Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 4.3 การพยาบาลเด็กและวัยรุ่นที่มีการเจ็บป่วยทางจิตเวชโรคซนสมาธิสั้น -…
บทที่ 4.3 การพยาบาลเด็กและวัยรุ่นที่มีการเจ็บป่วยทางจิตเวชโรคซนสมาธิสั้น
ความหมาย
โรคซนสมาธิสั้น (attention-deficit/ hyperactivity disorder: ADHD) จะเริ่มแสดงอาการตั้งแต่วัย เด็กโดยมีลักษณะการไม่ใส่ใจขาดสมาธิ (inattention) ขาดความต่อเนื่องในการจดจ่ออยู่กับงานและไม่สามารถให้ ความสนใจเรื่องใดได้นาน หรือมีอาการซนไม่อยู่นิ่ง (hyperactivity) หุนหันพลันแล่น (impulsivity) ไม่มีความ เป็นระเบียบ และไม่ใช่เกิดจากการไม่เชื่อฟังหรือไม่เข้าใจ โดยมีเป็นรูปแบบที่มีลักษณะถาวร (persistent patter) ส่งผลต่อการทำหน้าที่พัฒนาการ
อาการและอาการแสดง
อาการขาดสมาธิมีตั้งแต่ 6 อาการขึ้นไป แต่อายุตั้งแต่ 17 ปีขึ้นไปต้องมีอาการอย่างน้อย 5 อาการขึ้นไป
มักจะไม่สามารถจดจำรายละเอียด จึงทำผิดพลาดในเรื่องเกี่ยวกับการเรียน หรือการทำกิจกรรมอื่นๆ
มักจะไม่มีสมาธิในการทำงานหรือการเล่น
มักจะดูเหมือนไม่สนใจฟังเวลาที่พูดด้วยโดยตรง
มักจะไม่ปฏิบัติตามคำสั่งและไม่สามารถทำงานให้แล้วเสร็จตามกำหนดได้
มักมีปัญหาในการวางแผนเกี่ยวกับงานหรือการทำกิจกรรมต่างๆ
มักจะหลีกเลี่ยง ไม่ชอบ หรือลังเลที่จะทำงานที่ต้องใช้ความคิด
มักจะทำของที่จำเป็นสำหรับการเรียนหรือการทำงานหายอยู่บ่อยๆ
มักจะถูกเบี่ยงเบนความสนใจจากสิ่งเร้าภายนอกได้ง่าย
มักจะลืมบ่อยๆ เกี่ยวกับกิจวัตรประจำวัน
มีอาการซน ไม่อยู่นิ่ง และมีอาการหุนหันพลันแล่น ตั้งแต่ 6 อาการขึ้นไป สำหรับอายุตั้งแต่ 17 ปีขึ้นไปต้องมีอาการอย่างน้อย 5 อาการขึ้นไป มีเป็นเวลานานติดต่อกัน อย่างน้อย 6 เดือน
เมื่อนั่งอยู่กับที่มักจะมีอาการกระวนกระวาย ขยุกขยิกยุกยิกตลอดเวลา
มักจะลุกจากที่นั่งบ่อยๆ ในสถานการณ์ที่ควรต้องนั่งอยู่กับที่
มักจะวิ่งไปทั่วหรือปีนป่ายสิ่งต่างๆ ในสถานการณ์ที่ไม่เหมาะสม ในผู้ใหญ่เป็นเพียงความรู้สึกกระวนกระวายใจ
มักจะไม่สามารถเข้าร่วมในกิจกรรมสันทนาการได้อย่างเงียบๆ
มักจะยุ่งวุ่นวายเหมือนขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์อยู่ตลอดเวลา
มักจะพูดมาก พูดไม่หยุด
มักจะโพล่งตอบคำถามก่อนที่จะถามคำถามจบ
มักจะมีปัญหาในการรอคอยให้ถึงตาตนเอง
มักจะขัดจังหวะหรือสอดแทรกผู้อื่น สำหรับผู้ใหญ่อาจจะก้าวก่ายหรือการยึดครองสิ่งที่ผู้อื่นกำลังทำอยู่
สาเหตุ
2) ปัจจัยก่อนคลอดขณะคลอด หลังคลอด เช่น มีการติดเชื้อ มีการเสพติด การคลอดก่อนกำหนด เด็กขาด oxygen ระหว่างคลอด
3) ปัจจัยทางจิตสังคม การที่เด็กไม่ได้รับความอบอุ่นเป็นระยะเวลานานๆ
1) ปัจจัยทางชีวภาพ
พันธุกรรม ฝาแฝดไข่ใบเดียวกัน
กายวิภาคและสรีรวิทยาของระบบประสาท
สารเคมี และโรคทางระบบประสาท
4) ปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม การสูดหายใจอากาศที่มีมลพิษ,สารตะกั่ว
การพยาบาล
2) การวินิจฉัย เช่น ไม่สามารถทำตามบทบาทหน้าที่ของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3) การปฏิบัติการพยาบาล
สร้างสัมพันธภาพเพื่อการบำบัดกับพ่อแม่ เด็ก และคุณครู กำหนดพฤติกรรมของเด็กที่คาดหวังร่วมกัน
ดูแลให้เด็กได้รับการรักษาด้วยยาร่วมกับการปรับพฤติกรรม และการรักษาทางจิตสังคม
เป้าหมายระยะสั้น เช่น จำนวนครั้งที่เด็กจะถูกไล่ออกจกห้องเรียนลดลงภายในระยะเวลา 2 สัปดาห์
1) การประเมินสภาพ
การประเมินเมื่อเด็กอยู่ที่โรงเรียน เช่น พฤติกรรม ปฏิสัมพันธ์ต่อเพื่อน
การประเมินที่โรงพยาบาล กระทำโดยการสังเกต สัมภาษณ์สั้นๆ พ่อแม่และคุณครู
4) การประเมินผลเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ได้กำหนดไว้หรือไม่
การบำบัดรักษา
1) ยา ได้แก่ stimulants และ alpha adrenergic agonists
2) ปรับพฤติกรรมและการรักษาทางจิตสังคม ได้แก่ ฝึกอบรม ให้ความรู้ สอน แนะนำพ่อแม่และคุณครูในการดูแลเด็ก
การให้ความช่วยเหลือโดยมุ่งเน้นที่ตัวเด็กเป็นสำคัญ เช่น การฝึกทักษะทางสังคม ช่วยเหลือเป็นพิเศษในเด็กที่มีปัญหาทางด้านการเรียน ารบำบัดทางจิตเป็นรายบุคคล