Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลผู้ใหญ่และผู้สูงอายุที่มีการเจ็บป่วยทางจิตเวช การพยาบาลบุคคลที่ม…
การพยาบาลผู้ใหญ่และผู้สูงอายุที่มีการเจ็บป่วยทางจิตเวช
การพยาบาลบุคคลที่มีโรคจิตเภท
ความผิดปกติจะเกิดขึ้นหลายอย่างแบบค่อยเป็นค่อยไปได้แก่ ความผิดปกติของความคิด การรับรู้ พฤติกรรม อารมณ์ และการสื่อสาร โดยอาจเริ่มต้นที่สัมพันธภาพบกพร่อง ไม่ค่อยสนใจสิ่งแวดล้อมส่งผลต่อการ ดำเนินชีวิต ครอบครัวและสังคมเป็นอันมาก
เกณฑ์การวินิจฉัยโรคตามระบบการจำแนกโรคของสมาคมจิตแพทย์อเมริกัน (DSM -5 )
C.มีอาการผิดปกติต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือนซึ่งตองมีอาการในข้อ A อย่างน้อย 1 เดือน โดยช่วงที่เหลือเป็นระยะเวลาของอาการนำหรืออาการหลงเหลืออาจมรเพียงอาการด้านลบหรือมีอาการอย่างน้อย 2 อาการในข้อ A. ที่เหลืออยู่เพียงเบาบาง
D. ไม่มีอาการเข้าได้กับโรค Schizoaffective disorder หรือโรคในกลุ่มซึมเศร้าหรือ Bipolar disorder ที่มีอาการทางจิตร่วมด้วย
E. อาการไม่ได้เกิดจากยาหรือสารเสพติดหรือโรคทางกาย
F. หากมีประวัติของโรค Autism spectrum disorder หรือ Communication disorder ที่เป็นในวัยเด็กจะวินิจฉัยโรคจิตเภทร่วมด้วยได้ต่อเมื่อมีอาการหลงผิดหรือประสาทหลอนเป็นอาการเด่นเพิ่มจากข้ออื่นในข้อ A.นานอย่างน้อย 1 เดือน (หรือน้อยกว่าหากการรักษาได้ผลดี)
B. มีปัญหาด้านการเข้าสังคม การงาน สัมพันธภาพ หรือสุขอนามัยของตนเอง
A.มีอาการต่อไปนี้ อย่างน้อย 2 อาการในช่วงเวลา 1 เดือน (หรือน้อยกว่านี้หากได้รับการบำบัดรักษา) และอาการอย่างน้อย 1 อย่าง ต้องเป็นอาการในข้อ 1,2 หรือ 3
3.ความผิดปกติของการพูด (disorganized speech)
4.ความผิดปกติของพฤติกรรม(disorganized behavior)
2.ประสาทหลอน(hallucination)
5.อาการด้านลบ (negative symptom)
หลงผิด (delusion)
ลักษณะอาการของโรคจิตเภท
กลุ่มอาการด้านบวก (Positive symptoms) แสดงออกทางด้านความผิดปกติของความคิด การรับรู้ การติดต่อสื่อสารและการแสดงพฤติกรรม
กลุ่มอาการด้านลบ (Negative symptoms) แสดงออกทางสีหน้าและอารมณ์
โรคจิตเภทมีอาการที่เรียกว่าจิตแตกสลาย ( Split of mind)
Affective disturbance การแสดงอารมณ์ที่ไม่สอดคล้องกับเรื่องที่พูด
Autistic thinking อยู่ในโลกของตัวเอง คิดหมกมุ่น ไม่อยู่ในโลกของความจริง
Associative disturbance ความคิดไม่ต่อเนื่องกันขาดความเชื่อมโยงของความคิด แสดงออกโดยการพูดจาวกวนฟังไม่รู้เรื่องว่าพูดเรื่องอะไร
Ambivalence ลังเลใจ ตัดสินใจไม่เด็ดขาดคิดกลับไปกลับมา
สาเหตุ
ปัจจัยด้านชีวภาพ
1.2 สารชีวเคมีในสมอง
1.3 กายภาพของสมองที่ผิดปกติ
1.1 พันธุกรรม
ปัจจัยทางด้านจิตสังคม
2.2 กระบวนการพัฒนาการและสัมพันธภาพระหว่างบุคคล
2.3 ความเครียด
2.1 ความขัดแย้งภายในจิตใจ
2.4 สภาพสังคมและวัฒนธรรม ครอบครัวที่มีเศษฐานะต่ำ
การบำบัดรักษา
2.การรักษาด้วยยา
3.การรักษาด้วยไฟฟ้า (ECT)
1.การรักษาแบบผู้ป่วยใน
การรักษาทางจิตใจและสังคม
กระบวนการพยาบาล
การวินิจฉัยการพยาบาล
2.3 สัมพันธภาพบกพร่องเนื่องจากแยกตัวเองและไม่สนใจสิ่งแวดล้อม
2.4 บกพร่องในการดูแลกิจวัตรประจำวันเนื่องจากหมกมุ่นอยู่ในโลกส่วนตัว
2.2 มีแนวโน้มเป็นอันตรายต่อตนเองและผู้อื่นเนื่องจากหลงผิดว่ามีคนคอยทำร้าย
2.5 อาการเป็นซ้ำเนื่องจากปฏิเสธการรักษาและรับประทานยาไม่ต่อเนื่อง
2.1 ความคิดและการรับรู้ผิดปกติเนื่องจากสารเคมีในสมองไม่สมดุล
การปฏิบัติการพยาบาลตามพฤติกรรมปัญหา
การประเมินผู้ป่วย (assessment)
1.3 การพูดสื่อสาร การตอบคำถาม
1.4 เนื้อหาความคิด
1.2 อารมณ์ ลักษณะการแสดงอารมณ์
1.5 การรับรู้ความเป็นจริง
1.1 สภาพทั่วไป ลักษณะของผู้ป่วย
1.6 การตระหนักต่อความเจ็บป่วยของตนเอง
4.ประเมินผลการพยาบาล