Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลผู้ใหญ่และผู้สูงอายุที่มีการเจ็บป่วยทางจิตเวช บุคคลที่มีกลุ่มโรค…
การพยาบาลผู้ใหญ่และผู้สูงอายุที่มีการเจ็บป่วยทางจิตเวช
บุคคลที่มีกลุ่มโรคอาการทางกาย
กลุ่มโรคอาการทางกาย (somatic symptom and related disorders)
บุคคลที่มีปัญหาทางด้าน จิตใจ หรือ มีความกดดันทางด้านจิตใจ แต่แสดงอาการของการมีปัญหาทางด้านจิตใจออกมาให้เห็นเป็นความเจ็บป่วย ทางด้านร่างกาย ซึ่งการแสดงออกของความเจ็บป่วยทางจิตใจผ่านออกมาให้เห็นทางการเจ็บป่วยด้านร่างกายนั้น สามารถอธิบายได้จากความเชื่อที่ว่า ร่างกาย จิตใจมีการทำงานสัมพันธ์กัน โดยเมื่อจิตใจมีความเจ็บป่วยก็จะส่งผล เชื่อมโยงให้เกิดปัญหาขึ้นที่ร่างกาย กลุ่มโรคอาการทางกายประกอบด้วยโรคต่าง ๆที่สำคัญหลายโรค แต่ในที่นี้จะขอ กล่าวถึงเฉพาะโรค somatization disorder, โรค Hypochondriasis
ลักษณะอาการและอาการแสดง
โรค somatization disorder
ผู้ป่วยจะรู้สึกว่าร่างกายมีอาการผิดปกติหลายอย่างและมีความรุนแรงมากเกินจริงก่อนอายุ 30 ปี อาการผิดปกติที่เกิดขึ้นจะเกิดขึ้นซ้ำ ๆ เรื้อรังนานหลายปี โดยไม่สามารถตรวจพบความผิดปกติของร่างกาย
มีอาการปวด (pain) อย่างน้อย 4 ตำแหน่ง
พร้อมกัน เช่น ปวดศีรษะ ปวดท้อง ปวดหลัง ปวดข้อ แขนขา ปวดท้องขณะมีประจำเดือน ปวดขณะมีเพศสัมพันธ์ ปวดขณะถ่ายปัสสาวะ
มี
อาการของระบบทางเดินอาหาร (gastrointestinal symptom)
อย่างน้อย 2 อาการ เช่น คลื่นไส้ แน่นท้อง อาเจียน ท้องเดิน
อาการทางเพศ (Sexual symptom)
อย่างน้อย 1 อาการ เช่น เฉื่อยชาทางเพศ ประจำเดือนมา ไม่สม่ำเสมอ อวัยวะเพศไม่แข็งตัว
อาการที่คล้ายโรคทางระบบประสาท (pseudo neurological symptom)
น้อย 1 เช่น การ ทรงตัว แขนขาไม่มีแรงหรือเป็นอัมพาต กลืนอาหารลำบาก พูดไม่มีเสียง ตามองไม่เห็น หูหนวก ชัก
โรค Hypochondriasis
ผู้ป่วยจะมีความกลัวหรือกังวลอย่างน้อย 6 เดือนว่าตนเองจะป่วยเป็นโรคร้ายโรคใดโรคหนึ่ง โดยที่ ตนเองไม่มีการเจ็บป่วยนั้นจริง
ผู้ป่วยกลุ่มนี้จึงสนใจกับร่างกายของตนเองมากมีความวิตกกังวลสูงเกี่ยวกับการป่วยของตนเอง หากร่างกาย มีอะไรเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยก็จะทึกทักหรือตีความเอาว่าเกิดความผิดปกติขึ้นกับตัวเขา
สาเหตุของกลุ่มโรคอาการทางกาย
โรค somatization disorder
ยังไม่ทราบแน่ชัดแต่พบว่า
ปัจจัยด้านชีวภาพ
ผู้ป่วยมีความผิดปกติของระดับการใส่ใจ (attention) การรู้คิดและเข้าใจ(cognition) ทำให้ ผู้ป่วยมีการรับรู้ (perception) ความรู้สึกในร่างกายและมีการแปลความรู้สึกในร่างกายผิดไปจากคนปกติ
การทำงานที่น้อยกว่าปกติของสมองส่วนหน้า (frontal lope) และสมองซีกไม่เด่น (non – dominant hemisphere)
พันธุกรรม พบ อัตราการเกิดโรคนี้เท่ากับ 29 ต่อ 10 เมื่อเปรียบเทียบอัตราการเกิดโรคในแฝด จากไข่ใบเดียวกันกับแฝดไข่คนละใบ
ปัจจัยทางจิตสังคม
- ทฤษฎีจิตวิเคราะห์
มองว่า อาการแสดงทางร่างกายเป็นการสื่อแทนความรู้สึกภายในจิตใจ ในการหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบหรือหลีกเลี่ยงสิ่งที่ต้องทำ เป็นการแสดงความโกรธหรือความก้าวร้าวภายในจิตใจที่มีหรือ เป็นการเก็บกดความต้องการของตนลงไปในจิตไร้สำนึก
- ทฤษฎีการเรียนรู้
มองว่าอาการแสดงทางร่างกายที่เกิดขึ้น เป็นการรับแบบอย่างมาจากพ่อแม่ การอบรมสั่งสอน หรือเกิดจากวัฒนธรรมประเพณีบ้างอย่างที่สนับสนุน ให้มีการแสดงออกทางอาการผิดปกติด้าน ร่างกายแทนการแสดงถึงอารมณ์หรือความต้องการภายในจิตใจของตนเอง
โรค hypochondriasis
ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่พบปัจจัยเสี่ยงในการเกิด hypochondriasis ดังนี้
1) ถูกกระตุ้นได้ด้วยความเครียดหรือปัญหาชีวิต
2) มีประวัติถูกกระทําทารุณในวัยเด็ก
3) มีประวัติเจ็บป่วยร้ายแรงในวัยเด็กหรือเรียนรู้ที่จะใช้บทบาทการเป็นผู้ป่วยในการแก้ปัญหาชีวิต
4) มีแปลความรู้สึกของร่างกายผิดปกติโดยผู้ป่วยจะขยายการรู้สึกความผิดปกติในการทํางานของอวัยวะภายในร่างกายมากกว่าคนทั่วไปและมักแปลไปในทางเลวร้าย เช่น เมื่อแน่นท้องผู้ป่วยจะแปลว่าปวดท้อง รวมทั้งผู้ป่วยจะมีความอดทนต่อความรู้สึกไม่ปกติในร่างกายน้อยกว่าคนทั่วไป
การบำบัดรักษาของกลุ่มโรคอาการทางกาย
โรค somatization disorder
ส่วนใหญ่แพทย์ที่ทำการบำบัดรักษา มักจะเป็นแพทย์ประจำเพียงคนเดียว และมีการนัดพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ ต่อเนื่องมีช่วงระยะเวลาในการนัดพบไม่ห่างยาวนานมากนักทั้งนี้เพื่อลดความรู้สึกว่าถูกทอดทิ้งไม่ได้รับความสนใจ อาการป่วยของตนเองเท่าที่ควร และหลีกเลี่ยงการตรวจพิเศษที่ไม่จำเป็น
การบำบัดด้วยจิตบำบัดในผู้ป่วยโรคนี้อาจมุ่งเน้นเพียง ความสามารถในการปรับตัวและการมีชีวิตที่มีคุณภาพด้วยตนเองแม้ว่าอาการผิดปกติทางร่างกายอาจไม่หมดไป โดย ให้ผู้ป่วยมุ่งความสนใจต่อการแสดงอารมณ์ความรู้สึก ปัญหาในชีวิต และความต้องการทางจิตใจของตนเองมากกว่า การให้ความสนใจรายละเอียดของอาการทางร่างกาย
โรค hypochondriasis
ผู้ป่วยอาจได้รับการรักษาด้วยจิตบำบัดอาจเป็นจิตบำบัดแบกลุ่ม ส่วนจิต บำบัดแบบอื่น ๆ เช่น จิตบำบัดเชิงลึก พฤติกรรมบำบัด การบำบัดความคิดและพฤติกรรม หรือแม้แต่การสะกดจิตก็ อาจเป็นประโยชน์สำหรับผู้ป่วยในบางราย
การพยาบาลบุคคลที่มีกลุ่มโรคอาการทางกาย
การประเมินสภาพ (assessment)
- ด้านร่างกาย
ส่วนมากผู้ป่วยกลุ่มโรคอาการทางกาย มักจะได้รับการตรวจร่างกายทั่วไปอย่างถี่ถ้วน เพื่อความ ชัดเจนว่าผู้ป่วยไม่มีการเจ็บป่วยทางร่างกายจริง การรวบรวมข้อมูลที่เป็นปัญหาด้านร่างกายของผู้ป่วยจึงต้อง ระมัดระวัง และมีการส่งต่อข้อมูลถึงอาการต่าง ๆ กับทีมผู้บำบัดอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากอาการของผู้ป่วยกลุ่มนี้มี ความใกล้เคียงกับโรคทางร่างกายหลายอย่าง
- ด้านจิตใจ
ควรมุ่งเน้นทางด้านอารมณ์และความคิดเป็นสำคัญ เช่น อาการต่าง ๆที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยนั้นเขารู้สึก อย่างไร ซึ่งส่วนมากจะพบว่าผู้ป่วยกลุ่มโรคอาการทางกายจะมีอารมณ์ท้อแท้ ทุกข์ทรมาน รู้สึกว่าช่วยตัวเองไม่ได้
- ด้านสังคม
ประเมินแรงกดดันที่ส่งเสริมให้ผู้ป่วยเกิดอาการต่าง ๆมากขึ้น เพื่อจะช่วยให้พยาบาลเข้าใจและหา แนวทางในการช่วยเหลือผู้ป่วยต่อไป
การวางแผนและการปฏิบัติทางการพยาบาล (planning and implementation)
มีเป้าหมาย เพื่อให้ผู้ป่วยเกิดการยอมรับปัญหาที่แท้จริงของตนเอง และหาแนวทางในการจัดการปัญหา ของตนได้อย่างเหมาะสม
การปฏิบัติการพยาบาล
สร้างสัมพันธภาพเพื่อการบำบัด (therapeutic relationship) กับผู้ป่วยเพื่อให้เกิดความไว้วางใจ
ให้เวลาผู้ป่วยได้พูดระบายความในใจได้อย่างอิสระ ตั้งใจรับฟัง ใส่ใจกับคำพูด และการกระทำที่ผู้ป่วย แสดงออกมาโดยไม่นำตนเองไปตัดสินพฤติกรรมของผู้ป่วย ระมัดระวังคำพูด และท่าทีในการสนองตอบต่อผู้ป่วย
พยาบาลควรหลีกเลี่ยงการให้แรงเสริมต่อพฤติกรรมที่เป็นพยาธิสภาพของผู้ป่วยอาการ ด้วยการ เพิกเฉยต่ออาการผู้ป่วยแต่ให้ความสนใจในตัวผู้ป่วย เนื่องจากแสดงต่าง ๆในผู้ป่วยแม้ไม่ได้แสดงออกมาอย่างตั้งใจ แต่ ผู้ป่วยอาจใช้อาการที่แสดงออกมาเพื่อหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบหรือกิจกรรมบ้างอย่าง เช่น การทำงาน การดูแลครอบครัว หรืออาจต้องการความสนใจบางอย่าง ต้องการควบคุมผู้อื่น ต้องการควบคุมความขัดแย้งของตนเอง และ ต้องการพึงพาใครสักคน
ส่งเสริมความรู้แก่ผู้ป่วยและญาติผู้ดูแลเกี่ยวกับปัญหาทางสุขภาพของผู้ป่วย และทักษะที่จำเป็น ตามแต่ละปัญหาที่แท้จริงของของผู้ป่วยเช่น ทักษะการผ่อนคลายเพื่อลดอาการปวดโดยไม่ต้องพึ่งยาแก้ปวด,การสื่อสารและการปฏิบัติตัวในการดูแลผู้ป่วยกลุ่มโรคอาการทางกายสำหรับญาติ
ดูแลให้จัดสภาพแวดล้อมที่เน้นความปลอดภัยเนื่องจากผู้ป่วยกลุ่มโรคอาการทางกาย มักมีความรู้สึก ว่าการเจ็บป่วยของเขาทุกข์ทรมานอาจคิดทำร้ายตนเองได้
ส่งเสริมให้ผู้ป่วยได้รับการบำบัดทางจิตสังคม เช่น กิจกรรมบำบัดที่ให้ผู้ป่วยได้มีโอการระบาความไม่ สบายใจที่มี, การบำบัดด้วยจิตบำบัดเพื่อช่วยให้ผู้ป่วยเข้าใจตนเองมากขึ้น
ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับยาตามแผนการรักษาเพื่อควบคุม ลดระดับอาการและอาการแสดงของโรคร่วมที่ ผู้ป่วยมี