Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 5 การพยาบาลผู้ใหญ่และผู้สูงอายุที่มีการเจ็บป่วยทางจิตบุคคลที่มีความ…
บทที่ 5
การพยาบาลผู้ใหญ่และผู้สูงอายุที่มีการเจ็บป่วยทางจิตบุคคลที่มีความผิดปกติทางเพศ
ความหมาย ลักษณะอาการและอาการแสดงของบุคคลที่มีความผิดปกติทางเพศ
1.1 ความหมายของบุคคลที่มีความผิดปกติทางเพศ
ความผิดปกติทางเพศ (sexual dysfunctions) เป็นกลุ่มอาการความผิดปกติที่รบกวนความสามารถ ของบุคคลในการตอบสนองทางเพศหรือการมีควมสุขทางเพศ
ภาวะความไม่พึงพอใจในเพศตนเอง (gender dysphoria) เป็นความรู้สึกอึดอัดคับข้องใจที่เกิดจาก ความไม่สอดคล้องกันของเพศที่จิตใจต้องการเป็นกับเพศกำเนิดที่เป็นอยู่
พฤติกรรมทางเพศที่วิปริต (paraphilic dysfunctions) เป็นความผิดปกติที่บุคคลมีจินตนาการ อารมณ์เร้าทางเพศ หรือการแสดงออกทางพฤติกรรมทางเพศที่ไม่ใช่วิธีปกติที่คนทั่วไปกระทำ
1.2 ลักษณะอาการและอาการแสดงของบุคคลที่มีความผิดปกติทางเพศ
มีลักษณะอาการและอาการแสดง 10 ประเภทซึ่งลักษณะอาการและอาการแสดงประเภทที่ 1-7 ต้องมี อาการต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน
1) ภาวะหลั่งช้า (delayed ejaculation) เป็นภาวะที่บุคคลมีอาการหลั่งช้าอย่างชัเจน มีการหลั่งไม่ สม่ำเสมอหรือไม่มีการหลั่งเกือบทุกครั้งหรือทุกครั้งอย่างใดอาการหนึ่ง
2) ความผิดปกติเกี่ยวกับการแข็งต้วของอวัยวะเพศชาย หรือการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (erectile disorder) เป็นภาวะที่บุคคลอาการอย่างน้อย 1 ใน 3 อาการ
3) ความผิดปกติเกี่ยวกับความรู้สึกถึงจุดสุดยอดในหญิง (female orgasmic disorder) เป็นภาวะ ที่บุคคลมีอาการใดอาการหนึ่ง โดยมีความรู้สึกถึงจุดสุดยอดช้าไม่สม่ำเสมอ หรือไม่เคยมีความรู้สึกถึงจุดสุดยอดเลย หรือมีการลดลงของระดับความรู้สึกถึงจุดสุดยอด
4) ความผิดปกติเกี่ยวกับความสนใจ/ความรู้สึกตื่นเต้นทางเพศในหญิง ( female sexual interest/arousal disorders) เป็นภาวะที่บุคคลมีการขาดหรือการลดลงของความสนใจ/ความรู้สึกตื่นเต้นทางเพศ โดยแสดงออกอย่างน้อย 3 อาการ โดยมีการไม่มีหรือลดลงของความสนใจในกิจกรรมทางเพศ, การไม่มีหรือลดลงของ ความคิดหรือจินตนาการทางเพศ
5) การเจ็บปวดบริเวณอุ้งเชิงกราน/ความผิดปกติเ มื่อมีการสอดใส (genitor-pelvic pain/penetration disorder) เป็นภาวะที่บุคคลมีความยากลำบาก (ซึ่งอาจเกิดขึ้นเป็นประจำ หรือกลับมามีอาการ อีกหลังจากที่ไม่มีอาการมาระยะหนึ่งแล้ว) ในการมีอาการ 1 หรือมากกว่า
6) การมีความต้องการทางเพศน้อยผิดปกติในชาย (male hypoactive sexual desire disorder) เป็นภาวะที่บุคคลความบกพร่องหรือไม่มีความคิดหรือจินตนาการทางเพศ และความต้องการมีกิจกรรมทางเพศ
7) ภาวะหลั่งเร็วผิดปกติ(premature (early) ejaculation) เป็นภาวะที่บุคคลมีการหลั่งน้ำอสุจิ เกิดขึ้นในระหว่างการมีกิจกรรมทางเพศภายในเวลาประมาณ 1 นาที ภายหลังจากการสอดใส่องคชาติเข้าสู่ช่องคลอด
8) ความบกพร่องในหน้าที่ทางเพศอันเป็นผลจากการใช้ยาหรือสารเสพติด (substance/medication-induced sexual dysfunction) มีความบกพร่องในหน้าที่ทางเพศจากการใช้ยาหรือสาร
9) ความบกพร่องในหน้าที่ทางเพศอื่นที่ไม่เข้าเกณฑ์การวินิจฉัย (other specified sexual dysfunction)การมีความบกพร่องในหน้าที่ทางเพศและส่งผลให้บุคคลเกิดความตึงเครียด แต่มีอาการไม่ครบตาม เกณฑ์การวินิจฉัย
10) ความบกพร่องในหน้าที่ทางเพศที่ยังไม่สามารถวินิจฉัยได้(unspecified sexual dysfunction) การมีความบกพร่องในหน้าที่ทางเพศและส่งผลให้บุคคลเกิดความตึงเครียด แต่อาการไม่ตรงตามเกณฑ์การวินิจฉัย
ความบกพร่องในหน้าที่ทางเพศ (sexual dysfunctions)
ภาวะความไม่พึงพอใจในเพศตนเอง (gender dysphoria)
1) ภาวะความไม่พึงพอใจในเพศในเด็ก (gender dysphoria in children)
2) ภาวะความไม่พึงพอใจในเพศในวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ (gender dysphoria in adolescents and adult)
3) ภาวะความไม่พึงพอใจในเพศตนเองที่ไม่เข้าเกณฑ์การวินิฉัย (other specified gender dysphoria) มีอาการทางคลินิกที่เด่นชัดถึงภาวะความไม่พึงพอใจในเพศตนเอง และส่งผลให้บุคคลเกิดความตึงเครียด
4) ภาวะความไม่พึงพอใจในเพศตนเองที่ยังไม่สามารถวินิจฉัยได้ (unspecified gender dysphoria) มีอาการทางคลินิกที่เด่นชัดถึงภาวะความไม่พึงพอใจในเพศตนเอง และส่งผลให้บุคคลเกิดความตึงเครียด
สาเหตุ การบำบัดรักษาของบุคคลที่มีความผิดปกติทางเพศ
2.1 สาเหตุของความผิดปกติทางเพศ
ความบกพร่องในหน้าที่ทางเพศ (sexual dysfunctions)
1) ปัจจัยที่มีผลต่อภาวะหลั่งช้า (delayed ejaculation)
2) ปัจจัยที่มีผลต่อความผิดปกติเกี่ยวกับการแข็งตัวของอวัยวะเพศชาย หรือการหย่อนสมรรถภาพ ทางเพศ (erectile disorder)
3) ปัจจัยที่มีผลต่อความผิดปกติเกี่ยวกับความรู้สึกถึงจุดสุดยอดในหญิง (female orgasmic disorder)
4) ปัจจัยที่มีผลต่อความผิดปกติเกี่ยวกับความสนใจ/ความรู้สึกตื่นเต้นทางเพศในหญิง (female sexual interest/arousal disorders)
5) ปัจจัยที่มีผลต่อการเจ็บปวดบริเวณอุ้งเชิงกราน/ความผิดปกติเมื่อมีการสอดใส (genitor-pelvic pain/penetration disorder)
6) ปัจจัยที่มีผลต่อการมีความต้องการทางเพศน้อยผิดปกติในชาย (male hypoactive sexual desire disorder)
7) ปัจจัยที่มีผลต่อภาวะหลั่งเร็วผิดปกติ(premature (early) ejaculation)
8)ปัจจัยที่มีผลต่อความบกพร่องในหน้าที่ทางเพศ อันเป็นผลจากการใช้ยา หรือ สารเสพติด (substance/medication-induced sexual dysfunction)
ภาวะความไม่พึงพอใจในเพศตนเอง (gender dysphoria)
1) ปัจจัยทางชีวภาพ การมีระดับของฮอร์โมนของเพศตรงข้ามสูงกว่าปกติตั้งแต่ตั้งครรภ์อาจมีผล ต่อพัฒนาการของสมองให้สอดคล้องกับลักษณะของเพศตรงข้ามตามระดับของฮอรโมนที่มีสูงขึ้น
2) ปัจจัยทางจิตสังคม การพัฒนาเอกลักษณ์ความเป็นหญิงชายของบุคคลนั้น เป็นผลจากหลาย ปัจจัยร่วมกัน ทั้งปัจจัยส่วนบุคคล ครอบครัว และสังคม
พฤติกรรมทางเพศที่วิปริต (paraphilic dysfunctions)
พฤติกรรมทางเพศที่วิปริต (paraphilic dysfunctions)
1) ปัจจัยทางชีวภาพ การมีระดับของฮอร์โมนของเพศตรงข้ามสูงกว่าปกติตั้งแต่ตั้งครรภ์อาจมีผล ต่อพัฒนาการของสมองให้สอดคล้องกับลักษณะของเพศตรงข้ามตามระดับของฮอรโมนที่มีสูงขึ้น
2.2 การบำบัดรักษาของบุคคลที่มีความผิดปกติทางเพศ
ความบกพร่องในหน้าที่ทางเพศ (sexual dysfunctions)
1) ภาวะหลั่งช้า (delayed ejaculation) พบหลักฐานค่อนข้างน้อยที่สนับสนุนประสิทธิภาพการ รักษาทั้งโดยการใช้ยาและการบำบัดทางจิตสังคม ในผู้ที่มีความผิดปกติกลุ่มนี้มาตลอดชีวิต การรักษาที่ใช้
2) ความผิดปกติเกี่ยวกับการแข็งตัวของอวัยวะเพศชาย หรือการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (erectile disorder) เน้นที่การหาสาเหตุของความผิดปกติ และจัดการแก้ที่ต้นเหตุ
3) ความผิดปกติเกี่ยวกับความรู้สึกถึงจุดสุดยอดในหญิง (female orgasmic disorder) ในผู้ที่มี ความผิดปกติกลุ่มนี้มาตลอดชีวิต อาจใช้การบำบัดแบบปรับความคิดและพฤติกรรม ร่วมกับการฝึกการช่วยตนเอง
4) ความผิดปกติเกี่ยวกับความสนใจ/ความรู้สึกตื่นเต้นทางเพศในหญิง (female sexual interest/arousal disorders) เน้นที่การค้นหาสาเหตุที่ทำให้เกิดความผิดปกติ แล้วจัดการที่สาเหตุได้แก่ การให้ ฮอร์โมนเพศทดแทน การจัดการตามอาการ
5) การเจ็บปวดบริเวณอุ้งเชิงกราน/ความผิดปกติเ มื่อมีการสอดใส (genitor-pelvic pain/penetration disorder) เน้นการประเมินร่างกายอย่างครอบคลุมทั้งทางนรีเวชวิทยาและระบบทางเดิน ปัสสาวะ ภาวะสุขภาพจิต และความสัมพันธภาพกับคู่สมรส
6) การมีความต้องการทางเพศน้อยผิดปกติในชาย (male hypoactive sexual desire disorder) หลังผู้ป่วยได้รับการประเมินทัศนคติความเชื่อที่มีต่อการแสดงออกถึงความต้องการทางเพศของทั้งฝ่ายชายและฝ่าย หญิง
7) ภาวะหลั่งเร็วผิดปกติ(premature (early) ejaculation) ใช้เทคนิการบำบัดเฉพาะที่เรียกว่า start stop techniqueด้วยการให้คู่ช่วยกระตุ้นให้ฝ่ายชายให้เกิดการตื่นตัวทางเพศและเมื่อมีสัญญาณว่าจะเกิดการ หลั่ง ให้คู่หยุดการกระตุ้น
8)ความบกพร่องในหน้าทีทางเพศอันเป็นผลจกการใช้ยาหรือสารเสพติ(substance/medication -induced sexual dysfunction)การบำบัดที่สำคัญคือการปรับเปลี่ยนกลุ่มยาที่ใช้ในการรักษา ให้มีผลข้างเคียงต่อ การทำหน้าที่ทางเพศให้ลดลง
ภาวะความไม่พึงพอใจในเพศตนเอง (gender dysphoria)
เด็กที่มีปัญหา gender dysphoria การรักษาจะประกอบด้วยการรักษาที่ตัวเด็กแบบรายคน การ รักษาครอบครัวและการรักษาแบบกลุ่ม ทุกวิธีจะช่วยแนะแนวทางให้เด็กสำรวจ gender identity ของตนเองและ gender ที่ตนเองสนใจ เป้าหมายคือการพัฒนาทักษะชีวิตสำหรับเพศเดียวกัน และการคบเพื่อนเพศเดียวกัน โดยบิดา มารดาจะต้องให้กำลังใจเด็ก ฝึกเด็กให้มีกิจกรรมที่ตรงกับเพศ จำกัดขอบเขตขอบเขตพฤติกรรมที่เป็นการข้ามเพศเด็ก
การรักษาพฤติกรรมทางเพศที่วิปริตในกลุ่มที่มีความต้องการทางเพศสูงการใช้ยาต้านฮอร์โมน เพศชาย (antiandrogenic drugs) ได้แค่ medroxyprogesterone acetate (provera) ซึ่งช่วยในการยับยั้งการ สังเคราะห์ออร์โมน testosterone ซึ่งจะช่วยลดความต้องการทางเพศ
การพยาบาลบุคคลที่มีความผิดปกติทางเพศ
1) ประวัติทั่วไป
1) การประเมินสภาพ (assessment)
• ความบกพร่องในหน้าที่ทางเพศ (sexual dysfunctions) ควรประเมินประเด็นต่างๆดังนี้ 1) ประวัติทั่วไป เช่น โครงสร้างพื้นฐานของครอบครัว รูปแบบการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ค่านิยม ความคิด ความเชื่อทางศาสนา การมองชีวิตและเป้าหมายชีวิต
2) ประวัติทางเพศในอดีต เช่น การอบรมสั่งสอนเรื่องเพศจากบิดามารดา การเรียนรู้เรื่องเพศ ประสบการณ์ทางเพศตั้งแต่วัยเด็กถึงปัจจุบัน ประวัติการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง ประวัติการถูกทารุณกรรมทาง ร่างกายและทางเพศ
3) ประวัติด้านสัมพันธภาพ เช่น การติดต่อสื่อสาร การจัดการความขัดแย้ง การตัดสินใจ และ การแบ่งปันหน้าที่รับผิดชอบของผู้ป่วยและคู่ เป้าหมายของสัมพันธภาพในอนาคต
4) ประวัติทางเพศในปัจจุบัน เช่น เพศที่แท้จริง เพศที่ต้องการเป็น รสนิยมทางเพศ ทัศนคติและ จินตนาการทางเพศ ความคิดความเชื่อที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องเพศ
5) ประวัติการติตโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และ HIV/AIDS ความคิดความรู้สึกต่อการตั้งครรภ์ ความต้องการมีบุตร และประวัติการคุมกำเนิด
2) ประวัติของครอบครัว
1) การทำร้ายตนเอง เนื่องจากผู้ป่วยที่มารับการบำบัดมักมีความรู้สึกละอายใจอย่างมากกับ พฤติกรรมทางเพศของตนและสูญเสียควมภาคภูมิใจในตนเอง
2) ปัญหาที่นำผู้ป่วยมาโรงพยาบาล (presenting problems) เช่น อาการซึมเศร้า การทำร้าย ตนเอง หรือการเจ็บป่วยทางจิตอื่น
3) ประเมินควมคิดความรู้สึกที่มีต่อผลกระทบที่เกิดขึ้นจากพฤติกรรมทางเพศที่ผิดปกติ
2) การวินิจฉัยทางการพยาบาล (nursing diagnosis)
• ความบกพร่องในหน้าที่ทางเพศ (sexual dysfunctions)
มีการเปลี่ยนแปลงของความรู้สึกตื่นเต้นทางเพศเนื่องจากความวิตกกังวลว่าจะตั้งครรภ์
มีความบกพร่องในหน้าที่ทางเพศจากการเจ็บป่วยด้วยโรคทางกาย
มีความบกพร่องในหน้าที่ทางเพศจากการถูกทารุณกรรมทางเพศในวัยเด็ก
การแสดงออกทางเพศไม่มีประสิทธิภาพเนื่องจากความวิตกกังวลว่าจะตั้งครรภ์
การแสดงออทางเพศเปลี่ยนแปลงเนื่องจากสูญเสียภาพลักษณ์จากอุบัติเหตุที่ใบหน้า
การแสดงออกทางเพศมีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากวิตกกังวลเรื่องปัญหาการเงิน
• ภาวะความไม่พึงพอใจในเพศตนเอง (gender dysphoria)
มีความรู้สึกอึดอ้ดใจที่ต้องแสดงพฤติกรรมที่ไม่สอดคล้องกับเพศที่ตนต้องการเป็น
การปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นบกพร่องเนื่องจากกลัวถูกปฏิเสธสัมพันธภาพ
• พฤติกรรมทางเพศที่วิปริต (paraphilic dysfunctions)
เสี่ยงต่อการทำร้ายตนเองเนื่องจากมีความรู้สึกละอายใจกับพฤติกรรมทางเพศของตนและการสูญเสียความภาคภูมิใจในตนเอง
เสี่ยงต่อการทำร้ายผู้อื่นเนื่องจากมีอารมณ์ตื่นเต้นทางเพศ
เสี่ยงต่อการทำร้ายผู้อื่นเนื่องจากไม่สามารถควบคุมตนเองได้
การแสดงออกทางเพศไม่มีประสิทธิภาพมีการแสดงออกทางเพศแปลกจากปกติ
ปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นบกพร่องเนื่องจากการแยกตนเอง
3) การวางแผนและการปฏิบัติทางการพยาบาล (planning and implementation)
• ความบกพร่องในหน้าที่ทางเพศ (sexual dysfunctions)
จัดสิ่งแวดล้อมที่มีความป็นส่วนตัวและรักษาความลับของผู้ป่วย
การตรวจร่างกายที่ต้องมีการสัมผัสร่างกายควรแจ้งให้ผู้ป่วยได้ทราบก่อน และควรมีผู้ช่วยอยู่ด้วย
สร้างสัมพันธภาพกับผู้ป่วยบนพื้นฐานของความเชื่อถือไว้วางใจ เคารพในความเป็นบุคคล และไม่ตัดสินผู้ป่วย
แจ้งให้ทราบถึงบทบาทของพยบาลในการประเมินและซักประวัติทางเพศอย่างครอบคลุม รวมถึงการดูแลช่วยเหลือที่มีให้
สังเกตท่าทางการแสดงออก ประเมินความรู้สึกวิตกกังวลและความเครียด รวมถึงสัญญาณที่ผู้ป่วยอาจสื่อให้รู้ว่ามีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องเพศ
• ภาวะความไม่พึงพอใจในเพศตนเอง (gender dysphoria)
1) เด็กที่มีปัญหา gender dysphoria
ประเมินและซักประวัติอย่างครอบคลุมเพื่อประเมินว่าเด็กเข้าเกณฑ์การวินิจฉัยgender dysphoric
ทำความเข้าใจสาเหตุและจัดการที่ต้นเหตุที่เด็กมีการแสดงออกในลักษณะ genderdysphoric และช่วยเด็กในการปรับพฤติกรรมและปรับตัวในสังคม หากเด็กไม่เข้าเกณฑ์gender dysphoric และ เด็กเองก็ไม่ได้รู้สึกว่าตนมีความไม่พึงพอใจในเพศตนเอง
ให้ความรู้แก่ผู้ปกครองและครูเกี่ยวก้บเรื่องเพศและการดูแลเด็กที่เหมาะสม
ส่งต่อจิตแพทย์เพื่อการรักษา หากผู้ปกครองและเด็กต้องการหลังประเมินพบว่าเด็กมี ภาวะ gender dysphoric
2) ผู้ใหญ่ที่มีปัญหา gender dysphoria
การให้ผู้ป่วยได้มีโอกาสระบายความรู้สึกที่มีต่อพฤติกรรมการแสดงออกของตน
ประเมินความต้องการที่แท้จริงของผู้ป่วยโดยช่วยให้เกิดความเข้าใจและยอมรับตนเอง
ให้ความรู้เกี่ยวกับภาวะความไม่พึงพอใจในเพศตนเอง พร้อมปรับแก้ความคิดความเชื่อที่ไม่เหมาะสม
เสริมสร้างความรู้สึกคุณค่าในตนเอง ให้แยกความรู้สึกมีคุณค่าในตนเองออกจากความรู้สึกที่ตนมีต่อร่างกายหรือต่อเพศของตน หาข้อดีของตน ตั้งเป้าหมายที่เป็นไปได้และยอมรับความท้าทายใหม่ที่ จะเกิดขึ้นจากการตัดสินใจของตน
เสริมสร้างความรู้สึกภาคภูมิใจในภาพลักษณ์และรูปร่างของตน
ให้การช่วยเหลือในการปรับตัวในกระบวนการเปลี่ยนผ่าน หากผู้ป่วยต้องการแสดงออกตามเพศที่ตนต้องการ
• พฤติกรรมทางเพศที่วิปริต (paraphilic dysfunctions)
ให้การพยาบาลโดยตระหนักในความคิด ทัศนคติ และค่านิยมของตนและไม่นำไปตัดสินผู้ป่วย
สร้างสัมพันธภาพบนพื้นฐานของความเชื่อถือไว้วางใจ เคารพในความเป็นบุคคล และให้เกียรติผู้ป่วย
จัดสิ่งแวดล้อมของผู้ป่วยให้มีความเป็นส่วนตัว ปลอดภัย และรักษาความลับของผู้ป่วย
4) การประเมินผลทางการพยาบาล (evaluation)
4) การประเมินผลทางการพยาบาล (evaluation)
ผู้ป่วยสามารถควบคุมอาการหรือความผิดปกติได้
มีความรู้สึกพึงพอใจในตนเองและคู่
ความรู้สึกทุกข์ใจ วิตกกังวลใจลดลง
การปรับเปลี่ยนทัศนคติทางลบต่อเรื่องเพศมีความเป็นกลางหรือเป็นบวกมากขึ้น
• ภาวะความไม่พึงพอใจในเพศตนเอง (gender dysphoria)
1) เด็กที่มีปัญหา gender dysphoria
เข้าใจความต้องการที่แท้จริงของตน
ยอมรับตนเองได้
ตัดสินใจใช้ชีวิตตามความต้องการของตนโดยไม่มีความรู้สึกขัดแย้งในใจ
2) ผู้ใหญ่ที่มีปัญหา gender dysphoria
ผู้ป่วยเข้าใจความต้องการที่แท้จริงของตน
ยอมรับตนเองได้
สามารถเผชิญกับเรื่องต่างๆ หลังตัดสินใจใช้ชีวิตแบบเพศที่ตนเป็นอยู่หรือตามเพศที่ตนต้องการ
• พฤติกรรมทางเพศที่วิปริต (paraphilic dysfunctions)
การลดหรือเลิกพฤติกรรมทางเพศที่เป็นปัญหา
มีพฤติกรรมที่สร้างสรรค์ในการตอบสนองความต้องการทางเพศทดแทนพฤติกรรมทางเพศที่เป็นปัญหา
มีกิจกรรมทางเพศแบบปกติ
บอกถึงแหล่งขอความช่วยเหลือในการควบคุมตนเองหากต้องการได้
น.ส.เปมิกา เพิ่มชีวา รหัส180101126