Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

ดนตรีสากล - Coggle Diagram

- - - - ค.ศ. 1600 - 1750
      - ยุคเริ่มตนวัฒนธรรมดนตรีออรเคสตรา
      - บรรเลงดนตรีถวายกษัตริยและ
        เจานายชั้นสูงในพระราชวัง
    - - ค.ศ. 1830 - 1930
      - องคกรอิสระของนักดนตรีอาชีพ
        วงออรเคสตราประจําเมือง
      - ออกแสดงตามหอแสดงดนตรี (Concert Hall)
      - เกิดเปนรูปแบบมาตรฐานที่ใชมาจนถึงปจจุบัน
    - - วงดุริยางคประจําราชสํานัก
        การจัดวงมีแบบแผนชัดเจน
      - ค.ศ. 1750 - 1830
      - ผูอํานวยเพลง (Conductor)
        ทําหนาที่ควบคุมการบรรเลงอยู
        ดานหนาวง
    - - “Royal Bangkok Symphony Orchestra”
      - “Thailand Philharmonic Orchestra”
- - - - ทํานองหลัก = ทรัมเปต หรือ นักรอง
      - เสียงประสาน = ทรอมโบน
      - ทํานอง = คลาริเน็ต หรือ แซกโซโฟน
      - ประกอบจังหวะ = เปียโน/เบนโจ/ดับเบิ้ลเบส/กลองชุด
  - - - วัฒนธรรมการตั้งชื่อวงหัสดิน
        
        นักดนตรีที่มีความสามารถที่โดดเดนทําหนาที่หัวหน้าวง
        
        ส่วนใหญจะตั้งชื่อวงตามชื่อของหัวหน้าวง
  - - - Bebop
        
        เป็นคําที่ไม่มีความหมาย
        
        เกิดขึ้นมาจากคําร้องติดปากของโน้ต 2 ตัว
        
        ซึ่งร้องคลอระหว่างจังหวะดนตรี
        
        เป็นดนตรีที่พัฒนามาจากดนตรีประเภท Swing
        
        ใช้เครื่องดนตรีน้อยชิ้นและการประพันธ์ไม่ได้เน้นไปที่การเต้นรํา
        
        เน้นไปที่การแสดงความสามารถของผู้บรรเลง
  - - - คล้ายวงดนตรีในยุคบีบ็อพ
      - แต่มีจํานวนเครื่องประกอบจังหวะที่มากกว่า
      - จุดเด่นคือการใช้เครื่องดนตรีไฟฟ ้าอิเลคโทรนิคต่างๆ
    - - แนวดนตรีที่เป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางในแต่ละยุคสมัย
      - มีแรงบันดาลใจจากผู้ฟังเป็นส่วนใหญ่
    - - เป็นการรวมกันของดนตรีร็อคและดนตรีแจ๊ส
      - ใช้รูปแบบจังหวะแบบร็อคและทํานองเสียงประสานแบบแจ๊ส
- - - - 3 = Trio
      - 4 = Quartet
      - 2 = Duo หรือ Duet
      - 5 = Quintet
      - 6 = Sextet
      - 7 = Septet
      - 8 = Octet
      - 9 = Nonet
- - - - ใช้บรรเลงเฉพาะวงหรือนำขบวนต่างๆ
      - นิยมบรรเลงเพลงประเภทเพลงมาร์ช
    - - บรรเลงประกอบการแปรแถว
      - ผู้บรรเลงจะเดินแปรแถวเป็นรูปต่างๆ