Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลเด็กที่มีปัญหาระบบทางเดินอาหาร, ภาวะทุพโภชนาการ, ภาวะทุพโภชนาการ…
การพยาบาลเด็กที่มีปัญหาระบบทางเดินอาหาร
1.อุจจาระร่วง(Diarrhea)
สาเหตุ
เกิดจากการติดเชื้อ
แบคทีเรีย ไวรัส โปรโตซัว พยาธิ
โรคบิด(bacillar dysentery,amoebic dysentery)
การดูดซึมบกพร่อง
อหิวาตกโรค
อาหารเป็นพิษ
เนื่องจากมีการปนเปื้อนของสารพิษหรือการติดเชื้อ
อาการและอาการแสดง
มีไข้ อาเจียน
ถ่ายอุจจาระเป็นน้ำ เหลว
เหลวเป็นมูกอาจมีเลือดปน
ปวดท้อง
การรักษา
การซักประวัติ
การรับประทานอาหาร ลักษณะไข้ ลักษณะอุจจาระ
การรักษาภาวะขาดน้ำ
ภาวะขาดน้ำและอิเล็กโตรไลท์
โดยอาจให้ทางปากหรือหลอดเลือดดำ ขึ้นกับลักษณะอาการของการขาดน้ำที่เกิดขึ้น
ขาดน้ำเล็กน้อย
ให้รับประทาน ORS ในปริมาณ 50 มล./กก. ใน 4 ชม.
ขาดน้ำปานกลาง
ให้รับประทาน ORS ในปริมาณ 100 มล./กก. ใน 4 ชม.
ขาดน้ำรุนแรง
ให้น้ำเกลือทางหลอดเลือด เช่น ริงเกอร์แลคเตส 20 มล./กก./ชม ใน2 ชม.แรก รู้สึกตัวคืนสู่ปกติให้ ORS ในปริมาตร 50-100 มล./กก. 4 ชม.
พิจารณาให้นมพร่องน้ำตาลแลคโทสในรายที่เด็กขาด
ป้องกันไม่ให้เกิดภาวะขาดน้ำ
กำจัดเชื้อออกจากลำไส้
ในรายที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ให้ยาปฏิชีวนะชนิดที่ฆ่าเชื้อได้ เช่น Tetracyclin และ Chloramphenical ให้กินหรือฉีดก็ได้ผลเท่ากันสำหรับยา Erythomycin,, Cotrimoxazole ต้องให้นานอย่างน้อย 4 วัน
กิจกรรมการพยาบาล
บันทึกปริมาณสารน้ำเข้า-ออกจากร่างกาย
ปัสสาวะ อุจจาระ อาเจียน ถ้ารุนแรงอาจต้องบันทึกทุกชั่วโมง เพื่อประเมินนำเข้าและออกจากร่างกาย
ดูแลให้ได้รับนมแม่
น้ำต้มสุก นมผสมเพื่อชดเชยหรือแก้ไขภาวะขาดน้ำ
ดูแลติดตามการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำในรายที่ขาดน้ำรุนแรงและอาเจียน
โดยให้ปริมาณเท่ากับปริมาณอุจจาระหรืออาเจียนที่สูญเสียออกมาหรือให้ปริมาณ 10 ml / kg เพื่อเป็นการทดแทนส่วนที่เสียไปและป้องกันไม่ให้เกิดภาวะขาดน้ำขึ้นอีก
ดูแลให้ทารกได้รับ ORS
เพื่อแก้ไขภาวะขาดน้ำและสมดุลอิเล็กโตรไลท์ที่สูญเสียไปกับอุจจาระ
สังเกตอาการ
ของภาวะขาดน้ำโดยดูจากความยืดหยุ่นของผิวหนังความชุ่มชื้นของเยื่อบุและริมฝีปากและกระหม่อมปุ่ม
วัดสัญญาณชีพ
ทุก 4 ชั่วโมงหากในรายที่ขาดน้ำปานกลางถึงรุนแรงให้บันทึกทุก 1-2 ชั่วโมงเพื่อป้องกันการเกิดความผิดปกติขึ้น
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
เสียสมดุลของสารน้ำและอิเล็กโตรไลท์
จากการสูญเสียทางอุจจาระและอาเจียนต่อ เนื่องจากการดูดซึมน้ำของลำไส้ขาดประสิทธิภาพ
อาจได้รับอาหารทดแทนไม่เพียงพอ
เนื่องจากระบบทางเดินอาหารทำหน้าที่บกพร่องและรับประทานได้น้อย
อาจเกิดการแพร่กระจายเชื้อ
เนื่องจากโรคติดต่อได้ง่ายทางอาหารและน้ำ
มีการระคายเคืองบริเวณทวารหนัก*
จากการสัมผัสความเป็นด่างจากการถ่ายอุจจาระบ่อยครั้ง
ภาวะทุพโภชนาการ
Malnutrition
สาเหตุ
ภาวะที่ทารกได้รับอาหารเสริมไม่พอ
ความบกพร่องของการย่อยและการดูดซึมอาหาร
Kwashiokor ขาดโปรตีนมาก พบในเด็กที่มีอายุมากกว่า 1 ปี
Marasmus โรคขาดแคลอรี่อย่างมาก พบได้ในเด็กที่อายุ ต่ำกว่า 1 ปีมีการเจริญเติบโตช้า ผอมมาก ผมบาง ตาลึกโหล
การวินิจฉัย
การตรวจร่างกาย
ตรวจดูความผิดปกติบางอย่างของร่างกาย เช่น ผม ผิวหนัง หรือตุ่มของลิ้น
การตรวจเลือด
สามารถใช้ในการประเมินภาวะนี้ เช่น Albumin Tranferrin โปรตีนตัวพาไทรอกซิน และโปรตีนตัวพาเรตินอล เป็นต้น
การรักษา
ดูแลให้ได้รับสารอาหารคบตามหลักโภชนาการ
รักษาภาวะการติดเชื้อ ต้องให้ยา และควบคุมรักษาโรคได้
การให้วิตามิน เเละเเร่ธาตุ ในส่วนที่เด็กขาด
การพยาบาล
ให้อาหารที่เหมาะสมตามภาวะของโรค
ตรวจเเละชั่งน้ำหนักผู้ป่วยทุกวัน ทำในเวลาเดียวกัน
ตรวจวัดสัญญาณชีพทุก 4 ชม. เพื่อประเมินภาวะติดเชื้อ
ให้คำแนะนำ อาหารเสริมพัฒนาการของเด็กให้กับผู้ปกครอง
4.หลอดอาหารตีบตันเเละมีช่องทางติดต่อระหว่างหลอดลมกับหลอดอาหาร
อาการทางคลินิก
มีน้ำลายมาก ไอ เมื่อดูดเอาออกทิ้ง จะมีขึ้นมาอีกในเวลาไม่นาน
สำลักง่าย เมื่อให้ดูดน้ำ ทารกจะสำรอกทันที
ท้องอืด หายใจลำบาก เขียว และอาจหยุดหายใจได้
มักมีปอดอักเสบร่วมด้วยเสมอ เนื่องจากสำลักเอาน้ำลายหรือน้ำเข้าไป หรือของเหลวในกระเพาะอาหารไหลย้อนเข้าไปในหลอดอาหารผ่านรูติดต่อไปยังหลอดลมและปอด
การพยาบาล
ในระยะก่อนผ่าตัด
1. ดูแลให้ได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ
ให้อยู่ในตู้อบ มีความชื้นเพียงพอ , NPO
ดูแลให้ได้รับออกซิเจน , ประเมินอาการขาดออกซิเจน
จัดท่านอน ป้องกันการสูดสำลัก หรือป้องกันของเหลวในกระเพาะอาหารไหลย้อนเข้าไปในหลอดลม แล้วแต่แบบของความผิดปกติ
ดูดเสมหะ , น้ำลายบ่อยๆ
2. ดูแลให้ได้รับสารน้ำและสารอาหารอย่างเพียงพอทางหลอดเลือดดำ และ/หรือให้นมทางสายยาง (gastrostomy tube หรือ N-G tube) ให้อย่างช้าๆ ยกศีรษะสูง
3. ประคับประคองด้านจิตใจ อารมณ์เด็กป่วยและบิดามารดา
ในระยะหลังการผ่าตัด
1. ดูแลให้ได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ
ให้อยู่ในตู้อบ ให้ออกซิเจนที่มีความชื้นสูง ประเมินอาการขาดออกซิเจน
ดูดน้ำลายและเสมหะให้บ่อยๆ อย่างนุ่มนวล
2. ป้องกันการแยกของแผลที่เย็บปิดรูติดต่อ หรือแผลที่ต่อหลอดอาหาร
นอนยกศีรษะสูง 45 ํ- 60 ํ ไม่ให้เงยหน้ามากเกินไป [hyperextension]
ดูดเสมหะอย่างนุ่มนวล ใส่สายยางไม่ลึกเกินกว่าที่แพทย์กำหนด ระมัดระวังการทำกายภาพบำบัดทรวงอก
รายที่แพทย์คาสายยางไม่ว่าจะเป็นชนิดใด พยายามอย่าให้ หลุด ถ้าหลุดรีบรายงานแพทย์ทราบ ไม่ใส่กลับเข้าไปใหม่เอง
ถ้าเริ่มให้น้ำหรือนมทางสายยาง ต้องให้แบบช้าๆ ให้เสร็จแล้ว แขวนปลาย tube อยู่สูงกว่าลำตัวและเปิดปลาย tubeไว้
ขณะให้น้ำหรือนม ต้องยกศีรษะสูงเสมอ
3. ดูแลให้ได้รับสารน้ำและสารอาหารอย่างเพียงพอ
ให้ทางหลอดเลือดดำในระยะแรกๆ ต่อมาจึงให้ทางสายยาง
เริ่มให้ทางปาก ประมาณวันที่ 8-10 หลังผ่าตัด ให้ร่วมกับการให้ทางสายยางในระยะแรก และพิจารณาให้ทางปากทั้งหมดประมาณปลายสัปดาห์ที่ 2-3 หลังผ่าตัด
4. ป้องกันการติดเชื้อของแผลผ่าตัดที่ทรวงอก
5. ประคับประคองจิตใจของเด็กป่วย เช่น ลดความเจ็บปวดหลังผ่าตัด ตอบสนองความต้องการพื้นฐาน โดยเฉพาะความต้องการดูด และจิตใจของบิดามารดา
การรักษา
การทำการผ่าตัดหลอดอาหาร หรือปิดทางต่อระหว่างหลอดอาหารกับหลอดลม
สาเหตุ
ไม่ทราบเเน่ชัด เชื่อว่าเกิดจากพันธุกรรมหรือสิ่งแวดล้อม เช่น การติดเชื้อ โดยทั่วไปพบร่วมกับความพิการของอวัยวะอื่น 40% มีความผิดปกติของอวัยวะ
1.
โรคหัวใจ
25% เช่น PDA VSD และ ASD
ความผิดปกติของทางเดินอาหาร
15% เช่น Imperforate anus, Duodenal Atresia
โรคขาดวิตามินบี 1
การรักษาขาดวิตามินบี1
ในรายที่มีอาการหัวใจล้มเหลว ฉีดเข้าหลอดเลือดดำแล้วตามด้วยวิตามินบี1 เข้ากล้ามทุก 12 ชั่วโมงอีก 2-3 วัน
ให้วิตามิน บี1 ในรายที่ขาดวิตามินบี1
อาการและอาการแสดง
อาการทั่วๆไป จะมีอาการอ่อนเพลีย
มีอาการชาโดยเฉพาะทปลายเท้าทั้งสองข้างเรียก beriberi
เกิดอาการขาดอย่างเฉียบพลันผู้ป่วยจะมีอาการสับสน พูดจาวกวนไปมาเรียกระยะนี้ว่า Korsakoff's syndrome หากไม่รักษาผู้ป่วยจะมีอาการตากระตุก
สาเหตุ
เกิดจากการรับประทานวิตามินไม่เพียงพอ โดยเฉพาะรับประทานข้าวที่ผ่านการขัดสีจะทำให้วิตามินหลุดออกไป
ภาวะที่ร่างกายมีการเพิ่มเผาผลาญพลังงาน
อาจพบในภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานมากการรับประทานวิตามินบีหนึ่ง ในปริมาณซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการ
การป้องกัน
ส่งเสริมให้รับประทานข้าวซ้อมมือ
งดเว้นอาหารที่มีฤทธิ์ทำลายวิตามินบี1
งดดื่มสุรา
รับประทานให้ครบ 5 หมู่
การพยาบาล
ให้วิตามินบี1 ตามแผนการรักษา
รายที่ขาดสารอาหาร ไม่ดูดนม
กระตุ้นให้เด็กดูดนม
ชั่งน้ำหนักทุกวัน เป็นเวลาเดียวกัน
กระตุ้น ส่งเสริมให้รับประทานอาหารที่มีวิตามินบี 1 สูง