Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 6 การพยาบาลบุคคลที่มีภาวะจิตเวชฉุกเฉิน, น.ส.เปมิกา เพิ่มชีวา…
บทที่ 6
การพยาบาลบุคคลที่มีภาวะจิตเวชฉุกเฉิน
ความหมาย ลักษณะอาการและอาการแสดงของภาวะจิตเวชฉุกเฉินที่พบบ่อย
1.1 ความหมายของภาวะจิตเวชฉุกเฉิน
เป็นภาวะที่บุคคลมีความแปรปรวนทางด้านความคิด อารมณ์ ความสัมพันธ์ทางสังคม หรือ พฤติกรรมอย่างเฉียบพลันหรือรุนแรง จนอาจทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิตหรือเกิดความ เสียหายต่อทรัพย์สินของตนเองและผู้อื่น จำเป็นต้องได้รับการบำบัด ช่วยเหลืออย่างถูกต้องเหมาะสมโดยเร่งด่วน
1.2 ลักษณะอาการและอาการแสดงของภาวะจิตเวชฉุกเฉินที่พบบ่อย
1) พฤติกรรมรุนแรง (violence behavior)
เป็นพฤติกรรมในความพยายามหรือลงมือกระทำการทำร้าย ทำลาย ทั้งร่างกาย จิตใจ ตนเองผู้อื่น และสิ่งของ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้บุคคลหรือสิ่งของที่ถูกกระทำได้รับความเจ็บปวด การบาดเจ็บ หรือเสียหาย
ลักษณะทั่วไป: มีท่าทางตึงเครียด หน้านิ่งคิ้วขมวด ตาจ้องขมึงไปรอบ ๆ เพื่อหาบุคคลหรือ สิ่งของที่เป็นเป้าหมายการทำร้าย ทำลาย มีการคลื่อนไหวเดินไปมาตลอดเหมือนมีความระวนกระวาย ขู่ว่าจะฆ่าหรือ ทำร้ายผู้อื่น ทำลาย หรือมีท่าทางหวาดกลัว
อารมณ์: แสดงความโกรธอย่างรุนแรง ขาดการควบคุมอามณ์ เช่น ใช้คำพูดรุนแรง เสียงดัง หน้าแดง ฉุนเฉียว อารมณ์เปลี่ยนแปลงง่ายหรือแสดงอารมณ์ไม่สอคล้องกับเหตุการณ์
การรู้สติ (level of consciousness): อาจมีภาวะสับสนมีการรับรู้เวลา สถานที่ บุคคล ไม่ ถูกต้อง (disorientation) หรือมีอาการหลงผิดระแวงว่าถูกปองร้าย มีความคิดทำร้าย ฆ่า หรือแก้แค้นผู้อื่น
เคยมีประวัติมีพฤติกรรมรุนแรง: ทะเลาะวิวาทรุนแรงกับผู้อื่น ทำร้ายผู้อื่น
2) พฤติกรรมการฆ่าตัวตาย (suicide behavior)
suicidal intention ความต้องการที่จะฆ่าตัวตาย
suicide committed suicide การฆ่าตัวตายสำเร็จ
suicidal ideation ความคิดอยากฆ่าตัวตาย ซึ่งระดับความรุนแรงจะแตกต่างกันไปตาม ความรุนแรงของ suicidal intention
suicidal attempt การพยายามฆ่าตัวตาย
self-injurious or self-harm behavior พฤติกรรมที่ตั้งใจทำร้ายตนเองให้บาดเจ็บ เจ็บปวดหรือส่งผลทำลายร่างกายโดยไม่มี suicidal intention
3) ภาวะสับสนเพ้อคลั่ง (delirium)
อายุที่เริ่มมีความผิดปกติทางจิตครั้งแรกมากกว่า 45 ปี
อาการเริ่มต้นเป็นอย่างเฉียบพลัน
มีประวัติโรคทางกายรื้อรัง เช่น เบาหวาน ตับวาย ไตวาย หรืออาการป่วยทางกายนำ เช่น มีไข้ ปวดศีษะ ชีพจรเร็ว ตาพร่ามัว เห็นภาพซ้อน
-มีประวัติใช้สารเสพติด
-มีประสาทหลอนทางตาหรือทางผิหนังมากกว่าอาการประสาทหลอนทางหู
-มีประวัติอาการทาระบบประสาท หมดสติ ชัก อุบัติเหตุทางสมอง
การสูญเสียความชำนาญในการจัตวางภาพ (constructional apraxia) เช่น การไม่สามารถ วาดรูปหน้าปัดนาฬิกาได้อย่างถูกต้อง
4) กลุ่มอาการหายใจถี่ (hyperventilation syndrome)
การมีอาการขึ้นมาทันทีทันใด
หายใจลึกและเร็วเป็นเวลาหลายนาทีโดยที่ไม่รู้ตัว จากนั้นจะเริ่มมีอาการเจ็บแน่นหน้าอก หายใจไม่อิ่ม วิงเวียน ใจสั่น นิ้วมือจีบยืดเกร็ง (carpopedal spasm)
ชาบริเวณริมฝีปาก นิ้วมือ นิ้วเท้า ผู้ป่วยอาจอ่อนแรงและสุดท้ายอาจหมดสติได้
ผู้ป่วยอาจจะบอกว่า รู้สึกเหมือนสำลัก หายใจไม่ออก (suffocation) ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว ผู้ป่วยมักจะมีความเครียดทางอารมณ์เป็นปัจจัยกระตุ้น
5) อาการแพนิค (panic attack disorders)
ผู้ป่วยมีความกลัวอย่างรุนแรง
อาการเกิดทันทีและเป็นมากถึงระดับสูงสุดภายใน 10 นาที ร่วมกับอาการทางกายดังต่อไปนี้ อย่างน้อย 4 อาการ
6) อาการพิษจากสารเสพติดและอาการขาดสาร (substance intoxication and withdrawal)
สุรา (alcohol) เป็นสารเสพติดที่มีฤทธิ์กดระบบประสาท
อาการพิษสุรา (alcohol intoxication) จะมีความผิดปกติของพฤติกรรมหรือจิตใจ ขณะที่มีอาการมึนเมา เช่น พฤติกรรมก้าวร้าว การตัดสินใจเสีย และมีอาการทางกายร่วมด้วย เช่น พูดไม่ชัด กาทรงตัวเสีย เดินไม่มั่นคง ตากระตุก สมาธิหรือความจำเสีย ถ้าอาการรุนแรงมากอาจทำให้หมดสติและศูนย์ ควบคุมการหายใจถูกกด
อาการขาดสุรา (alcohol withdrawal) เกิดขึ้นเนื่องจากดื่มสุราจัดเป็นเวลานานแล้วหยุดหรือ ลดปริมาณการดื่มลง อาการขาดสุราจะเกิดภายใน 4 - 12 ชั่วโมง แต่บางรายอาจมีอาการหล้งหยุด 2-3 วัน อาการมัก เป็นรุนแรงในวันที่ 2
สาเหตุของของภาวะจิตเวชฉุกเฉินที่พบบ่อย
1) พฤติกรรมรุนแรง (violence behavior)
พฤติกรรมรุนแรงที่มีสาเหตุจากโรคทางจิต (functional causes) เช่น โรคจิตเภทชนิด หวาดระแวง โรคไบโพล่าร์ที่มีอาการแมเนียจนควบคุมตนเองไม่ได้ โรคจิตเนื่องจากภาวะเครียด ( brief reactive psychosis) ที่มีอาการประสาทหลอนหูแว่วสั่งให้ฆ่า
พฤติกรรมรุนแรงที่มีสาเหตุจากความผิดปกติทางกาย (organic causes) เช่น พิษจากยา สาร เสพติด อาการขาดสารเสพติด โรคลมชัก หรือสมองได้รับความกระทบกระเทือน
2) พฤติกรรมการฆ่าตัวตาย (suicide behavior)
โรคทางจิตเนื่องจากการปรับตัว (adjustment disorder) เมื่อต้องเผชิญกับปัญหาชีวิตเช่น ปัญหาเรื่องความรักและชีวิตสมรส มีปัญหาโรคเรื้อรัง การงาน เศรษฐกิจ แล้วแก้ไขไม่ได้
โรคซึมเศร้า (major depressive disorder) ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าที่มีอาการเศร้ารุนแรงมีอาการ ไม่สบายต่าง ๆ
โรคจิตเภท (schizophrenia) เป็นการเจ็บป่วยเรื้อรังทำให้มีความสามารถในการทำกิจกรรม ต่าง ๆ ลดลงจึงเกิดความรู้สึกไร้ค่า เบื่อหน่ายชีวิต สิ้นหวัง หรือพฤติกรรมการฆ่าตัวตายในโรคจิตเภท
ติดสุราหรือยาเสพติด (alcohol dependence or substance dependence) ที่มีอาการ ซึมเศร้าหรือโรคซึมเศร้าร่วมด้วยผู้ป่วยจึงมีความรู้สึกด้อยค่า (low self-esteem) คิดฆ่าตัวตายเพราะคิดว่าตนเองไร้ ประโยชน์หรือรู้สึกเป็นภาระต่อครอบครัว
บุคลิกภาพผิดปกติ (personality disorder) เช่น ผู้ที่มีบุคลิกภาพแบบ borderline personality disorder
3) ภาวะสับสนเพ้อคลั่ง (delirium)
metabolic disorder เช่น โรคตับวาย ไตวาย ขาดวิตามีนบี การเสียสมดุลของเกลือแร่หรือ สมดุลกรด-ด่าง และภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
endocrinopathy เช่น ภาวะฮอร์โมนของต่อมไทรอยด์ พาราไทรอยด์ต่ำหรือสูงกว่าปกติ ภาวะฮอร์โมนของต่อมใต้สมองต่ำกว่าปกติ
systemic lines อาการพิษจากการดื่มสุราและสารเสพติด และอาการขาดสุราและสารเสพติด การติดเชื้อ ระบบควบคุมอุณหภูมิผิดปกติ
ยาที่เป็นสาเหตุของการเกิดอาการสับสนเพ้อคลั่ง เช่น antihistamine, atropine, thiazine, clozapine, tricyclic antidepressant, barbiturates, benzodiazepine
4) กลุ่มอาการหายใจถี่ (hyperventilation syndrome)
มีสาเหตุหรือปัจจัยในการเกิดกลุ่มอาการหายใจถี่ แม้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดแต่ผู้ป่วยมักจะเริ่ม ตันมีการหายใจที่ผิดปกติเมื่อถูกกระตุ้นโดยความเครียดและอารมณ์ท่วมทัน
5) อาการแพนิค (panic attack disorders) มีสาเหตุหรือปัจจัยในการเกิดอาการแพนิค
2.1การบำบัดรักษาของภาวะจิตเวชฉุกเฉินที่พบบ่อย
1) พฤติกรรมรุนแรง (violence behavior)
2) พฤติกรรมการฆ่าตัวตาย (suicide behavior)
3) ภาวะสับสนเพ้อคลั่ง (delirium)
4) กลุ่มอาการหายใจถี่ (hyperventilation syndrome)
5) อาการแพนิค (panic attack disorders)
สร้างสัมพันธภาพที่ดีต่อผู้ป่วย เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยได้พูดระบายความคิดและความรู้สึก ซัก ประวัติเพื่อรวบรวมข้อมูลด้านภาวะสุขภาพจิต สาเหตุ ปัจจัยส่งเสริม ตลอดจนการรักษาที่เคยได้รับ
ใช้หลัก therapeutic communication ให้กำลังใจและประคับประคองจิตใจ แสดงความใส่ ใจสัมผัสร่างกายผู้ป่วยตามความเหมาะสม เพื่อทำให้ผู้ป่วยรู้สึกผ่อนคลาย
แยกผู้ป่วยออกมาจากสถานการณ์ที่ทำให้เกิดอาการ โดยเคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปอยู่ที่สงบ
ให้ยาตามแผนการรักษา ถ้ามีอาการกังวลมากผู้ป่วยจะได้รับยาคลายความวิตกกังวล หรือยา พวก antidepressant แต่ถ้ามีอาการหวาดระแวงหรืออาการอื่นของโรคจิต
6) อาการพิษจากสารเสพติดและอาการขาดสาร (substance intoxication and withdrawal)
วัดและบันทึกสัญญาณชีพ (vital signs) สัญญาณประสาท (neuro signs) จนกว่าผู้ป่วยจะดี ขึ้น หมดภาวะพิษจากสารเสพติดและอาการขาตสารเสพติด
ตรวจสอบทางเดินหายใจ (clear airway) อาจต้องให้ออกซิเจนและใช้เครื่องช่วยหายใจเมื่อ หมดสติหรือมีปัญหาระบบทางเดินหายใจและระวังการสำลักซึ่งอาจก่อให้เกิดอาการปอดบวมได้
การพยาบาลบุคคลที่มีภาวะจิตเวชฉุกเฉิน
1) การจำแนกผู้ป่วย (triage) เป็นกระบวนการประเมินและคัดกรองภาวะสุขภาพแบบองค์รวมอย่าง รวดเร็ว จากการสังเกตพฤติกรรมและอาการผิดปกติสัมภาษณ์อาการสำคัญ
2) ให้การพยาบาลบำบัดดูแลระยะแรก (initial intervention) ตามความรุนแรงของปัญหาที่ประเมิน ได้เพื่อจัดการให้ผู้ป่วยปลอดภัยและอาการสงบลง
3) การประเมินและบำบัดต่อเนื่อง (continue with evaluation and intervention) เมื่อผู้ป่วย อาการสงบ พ้นภาวะที่จะเป็นอันตรายต่อตนองและผู้อื่น พ้นขีดอันตราย ควบคุมตนเองได้มากขึ้น และให้ความร่วมมือ ในการตรวจรักษา หรือถ้าผู้ป่วยยังไม่ให้ความร่วมมือ
4) การจำหน่ายหรือส่งต่อผู้ป่วยไปยังหน่วยบำบัดอื่น (discharge or refer patient) เมื่อผู้ป่วยอาการ ดีขึ้นและมีการประเมินซ้ำแล้ว อาจพิจารณาให้ผู้ปวยกลับบ้านหรือส่งต่อไปรักษาที่หน่วยอื่น เช่น ส่งไปรักษาที่แผนก ผู้ป่วยนอกต่อไป หรือส่งปรึกษาแผนกอายุรศาสตร์ถ้าสงสัยหรือประเมินได้ว่าผู้ป่วยมีอาการทางจิตเนื่องจากภาวะ ผิดปกติทางกาย
น.ส.เปมิกา เพิ่มชีวา รหัส180101126