Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
เฉิน, นางสาวรัตนา โจมคำ รหัสนักศึกษา 180101129 - Coggle Diagram
เฉิน
ลักษณะอาการและอาการแสดง
พฤติกรรมรุนแรง (violence behavior)
เป็นพฤติกรรมในความพยายามหรือลงมือกระทําการทําร้าย ทําลาย ทั้งร่างกาย จิตใจ ตนเองผู้อืน
และสิ่งของ
ลักษณะทั่วไป: มีท่าทางตึงเครียด หน้านิ่งคิ้วขมวด ตาจ้องขมึงไปรอบ ๆ เพื่อหาบุคคลหรือ
สิ่งของที่เป็นเป้าหมายการทําร้าย ทําลาย
อารมณ์: แสดงความโกรธอย่างรุนแรง ขาดการควบคุมอามณ์
อาจมีภาวะสับสนมีการรับรู้เวลา สถานที่ บุคคล ไม่
ถูกต้อง
เคยมีประวัติมีพฤติกรรมรุนแรง:
พฤติกรรมการฆ่าตัวตาย (suicide behavior)
ตั้งแต่การอยากฆ่าตัวตายที่วางแผน
ล่วงหน้าเป็นเดือนเป็นปี หรือเป็นการฆ่าตัวตายหรือการทําร้ายตนเองที่เกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ
suicidal intention ความต้องการที่จะฆ่าตัวตาย
suicide committed suicide การฆ่าตัวตายสําเร็จ
suicidal ideation ความคิดอยากฆ่าตัวตาย
suicidal attempt การพยายามฆ่าตัวตาย
self-injurious or self-harm behavior พฤติกรรมที่ตั้งใจทําร้ายตนเองให้บาดเจ็บ
ภาวะสับสนเพ้อคลั่ง (delirium)
อาการสับสนเกี่ยวกับวันเวลา สถานที่ บุคคล (disorientation) กระวนกระวาย มีการเปลี่ยนแปลงของระดับความรู้สึกตัว (fluctuation of consciousness) มีควมผิดปกติของการ หลับนอน
อายุที่เริ่มมีความผิดปกติทางจิตครั้งแรกมากกว่า 45 ปี
อาการเริ่มต้นเป็นอย่างเฉียบพลัน
มีประวัติโรคทางกายรื้อรัง เช่น เบาหวาน ตับวาย ไตวาย หรืออาการป่วยทางกายนํา เช่น มีไข้ ปวดศีษะ ชีพจรเร็ว ตาพร่ามัว เห็นภาพซ้อน
มีประวัติใช้สารเสพติด
-มีประสาทหลอนทางตาหรือทางผิหนังมากกว่าอาการประสาทหลอนทางหู
-มีประวัติอาการทาระบบประสาท หมดสติ ชัก อุบัติเหตุทางสมอง
กลุ่มอาการหายใจถี่ (hyperventilation syndrome)
เป็นกลุ่มอาการที่มีการหายใจเร็วอย่างมาก ส่งผลให้เกิดภาวะคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดต่ํา และเกิดภาวะด่างจากการหายใจ ส่งผลให้เกิดอาการชารอบปากมือ เท้า เกร็ง กระสับกระส่าย ทายใจไม่อิ่ม วิงเวียน อาจหมดสติได้โดย
ลักษณะที่บ่งชี้ว่าผู้ป่วยจะอยู่ในกลุ่มอาการหายใจถี่
การมีอาการขึ้นมาทันทีทันใด
นิ้วมือจีบยืดเกร็ง (carpopedal spasm)
หายใจลึกและเร็วเป็นเวลาหลายนาทีโดยที่ไม่รู้ตัว
ชาบริเวณริมฝีปาก นิ้วมือ นิ้วเท้า
อาการแพนิค (panic attack disorders)
ผู้ป่วยจะมีอาการกลัวอย่างรุนแรง พร้อมกับมีอาการทางกายหลายอย่างร่วมด้วย อาการเกิดทันทีและเป็นมากอย่างรวดเร็วผู้ป่วยจะมีความกลัวอย่างรุนแรง และความรู้สึกเหมือนกําลังจะตาย ควบคุมตนเองไม่ได้ คิดว่าตนเองเป็นโรคร้ายแรง
ใจสั่น เหงื่อออกมาก มือสั่น ตัวสั่น หอบ หายใจไม่ออก เจ็บแน่นหน้าอก คลื่นไส้แน่นท้อง
เวียนศรีษะเป็นลม กลัวตาย ชาเจ็บตามผิวหนัง รู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ ตามตัว
อาการพิษจากสารเสพติดและอาการขาดสาร (substance intoxication and withdrawal)
อาการที่เกิดจากพิษและอาการขาดสุรา แอมเฟตา
มีน และฝิ่น
สาเหตุของของภาวะจิตเวชฉุกเฉินที่พบบ่อย
พฤติกรรมรุนแรง (violence behavior)
สาเหตุจากโรคทางจิต (functional causes) การมีอาการหลงผิดกลัวคนจะมาทําร้ายอาจจะมีพฤติกรรมการมีอาการหลงผิดกลัวคนจะมาทําร้ายอาจจะมีพฤติกรรมความเครียดจนควบคุมตนเองไม่ได้
สาเหตุจากความผิดปกติทางกาย (organic causes) เช่น พิษจากยา สาร
เสพติด อาการขาดสารเสพติด โรคลมชัก
พฤติกรรมการฆ่าตัวตาย (suicide behavior)
adjustment disorder
major depressive disorder
โรคจิตเภท (schizophrenia)
ติดสุราหรือยาเสพติด
บุคลิกภาพผิดปกติ (personality disorder)
ภาวะสับสนเพ้อคลั่ง (delirium)
central nervous system disorder ประสบอุบัติเหตุกระทบกระเทือนสมอง
metabolic disorder เช่น โรคตับวาย ไตวาย ขาดวิตามีนบี
endocrinopathy เช่น ภาวะฮอร์โมนของต่อมไทรอยด์
ยาที่เป็นสาเหตุของการเกิดอาการสับสนเพ้อคลั่ง เช่น antihistamine, atropine, thiazine,
clozapine, tricyclic antidepressant, barbiturates, benzodiazepine
systemic lines อาการพิษจากการดื่มสุราและสารเสพติด
กลุ่มอาการหายใจถี่ (hyperventilation syndrome)
แม้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดแต่ผู้ป่วยมักจะเริ่ม
ตันมีการหายใจที่ผิดปกติเมื่อถูกกระตุ้นโดยความเครียดและอารมณ์ท่วมท้น
อาการแพนิค (panic attack disorders)
พันธุกรรม
ปัจจัยทางจิตใจ เช่น การสูญเสีย
การมีจุดอ่อนทางชีวภาพแฝงอยู่ การรับประทานยาบางชนิด เช่น ยาคลายกังวล (alprazolam) และยารักษาอาการซึมเศร้า (imipramine)สามารถลดความรุนแรงของอาการ
การพยาบาลบุคคลที่มีภาวะจิตเวชฉุกเฉิน
1) การจําแนกผู้ป่วย (triage)
เป็นกระบวนการประเมินและคัดกรองภาวะสุขภาพแบบองค์รวมอย่างรวดเร็ว จากการสังเกตพฤติกรรมและอาการผิดปกติสัมภาษณ์อาการสําคัญ สาเหตุที่นํามาหน่วยฉุกเฉิน ประวัติการ
เจ็บป่วยในปัจจุบัน ในอดีต ประวัติทางกฎหมาย และปัจจัยกระตุ้นที่ก่อให้เกิดอาการในครั้งนี้โดยข้อมูลอาจมาจากผู้ป่วย ญาติ หรือ ผู้นําส่ง
ของปัญหาได้ 5 ระดับ คือ ภาวะที่ต้องได้รับการบําบัดดูแลทันทีทันใด (immediate) ภาวะฉุกเฉิน (emergency)
ภาวะรีบด่วน (urgent) ภาวะกึ่งรีบด่วน (semi-urgent) และภาวะไม่รีบด่วน (non-urgent) รวมถึงการระบุว่าความ
2) ให้การพยาบาลบําบัดดูแลระยะแรก (initial intervention)
การช่วยเหลือผู้ป่วยทันทีทันใด (immediate)ผู้ป่วยที่ถูกประเมินว่าอยู่ในภาวะคุกคามชีวิต ให้การช่วยเหลือภาวะฉุกเฉินทางร่างกายให้พ้นขีด
อันตรายก่อน
การช่วยเหลือผู้ป่วยภาวะฉุกเฉิน (emergency) ต้องให้การดูแลภายใน 10 นาทีการช่วยเหลือ สังเกดและให้การดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา ให้การรักษาเพื่อให้อาการสงบ เฝ้าระวังและมีการประเมินภาวะสุขภาพจิตและระดับความรุนแรงซ้ํา
การช่วยเหลือผู้ป่วยภาวะรีบด่วน (urgent) สังเกตและให้การดูแลผู้ป่วยอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย ๆ
ทุก 10 นาที เฝ้าระวังและตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงสภาพจิต
การช่วยเหลือผู้ป่วยภาวะกึ่งรีบด่วน (semi-urgent) ให้การดูแลภายใน 60 นาที ผู้ปวยอยู่ในภาวะ
เครียดไม่สุขสบาย (distress) หงุดหงิดง่ายแต่ไม่ก้าวร้าว
การช่วยเหลือผู้ป่วยภาวะไม่รีบด่วน (non-urgent) ให้การดูแลภายใน 120 นาที ผู้ป่วยอยู่ใน
ภาวะเครียดหรือไม่สุขสบายเรื้อรั้ง(distress) สังเกตและให้การดูแลผู้ป่วยอย่างน้อยทุกๆ 60 นาที
3) การประเมินและบําบัดต่อเนื่อง (continue with evaluation and intervention)
การสัมภาษณ์
การตรวจร่างกายซ้ํา
การตรวจสภาพจิตทั่วไป
การวินิจฉัยและการวางแผนการบําบัด
4) การจําหน่ายหรือส่งต่อผู้ป่วยไปยังหน่วยบําบัดอื่น (discharge or refer patient)
เมื่อผู้ป่วยอาการ
ดีขึ้นและมีการประเมินซ้ําแล้ว อาจพิจารณาให้ผู้ปวยกลับบ้านหรือส่งต่อไปรักษาที่หน่วยอื่น
ความหมายของภาวะจิตเวชฉุกเฉิน
จิตเวชฉุกเฉิน (emergency psychiatry) เป็นภาวะที่บุคคลมีความแปรปรวนทางด้านความคิด อารมณ์ความสัมพันธ์ทางสังคม หรือ พฤติกรรมอย่างเฉียบพลันหรือรุนแรง จนอาจทําให้เกิดอันตรายต่อชีวิตหรือเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของตนเองและผู้อื่น
นางสาวรัตนา โจมคำ รหัสนักศึกษา 180101129