สิ่งทอ (Textiles)

กระบวนการผลิตสิ่งทอ

เส้นใย

เส้นด้าย

ผ้าผืน

ผลิตภัณฑ์สิ่งทอ

เส้นใยธรรมชาติ

เส้นใยจาก cellulose (พืช) : ฝ้าย

เส้นใยจากโปรตีน : ขนเเกะ ไหม

เส้นใยสังเคราะห์ : พอลิเอสเตอร์ / ไนลอน / อะซเตท

ปั่นรวมกันเป็นเกลียวให้เป็นเส้นด้าย

เส้นใยหยาบ : มีความเเข็งเเรง

เส้นใยปั่นรวมกัน : มีขนบริเวณผิว

ผ้าทอ : เกิดจาการถักสานของเส้นด้าย 2 เเนว คงตัว ยืดหยุ่น < ผ้าถัก

ผ้าถัก : เกิดจาการเอาเส้นด้ายมาคล้องเกี่ยวกัน ยืดหยุ่นสูง

ผ้าไม่ถัก-ไม่ทอ : ได้จากการผสานของเส้นใย (มักเป็นแบบใช้เเล้วทิ้ง)

ขึ้นรูป

Chemical processing

Dyeing : ย้อมสีทั้งผืน

Printing : ย้อมสีให้มีลวดลาย

Finishing : ปรับ/เพิ่มคุณสมบัติ (ใส่สารเคมี/ น้ำมันหอมระเหย)

การทดสอบคุณภาพ

ทดสอบจำเเนกชนิดเส้นใย

การทดสอบผ้าผืน

การเผาไหม้

ลักษณะเส้นใย(ดูด้วยกล้องจุลทรรศน์)

ละลายด้วยสารเคมี : มักใช้เเยกชนิดเส้นใยสังเคราะห์

การหาความหนาเเน่น

IR spectroscopy

การย้อมติดสีของเส้นใย

ฝ้าย-ติดไฟไหม้เร็ว/กลิ่นกระดาษไหม้/เถ้าน้อย

ขนสัตว์-ติดไฟไหม้เร็ว นำออกจากไฟ=ดับ/กลิ่นผมไหม้/เถ้าสีดำ

ไหม-ติดไฟไหม้เร็ว/กลิ่นผมไหม้/เถ้าเป็นก้อนดำนุ่ม เปราะ

พอลิเอสเตอร์-ใกล้ไฟจะหดตัว นำออกจากไฟ=ไหม้ต่อ/กลิ่นสารเคมี/เถ้าก้อนกลมเเข็งสีดำ

ไนลอน-ใกล้ไฟจะหดตัว นำออกจากไฟ=ไหม้ต่อ/กลิ่นสารเคมี/เถ้าก้อนกลมเเข็งสีเทา

อะซิเตท-ติดไฟ/กลิ่นกระดาษ+กรดน้ำส้ม/เถ้าเป็นก้อนเเข็งสีดำ

อะคลิริค-ใกล้ไฟจะหดตัว นำออกจากไฟ=ไหม้ต่อ/กลิ่นสารเคมี/เถ้าก้อนเเข็งสีน้ำตาล

วิสโคสเรยอน-ไหม้ไฟเร็ว/กลิ่นกระดาษไหม้/เถ้าน้อยมาก

ตามเเนวยืน

ลินิน-ลักษณะคล้ายท่อลำเลียงของพืช

ตัดตามขวาง

เส้นใยจากธรรมชาติมีความสม่ำเสมอของอนุภาค < เส้นใยสังเคราะห์

เส้นใยโปรตีน (ขนสัตว์)-มีเกล็ดที่ผิวของเส้นใย

ฝ้าย-ลักษณะเส้ยใยบิดตัว

เส้นใยพอลิเอสเตอร์-เป็นจุดๆของเม็ดสีสีขาวกระจายอยู่สม่ำเสมอ (ทำให้เส้นใยทึบเเสง)

ทดสอบความเเข็งเเรง+ความคงทน (Strength and durability)

สมบัติด้านผิวสัมผัส (Hand properties) เกี่ยวข้องกับความรู้สึก

สมบัติที่เกี่ยวข้องกับการดูเเลรักษา/อายุการใช้งาน (Easy-care properties)

ทดสอบความคงทนของสี (Color fastness properties)

การทดสอบอื่นๆ (Other functional properties)

ความเเข็งเเรงของผ้า

ความต้านทานต่อการฉีกขาด (Tearing strength) : ขาดตามรอยฉีกมากเเค่ไหน

การเลื่อน/ปริของตะเข็บ (Seam slippage) : เกิดจากผ้าใช้เส้นใยที่ลื่น/มีโครงสร้างเปิด(หลวม)/มีระดับการขัดสานต่ำ/ต้องมีความกว้างตามมาตรฐานกำหนดเมื่อดึง

ความต้านทานต่อการขัดถู (Abrasion resistance) : ยิ่งจำนวนรอบในการขัดถูมาก=ทนต่อการขัดถูได้ดี

การทดสอบการขึ้นเม็ดบนผิวผ้า (Pilling test) : ใช้ pilling box

การเกิดห่วงเส้นใย/ตะกุยขนบนผิวผ้า (Snagging) : .ใช้ mass snagging รอกมีที่ห้อยขอบคมเกี่ยวเส้นใยผ้า

ความต้านทานต่อแรงดึงของผ้า (Tensile strength) : ทดสอบผ้าทอทั้งเเนวด้ายยืน +เเนวด้ายพุ่ง

ความต้านทานต่อเเรงดันโป่งทะลุ (Bursting Strength) : ทดสอบผ้าถักดวยเเรงดันจนโป่ง/ขาด

การวัดความกระด้างของผ้า (Stiffness test) : ความยาวในการโค้งงอไปตามระนาบของเส้นอ้างอิงที่ทํามุม 41.5 ํกับแนวราบ (ยิ่งยาวมาก=ยิ่งกระด้างมาก)

การทิ้งตัวของผ้า (Fabric drape) : วัดค่าสัมประสิทิ์การทิ้งตัวของผ้า (สปส.การทิ้งตัวน้อย=ผ้าทิ้งตัวได้มาก=กระด้างน้อย)

สมบัติด้านผิวสัมผัสโดยรวม (Total Hand properties)

สมบัติการคืนตัวจากการยับของผ้า (Crease recovery)

  1. วัดองศาการคืนตัวจากการยับ โดยใช้เครื่องมือกดเเล้วปล่อยให้คืนตัว
  1. Wrinkle recovery test : เทียบกับผ้ามาตรฐาน 1-5 (ระดับ 5 = ยับน้อยสุด)

ทดสอบการหลุดของคราบสิ่งสกปรก (Soil-release testing) : วัดความสามารถของผ้าในการปลดปล่อยสิ่งสกปรกระหว่างซัก ทดสอบก่อน-หลังซัก-เทียบผ้ามาตรฐาน 1-5 (ระดับ 5= คราบออกหมด)

ทดสอบสมบัติการกันน้ำมัน (Oil Repellency test) : ระดับการต้านน้ำมัน 0 - 8 (ระดับ 8=กันน้ำมันมากที่สุด)

ทดสอบการกันน้ำ (Water repellency test) : การต้านน้ำ 0 - 5 (ระดับ 5=กันน้ำมากที่สุด)

ความคงทนต่อการซัก : จำลองการซัก-ใส่ลูกเหล็ก ทดสอบด้วย Grey scale

  1. Grey scale ประเมินการติดเปื้อนสี เทียบกับผ้ามาตรฐาน 1-5 (ระดับ 5 = ไม่เปื้อนสีเลย)
  1. Grey scale ประเมินการซีดจางของสี เทียบกับผ้ามาตรฐาน 1-5 (ระดับ 5 = ไม่ซีดเลย)

ทดสอบการเปลี่ยนเเปลงสี/ติดเปื้อนหลังทดสอบ ด้วย "Multifiber fabric" เป็นผ้ามาตรฐาน

ทดสอบความคงทนต่อเหงื่่อ (Fastness to perspiration test) : จำลองว่ามีเหงื่อโดยใช้ Artificial sweat ที่ pH ต่างกัน
เปรียบเทียบผลด้วย Grey scale นิยมกับผ้าชุดกีฬา

ทดสอบความคงทนของสีต่อการขัดถู (Rub or Crock fastness (Wet&Dry)): ใช้ผ้าฝ้ายเป็นผ้ามาตรฐานทดสอบดูว่ามีสีติดออกมาหรือไม่ ใช้ Grey scale เปรียบเทียบผล 1-5 (ระดับ 5 = ไม่ติดสีเลย)

ทดสอบความคงทนต่อเเสง (Color fastness to light) : ใช้ผ้าขนสัตว์ “Blue wool” เป็นผ้ามาตรฐาน 1-8 (ระดับ 8=ทนเเสงได้ดี สีซีดช้า)

สมบัติการติดไฟ : ขึ้นกับชนิดของเส้นใย น้ำหนักผ้า โครงสร้าง ลักษณะผิวผ้า
ชนิดสารเคมีบนผ้า

น้ำหนักมาก/โครงสร้างเเน่น/ขนฟูติดไฟได้ง่ายกว่า

45 ํ test : ทดสอบผ้าทั่วไป ทำมุม 45 ํ จับเวลาในการเผาไหม้

Simple vertical strip test : ทดสอบพวก home textile ที่ต้องทนไฟได้นาน ทดสอบเเนวตรง

European standards EN 1021–1/2 composite test : นำมามาหุ้มโครงก่อนทดสอบการติดไฟ

ทดสอบการป้องกันรังสี UV (UV protection of textiles) ถ้ามีค่า UPF 50+ ป้องกันรังสี UV ได้ดี นิยมชุดเดินป่า ปีนเขา

ความสามารถในการดูดความชื้น Wickability

ทดสอบโดยให้ปลายผ้าจุ่มน้ำ ดูการดูดซึมน้ำเข้าไปในช่องว่างระหว่างเส้นใย (เส้นใยยิ่งเล็กยิ่งมีความสามารถในการดูดซึมน้ำ) เเละระเหยเอาน้ำออกสู่สิ่งเเวดล้อม-รู้สึกเเห้ง (นิยมทดสอบชุดกีฬา-เเห้ง/สบายตัว/ไม่ติดผิว/ระบายอากาศได้ดี)

ผิวคน-เหงื่่อ ➡ Absorption+Wicking ดูดซับสู่ผ้า ➡ Evaporation ระเหยออกอย่างเร็ว

.

าน

click to edit

click to edit

่่นานา

click to edit

click to edit

click to edit