Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บุคคลที่มีปัญหาจิตสังคมบุคคลที่มีภาวะสูญเสียและเศร้าโศก - Coggle Diagram
บุคคลที่มีปัญหาจิตสังคมบุคคลที่มีภาวะสูญเสียและเศร้าโศก
ความหมาย
การสูญเสีย (loss)
การที่บุคคลพลัดพรากจากบุคคล สัตว์เลี้ยง สิ่งของ อวัยวะ
หรือ ความรู้สึกภาคภูมิใจในตนเอง ซึ่งบุคคลให้คุณค่า และให้ความหมายว่าเป็นสิ่งที่มีความสำคัญกับชีวิต เมื่อมีการสูญเสียบุคคลจะมีปฏิกิริยาต่อการสูญเสียนั้น ๆ ซึ่งเป็นการแสดงออกที่เจ็บปวดทั้งด้านร่างกาย จิตใจ การรู้คิด และพฤติกรรม
ภาวะเศร้าโศก (grief)
เป็นปฏิกิริยาทางอารมณ์และจิตใจที่เกิดขึ้นภายหลังจากบุคคลเผชิญกับ
การสูญเสียหรือคาดว่าจะมีการสูญเสียเกิดขึ้น
ประเภท
ประเภท
การสูญเสียตามช่วงวัย (maturational loss) เช่น เด็กที่ต้องหย่านมแม่การต้องออกจากโรงเรียนเมื่อสำเร็จการศึกษา การออกจากครอบครัวเมื่อต้องไปใช้ชีวิตคู่
การสูญเสียภาพลักษณ์หรือ อัตมโนทัศน์(loss of body image or some aspect of self) การสูญเสียอวัยวะในร่างกาย หรือการสูญเสียการทำหน้าที่ของร่างกายจากภาวะการเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ เช่น การป่วยเรื้อรังทำให้เกิดภาวะทุพพลภาพ
การสูญเสียสิ่งของภายนอก (loss of external object) เช่น ทรัพย์สินเงินทอง ที่อยู่อาศัยหรือการถูกแยกจากสภาพแวดล้อมเดิม เช่น การย้ายถิ่นฐานที่อยู่ ย้ายที่ทำงาน ซึ่งทำให้เกิดความไม่มั่นคง
การสูญเสียความรักหรือบุคคลสำคัญในชีวิต(loss of a love or a significant other) เช่นการตายของบิดา มารดา ญาติพี่น้อง คู่สมรส บุตร เพื่อนสนิท จะทำให้บุคคลมีภาวะเศร้าโศกอย่างมาก ซึ่งอาจนำไปสู่ผลรุนแรงจนเกิดอาการซึมเศร้าตามมา
ปฏิกิริยาต่อการสูญเสีย
ระยะพัฒนาการตระหนักรู้ถึงการสูญเสีย (developing awareness)
เป็นระยะที่บุคลเริ่มมีสติรับรู้มากขึ้นและตระหนักรู้ได้ถึงการสูญเสีย อาจเกิดขึ้นภายในไม่กี่นาทีหรือเป็นชั่วโมง ใช้เวลา 2 – 3 สัปดาห์แล้วจะดีขึ้นเองใน 2 – 4 เดือน
ระยะพักฟื้น (restitution) ระยะที่บุคคลจะมีการปรับตัวเพื่อฟื้นคืนสู่ภาวะปกติ เริ่มยอมรับความจริง การหมกมุ่นคิดถึงสิ่งที่สูญเสียน้อยลง มองหาสิ่งใหม่ทดแทน และเริ่มมีความหวังใหม่ในชีวิต
ระยะช็อค (shock and disbelief)
เป็นระยะแรกที่รับรู้ถึงการสูญเสีย บุคคลจะตกใจ ไม่เชื่อ ปฏิเสธ
อาจเกิดความรู้สึกมีนชาใน 2 -3 ชั่วโมงถึง 2 -3 สัปดาห์
ความสามารถปรับตัวขึ้น
การให้ความหมายต่อสิ่งที่สูญเสีย หากบุคคลมีความรู้สึกผูกพันและให้คุณค่าต่อสิ่งที่สูญเสียมากก็จะเกิดภาวะเศร้าโสกได้มากกว่าบุคคลที่มีความรู้สึกผูกพันน้อย
ประสบการณ์การปรับตัวต่อการสูญเสียที่ผ่านมา บุคคลที่สามารถปรับตัวต่อการสูญเสียได้ดีในอดีตย่อมมีประสบการณ์ในทางบวก และสามารถปรับตัวต่อการสูญเสียได้ดีกว่าบุคคลที่มีการปรับตัวไม่ดีหรือไม่มีประสบการณ์ต่อการสูญเสียมาก่อน
แหล่งสนับสนุนทางสังคม บุคคลที่มีแหล่งสนับสนุนช่วยเหลือ คอยกำลังใจ ในภาวะที่มีการสูญเสีย ย่อมสามารถปรับตัวต่อการสูญเสียได้ดีกว่าบุคคลที่รู้สึกโดดเดี่ยวขาดที่พึ่ง
บุคลิกภาพ บุคคลที่มีบุคลิกภาพที่เข้มแข็งย่อมมีความสามารถในการปรับตัวต่อการสูญเสียได้ดีกว่าบุคคลที่มีบุคลิกภาพอ่อนแอ หรือมีบุคลิกภาพแบบพึ่งพิง
ภาวะสุขภาพ บุคคลที่มีสุขภาพแข็งแรงย่อมมีความสามารถในการปรับตัวต่อการสูญเสียได้ดีกว่าบุคคลที่มีปัญหาสุขภาพ หรือมีภาวะของความเจ็บป่วย
การพยาบาล
2) การวินิจฉัยทางการพยาบาล
เป้าหมายระยะสั้น
เพื่อลดภาวะซึมเศร้าหรืออาการแสดงที่เป็นภาวะเศร้าโศรกแบบผิดปกติให้กลับสู่ภาวะปกติ
เพื่อให้การรักษาพยาบาลเรื่องอาการและอาการแสดงทางกายให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว
เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้ครอบครัวและแหล่งสนับสนุนช่วยเหลือทางสังคมของผู้ป่วยมีส่วนร่วมในการดูแลผู้ป่วย
เป้าหมายระยะยาว
เพื่อฝึกทักษะการยอมรับความจริงของชีวิตโดยเฉพาะในเรื่องการสูญเสีย
เพื่อฝึกการใช้วิธีในการเผชิญปัญหาที่สร้างสรรค์ตัวอย่างการเขียนข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
เสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายซ้ำเนื่องจากมีภาวะซึมเศร้าจากการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก
นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ เนื่องจากมีภาวะซึมเศร้าจากการสูญเสีย
ขาดทักษะในการเผชิญปัญหา เมื่อต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก
มีความรู้สึกผิดและโทษตนเองว่าเป็นสาเหตุของการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก
3) กิจกรรมการพยาบาล
การส่งเสริมสนับสนุนให้ครอบครัวมีส่วนร่วมในการดูแลผู้ป่วย
ให้ความรู้และช่วยแนะนำแหล่งสนับสนุน ช่วยเหลือทางสังคมที่เหมาะสมกับบริบทของผู้ป่วยและครอบครัว
ให้ความรู้แก่ครอบครรัวถึงปฏิกิริยาตอบสนองต่อการสูญเสีย ภาวะเศร้าโศกและแนวทางในการช่วยเหลือผู้ป่วย กระตุ้นให้เกิดความร่วมมือในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ผู้ป่วย
พูดคุยและส่งเสริมสัมพันธภาพที่ดีระหว่างผู้ป่วยและครอบครัว อธิบายให้ครอบครัวเข้าใจ ยอมรับ และเห็นใจผู้ป่วย คอยอยู่เป็นเพื่อนให้กำลังใจไม่ให้ผู้ป่วยรู้สึกโดดเดี่ยวไร้ที่พึ่ง
การลดภาวะเศร้าโศก
สร้างสัมพันธภาพแบบตัวต่อตัว ให้เกิดความไว้วางใจในตัวพยาบาล และจากนั้นค่อย ๆเริ่มจากการพูดคุยกับบุคคลที่ผู้ป่วยสนิทและไว้วางใจ
ใช้เทคนิคการสื่อสารเพื่อช่วยให้ผู้ป่วยได้ระบายความรู้สึกต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้นและพยายามชี้ให้ผู้ป่วยเห็นการเชื่อมโยงกันของคุณค่าของสิ่งที่สูญเสียกับภาวะเศร้าโศกที่เกิดขึ้น
ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถจัดการกับความรู้สึกค้างคาใจที่มีต่อผู้ที่เสียชีวิตไปแล้วได้อย่างเหมาะสม จะช่วยทำให้อารมณ์เศร้าโศกลดลงได้
พยายามรับฟังอย่างเข้าใจ ยอมรับในพฤติกรรม และมุ่งเน้นให้ผู้ป่วยได้ระบายความรู้สึกต่อการสูญเสียนั้น
อยู่เป็นเพื่อนและเป็นกำลังใจผู้ป่วย ส่งเสริมให้เขามองเห็นคุณค่าในตนเองไปจนถึงกระตุ้นสัญชาตญาณของการมีชีวิตอยู่กระตุ้นส่งเสริมให้มีความหวัง และสร้างเป้าหมายของชีวิต
ชี้ให้ผู้ป่วยเปรียบเทียบกับประสบการณ์การสูญเสียของตนเองกับผู้อื่นที่มีลักษณะรุนแรงกว่า เพื่อให้เกิดความรู้สึกบรรเทาความทุกข์ใจของตนเอง
ส่งเสริมกิจกรรมที่จะนำไปสู่การสร้างความหวัง และศรัทธาในชีวิตรวมถึงที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ เช่น พระ หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้ป่วยจะใช้เป็นที่พึ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจได้
จัดให้เข้ากลุ่มกิจกรรมบำบัดร่วมกับผู้ป่วยที่มีปัญหาคล้าย ๆ กันเพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ร่วมรู้สึก และให้กำลังใจซึ่งกันและกัน
การดูแลเรื่องอาการและอาการแสดงทางกาย
ให้การดูแลเรื่องสุขภาพโดยเฉพาะเมื่อมีอาการเบื่ออาหาร และนอนไม่หลับ พยายามหาวิธีการให้ได้รับประทานอาหารที่เพียงพอ
จัดสิ่งแวดล้อมให้สงบ ผ่อนคลาย ลดสิ่งกระตุ้นให้ผู้ป่วย
ให้ความช่วยเหลือ และกระตุ้นให้ผู้ป่วยสนใจเรื่องสุขวิทยาส่วนบุคคล และกิจวัตรประจำวันโดยให้ผู้ป่วยได้พยายามปฏิบัติกิจวัตรประจำวันด้วยตนเองตามความเหมาะสมและให้กำลังใจอย่างสม่ำเสมอเช่น เรื่องอาหาร การขับถ่าย ความสะอาดของร่างกาย
จัดกิจกรรม หรือจัดให้เข้ากลุ่มบำบัดที่ได้ผ่อนคลาย เช่น กลุ่มออกกำลังกาย โยคะ ตามความเหมาะสมกับสมรรถภาพทางร่างกาย เพื่อให้ผู้ป่วยได้ผ่อนคลาย หรือเบี่ยงเบนจากความคิดหมกมุ่นต่อการสูญเสีย
ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับยา หรือการรักษาตามแผนการรักษาของแพทย์
1) การประเมิน
ประเมินระดับความรุนแรงของอาการและอาการแสดงที่เป็นผลจากความสูญเสียแบบองค์ รวมทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และจิตวิญญาณ
ประเมินระดับการให้คุณค่า และความหมายของสิ่งสูญเสียในมุมมองของผู้ป่วย
ประเมินลักษณะบุคลิกภาพของผู้ป่วย
ประสบการณ์การสูญเสียในอดีต รูปแบบที่ใช้จัดการการสูญเสียและภาวะเศร้าโศกของผู้ป่วย
ประเมินความพร้อมแหล่งสนับสนุนช่วยเหลือทางสังคมผู้ป่วยเมื่อเผชิญกับเหตุการณ์สูญเสีย
4) การประเมินผลทางการพยาบาล
ผู้ป่วยมีภาวะเศร้าโศกลดลง สามารถดูแลตนเองได้มากขึ้น
ผู้ป่วยมีการตระหนักรู้ตนเองถึงระดับความรุนแรงของภาวะเศร้าโศกจากการสูญเสีย
ผู้ป่วยสร้างสัมพันธภาพกับผู้อื่นได้มากขึ้น และแสวงหาแหล่งสนับสนุนช่วยเหลือที่เหมาะสมได้
ผู้ป่วยสามารถสร้างเป้าหมายในชีวิต และปฏิบัติให้บรรลุผลตามเป้าหมายนั้นได้
ผู้ป่วยมีวิธีการเผชิญหน้าปัญหาที่เหมาะสมมากขึ้น
อาการและอาการแสดง
การเศร้าโศกแบบปกติ (normal grief)
ระยะเฉียบพลัน
ระยะนี้เกิดขึ้นในช่วง 4 – 8 สัปดาห์แรก บุคคลจะช็อค ไม่เชื่อ
และไม่ยอมรับการสูญเสียที่เกิดขึ้น มีอาการตื่นตะลึง ตัวชา และปฏิเสธ
หากปฏิกิริยาการปฏิเสธใช้เวลานานเป็นหลาย ๆ เดือน จะแสดงถึงพยาธิสภาพของการปัญหาทางจิตใจ
หากบุคคลปรับตัวได้ และเริ่มระลึกรู้ถึงการสูญเสียที่เกิดขึ้นความรู้สึกเจ็บปวดจะเกิดขึ้นตามมาซึ่งจะ
รุนแรงมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับการให้คุณค่าและความสำคัญที่บุคคลมีต่อสิ่งที่สูญเสีย
ปฏิกิริยาหรืออาการของความเศร้าโศกมักแสดงออกด้วยการเสียใจ
การร้องไห้ รับประทานอาหารน้อยลง นอนไม่หลับ คิดถึงบุคคล
ที่สูญเสีย หรือมีความโกรธกล่าวโทษตำหนิบุคคลใกล้ชิด ผู้ช่วยเหลือ หรือแม้แต่กล่าวโทษตนเอง
ระยะเผชิญกับการสูญเสีย
อาการแสดงทางกาย
มีความรู้สึกหายใจขัด ลำคอตีบตัน หมดแรงอ่อนเพลีย ตัวชา
หน้ามืด คอแห้ง คลื่นไส้อาเจียน แบบแผนการรับประทานอาหาร
และการนอนหลับพักผ่อนเปลี่ยนแปลงไป เป็นต้น
อาการแสดงทางจิตใจ
มีความคิดหมกมุ่น อยู่กับสัญลักษณ์หรือตัวแทนของบุคคลที่สูญเสีย เช่น รูปถ่าย เสื้อผ้า หรือสิ่งของที่เป็นของบุคคลที่สูญเสีย
หดหู่ ว้าเหว่ กระสับกระส่าย กระวนกระวาย และมักแยกตัว ไม่ต้องการมีสัมพันธภาพกับผู้อื่น ไม่ยอมรับความจริงเป็นครั้งคราว ละอายใจ รู้สึกผิด กล่าวโทษตนเอง ไม่กระตือรืนร้น ขาดสมาธิที่จะตั้งใจทำงาน รู้สึกไร้คุณค่า
บางรายอาจมีอาการรุนแรงจนถึงมีการแปลภาพผิด หรือประสาทหลอน หรือไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป
บุคคลที่สามารถปรับตัวต่อการสูญเสียได้ดีจะกลับคืนสู่สภาวะปกติ ถือเป็นการปรับตนเองในระยะสุดท้ายของกระบวนการในระยะนี้ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้เวลา 20 – 60 วันแรก
การเศร้าโศกแบบผิดปกติ (maladaptive grief)
chronic grief reaction
ปฏิกิริยาความเศร้าโศกเรื้อรัง ยาวนาน โดยบุคคลจะมีภาวะเศร้าโศก
อยู่เป็นเวลาหลายปีโดยไม่มีท่าทีว่าความรู้สึกน้ันจะลดลงความคิด หมกมุ่นเกี่ยวกับ ความทรงจำเก่า ๆ ไม่สามารถขจัดความรู้สึกหม่น หมองเสียใจจากการสูญเสียไปได้เป็นเวลาหลายปี
delayed grief reaction
ปฏิกิริยาเศร้าโศกที่ล่าช้า บุคคลไม่สามารถแสดงความเศร้าโศกออกมาได้ หรือเมื่อต้องเผชิญความสูญเสียจะมีการแสดงออกในช่วงที่มีการสูญเสียไม่มากพอ ทั้งในด้านพฤติกรรมและอารมณ์ ทำให้กระบวนการเศร้าโศกไม่เริ่มต้นหรือไม่สิ้นสุด ทำให้อาการเศร้าโศก อาจรุนแรงมากถ้าเกิดการกระตุ้น จากการสูญเสียในคราวต่อมา หรือการเห็นการสูญเสียของผูอื่น
มักใช้กลไกทางจิตชนิดปฏิเสธความจริง
grief reaction เป็นปฏิกิริยาเศร้าโศกที่เกินจริง
บุคคลที่มีการเศร้าโศกที่ถือว่ามีพยาธิสภาพทางจิตใจ
อาการและอาการแสดง
• แยกตัว และขาดทักษะในการสร้างสัมพันธภาพกับบุคคลอื่น ๆ
• ไม่สนใจตนเองและสิ่งแวดล้อม ไม่อยากทำอะไร แม้แต่กิจกรรมที่เคยชอบ
• ไม่มีเป้าหมายในการดำเนินชีวิต รู้สึกหมดหวัง และสิ้นหวังในชีวิต
• มีภาวะซึมเศร้าและความคิดฆ่าตัวตาย
บุคคลที่มีการเศร้าโศกได้นานเกินกว่า 1 ปี