Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
3.2 การพยาบาลบุคคลที่มีปัญหาจิตสังคม บุคคลที่มีความโกรธและความก้าวร้าว -…
3.2 การพยาบาลบุคคลที่มีปัญหาจิตสังคม บุคคลที่มีความโกรธและความก้าวร้าว
การพยาบาลบุคคลที่มีความโกรธ
การประเมิน
ประเมินความเสี่ยงในการทําร้ายตนเองและผู้อื่น สังเกตลักษณะการใช้คําพูดที่รุนแรง ให้ร้าย ถากถาง กํามือแน่น ขบกราม หรือใช้สายตา มีสายตาที่ไม่เป็นมิตร
ประเมินควาขัดแย้งในใจ เช่น การพึ่งพาสารเสพติดดื่มสุรา หนีออกจากบ้าน หนีโรงเรียน มีพฤติกรรมอันธพาลไม่ เป็นมิตร ก้าวร้าว ทําร้ายผู้อื่น
ประเมินอาการทางร่างกาย เช่น ความดันโลหิตสูง อัตราหัวใจเต้นเร็ว หน้าแดง มือกําแน่น ตัวแข็งแกร่ง น้ําเสียงเปลี่ยน ระดับการรับรู้ตื่นตัวมาก ปัสสาวะบ่อย รูม่านตาขยา
ประเมินการใช้กลไกทางจิต
สังคมยอมรับได้ (sublimations)
เก็บกดความโกรธเอาไว้ (repression)
หันความโกรธเข้าหาตนเอง (introjection)
หันความโกรธเข้าหาบุคคลอื่น (projection)
ประเมินพื้นฐานอารมณ์ดั้งเดิม ผู้ป่วยบางคนมีอารมณ์เดิมเป็นคนเจ้าอารมณ์ โมโหร้าย
ประเมินความเข้าใจตนเอง
ประเมินระดับความสามารถในการสร้างสัมพันธภาพกับบุคคลอื่น
ประเมินสิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตวิญญาณหรือมีความเชื่อหรือปรัชญาของชีวิตที่ผู้ป่วยยึดถือ
ข้อวินิจฉัย
เสี่ยงต่อการเกิดพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงทั้งต่อตนเองและผู้อื่นเนื่องมาจากมีอารมณ์โกรธและไม่สามารถระบายอารมณ์โกรธได้อย่างสร้างสรรค์
การแสดงอารมณ์โกรธไม่เหมาะสมเนื่องจากขาดทักษะในการเผชิญปัญหาอย่างสร้างสรรค์
เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนทางร่างกายเนื่องจากมีภาววะความดันโลหิตสูงที่มีความสัมพันธ์กับอารมณ์โกรธ
ขาดทักษะในการสร้างสัมพันธภาพเนื่องจากอารมณ์โกรธ
รู้สึกผิดและคิดว่าตนเองด้อยค่าเมื่อมีอารมณ์โกรธ
กิจกรรมการพยาบาล
สร้างสัมพันธภาพ
เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยได้ระบายความรู้สึกเรื่องราวต่างๆ,
ฝึกให้ผู้ป่วยให้อภัยตนเองที่มีอารมณ์โกรธ
ประเมินรูปแบบการเผชิญปัญหา
แสดงการยอมรับ ชื่นชม และให้กําลังใจผู้ป่วยอย่างสม่ําเสมอ เมื่ทำดีเหมาะสม
หากผู้ป่วยที่มีอารมณ์โกรธที่รุนแรงและแสดงพฤติกรรมที่ไม่เป็นมิตร เช่น ส่งเสียงดัง ตาขวาง กํามือแน่น พยาบาลต้องระวังตนโดยเมื่อผู้ป่วยเริ่มเสียงดังควรเรียกชื่อผู้ป่วย
ส่งเสริมและฝึกให้ผู้ป่วยใช้ทักษะการเผชิญอารมณ์โกรธอย่างสร้างสรรค์
จัดกลุ่มกิจกรรมบําบัดและส่งเสริมให้ผู้ป่วยเข้ากลุ่มกิจกรรมบําบัด เช่น นันทนาการบําบัด,ดนตรีบําบัด, กลุ่มวาดภาพ หรือกิจกรรมผ่อนคลายอื่นๆ เช่น โยคะ, ฝึกการหายใจ
สาเหตุการเกิดของความความโกรธ
ปัจจัยด้านชีวภาพ (biological factors)
สารสื่อประสารในสมอง เช่น สารซีโรโทนิน (serotonin),สารโดปามีน (dopamine),สารอีพิฟริน(epinephrine) และนอร์อีพิเนฟริน (norepinephrine) อยู่ในระดับผิดปกติ
การได้รับบาดเจ็บหรือความกระทบกระเทือนที่สมอง, การมีเนื้องอกที่สมองเยื่อหุ้มสมองอักเสบ หรือโรคอัลไซเมอร์
การเจ็บป่วยทางกายอื่นๆ เช่น ภาวะน้ําตาลในเลือดต่ําหรือการเจ็บป่วยทั้งแบบฉับพลันและเรื้อรัง ที่ส่งผลต่อความทุกข์ทรมาน, มีคุณค่าในตนเอง
ปัจจัยด้านจิตใจ (psychological factors)
ด้านจิตวิเคราะห์ (psychoanalytic theory) ซิกมันด์ ฟรอยด์ (Sigmund Freud)
ด้านพฤติกรรมและการรู้คิด (cognitive-behavioral theory) เช่น “ฉันต้องได้รับการดูแลอย่างดีที่สุดจากบุคคลที่ฉันให้ความสําคัญ” หรือ “เมื่อฉันทําดีกับใครฉันจะได้รับการตอบสนองกลับคืนมาเช่นกัน”
ปัจจัยด้านสังคม (psychosocial factors)
แนวคิดทางด้านสังคมวิทยา (sociocultural theory) เด็กที่ถูกทอดทิ้ง ถูกทําร้าย หรือถูกล่วงละเมิดทางเพศ จะเก็บกด ไม่เป็นมิตรก้าวร้าว และอารมณ์รุนแรงได้
เด็กที่เติบโตในครอบครัวที่มีพฤติกรรมรุนแรง จะเลียนแบบพฤติกรรมของบิดา มารดา ผู้เลี้ยงดูหรือบุคคลใกล้ชิด
ความหมาย
ความโกรธ (anger) เป็นปฏิกิริยาตอบสนองทางด้านจิตใจและอารมณ์ของบุคคล ความรู้สึกขุ่นเคืองใจ ความรู้สึกไม่พอใจที่รุนแรงเกิดขึ้นเมื่อบุคคลรู้สึกว่าตนเองถูกคุกคาม ไม่ปลอดภัย ถูกทําให้ผิดหวังจากสิ่งที่ตั้งใจ หรือตั้งเป้าหมายไว้ รู้สึกสูญเสียคุณค่า และศักดิ์ศรีในตนเอง บุคคลจะรู้สึกคับข้องใจ วิตกกังวล และมีอารมณ์โกรธตามมาเป็นลําดับ
อาการและอาการแสดง
ด้านร่างกาย
อัตราการเต้นหัวใจ
BP สูง
หน้าแดง
มือสั่น
หายใจเร็ว
ระดับอีพิเนฟริน (epinephrine), นอร์อีพิเนฟริน(norepinephrine) และระดับน้ําตาลในเลือดสูงขึ้น
ปวดศีรษะแบบไมแกรน
ระบบทางเดินอาหาร เช่น มีแผลในกระเพาะอาหาร
โรคเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจ
ด้านจิตใจและอารมณ์ เกิดความขุ่นเคืองใจ ไม่พอใจ สูญเสียคุณค่า และศักดิ์ศรีในตนเอง คับข้องใจ วิตก
กังวล
ความไม่เป็นมิตร (hostility)
ประสงค์ร้าย
การเฉยเมยไม่พูดไม่ทักทาย
ตาขวาง ถลึงตาจ้องมอง บึ้งตึง เคร่งครึม คิ้วขมวด
มักจะใช้กลไกทางจิตแบบโทษผู้อื่น(projection) แบบเคลื่อนย้ายอารมณ์ไปยังบุคคลหรือสิ่งของที่ไม่ใช่สาเหตุของการเกิดอามรณ์โกรธ (displacement)
การกระทําที่รุนแรง (violence)
การทําลายข้าวของ
การฆ่าผู้อื่น การฆ่าตนเอง การทําร้ายร่างกาย
มักจะใช้กลไกทางจิตแบบโทษผู้อื่น (projection)
แยกตัว (withdrawal)
อารมณ์แบบตรงไปตรงมา (passiveexpression of anger)
เกิดจากการที่บุคคลเก็บกดอารมณ์โกรธไว้ ทําให้รู้สึกไม่สบายใจและเพิ่มความกดดันเรื่อยๆ จนต้องแยกตัวออกจากสถานการณ์ที่ทําให้เกิดอารมณ์
มักจะใช้กลไกทางจิตแบบปฏิเสธความ
จริง (denial of reality), แบบถดถอย (regression)
ซึมเศร้า (depression)
เก็บกด
ไม่กล้าแสดงออก กลัวคนอื่นไม่รัก
กลัวอันตราย
ใช้กลไกทางจิตแบบโทษตนเอง (introjection),แบบเก็บกด (repression) และแบบฝืนทําให้ตรงข้ามกับความรู้สึกที่แท้จริง (reaction formation)
ความก้าวร้าว (aggression)
พูดประชดประชัน ขู่ตะคอก พูดคําหยาบคาย ใช้น้ําเสียง ถ้อยคําในการโต้ตอบที่รุนแรง
ทะเลาะวิวาท
ออกแรงกระแทกกระทั้นสิ่งของให้เสียงดัง
มักจะใช้กลไกทางจิตแบบโทษผู้อื่น (projection)แบบเคลื่อนย้ายอารมณ์ไปยังบุคคลหรือสิ่งของที่ไม่ใช่สาเหตุของการเกิดอามรณ์โกรธ (displacement)