Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาของมารดา ในระยะหลังคลอด, นางสาวผกาวรรณ มังสา…
การเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาของมารดา
ในระยะหลังคลอด
ระบบอวัยวะสืบพันธ์ุ
มดลูก
ลดขนาดลงทันทีที่เด็กและรกคลอด
ระดับมดลูกจะอยู่ต่ำกว่าสะดือหรือต่ำกว่าเล็กน้อย
ภายหลัง 24 ชั่วโมง จะลอยสูงขึ้นเหนือสะดือเล็กน้อย
จำนวนเซลล์กล้ามเนื้อไม่เปลี่ยนแปลง แต่ขนาดเซลล์
จะลดลง 90% จะกลับสู่สภาพเดิม 2-3 week หลังคลอด
อาการปวดมดลูก
ปวดไม่เกิน 72 hr
อาจรุนแรงเมื่อให้บุตรดูดนม
สาเหตุจากการหดรัดตัวและคลายตัวของกล้ามเนื้อมดลูก
ฝีเย็บ
มีอาการปวด บวม อาจมีเลือดออกใต้ผิวหนัง
Labia Minora และ Labia Majera เหี่ยวและอ่อนนุ่ม
การยืดขยายของกล้ามเนื้อฝีเย็บแต่ช่องทางคลอดแคบ
อาจเกิดภาวะ Rectocele หรือ Cystocele ขึ้น
ส่วนมารดาที่ได้รับการตัดและได้รับการเย็บซ่อมแซมฝีเย็บ
จะหายเป็นปกติใน 5-7 วัน
ผนังหน้าท้อง
มีการยืดขยายของกล้ามเนื้อมากเกินไปจากเด็กตัวโต
หลังจากเด็กคลอดแล้ว กล้ามเนื้อจะหดรัดตัวแต่ยังแยกจากกัน
จึงพยายามจะกลับสภาพเดิมโดยการบริหารร่างกาย
อ่อนนุ่มและปวกเปียกในวันแรกๆ จะไม่สามารถพยุงอวัยวะภายในได้เต็มที่
ใช้เวลากลับสู่สภาพเดิม 2-3 เดือน
แต่ริ้วรอยหลังคลอดไม่หาย แต่สีจะจางลงเป็นสีเงิน
เยื่อบุโพรงมดลูก
และบริเวณรกเกาะ
หลังจากรกและเยื่อหุ้มเด็กคลอดจะเกิดรอยแผลบริเวณระลอกตัว
การหายเกิดจากเยื่อบุมดลูกเจริญขึ้นมาแทนที่ Decidua basalis
Decidua ที่เหลือจะแบ่งตัวเป็น 2 ชั้น ชั้นผิวใน หลุดเป็นส่วนของน้ำคาวปลา
ชั้นใน อยู่ติดกับเนื้อมดลูก จะมีต่อมเยื่อบุโพรงมดลูกงอกขึ้นมาใหม่
เต้านม
หัวน้ำนม
เริ่มผลิต 2-3 วันหลังคลอด สีเหลืองข้น
จะมีโปรตีน วิตามินที่ละลายในไขมัน เกลือแร่ สังกะสี Na K Cl
น้ำนมระยะปรับเปลี่ยน
เริ่มวันที่ 7-10 หลังคลอด ไปถึง 2 week
ปริมาณอิมมูโนโกลบูลิน โปรตีน วิตามินที่ละลายในไขมันลดต่ำลง
ปริมาณน้ำตาลแลคโตส ไขมัน วิตามินที่ละลายในน้ำ พลังงานเพิ่มขึ้น
น้ำนมแม่
เริ่มหลัง 2 week ไปแล้ว ประกอบด้วยน้ำ 87%
โดยร่างกายจะนำไปใช้ในกระบวนการเผาผลาญต่างๆ
ของเสียมาจากนมแม่จะต้องขับถ่ายทางไต
ปากมดลูก
บวมหลายวัน มีรอยช้ำ และมีรอยฉีกขาด เสี่ยงติดเชื้อได้ง่าย
18 hr หลังคลอด จะสั้นลง แข็งขึ้น และกลับสู่รูปเดิม
2-3 วันหลังคลอด ยืดขยายง่ายอาจสอดนิ้วเข้าได้ 2 นิ้ว
1 week หลังคลอด จะกลับสู่สภาพเดิมเกือบสมบูรณ์ แต่ไม่เหมือนก่อนตั้งครรภ์
น้ำคาวปลา
Lochia rubra
2-3 วัน สีแดงคล้ำและข้น
Lochia serosa
วันที่ 4-9 สีจะจางลงเป็นสีชมพูจนถึงสีน้ำตาลค่อนข้างเหลือง
มีมูกปน ออกมาเห็นเป็นสีจางๆ ยืดได้
Lochia alba
วันที่ 10 ค่อยๆน้อยลงเป็นสีเหลืองจางๆหรือสีขาว
การมีประจำเดือน
เลี้ยงทารกด้วยนมตนเองนาน 3 เดือน ไข่ตกครั้งแรก weekที่ 17
6 เดือน ไข่ตกครั้งแรก weekที่ 28 และเริ่มมีเมื่อ weekที่ 30-36
ไม่ได้เลี้ยงทารกด้วยนมตนเองไข่ตกครั้งแรก
เมื่อ weekที่ 10-11 และเริ่มมีเมื่อ weekที่ 7-9
ระบบผิวหนังและอุณหภูมิ
ผิวหนัง
ฝ้าที่ใบหน้าจะหายไปแต่สีลานนมเข้ม
เส้นกลางหน้าท้องและรอยแตก
ผนังหน้าท้อง ไม่หายแต่สีจางลง
หลังคลอดร่างกายขับน้ำ ทำให้มารดามีเหงื่อออก
อุณหภูมิ
Milk fever
จากการคัดนม วันที่ 3-4
T สูงกว่า 38 °C จะหายใน 24 hr
Febile fever
จากการติดเชื้อระบบใดระบบหนึ่ง
T สูงกว่า 38 °C ติดกัน 2 วันหรือมากกว่า
Reactionary fever
จากการขาดน้ำ เสียพลังงาน ชอกช้ำ
T ประมาณ 37.8 °C ไม่เกิน 38 °C ปกติใน 24 hr
ระบบภูมิคุ้มกัน
20% มารดาเลือดหมู O ทารกที่มีเลือดหมู่ A,B,AB 5%
มีภาวะเลือดไม่เข้ากันได้ ทารกจะแสดงอาการตัวเหลืองใน 24 hr ต้องส่องไฟรักษา
ภูมิคุ้มกันต่อปฏิกิริยาการไม่เข้ากันของหมู่เลือด
ช่วงเจ็บครรภ์และคลอด เป็นช่วงเลือดส่งจากมารดาไปสู่ทารกมารดา Rh- เพราะจะได้รับ Rh+ จากทารก
ระบบจะสร้างแอนติบอดีเพื่อตอบสนองต่อแอนติเจน ที่เป็นสิ่งแปลกปลอม
อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนในการตั้งครรภ์ครั้งต่อไป
ระบบหายใจ
ขนาดช่องท้องและทรวงอกเปลี่ยนรวดเร็ว
ในระยะหลังคลอด ความจุภายในช่องท้องและกะบังลมลดลง
ปอดขยายดีขึ้น การหายใจจึงสะดวกขึ้น
ระบบปัสสาวะ
ท่อและกระเพาะปัสสาวะ
กระเพาะปัสสาวะบวม บวมและช้ำรอบๆ
รูเปิดของท่อปัสสาวะ
ความตึงตัวลดลง ทำให้มีความจุมากขึ้น
แต่ความไวต่อแรงกดจะลดลง
การทำงานของไต
ภายใน 12 hr จะถ่ายปัสสาวะมากและเหงื่อออกมาก
ทำให้มารดาน้ำหนักลดลง ประมาณ 2-2.5 kg และลดลงต่อเนื่อง
Glucosuria ที่เกิดขึ้นจะหายไป
Creatinine clearance จะปกติปลาย week แรก
Blood urea nitrogen เพิ่มขึ้น
ระบบหัวใจและหลอดเลือด
ระบบเลือด
ปริมาณลดลงทันที จากระดับ 5-6 ลิตร ในระยะก่อนคลอด
จนถึงระดับ 4 ลิตร เท่าคนปกติใน 4 week
การไหลเวียน 2-3 วันแรกจะเพิ่มขึ้น 15-30% จากการไหลกลับ
3 วันหลังคลอด Hct สูงเล็กน้อยและกลับสู่ปกติใน 4-5 week
WBC สูงขึ้นถึง 20,000-25,000 c/ml
สารในการแข็งตัวของเลือดสูงอยู่ และลดลงปกติใน 2-3 week
ความดันเลือดและชีพจร
การเปลี่ยนของปริมาณเลือดทำให้ชีพจรต่ำกว่าปกติ
เฉลี่ย ประมาณ 50-70 /min
ชีพจรลดลงเป็นผลมาจาก เลือดที่เคยไปเลี้ยงรกไหลกลับสู่หัวใจ
และถ่ายปัสสาวะมากขึ้น ทำให้เลือดและความดันต่ำลง
ทำให้ชีพจรค่อยๆเพิ่มขึ้นจนปกติใน 7-10 วัน
ในระยะคลอดความดันต่ำลงจากกว่าเสียเลือด
ทำให้มีเลือดน้อยเกินไป (Hypovolemia)
จากการขยายตัวของหลอดเลือด
จากฮอร์โมนเอสโตรเจน
จากการลดลงของความดันในช่องท้อง
จากการเสียเลือด ต้องใช้เวลา 2-3 hr ปรับให้สมดุล
ระบบกล้ามเนื้อและกระดูก
กล้ามเนื้อ
กล้ามเนื้อหน้าท้องจะนุ่มไม่แข็งแรง
และจะหนาบริเวณกลางท้อง
ช่วง 1-2 วัน จะเมื่อยและปวดกล้ามเนื้อ
โดยเฉพาะแขน ขา คอ และไหล่
ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนต่ำลง
ทำให้ความตึงของกล้ามเนื้อเริ่มลดลง
จากการออกแรงเบ่งขณะคลอดและหลังคลอดรก
โครงกระดูก
ตั้งครรภ์ ฮอร์โมน relaxin ทำให้ข้อต่อมีการยืดขยาย
หลังคลอด 2-3 วัน ฮอร์โมน relaxin ค่อยๆลดลง
แต่ยังคงปวดสะโพกและข้อต่อ มีผลต่อการเคลื่อนไหวและการบริหารร่างกาย
ข้อต่อจะแข็งแรงขึ้นจนปกติใช้เวลาประมาณ 6-8 week
ระบบทางเดินอาหาร
2-3 วันแรก มักอยากอาหารและดื่มน้ำมาก
เพราะเสียน้ำระหว่างคลอดและหลังคลอดระยะแรก
มีแนวโน้มท้องผูก
เสียแรงดันในช่องท้องทันที
กล้ามเนื้อหน้าท้องหย่อนตัว
การเคลื่อนไหวลำไส้ช้า
ระบบต่อมไร้ท่อ
ฮอร์โมนของรก
ประมาณ 3 วันหลังคลอด จะไม่สามารถตรวจ
พบโปรเจสเตอโรนในซีรัมได้ เริ่มผลิตอีกเมื่อไข่ตกครั้งแรกหลังคลอด
ภายใน 3 hr หลังคลอดเอสโตรเจนลดลง 10% ของค่าในระยะตั้งครรภ์
ประมาณวันที่ 4 เอสโตรเจนลดลงและตรวจไม่พบในปัสสาวะ
ประมาณ 19-20 วัน มารดาเลี้ยงบุตรด้วยนม
เอสโตรเจนจะกลับสู่ปกติค่อนข้างช้า
ฮอร์โมนในรกลดลงเร็วใน 24 hr ตรวจหา HCS ไม่ได้
ปลาย week หลังคลอด ระดับ HCG ลดลง
ทดสอบจากปัสสาวะได้ผลลบ
ฮอร์โมนจากต่อมใต้สมอง
ระดับ FSH และ LH จะต่ำมาก ในวันที่ 10-12
ไม่ได้เลี้ยงบุตรด้วยนมตนเอง โพรแลคตินจะลดลง
จนเท่าก่อนตั้งครรภ์ ภายใน 2 week
บุตรดูดนมจะทำให้โพรแลคตินเพิ่มขึ้น
จะสูงมากน้อยขึ้นกับจำนวนครั้งที่ให้ดูดนมในแต่ละวัน
โพรแลคตินจะปกติภายใน 6 เดือน ดูดเพียง 1-3 ครั้งต่อวัน
และสูงกว่า 1 ปี ถ้าดูดสม่ำเสมอมากกว่า 6 ครั้งต่อวัน
ฮอร์โมนเกี่ยวกับการเจริญเติบโต
ต่ำตั้งแต่ตั้งครรภ์ตอนท้ายไปถึง 1 week หลังคลอด
ประกอบกับการลดลงอย่างเร็วของ HPL เอสโตรเจน
คอร์ติซอล เอนไซม์จากรก และน้ำย่อย insulinase
นางสาวผกาวรรณ มังสา เลขที่ 54 ห้อง B
รหัส 61123301110
ที่มา : เพ็ชรัตน์ เตชาทวีวรรณ. (2558). การพยาบาลมาดาระยะหลังคลอด. (ออนไลน์).
สืบค้นจาก
http://www.elnurse.ssru.ac.th/petcharat_te/pluginfile.php/58/block_html/content/PP%2827122556%29.pdf