ได้รูป สีเบสิค ใช้ผ้าทำกระดุม ใช้อุปกรณ์ประกอบ
การแต่งกายได้หลายแบบ
เบสิค เดรส
เป็นชุดติดกันแบบเรียบๆ
มีรายละเอียดหรูว่า เบสิค สูท
ใช้ได้หลายโอกาส
ใช้ได้กับเครื่องประดับหลากหลาย
สูท เดรส
เป็นเสื้อสองชั้น
ข้างในเป็นชุดติดกัน และมีเสื้อนอก สวมทับ
กลางวันใช้เป็นสูท
กลางคืนถอดสูทออกไปงานเลี้ยง
เครื่องประกอบการแต่งกาย
กระเป๋าถือ
รองเท้า
หมวก
ถุงเท้า
เข็มขัด
เครื่องประดับ
การใช้สีกับเครื่องกาย
เสื้อผ้าในกลุ่มสีเดียวกัน
โดยยึดสีหนึ่งสีใดเป็นหลักและมีสีจาง หรือ เข้มเป็นส่วนประกอบ
สีตัดกัน
สีที่ต้องอยู่ตรงข้ามในวงสี
ในวงธุรกิจควรใช้สีคลาสสิคเป็นหลัก
สีใกล้เคียงกัน
สีที่อยู่ถัดกันในวงสี
การผสมสีที่ชวนมองที่สุดจะเป็นสีที่อยู่ "ระหว่างของแม่สี"
สีน้ำเงิน-สีเขียว
สีตัดกันสามสี
สี 3 สี ที่อยู่ตรงกันข้ามจะยึดสี 1
การแต่งกายโดยใช้สีตัดกัน 3 สี จะยึดสี 1 เป็นหลัก และใช้อีก 2 สี เป็นจุดเน้น ได้แก่ สีเหลือง แดง น้ำเงิน
เครื่องแต่งกายมาตรฐานสุภาพบุรุษ
สูท
เสื้อนอกและกางเกงสีเดียวกัน บางครั้งมีเสื้อกั๊กประกอบด้วย สูทจะเปลี่ยนไปตามแฟชั่น
กางเกง
มีหลายแบบ เช่น ขาตรง ขาบาน ขาแคบ เป้าตึง และ เป้าหย่อน ควรเลือกใช้ตามสมัย
สูทในพิธีการ
แบล็ค ไท ประกอบด้วย เสื้อสีดำ และทำจากผ้าต่วน หรือ ทักซิโด และเชิ๊ตแขนยาว ผูกโบว์
เบลเซอร์
เป็นเสื้อนอกที่ใช้สวมทับเสื้อเชิ๊ต แต่ไม่จำเป็นต้องใช้ร่วมกับกางเกงสีเดียวกัน
ประเภทของรูปร่างของสุภาพบุรุษ
รูปสามเหลี่ยมคว่ำ
จะมีไหล่กว้างและสะโพกเล็ก สามารถเลือกเสื้อผ้าได้หลายแบบ แต่จะดูดีในชุดสูทแบบยุโรป
กางเกงควรเป็นแบบที่มีการตัดเย็บอย่างประณีต ขนาดรอบขาพอดี ไม่ใหญ่จนเกินไปและมีจีบ
เสื้อเชิ้ตควรเป็นผ้าฝ้ายแบบมีมาตรฐานหรือแบบที่มีปลายซื้ออก เนคไทควรเป็นผ้าไหม
รูปสามเหลี่ยม
แนวบ่ากับสะโพกอยู่ในระนาบแนวกัน เป็นคนสูง 180 ซม.
ควรเลือกสูทแบบยุโรป
แต่ถ้าค่อนข้างเตี้ย ควรเลือกสูทแบบยุโรปดัดแปลง
กางเกงควรเลือกที่ไม่มีรอยจีบ แต่ถ้าก้นใหญ่ควรมีจีบเล็กน้อย
เสื้อเชิ้ต ควรเลือกแบบมาตรฐานและมีปกมาตรฐาน
รูปหยดน้ำ
ไหล่แคบ สะโพกใหญ่ ไม่ควรเลือกสูทแบบอังกฤษ
เลือกสูทแบบยุโรปดัดแปลง จะช่วยให้บ่าดูกว้างขึ้นสมดุลกับสะโพก
สำหรับเชิ้ต ควรเลือกแบบที่มีปกชี้จะดึงสายตาออกไปจากแนวไหล่ เนกไทต้องเลือกแบบค่อนข้างกว้าง
สำหรับคนที่มีคอสั้นหรือ หนาคสรเลี่ยงเสื้อเชิ้ตแบบปกสูง แต่ควรเลือกแบบปกแผ่ออกแคบๆ และมีปลายแหลมยาวชี้ลง
รูปทรงกลม
ช่วงท้องกว้างหรือยาว ควรเลือกสวมสูทแบบอเมริกัน และยุโรปที่พอดีตัว
เนกไทควรเลี่ยงแบบที่มีสีสันฉูดฉาด และสามารถใช้เนกไทแบบใดก็ได้
การเลือกสูทให้เหมาะกับรูปร่าง
สูทแบบอังกฤษ
สูทแบบที่ได้รับความนิยมในช่วงทศวรรษที่ 1930
เหมาะกับผู้ชายที่ไม่สนใจแนวโน้มของแฟชั่น
บ่าจะผายออกเล็กน้อยแต่ไม่มีการเสริม
ด้านหลังจะมีรอยผ่าสองรอย
สูทแบบยุโรป
สูทแบบนี้นิยมในช่วงทศวรรษที่ 1980 ออกแบบโดยชาวเยอรมันและอิตาลี
บ่าให้กว้างขึ้น ตัวเสื้อยาวขึ้น โดยทั่วไปสูทแบบนี้จะเป็นแบบกระดุม 2 แถว และจะมีกระดุม 2-6 เม็ด แนวขแงกระดุมจะค่อนข้างต่ำ จะทำให้ช่วงบนดูยาวกว่าช่วงล่าง
สูทแบบนี้จะไม่มีรอยผ่านทมางด้านหลัง ทำให้ผู้สวมใส่ส่วนใหญ่ต้องปลดกระดุมออกก่อนจะนั่ง
สูทแบบยุโรปดัดแปลง
ได้รับความนิยมในช่วงกลางทศวรรษที่ 1980
ช่วงวงแขนของสูทแบบนี้จะอยู่จนกระทั่งแนบกับแผ่นอก สำหรับแบบกระดุมสองแถวที่มีกระดุม 6 เม็ด จะวางกระดุมอยู่ในตอนกลางลำตัวเสื้อ และจะไม่ติดกระดุมเม็ํดล่างเพื่อเน้นให้เห็นช่วงเอว
เป็นสูทที่เหมาะสมกับคนที่มีรูปร่างเตี้ย ไปจนถึงคนที่มีความสูงปานกลาง และชอบความหรูหรา
สูทตัวโคร่งแบบอเมริกัน
สูทแบบนี้เป็นที่รู้จักกันในอเมริกาว่าเป็นสูทที่มีบ่าแบบธรรมชาติ
ไม่มีแผ่นเสริมเพื่อเน้นบริเวณบ่า
รูปทรงจะเป็นสี่เหลี่ยมคล่ายกับกระสอบ และมีลำตัวสั้นกว่าสูทแบบยุโรป
การเลือกสีสูทเพื่อสวมใสในการทำงานควรพิจารณาสีพื้นฐาน
สูทสีน้ำเงิน
เป็นสีที่แสดงถึงอำนาจ ถ้าต้องการสร้างความประทับใจ
แบบกระดุมสองแถว ส่วนใหญ่ใช้ในทางธุรกิจ เพราะไม่สะดุดตา
การเลือกเชิ้ตตัวในลายริ้วใหญ่ เนกไท และผ้าเช็ดหน้าที่เหน็บกระเป๋า
สูทสีเทา
ควรจะเลือกเป็นสีเทาเข้มดีกว่าสีเทาอ่อน
สูทสีนี้จะให้ความรู้สึกดูเป็นมิตรมากกว่าสีน้ำเงิน
การเลือกเสื้อเชิ๊ตควรเลือกสีอ่อนหรือเสื้อเชิ้ตควรเลือกสีอ่อนหรือโทนสีเย็นอย่าง สีฟ้าอ่อน ชมพู ส้ม หรือ เหลือง
สูทลายริ้ว
สูทเเบบนี้จะดูเชยได้ง่าย ยกเว้นประเทศอังกฤษ
การเลือกควรเลือกชนิดที่มีลายเส้นเป็นสีๆเพียงสีเดียว
เนกไทควรเลือกที่มีสีสันแบบเดียวกับลายของสูท อย่าใส่เสื้อที่มีลายเชิ้ตที่มีลายเป็นริ้วแบบเดียวดับสูท
สูทลายตาราง
สูทแบบนี้เหมาะจะใส่ในวันที่ทำงานที่ไม่วุ่นวายและไม่เป็นทางการ
สีควรเลือกสีโทนสีกลางๆ ค่อนไปทางอ่อน
ส่วนเสื้อเชิ้ตที่เหมาะสมที่สุดควรเป็นสีขาวและลายเส้นสีเทาอ่อน หรือ สีอ่อนๆก็ได้
สูทลำลอง
การเลือกสูทแบบนี้จะเหมาะกับงานที่ไม่เป็นทางการ และมักจะใส่กับกางเกงสแลค
สูทแบบนี้ควรเลือกเป็นสีพื้นๆจะปลอดภัยที่สุด
สูทสำหรับงานราตรีสโมสร
สูทสำหรับงานเลี้ยงอาหารค่ำหรือชุดราตรี จะใช้ในงานเลี้ยงที่หรูหรา
ถ้าผู้สวมใส่มีสีผิวอ่อน ควรเลือกสูทที่มีสีสันตัดกันระหว่างขาวกับดำ
การเลือกเสื้อทักซิโดกับเสื้อสีอ่อน นอกจากสีขาวไม่เป็นที่ยอมรับในงานสังคมระดับสูง ถ้าต้องกา่รสะท้อนความเป็นตัวเอง หรือ ต้องโดเด่นให้ทุกคนสังเกต ควรเลือกใส่เสื้อกั๊กแบบที่มีลวดลายหรือไม่ก้ใส่หูกระต่าย และผ้าเช็ดหน้าเหน็บเสื้อสูท
สูทสีอื่นๆ
ขึ้นอยู่กับลักษณะของงานและสภาพแวดล้อมในหน่วยงาน
การใช้สูทสีน้ำเงินและสีเทาจะเป็นที่ยอมรับสากลมากกว่า
ประเภทของเสื้อเชิ้ตและการเลือกแบบปกเสื้อเชิ้ต
เสื้อเชิ้ต
แบบ เวิร์ค เชิ้ต เป็นเชิ้ตสำหรับใส่ทางการไม่ต้องผูกเนคไท
แบบ เดรส เชิ๊ต เป็นเชิ๊ตทั้วไปแต่ค่อนข้างเป็นทางการ มักผูกเนคไท
แบบ สปอร์ต เชิ้ต เป็นผ้ายืดหรือผ้าทอสีพื้นและลายทางรวมถึงเสื้อโปโล
แบบ ฟอร์มูลา เชิ้ต เป็นเชิ้ตใช้กับพิธีการ มักเป็นสีพื้นและจับพลีทที่อก
ปกเสื้อเชิ้ต
ปกชี้ลงธรรมดา
เหมาะกับผู้ที่ใบหน้าธรรมดาทั่วไป
นิยมผูกเนคไทเงื่อนแบบ ฮาฟ วินเซอร์
ปกกว้าง
เหมาะกับผู้ที่มีใบหน้าแหลมเล็ก หน้าเสี้ยม คางแหลมยื่น
นิยมผูกเนคไทเงื่อนแบบ วินเซอร์
ปกแคยยาวชี้ลงลึก
เหมาะกับผู้ที่ใบหน้ากลม ใบหน้าใหญ่ ใบหน้าเหลี่ยม
นิยมผูกเนคไทเงื่อน แบบ ฟอร์ธ ิอิน แฮนด์
ปกแบบมีแถวผ้าติดแป๊บโยงไว้ที่กระเดิด(มีสายคาด)
ปกแบบนี้ใช้ได้ทั่วไป
ผูคเนคไทได้ทุกแบบ ยกเว้น ฟูล วินเซอร์
ปกแบบมีดุมขัดปลายปก
เป็นเสื้อเชิ้ตที บริเวณมุมของปกเสื้อมีกระดุมที ใช้ยึดระหว่างปกกับตัวเสื้อให้อยู่ชิดกัน
ลดละดับความเป็นทางการลงมาซึ งสามารถสวมใส่ได้ทั้งแบบมีเน็คไทและไม่มี
เสื้อเชิ้ตชนิดนี้ถือก่าเนิดมาจากการที ผู้ชายที ชอบเล่นกีฬาที มักมีปัญหากับปกเสื้อเวลาเคลื อนไหว จึงมีการนำเอากระดุมมาเป็นตัวช่วยในการยึดให้ปกติดกับเสื้อเชิ้ตตลอดเวลา
ปกแบบคอจีน
เป็นเสื้อเชิ้ตที่ผลิตขึ้นมาเพื่อใส่สำหรับวันพักผ่อนโดยเฉพาะ
สามารถใส่กับ บลาเซอร์ หรือสูทแบบกระดุมเดียว
ติดกระดุมแบบครบทุกเม็ด
สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์ประกอบการแต่งกาย
ข้อแขนเสื้อเชิ้ตชาย
แบบ บาร์เรล คัฟ
เป็นข้อแขนเสื้อเชิ้ตแขนยาวปกติที่ใช้กันโดยทั่วไป
ข้อแขนมีกระดุม โดยมีกระดุมอย่างน้อยข้างละ 1 เม็ด
ถ้ามีกระดุมมากกว่า 1 เม็ด ใช้ส่าหรับปรับระดับความพอดี
แบบ ฟรีช คัฟ
ข้อแขนเสื้อไม่มีกระดุม แต่มีช่องส่าหรับใส่ คัฟ ลิงค์
มีความเป็นทางการกว่าข้อแขนเสื้อเชิ้ตแบบ บาร์เรล คัฟ
เป็นแบบข้อแขนเสื้อเชิ้ตที ใช้กับทักชิโดหรือเสื้อเชิ้ตใส่กับสูท
เนกไท
มี 3ขนาด คือ ขนาดเล็ก ขนาดกลางและขนาดใหญ่
สีควรค่านึงถึงสีของเสื้อเชิ้ตและกาละเทศะเป็นสำคัญ
แต่ที่นิยมที่ สุดคือ ขนาดกลาง ส่วนเนื้อผ้าส่าหรับงานกลางคืนควรเลือกผ้าไหมที มีความมันวา
ผ้าเช็ดหน้า
ควรเลือกสีกลางๆ เช่น ดำ เทา น้ำเงิน น้ำตาล ครีม น้ำเงิน เพราะเข้ากับเสื้อผ้าได้ทุกสี
รองเท้า
ควรมีอย่างน้อยสองคู่ส่าหรับใส่ไปทำงาน ควรเป็นสีดำหรือน้ำตาลแบบเรียบร้อย เลือกใส่ให้เหมาะสมกับเสื้อผ้า จะเป็นแบบสวมหรือผูกเชือกก็ได้
แต่ถ้าเป็นการแต่งเครื่องแบบเต็มยศควรเลือกใช้รองเท้าผูกเชือกสีดำ
การเล่นกีฬาควรใช้รองเท้าผ้าใบ
รองเท้าผู้ชายที่นิยมเป็นสากล
แบบ ออฟฟอร์ด ชู แบบ บลาโมเรล
เป็นรองเท้าหนังแบบผูกเชือกซึ่งเป็นแบบคลาสสิกอังกฤษ
มีความเป็นทางการสูง มักเป็นแบบเรียบๆไม่มีลวดลายหรือตะเข็บใดๆ
แบบ ออฟฟอร์ด ชู แบบ บรู๊ค
อาจรู้จักในชื่อ วิงทิป หมายถึง รองเท้า ออฟฟอร์ด ที่ทำจากหนังที่มีความหนาพอสมควร
วิงทิป หมายถึง ตรงปลายหน้ารองเท้าเป็นแบบมีการเย็บตรงปลายเท้า และมีลักษณะคล้ายปีกนกเป็นรูปตัว“W” และมีการเจาะรูเป็นลวดลาย
แบบ ออฟฟอร์ด ชู แบบ เดอร์บี้ หรือ กิ๊บซัน
รองเท้าหนังที มีเชือกผูกมีการเย็บคาดขวางตัดตรงด้านหัวรองเท้า แผ่นหนังที่เจาะรูส่าหรับร้อยเชือกรองเท้าเป็นอิสระ ไม่ถูกเย็บติดกับตัวรองเท้า
แบบ สลิพ หรือ เลาเฟอร์
รองเท้าส้นเตี้ยที ไม่มีเชือกผูก เป็นรองเท้าที่นิยมสวมคู่กับสูทในสหรัฐอเมริกา แต่ในอังกฤษนิยมรองเท้าแบบผูกเชือกมากกว่า
แบบ มัง ชู
เป็นรองเท้าที่ไม่มีเชือกผูก แต่มีสายคาดและมีหัวเข็มขัด ยึดไว้ รองเท้าชนิดนี้มีความเป็นทางการระดับปานกลาง ปัจจุบันไม่เป็นที่นิยมมากนัก
แบบ โบ๊ท
มักท่าจากผ้าใบหรือหนังที่ค่อนข้างหนา พื้นเป็นยาง เดิมถูกออกแบบเพื่อเป็นรองเท้าใช้ในเรือเพื่อกันลื่นและกันน้ำ ปัจจุบันนิยมใช้เป็นรองเท้าใส่ลำลอง