Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 5 การพยาบาลผู้ใหญ่และผู้สูงอายุที่มีการเจ็บป่วยทางจิตเวช…
บทที่ 5 การพยาบาลผู้ใหญ่และผู้สูงอายุที่มีการเจ็บป่วยทางจิตเวช บุคคลที่มีกลุ่มโรคอาการทางกาย
ความหมาย ลักษณะอาการและอาการแสดงของกลุ่มโรคอาการทางกาย
บุคคลที่มีปัญหาทางด้านจิตใจ หรือ มีความกดดันทางด้านจิตใจแต่แสดงอาการของการมีปัญหาทางด้านจิตใจออกมาให้เห็นเป็นความเจ็บป่วยทางด้านร่างกาย
โรค somatization disorder ผู้ป่วยจะรู้สึกว่าร่างกายมีอาการผิดปกติหลายอย่างและมีความรุนแรงมากเกินจริงก่อนอายุ 30 ปี จะเกิดขึ้นซ้ำ ๆ เรื้อรัง ไม่ได้เป็นผลมาจากยา สารเสพติด การแสร้งหรือจงใจทำให้เกิดขึ้น
มีอาการปวด (pain) อย่างน้อย 4 ตำแหน่งพร้อมกัน
มีอาการของระบบทางเดินอาหาร (gastrointestinal symptom) อย่างน้อย 2 อาการ
อาการทางเพศ (Sexual symptom) อย่างน้อย 1 อาการ เช่น
อาการที่คล้ายโรคทางระบบประสาท (pseudo neurological symptom) น้อย 1 อาการ
โรค Hypochondriasis กลัวหรือกังวลอย่างน้อย 6 เดือนว่าตนเองจะป่วยเป็นโรคร้ายโรคใดโรคหนึ่ง
สาเหตุ การบำบัดรักษากลุ่มโรคอาการทางกาย
1) ปัจจัยด้านชีวภาพ
ผู้ป่วยมีความผิดปกติของระดับการใส่ใจ การรู้คิดและเข้าใจ การแปลความรู้สึกในร่างกายผิดไปจากคนปกติ
การทำงานที่น้อยกว่าปกติของสมองส่วนหน้า (frontal lope) และสมองซีกไม่เด่น (non – dominant hemisphere)
พันธุกรรม
2) ปัจจัยทางจิตสังคม
ทฤษฎีจิตวิเคราะห์ มองว่า อาการแสดงทางร่างกายเป็นการสื่อแทนความรู้สึกภายในจิตใจ
ทฤษฎีการเรียนรู้ มองว่า อาการแสดงทางร่างกายที่เกิดขึ้น เป็นการรับแบบอย่างมาจากพ่อแม่
โรค hypochondriasis ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่พบปัจจัยเสี่ยงในการเกิด hypochondriasis ดังนี้
ถูกกระตุ้นได้ด้วยความเครียดหรือปัญหาชีวิต
มีประวัติถูกกระทำทารุณในวัยเด็ก
มีประวัติเจ็บป่วยร้ายแรงในวัยเด็กหรือเรียนรู้ที่จะใช้บทบาทการเป็นผู้ป่วยในการแก้ปัญหาชีวิต
มีแปลความรู้สึกของร่างกายผิดปกติ
การบำบัดรักษาของกลุ่มโรคอาการทางกาย
โรค somatization disorder ไม่มีการรักษาที่เฉพาะเจาะจงในโรคนี้ บำบัดตามปัญหาของผู้ป่วยเป็นรายๆไป
โรค hypochondriasis การบำบัดด้วยยาไม่ค่อยได้ผล ผู้ป่วยอาจจะได้รับยาแก้ต้านเศร้าที่อาจช่วยให้อาการดีขึ้นบ้าง
การพยาบาลบุคคลที่มีกลุ่มโรคอาการทางกาย
1) การประเมินสภาพ (assessment)
ด้านร่างกาย มักจะได้รับการตรวจร่างกายทั่วไปอย่างถี่ถ้วน เพื่อความชัดเจนว่าผู้ป่วยไม่มีการเจ็บป่วยทางร่างกายจริง
ด้านจิตใจ ควรมุ่งเน้นทางด้านอารมณ์และความคิดเป็น
ด้านสังคม ประเมินแรงกดดันที่ส่งเสริมให้ผู้ป่วยเกิดอาการต่าง ๆมากขึ้น
2) การวินิจฉัยทางการพยาบาล (nursing diagnosis)
ไม่สนใจที่จะแก้ปัญหาทางจิตใจเพราะปฏิเสธปัญหาทางจิตใจ
มีความบกพร่องในการดูแลตนเองด้านสุขภาพอนามัย
มีอาการเจ็บป่วยทางร่างกายหลายอย่าง
ต้องพึ่งพายาลดอาการปวด
มีอารมณ์ซึมเศร้าหรือพยายามทำร้ายตนเอง
มีความบกพร่องในวิธีเผชิญปัญหาหรือความไม่สบายใจ
ไม่สามารถทำหน้าที่ได้ตามบทบาทหรือแยกตัวจากสังคม
3) การวางแผนและการปฏิบัติทางการพยาบาล (planning and implementation)
สร้างสัมพันธภาพเพื่อการบำบัด (therapeutic relationship)
ให้เวลาผู้ป่วยได้พูดระบายความในใจได้อย่างอิสระ ตั้งใจรับฟัง ใส่ใจกับคำพูด และการกระทำที่ผู้ป่วยแสดงออกมา
พยาบาลควรหลีกเลี่ยงการให้แรงเสริมต่อพฤติกรรมที่เป็นพยาธิสภาพของผู้ป่วย
ส่งเสริมความรู้แก่ผู้ป่วยและญาติผู้ดูแลเกี่ยวกับปัญหาทางสุขภาพของผู้ป่วย และทักษะที่จำเป็นตามแต่ละปัญหาที่แท้จริงของของผู้ป่วย เช่น ทักษะการผ่อนคลายเพื่อลดอาการปวดโดยไม่ต้องพึ่งยาแก้ปวด, การสื่อสารและการปฏิบัติตัวในการดูแลผู้ป่วยกลุ่มโรคอาการทางกายสำหรับญาติ
ดูแลให้จัดสภาพแวดล้อมที่เน้นความปลอดภัยเนื่องจากผู้ป่วยกลุ่มโรคอาการทางกาย มักมีความรู้สึกว่าการเจ็บป่วยของเขาทุกข์ทรมานอาจคิดทำร้ายตนเองได้
ส่งเสริมให้ผู้ป่วยได้รับการบำบัดทางจิตสังคม
ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับยาตามแผนการรักษาเพื่อควบคุม ลดระดับอาการและอาการแสดงของโรคร่วมที่ผู้ป่วยมี
4) การประเมินผลทางการพยาบาล (evaluation)
สามารถบอกวิธีในการเผชิญหรือแก้ปัญหาของตนเองได้
สีหน้าสดชื่นแจ่มใส
นอนหลับพักผ่อนได้
ประกอบกิจวัตรประจำวัน บทบาท และหน้าที่ของตนเองได้