Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทท่ี 3 การพยาบาลบุคคลที่มีปัญหาจิตสังคม บุคคลที่มีความโกรธและความก้าวร้าว…
บทท่ี 3 การพยาบาลบุคคลที่มีปัญหาจิตสังคม บุคคลที่มีความโกรธและความก้าวร้าว
ความหมายความโกรธ
ความโกรธ (anger) เป็นปฏิกิริยาตอบสนองทางด้านจิตใจและอารมณ์ของบุคคล เป็นประสบการณ์ ของความรู้สึกทางอารมณ์ที่เป็นสว่นหนึ่งในชีวิตประจําวันสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนอารมณ์โกรธเป็นอารมณ์ ที่ต่อเนื่องกันจากความรู้สึกขุ่นเคืองใจ ไปจนถึงความรู้สึกไม่พอใจที่รุนแรงขึ้นไปเรื่อย ๆ เกิดขึ้นเมื่อบุคคลรู้สึก ว่าตนเองถูกคุกคาม ไม่ปลอดภัย ถูกทําให้ผิดหวังจากสิ่งที่ตั้งใจ หรือตั้งเป้าหมายไว้
ลักษณะอาการและอาการแสดงของความความโกรธ
ด้านร่างกาย ระบบประสาทซิมพาทิติก
(sympathetic)
จะได้รับการกระตุ้นทําให้อัตราการเต้นหัวใจและความดันโลหิตสูงขึ้น หน้าแดง มือสั่น หายใจเร็วแรง ระดับสารอีพิเนฟริน (epinephrine), นอร์ อีพิเนฟริน (norepinephrine) และระดับน้ําตาลในเลือดสูงขึ้น
ด้านจิตใจและอารมณ์
ความไม่เป็นมิตร (hostility) เป็นปฏิกิริยาท่ีแสดงความเป็นปรปักษ์ และมีความประสงค์ร้าย เกิดขึ้นเมื่อบุคคลรู้สึกว่าตนเองถูกคุกคามหรือขาดพลังอํานาจ ซึ่งอาจแสดงออกอย่างตรงไปตรงมาหรือซ่อน เร้น
ความก้าวร้าว (aggression) เป็นปฏิกิริยาทางคําพูดหรือการกระทําที่โต้ตอบความรู้สึกโกรธ หรือผิดหวังอย่างรุนแรง มุ่งที่จะให้เกิดผลต่อบุคคลและสงิ่ อื่นๆรอบตัว เช่น พูดประชดประชัน ขู่ตะคอก
การกระทําท่ีรุนแรง (violence) เป็นปฏิริยาของพฤติกรรมก้าวร้าวท่ีแสดงออกด้วยการลงมือ กระทําการทําร้ายหรือทําลายโดยตรง ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อตนเอง ผู้อ่ืนหรือทรัพย์สินได้ เช่น การทําลายข้าว ของการทําร้ายร่างกาย
แยกตัว (withdrawal) ออกจากสถานการณ์ที่ทําใหเ้ กิดอารมณ์โกรธ เป็นการแสดงอารมณ์แบบ ไม่ตรงไปตรงมา (passive expression of anger) เกิดจากการที่บุคคลเก็บกดอารมณ์โกรธไว้ทําให้รู้สึกไม่ สบายใจ และเพิ่มความกดดันเรื่อยๆจนต้องแยกตัวออกจาก
สถานการณ์ที่ทําให้เกิดอารมณ์
ซึมเศร้า (depression) เป็นการเก็บกดอารมณ์โกรธไว้กับตนเอง ไม่กล้าแสดงออก เนื่องจาก กลัวถูกสังคมประณาม กลัวอันตราย และผู้อ่ืนจะไม่รัก
สาเหตุการเกิดของความความโกรธ
1) ปัจจัยด้านชีวภาพ (biological factors)
สารสื่อประสารในสมอง
การได้รับบาดเจ็บหรือความกระทบกระเทือนที่สมอง
การเจ็บป่วยทางกายอื่นๆ เช่น ภาวะน้ําตาลในเลือดต่ํา
2) ปัจจัยด้านจิตใจ (psychological factors)
ด้านจิตวิเคราะห์ (psychoanalytic theory)
ด้านพฤติกรรมและการรู้คิด (cognitive-behavioral theory)
3)ปัจจัยด้านสังคม
(psychosocial factors)
แนวคิดทางด้านสังคมวิทยา (sociocultural theory)
เด็กท่ีเติบโตในครอบครัวที่มีพฤติกรรมรุนแรง
ก็มักจะเลียนแบบพฤติกรรมของบิดา มารดา
การพยาบาลบุคคลท่ีมีความโกรธ
1) การประเมินบุคคลที่มีภาวะโกรธ ควรประเมิน
ประเมินระดับความสามารถในการสร้างสัมพันธภาพกับบุคคลอื่น
ประเมินพื้นฐานอารมณ์ดั้งเดิมของผู้ป่วยและระดับความอดทนของผู้ป่วยแต่ละคน
ประเมินอาการทางร่างกาย ที่เป็นปฏิกิริยาตอบสนองต่อความโกรธ
ประเมินความเสี่ยงในการทําร้ายตนเอง
ประเมินบุคคลดังกล่าวว่ามีความขัดแย้งในจิตใจว่ามีสูงมาก หรือน้อยเพียงใด
ประเมินการใช้กลไกทางจิต ที่อาจจะเป็นผลเสียต่อการดําเนินชีวิต
ประเมินความเข้าใจตนเองของผู้ป่วย
2) การวินิจฉัยทางการพยาบาล
เป้าหมายระยะสั้น
เพื่อลดภาวะเสี่ยงในการเกิดพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง
เพื่อให้ระบายอารมณ์โกรธอย่างสร้างสรรค์
เพื่อป้องกันอันตรายจากโรคทางร่างกายที่มีความเช่ือม
โยงจากอารมณ์โกรธ
เป้าหมายระยะยาว
เพื่อปรับเปลี่ยนบุคลิกภาพและรูปแบบการเผชิญปัญหาที่สร้างสรรค์เมื่อมีความโกรธ
เพื่อพัฒนาทักษะในการปรับตัวและสร้างสัมพันธภาพกับผู้อื่นเมื่อมีความโกรธ
3) กิจกรรมทางการพยาบาล
สร้างสัมพันธภาพเพื่อการบําบัดตามแบบแผนการสร้างสัมพันธภาพ เพื่อให้เกิดความไว้วางใจ ในตัวพยาบาล
เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยได้ระบายความรู้สึก เรื่องราวต่างๆ หรือพฤติกรรมและการสื่อสารต่อบุคคลอื่น
เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยเรียนรู้และเข้าใจบุคลิกภาพและอารมณ์โกรธของตนเมื่อความโกรธของ ผู้ป่วยลดลง
ประเมินรูปแบบการเผชิญปัญหาของผู้ป่วยว่ามุ่งเน้นการแก้ไขปัญหา
จัดให้ผู้ป่วยเข้ากลุ่มกิจกรรมนันทนาการบําบัด ดนตรีบําบัด กลุ่มวาดภาพเพื่อระบายอารมณ์
ส่งเสริมและฝึกให้ผู้ป่วยใช้ทักษะการเผชิญอารมณ์โกรธอย่างสร้างสรรค์
ส่งเสริมให้ผู้ป่วยเข้ากลุ่มกิจกรรมบําบัดร่วมกับเพื่อนผู้ป่วยเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และ ร่วมคิดวิธีการแก้ไขปัญหาที่สร้างสรรค์กว่าที่เคยใช้
4) การประเมินผลทางการพยาบาล มีข้อบ่งชี้ที่
แสดงให้เห็นว่าการพยาบาลได้ผลทางบวก ดังน้ี
ผู้ป่วยสามารถอธิบายวิธีการเผชิญความโกรธที่สร้างสรรค์ได้มากกว่าเดิม
ผู้ป่วยมีวิธีการระบายความรู้สึกโกรธที่สร้างสรรค์มากขึ้น โดยไม่ใช้วิธีการที่รุนแรงในการเผชิญ ความโกรธ
ผู้ป่วยและผู้อื่นปลอดภัยจากพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงของผู้ป่วย
ผู้ป่วยมีอาการและอาการแสดงทางร่างกายที่เป็นผลจากอารมณ์โกรธลดลง
ผู้ป่วยมีวิธีการเผชิญปัญหาที่สร้างสรรค์มากขึ้น
ผู้ป่วยสามารถแสวงหาแหล่งประโยชน์ที่สนับสนุน ช่วยเหลือ เมื่อผู้ป่วยรู้สึกว่าตนเองไม่สามารถ
นางสาวจุรีพันธ์ เตชะอัศวรักษ์ 180101042
นักศึกษาพยาบาลปี3