Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
5.13 การพยาบาลบุคคลที่มีโรคจิตเภท - Coggle Diagram
5.13 การพยาบาลบุคคลที่มีโรคจิตเภท
ความหมาย
โรคจิตเภท เป็นโรคจิตที่พบได้มากในกลุ่มผู้ป่วยที่มีปัญหาทางจิตเวชและสุขภาพจิต อาการปรากฏชัดในช่วงวัยรุ่นถึง ผู้ใหญ่ตอนต้น พบมากในผู้ที่มีเศษฐานะต่ำ ความผิดปกติจะเกิดขึ้นหลายอย่างแบบค่อยเป็นค่อยไปได้แก่ ความผิดปกติของความคิด การรับรู้ พฤติกรรม อารมณ์ และการสื่อสาร
ลักษณะอาการ
หลงผิด (delusion)
2.ประสาทหลอน(hallucination)
3.ความผิดปกติของการพูด (disorganized speech)
4.ความผิดปกติของพฤติกรรม(disorganized behavior)
5.อาการด้านลบ (negative symptom
สาเหตุ
ปัจจัยด้านชีวภาพ
พันธุกรรม
สารชีวเคมีในสมอง
Dopamine
Serotonin
กายภาพของสมองที่ผิดปกติ
ส่วนของ lateral ventricles ขยาย
ใหญ่กว่าปกติ
cortical สองด้านไม่เท่ากันมีสภาพเหี่ยวลีบเล็กลง
ปั จจัยทางด้านจิตสังคม
ความขัดแย้งภายในจิตใจ
กระบวนการพัฒนาการ และสัมพันธภาพระหว่างบุคคล ลักษณะการเลี้ยงดูในวัยเด็ก
ความเครียด
สภาพสังคมและวัฒนธรรม
การบำบัดรั กษา
บุคคลที่มีของโรคจิตเภท
การรักษาแบบผู้ป่ วยใน
1.1 เป็ นอันตรายต่อตนเองและบุคคลอื่นหรือสังคม
1.2 มีอาการข้างเคียงของยาอย่างรุนแรงที่ต้องดูแลใกล้ชิด
1.3 ไม่ร่วมมือในการรักษา ไม่ยอมกินยา
1.4 ไม่สามารถดูแลตัวเองได้
1.5 มีพฤติกรรมวุ่นวายอย่างมาก
1.6 มีอาการของโรคทางกายที่ต้องควบคุมการรั กษา
1.7 มีอาการทางจิตรุนแรงมาก
1.8 มีปั ญหาในการวินิจฉัยโรค
การรักษาด้วยยา
1) ระยะเฉียบพลัน(acute phase
chlorpromazine (CPZ)
perphenazine,haloperidol,melleril,clozapine,risperidone
ยาฉีด เช่น fluphenazine decanoate
2) ระยะควบคุมอาการให้คงที่
3) ระยะคงที่ (maintainance phase)
3.การรั กษาด้วยไฟฟ้ า (ECT
การรักษาทางจิตใจและสังคม
การประเมินผู้ป่วย
1.1 สภาพทั่วไป ลักษณะของผู้ป่ วย เพศ วัย การแต่งกาย ความสะอาด
1.2 อารมณ์ ลักษณะการแสดงอารมณ์ น ้าเสียง ก้าวร้าว รุนแรง คลุ้มคลั่ง
1.3 การพูดสื่อสาร การตอบค าถาม ผู้ป่ วยบางคนจะพูดวกวน หรือพูดเร็วจนจับใจ
1.4 เนื ้อหาความคิด หลงผิดเป็ นเรื่องที่ไม่เป็นจริง คิดว่ามีคนคอยติดตาม ไม่หวังดี
นินทา ให้ร้าย
การรับรู้ความเป็ นจริง อาการประสาทหลอนผู้ป่ วยไม่พูดตรงๆ
จะสังเกตได้จากการเอามือป้ องหูหรือการ พูดคนเดียว
การพยาบาล
1.สร้างสัมพันธภาพเพื่อการบ าบัด
เข้าใจและยอมรับ
2.รับฟังเรื่องที่ผู้ป่วยเล่าโดยไม่กล่าวคำขัดแย้ง ไม่ ตัดสิน คล้อยตาม ท้าทายล้อเลียนหรือวิพากษ์วิจารณ์
3.ผู้ป่วยที่หลงผิดมากมีอาการ
คลุ้มคลั่ง ก้าวร้าว ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยและอันตราย
4.ผู้ป่วยที่สื่อสารแบบคลุมเครือ
พยาบาลต้องสอบถาม ขอความกระจ่าง
5.ผู้ป่วยพูดวกวนบอกรายละเอียด
ที่ไม่สัมพันธ์กัน พยาบลต้องทำความเข้าใจให้ได้ว่า ผู้ป่วยต้องการจะบอกอะไร
สนทนากับผู้ป่ วยในบริบทของความ
เป็นจริง เบี่ยงเบนความสนใจของผู้ป่
วยจากความหลงผิดโดย กระตุ้นให้ทำ
กิจกรรมร่วมกับผู้อื่น