Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลเด็กที่มีปัญหาระบบทางเดินหายใจ - Coggle Diagram
การพยาบาลเด็กที่มีปัญหาระบบทางเดินหายใจ
กล่องเสียงและหลอดลมอักเสบเฉียบพลัน
viral croup
เป็นโรคที่เกิดจาก การติดเชื้อของทางเดินหายใจได้แก่
ไวรัส และแบคทีเรีย
พยาธิสภาพ
โดยเฉพาะที่ตำแหน่ง ใต้กล่องเสียง (Subglottic region
ส่งผลทำให้เกิดภาวะอุดกั้นของทางเดินหายใจส่วนบนแบบ
เฉียบพลัน
มีการอักเสบและบวมของกล่อง
เสียง หลอดคอ และหลอดลม
อาการที่พบ
ไข้ เจ็บคอ หายใจลำบาก Dyspnea
ผู้ป่วยจะไอเสียงก้อง (barking cough),
มีเสียงแหบ (hoarseness),
หายใจได้ยินเสียง stridor ส่วนใหญ่อาการจะไม่รุนแรงและหายได้เอง
ยกเว้นบางรายที่มีอาการรุนแรงจนเกิดภาวะพร่องออกซิเจนเฉียบพลัน
อาการจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว มักจะไม่ตอบสนองต่อการพ่นยาทั่วไป
◼ ส่วนใหญ่จะพ่น Adrenaline
◼ ต้องใส่ Endotracheal tube
Tonsilitis / Pharyngitis
สาเหตุ การติดเชื้อ แบคที่เรีย ไวรัส เช่น Beta Hemolyticstreptococcus gr. A
อาการ
ไข้ ปวดศีรษะ ไอ เจ็บคอ ในรายที่มีตุ่มใสหรือแผลตื้นที่คอ
หอย หรือเพดานปาก
สาเหตุจะเกิดจาก Coxsackie Virus เรียกว่า Herpangina
คำแนะนำที่ส าคัญคือ ให้กินยา Antibiotic ให้ครบ 10 วัน เพื่อป้องกัน ไข้รูห์มาติค และหัวใจรูห์มาติค หรือกรวยไตอักเสษ
การผ่าตัดต่อมทอนซิล(tonsillectomy)
การติดเชื้อเรื้อรัง (chronic tonsillitis) หรือเป็นๆหายๆ (recurrent acute
tonsillitis)
อาการ
มีไข้, เจ็บคอ, เจ็บคอมากเวลากลืนหรือกลืนลำบาก อย่างเรื้อรังหรือเป็นๆ
หายๆ จนรบกวนคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย
หรือมีการอุดกั้นทางเดินหายใจส่วนบน ทำให้เกิดอาการนอนกรน และ/
หรือมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
การพยาบาลหลังผ่าตัด
หลังผ่าตัดควรให้เด็กนอนตะแคงไปด้านใดด้านหนึ่ง เพื่อสะดวกต่อการ
ระบายเสมหะ มีคั่งอยู่ในปากและในคอ
สังเกตอาการและการเปลี่ยนแปลงอย่างใกล้ชิด
เมื่อเด็กรู้ตัวดี จัดให้เด็กอยู่ในท่านั่ง 1-2 ชั่วโมง ให้อมน้ำแข็งก้อนเล็กๆ ในรายที่ปวดแผลผ่าตัดให้ใช้กระเป๋าน้ าแข็งวางรอบคอ ถ้าปวดมากให้ยาแก้ปวด
ผู้ป่วยส่วนใหญ่สามารถกลับบ้านได้หลังผ่าตัด 24-48 ชั่วโมง และไม่มี
ภาวะแทรกซ้อน สามารถรับประทานน้ าและอาหาร ได้
ผู้ป่วยจะมีแผลที่ผนังในคอทั้งสองข้าง แนะนำให้รับประทานอาหารอ่อนที่ค่อนข้างเย็น
อมและประคบน้ าแข็งบ่อยๆ
หลังการผ่าตัด 1-2 วันแรก เพดานอ่อน หรือผนังในคออาจบวมมากขึ้นได้
ทำให้หายใจอึดอัด ไม่สะดวก ควรนอนศีรษะสูง โดยใช้หมอนหนุน
หลีกเลี่ยงการแปรงฟันเข้าไปในช่องปากลึกเกินไป การออกแรงมาก การ
เล่นกีฬาที่หักโหม หลังผ่าตัดภายใน 24-48 ชั่วโมงแรก
การประคบหรืออมน้ าแข็งควรประคบหรืออมสลับกับพักประมาณ 10
นาที แล้วจึงเอาออกประมาณ 10 นาที
ควรรับประทานอาหารอ่อน
ไซนัสอักเสบ(Sinusitis)
สาเหตุเกิดจากการติดเชื้อ เชื้อไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา
ระยะของโรค
Acute sinusitis ระยะของโรคไม่เกิน 12 สัปดาห์
Chronic sinusitis อาการจะต่อเนื่องเกิน 12 สัปดาห์
อาการ
มีไข้สูงมากกว่า 39 ปวดศีรษะ
ปวดเมื่อยตามตัว มีน้ำมูกไหล ไอ
ในรายที่ติดเชื้อแบคทีเรีย
อาการมักจะนานมากกว่า 10 วัน และมีอาการ
รุนแรง โดยมีน้ ามูกใสหรือข้นเขียวเป็นหนอง
อาการ Acute จะรุนแรงกว่า Chronic
การตรวจ
การวินิจฉัย X-ray paranasal sinus
CT scan ได้ผลดีกว่าวิธีอื่น
การตรวจด้วยการส่องไฟผ่าน (Transilumination)
การดูแลรักษา
ให้ยา antibiotic ตามแผนการรักษา
ให้ยา paracetamal เพื่อลดไข้ และบรรเทาอาการปวดศีรษะ
ให้ยาแก้แพ้ ในรายที่ไซนัสอักเสบเรื้อรังที่มีสาเหตุชักนำมาจากโรคภูมิแพ้
ไม่แนะนำให้ใช้ยาแก้แพ้ในผู้ป่วยที่เป็นไซนัสอักเสบ
แบบเฉียบพลัน เพราะจะท าให้จมูกและไซนัสแห้ง
ยาแก้แพ้จะช่วยลดอาการจาม น้ ามูกไหล และเยื่อบุจมูกบวม
ให้ยาSteroid เพื่อลดอาการบวม
การล้างจมุก
การล้างจมูกคือ การทำความสะอาดโพรงจมูก
ป้องกันการลุกลามของเชื้อโรคจากจมูกและไซนัสไปสู่ปอด ช่วยลดจำนวนเชื้อโรค
ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้อีกด้วย
การล้างจมูกก่อนใช้ยาพ่นจมูก จะทำให้ยาพ่นจมูกมีประสิทธิภาพดีขึ้น
น้ าที่ใช้ล้างน้ำเกลือความเข้มข้น 0.9% NSS
หอบหืด Asthma
Asthma เป็นภาวะที่มีการอักเสบเรื้อรังของหลอดลม (Chronic
airway inflammation
สิ่งกระตุ้นทำให้เกิดพยาธิสภาพ
ทำให้หลอดลมหดเกร็งตัว(Brochospasm)
ทำให้หลอดลมตีบแคบลง (Stenosis) เยื่อบุภายในหลอดลมบวม
มีการสร้างเมือกเหนียวจ านวนมาก (Hypersecretion)
การดูแล
การดูแลจึงต้องให้ผู้ป่วยได้รับยาขยายหลอดลม ได้รับออกซิเจน ให้พัก
เพื่อลด activity
ได้ยาลดอาการบวม เช่น Dexa ซึ่งเป็นยา Steroid
ในรายที่มีเสมหะ จะไม่ใช้วิธีการเคาะปอดในเด็กที่เป็น Asthma ที่กำลัง
หอบ
อาการโรคหอบหืด Asthma
มักเริ่มต้นด้วยอาการ หวัด ไอ มีเสมหะ ถ้าไอมากขึ้นเรื่อยๆ ก็มักจะมีเสียง
Wheezing ในช่วงหายใจออก
บางครั้งการเกร็งตัวของหลอดลมเกิดขึ้นไม่มากนัก
หลังจากที่เด็กได้อาเจียนเอาเสมหะเหนียวๆออกมา
การรักษาหอบหืด
ยาขยายหลอดลม ( Relievers ) มีทั้งชนิดพ่น และชนิด
รับประทาน
ยาชนิดพ่นจะให้ผลได้เร็ว ช่วยให้หายใจโล่งขึ้น เพราะไปขยาย
กล้ามเนื้อเล็กๆ
บางรายอาจได้รับยาพ่นกลุ่ม Corticosteroids ต้องดูแลให้บ้วนปากหลังพ่นยาทุกครั้งเพื่อป้องกันเชื้อราในปาก
ยาลดการบวม
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง
ควันบุหรี่
ตัวไรฝุ่น
ตุ๊กตามีขน
หมอน ซักผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน สัปดาห์ละ 1ครั้ง
ไม่นำสัตวืเลี้ยงเข้าห้อง
การออกก าลังกาย ถ้าผู้ป่วยควบคุมโรคหอบหืดได้ดี
อากาศเย็น
การใช้ baby haler
Baby haler ต้องล้างท าความสะอาดบ่อยๆ แต่ไม่จ าเป็นต้องทุกครั้งหลัง
ใช้ ล้างด้วยน้ ายาล้างจานตากให้แห้ง
หลังล้างทำความสะอาด ต้องสอนผู้ป่วย
ให้พ่นยาทิ้ง 1 ครั้ง เพื่อให้ยาจับผนัง ของ Spacer ก่อน เพื่อให้การพ่นครั้งต่อๆไป ยาก็จะเข้าผู้ป่วย
หลอดลมอักเสบ( Bronchitis)
หลอดลมฝอยอักเสบ(Bronchiolitis)
ปัญหาติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนล่างที่พบบ่อยในเด็กเล็ก
เกิดขึ้นเนื่องจากมีการอักเสษและการอุดกั้นของหลอดลม
อาการ
ไข้หวัด น้ำมูกใส จาม เบื่ออาหาร
ต่อมาไอเป็นชุดๆ ร้องกวน หายใจเร็ว หอบ หายใจมีปีกจมุกบาน ดูดนม หรือนเำได้น้อย หรือไม่ได้เลย
การรักษา
การรักษา ตามอาการ ให้ยาลดไข้ ยาปฏิชีวนะ ยาต้านการอักเสบ (Corticosteroid ) ยาขยายหลอดลม
การดูแลให้เด็กได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ ได่รับน้ำ ดุแลไข้
ดูแลปัญหาการติดเชื้อ ดูแลเสริมสร้างภูมิต้านทานให้อาหารที่มีประโยชน์
เชื้อที่พบบ่อย Respiratory syncytial virus : RSV
เด็กที่ไม่กินนมแม่
พบในเด็กเล็อกมากกว่าเด็กโต
ปอดบวม Pneumonia
สาเหตุ สำลักสิ่งแปลกปลอม ติดเชื้อ แบคทีเรีย ไวรัส
อาการ ไข้ ไอ หอบ ดูดน้ำดูดนมน้อยลง ซึม
การรักษา
ดูแลให้ได้รับน้ำอย่างเพียงพอ เป็นเรื่องส าคัญเพื่อให้เสมหะอ่อนตัวขับ
ออกได้ง่าย ช่วยลดไข้
ดูแลเรื่องไข้ Clear airway suction เพื่อให้การแลกเปลี่ยนออกซิเจน
เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดูแลแก้ไขปัญหาพร่องออกซิเจน ให้ยาขยายหลอดลม ยาขับเสมหะ
ยาฆ่าเชื้อ
การพยาบาล
ปัญหาการอุดกั้นทางเดินหายใจเป็นปัญหาสำคัญจำเป็นต้องดูแลแก้ไข
เด็กโตต้องสอนการไออย่างถูกวิธี กระตุ้นให้ดื่มน้ำมากๆ
ในรายที่เสมหะอยู่ลึกให้ Postural drainage โดยการเคาะปอด และ
Suction เพื่อป้องกันภาวะปอดแฟบ (Atelectasis)
การท า Postural drainage
จัดให้ผู้ป่วยนอนศีรษะสูง หรือนอนทับข้างที่มีพยาธิสภาพเพื่อให้ปอดข้าง
ที่ดีขยายตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอตามแผนการรักษา