Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 4 การพยาบาลเด็กและวัยรุ่นที่มีการเจ็บป่วยทางจิตเวช, นางสาวจิราภรณ์…
บทที่ 4 การพยาบาลเด็กและวัยรุ่นที่มีการเจ็บป่วยทางจิตเวช
ภาวะบกพร่องทางสติปัญญา
ความหมาย
ภาวะที่เกิดขึ้นในระยะพัฒนาการจากการที่สมองของเด็กหยุดพัฒนา หรือมีการพัฒนาอย่างไม่สมบูรณ์ ส่งผลให้เกิดความบกพร่องทางพัฒนาการด้านต่างๆ
ลักษณะอาการและอาการแสดง
ประกอบด้วย 3 ลักษณะ
ความบกพร่องทางสติปัญญา
ความบกพร่องของการปรับตัว
ภาวะบกพร่องทางสติปัญญาและการปรับตัว
3 ลักษณะข้างต้น ต้องประกอบด้วยอาการและอาการแสดง ดังนี้
1)มีพัฒนาการล่าช้า
2)มีความบกพร่องทางสติปัญญา
3)มีปัญหาด้านพฤติกรรม
4)มีลักษณะผิดปกติของรูปร่าง อวัยวะต่างๆ
พิจารณาจากความบกพร่องการทำหน้าที่ 3 ด้าน
ได้แก่ ความคิด สังคม และการปฏิบัติ
แบ่งระดับความรุนแรงได้4 ระดับ
1)บกพร่องทางสติปัญญาเล็กน้อย ระดับ IQ 50-69 ต้องการความช่วยเหลือเป็นครั้งคราว
เด็กจะมีปัญหาในการเรียนรู้ทักษะ อ่าน เขียน คิดคำนวณ ความคิดเชิงนามธรรม มีปัญหาปฏิสัมพันธ์ด้านสังคม ดูแลตนเองได้เหมาะสมตามวัย อาจต้องการความช่วยเหลือในกิจกรรมที่ซับซ้อน
2)บกพร่องทางสติปัญญาปานกลาง ระดับ IQ 35-49
ทักษะการพูด อ่าน เขียน คิดคำนวณ การเข้าใจเวลา และการเงินมีข้อจำกัด รับรู้ระเบียบทางสังคมได้ไม่ถูกต้อง มีข้อจำกัดในการตัดสินใจทางสังคม ต้องใช้เวลาในการฝึกการดูแลตนเองมากกว่าเด็กที่มีพัฒนาการปกติ ฝึกอาชีพการงานที่ไม่ต้องอาศัยทักษะได้ แต่ต้องอาศัยการช่วยเหลือจากผู้อื่นและใช้เวลาในการเรียนรู้
3)บกพร่องทางสติปัญญารุนแรง ระดับ IQ 20-34
มีข้อจำกัดการคิด การใช้ภาษา ต้องช่วยเหลือตลอดชีวิต มีข้อจำกัดการพูด ต้องการการช่วยเหลือทุกอย่างในการทำกิจวัตรประจำวัน
4)บกพร่องทางสติปัญญารุนแรงมาก ระดับ IQ< 20
มีข้อจำกัดในการเข้าใจสัญลักษณ์ของการสื่อสารด้วยคำพูดหรือท่าทาง ต้องพึ่งพาผู้อื่นในทุกด้านของการทำกิจวัตรประจำวัน
สาเหตุ
ปัจจัยทางพันธุกรรม
ปัจจัยในระยะตั้งครรภ์ ระยะคลอด และหลังคลอด
ระยะตั้งครรภ์ การใช้แอลกอฮอล์ ยา หรือสารเคมี
ระยะคลอด การคลอดก่อนกำหนด
ระยะหลังคลอด โรคที่เกิดในวัยเด็ก
ปัจจัยทางจิตสังคม
เด็กที่เติบโตในฐานะที่ยากจน ครอบครัวแตกแยก ผู้เลี้ยงดูมีความผิดปกติทางจิต
การบำบัดรักษา
รักษาโรคทางกาย
กายภาพบำบัด ส่งเสริมพัฒนาการกล้ามเนื้อมัดใหญ่
จัดโปรแกรมฝึกทักษะที่จำเป็นในการเรียนรู้
กิจกรรมบำบัด แก้ปัญหาที่เป็นองค์ประกอบสำคัญในการดำเนินชีวิต
การพยาบาล
การประเมินสภาพ
ซักประวัติ ตรวจร่างกาย ประเมินพัฒนาการ ตรวจสภาพจิต ประเมินจิตสังคมและจิตวิญญาณ
การวินิจฉัยทางการพยาบาล
ตัวอย่างข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
ไม่สามารถสื่อสารความต้องการของตนเองได้เนื่องจากพัฒนาการด้านการใช้ภาษาล่าช้า
มีความบกพร่องในการช่วยเหลือตนเองที่เหมาะสมตามวัยเนื่องจากพัฒนาการด้านกล้ามเนื้อมัดใหญ่และกล้ามเนื้อมัดเล็กล่าช้า
การวางแผนและการปฏิบัติการพยาบาล
1)กิจกรรมการพยาบาลต่อตัวเด็ก
ช่วยเหลือเด็กที่มีภาวะพร่องทางสติปัญญาทีมีปัญหาทางจิตเวช
ด้านการศึกษาและการฝึกอาชีพ
การส่งเสริมพัฒนาการตามความสามารถของเด็กที่มีภาวะพร่องทางสติปัญญา
2.การช่วยเหลือครอบครัว
3)การป้องกันภาวะบกพร่องทางสติปัญญา
4)การประเมินผล
โรคพฤติกรรมเกเร
ความหมาย
กลุ่มโรคที่มีความผิดปกติของพฤติกรรมในลักษณะก่อกวน เริ่มแสดงอาการตั้งแต่วัยเด็กหรือวัยรุ่น
ลักษณะอาการและอาการแสดง
มีการล่วงละเมิดสิทธิของผู้อื่น หรือฝ่าฝืนกฎเกณฑ์ของสังคมในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ส่วนใหญ่พ่อแม่มักพาเด็กมาพบจิตแพทย์เพราะเด็กก่อคดี
สาเหตุ
ปัจจัยด้านจิตสังคม
ลักษณะพื้นอารมณ์
วิธีการเลี้ยงดูของพ่อแม่
ได้รับการกระทบกระเทือนทางจิตใจ
การไม่ได้รับการยอมรับจากเพื่อน
การบำบัดรักษา
การรักษาทางกาย
รักษาโรคต่างๆที่พบร่วมกับพฤติกรรมเกเร เช่น การบำบัดการติดยาเสพติด
รักษาด้วยยา
ใช้ยาประเภท antipsychotics เช่น haloperidol (Hadol), risperidone (Risperdal) และ olanzapine (zyprexa) ในกรณีที่เด็กมีพฤติกรรมก้าวร้าว เป็นอันตรายต่อผู้อื่น
เด็กที่มีพฤติกรรมก้าวร้าวและมีภาวะพร่องทางสติปัญญาหรือมีปัญหาทางสมอง จะรักษาโดยให้ยา propanolol
เด็กที่มีพฤติกรรมก้าวร้าวและมีโรคร่วมพวกโรคอารมณ์สองขั้ว จะรักษาโดยให้ยา lithium
เด็กที่มีอากาหุนหันพลันแล่น หงุดหงิด ฉุนเฉียวง่าย อารมณ์ขึ้นๆลงๆ จะรักษาโดยให้ยาพวก selective serotonin reuptake inhibitors (SSRIs) เช่น fluoxetine (Prozac), sertraline (Zoloft), paroxetine (Paxil) และ Citalopram (Celexa)
การรักษาทางจิต
ให้คำปรึกษารายบุคคล เน้นให้เด็กฝึกทักษะแก้ไขปัญหา
ส่งเสริมให้เด็กมีทักษะการเรียนรู้และทักษะการเข้าสังคม
การบําบัดเพื่อเพิ่ม self-esteem (การรับรู้คุณค่าตนเอง)
การรักษาทางสังคม
การบำบัดครอบครัว
การอบรมณ์พ่อแม่
การรักษาทางอารมณ์
บำบัดการจัดการอารมณ์โกรธ หรือดนตรีบำบัด
เด็กที่มีภาวะซึมเศร้า ควรได้การบำบัดความคิด พฤติกรรมและสติปัญญา (CBT)
การบําบัดแบบจิต บําบัดสัมพันธภาพระหว่างบุคคล (interpersonal therapy หรือ IPT)
การบำบัดทางจิตวิญญาณ
ช่วยให้เด็กเข้าใจตนเอง ค้นพบตนเอง มีจุดมุ่งหมาย หรือมีความหวังในชีวิต
การพยาบาล
1)การประเมินสภาพ เป็นการรวบรวมเพื่อประเมินปัญหาความผิดปกติในเด็กที่มีพฤติกรรมเกเร
2) การวินิจฉัยทางการพยาบาล (nursing diagnosis)
ตัวอย่างข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
มีภาวะเสี่ยงต่อการใช้ความรุนแรงเนื่องจากมีกระบวนการแก้ปัญหาท่ีไม่เหมาะสม
มีภาวะเสี่ยงต่อการทําร้ายตนเองและ/หรือบุคคลอื่นเนื่องจากไม่สามารถควบคุม
อารมณ์โกรธได้
3) การวางแผนและการปฏิบัติการพยาบาล (planning and implementation)
การสร้างสัมพันธภาพเพื่อการบําบัดกับเด็กและครอบครัว
สื่อสารกับเด็กและครอบครัวให้ชัดเจนเก่ียวกับพฤติกรรมที่ทีมสหสาขาวิชาชีพ คาดหวังให้ เด็กและครอบครัวประพฤติปฏิบัติ
ฝึกสอนทักษะทางสังคม
ฝึกทักษะการแก้ไขปัญหา
ฝึกทักษะการควบคุมความโกรธ
4) การประเมินผล
พฤติกรรมต่างๆท่ีเป็นปัญหาลดลงหรือไม
ความรุนแรงและ ความถี่ในการเกิดพฤติกรรมต่างๆที่เป็นปัญหา เด็กสามารถควบคุมตนเองได้ดีเพียงใด
คุณภาพชีวิตดีขึ้นหรือไม่
ประสิทธิภาพการเลี้ยงดูของพ่อแม่
โรคซนสมาธิสั้น (attention-deficit/ hyperactivity disorder:ADHD)
ความหมาย
โรคซน-สมาธิสั้น จะเริ่มแสดงอาการตั้งแต่วัยเด็กโดยมีลักษณะการไม่ใส่ใจ ขาดสมาธิ (inattention) และ/หรือ มีอาการซน ไม่อยู่นิ่ง (hyperactivity) หุนหันพลันแล่น (impulsivity) ซึ่งเป็นรูปแบบที่มีลักษณะถาวร (persistent patter) ส่งผลต่อการทําหน้าที่หรือพัฒนาการของเด็ก
ลักษณะอาการและอาการแสดง
มีพฤติกรรมที่ประกอบไปด้วยอาการไม่ใส่ใจ ขาดสมาธิ และ/หรือ อาการซนไม่อยู่นิ่ง หุนหันพลัน แล่น หลายๆ อาการเร่ิมปรากฎก่อนอายุ 12 ขวบ อาการดังกล่าวมีเป็นเวลานานติดต่อกันอย่างน้อย 6 เดือน
1.อาการขาดสมาธิมีตั้งแต่ 6 อาการขึ้นไป สำหรับวัยรุ่นตอนปลายและผู้ใหญ่ (อายุตั้งแต่ 17 ปีขึ้นไป) ต้องมีอาการอย่างน้อย 5 อาการขึ้นไป ซึ่งอาการต่างๆ มีดังนี้
ไม่สามารถจดจำรายละเอียด หรือขาดความรอบคอบ
ไม่มีสมาธิในการทำงาน หรือการเล่น
ดูเหมือนไม่สนใจฟัง เวลาที่พูดด้วยโดยตรง
ไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ไม่สามารถทำงานต่างๆให้เสร็จตามกำหนดได้
มีปัญหาในการวางแผนงานหรือกิจกรรมต่างๆ
หลีกเลี่ยง ไม่ชอบ หรือลังเลที่จะทำงานที่ต้องใช้ความคิด
ทำของหายบ่อยๆ
ถูกเบี่ยงเบนความสนใจจากสิ่งเร้าภายนอกได้ง่าย (วัยรุ่นตอนปลายและผู้ใหญ่อาจรวมถึงควาคิดที่ไม่สัมพันธ์กับสิ่งที่ทำ)
ลืมบ่อยๆเกี่ยวกับชีวิตประจำวัน
อาการซน ไม่อยู่นิ่ง และอาการหุนหันพลันแล่น มีอาการดังต่อไปนี้ตั้งแต่ 6 อาการขึ้นไป สําหร้บวัยรุ่นตอนปลายและผู้ใหญ่ (อายุตั้งแต่ 17 ปีขึ้นไป) ต้องมีอาการอย่างน้อย 5 อาการขึ้นไป ซึ่งอาการ ต่างๆมีดังต่อไปน้ี
เมื่อนั่งอยู่กับที่ จะมีอาการกระวนกระวาย กระสับกระส่าย หรือรู้สึกทรมาน
ลุกจากที่นั่งบ่อยๆในสถานการณ์ที่ควรต้องนั่งยู่กับที่
วิ่งหรือปีนป่ายสิ่งต่างๆในสถานการณ์ที่ไม่เหมาะสม (ในผู้ใหญ่หรือวัยรุ่นอาจเป็นเพียงความรู้สึกกระวนกระวายใจ)
ไม่สามารถเล่นหรือเข้าร่สมในกิจกรรมสันทนาการได้อย่างเงียบๆ
ยุ่ง วุ่นวาย เหมือนขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์อยู่ตลอดเวลา
พูดมาก พูดไม่หยุด
โพล่งตอบคำถามก่อนที่จะถามจบ
มีปัญหาในการรอให้ถึงตาตนเอง
ขัดจัหวะหรือสอดแทรกผู้อื่น
สาเหตุ
ปัจจัยทางชีวภาพ
พันธุกรรม
กายวิภาค สรีรวิทยา ของระบบประสาท
สมองถูกทำลาย
สารเคมีของระบบประสาท
Dopamine ต่ำ
ปัจจัยก่อนคลอด
หญิงตั้งครรภ์ 3เดือนแรก (first trimester) มีการติดเชื้อ มีการเสพสุรา ยาเสพติด
และ/หรือสูบบุหรี่ การคลอดก่อนกําหนด (prematurity) หรือการที่เด็กขาด oxygen ระหว่างคลอด ล้วน แล้วแต่เป็นสาเหตุทําให้เด็กมีอาการของ ADHD
ปัจจัยทางจิตสังคม
เด็กไม่ได้รับความอบอุ่นเป็นระยะเวลานานๆ เหตุการณ์ที่ทำให้เด็กรู้สึกเครียด
ปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม
มลภาวะเป็นพิษ การรับประทานสารตะกั่ว ส่วนของพวกสีผสมอาหาร
ปัจจัยอื่นๆที่อาจเกี่ยวข้อง
อารมณ์ของเด็ก ปัจจัยทางด้านพันธุกรรมที่ถ่ายทอดในครอบคร้ว มาตราฐานของสังคมใน
เรื่องเกี่ยวกับความประพฤติและการกระทํา
การบำบัดรักษา
การรักษาทางยา
รักษาด้วยยา psychostimulants
รักษาโดยกลุ่มยาต้านเสร้า (antidepressants) เช่น imipramine
การรักษาโดยกลุ่มยา alpha-adrenergic agonist เช่น clonidine (catapres) ใช้ methylphenidate กรณีที่เป็น ADHD ร่วมกับ tic หรือ tourette’s disorder
รักษาโดยการปรับพฤติกรรมและการรักษาทางจิตสังคม
การฝึกอบรมพ่อแม่ในการดูแลเด็ก ADHD (parent management training) เพื่อให้ สามารถเลี้ยงดูเด็ก ADHD ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ให้ความช่วยเหลือเด็กขณะอยู่ที่โรงเรียน
ให้ความช่วยเหลือโดยมุ่งเน้นที่ตัวเด็กเป็นสําคัญ
การพยาบาล
1)ประเมินสภาพ
ประเมินเด็กเมื่ออยู่โรงเรียน โรงพยาบาล
2)การวินิจฉัยทางการพยาบาล
ตัวอย่างข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
เสี่ยงต่อการได้รับบาดเจ็บ
ปฏิสัมพันธ์ทางสังคมบกพร่อง
3) การวางแผนและการปฏิบัติการพยาบาล
เป้าหมายระยะสั้น เช่น จํานวนครั้งที่เด็กจะถูกไล่ออกจกห้องเรียนลดลงภายใน
ระยะเวลา 2 สัปดาห์
การปฏิบัติการพยาบาล
สร้างสัมพันธภาพเพือการบำบัด ให้ความรู้ คำแนะนำแก่พ่อแม่ ผู้ปกครอง และคุณครู เกี่ยวกับโรค การดูแลเด็ก ปารปฏิบัติกับเด็ก ดูแลให้เด็กได้รับการรักษาด้วยยาร่วมกับการรักาาด้วยการปรับพฤติกรรมและการรักษา
4) การประเมินผล
พฤติกรรมต่างๆที่เป็นปัญหาลดลง
เด็กสามารถควบคุมตนเองได้
สามารถเลี้ยงดูเด็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ภาวะออทิซึมสเปกตรัม
ความหมาย
กลุ่มโรคท่ีมีความผิดปกติของพัฒนาการทางระบบประสาท ที่มีความบกพร่องของพัฒนาการด้าน
ปฏิสัมพันธ์ทางสังคม การสื่อสารร่วมกับความผิดปกติของพฤติกรรม และความสนใจหมกหมุ่นในบางเรื่อง มี พฤติกรรมซ้ำๆ ซึ่งแสดงอาการในระยะต้นของพัฒนาการ
ลักษณะอาการและอาการแสดง
อาการต่างๆ จะเป็นก่อนอายุ 36 เดือนแต่จะไม่ ชัดเจนและจะปรากฏให้เห็นในระยะต้นๆ ของการพัฒนาการวัยเด็กตอนต้น
1) มีความบกพร่องด้านการสื่อสารและด้านปฏิสัมพันธ์ทางสังคมในหลายบริบทได้แก่
มีความผิดปกติทางอารมณ์และทางสังคม
มีความบกพร่องด้านการสื่อสาร
มีความบกพร่องในการสร้าง รักษา และเข้าใจในสัมพันธภาพ
2) มีแบบแผนพฤติกรรม ความสนใจ หรือกิจกรรมที่จํากัดซ้ำๆ (stereotyped) ที่ไม่มี ประโยชน์และไม่สามารถหยุดหรือยืดหยุ่นพฤติกรรมดังกล่าวได้อย่างน้อย 2 ข้อ ดังนี้
มีการแสดงกิริยาบางอย่างซ้ำ (mannerism)
ยึดติดกับสิ่งเดิม
มีความสนใจที่จํากัดในขอบเขตที่จํากัดหรือเฉพาะเจาะจง
มีการตอบสนองต่อการรับสัมผัสส่ิงเร้าท่ีเข้ามากระตุ้น
สาเหตุ
ปัจจัยทางพันธุกรรม
คู่ฝาแฝดแท้ (ไข่ใบเดียวกัน)
ปัจจัยทางสมอง
ช่องว่างในสมองใหญ่กว่าปกติ ขนาดเซลล์สมองเล็กหรือใหญ่กว่าปกติ ความไม่สมดุลของการทำงานของสมองส่วนต่างๆ
ปัจจัยในระยะตั้งครรภ์ ระยะคลอด และระยะหลังคลอด
อายุพ่อแม่
ภาวะที่ไม่เข้ากันของภูมิคุ้มกันระหว่างมารดาและทารก
ภาวะแทรกซ้อนในขณะตั้งครรภ์และการคลอด
การบำบัดรักษา
1)การรักษาทางยา
ยา methylphenidate ท่ีใช้บรรเทาอาการขาดสมาธิ พฤติกรรมอยู่ไม่นิ่ง วิ่งไปมา
ยา haloperidol กับ risperidone ท่ีใช้บรรเทาอาการหงุดหงิด พฤติกรรมวุ่นวาย ก้าวร้าว พฤติกรรมทําร้ายตนเองหรือผู้อื่น
ยา fluoxetine ที่ใช้บรรเทาอาการซึมเศร้า ลดพฤติกรรมซ้ำๆ
ยา lorazepam ที่ใช้บรรเทาอาการวิตกกังวล
2) พัฒนาทักษะด้านการสื่อสาร
การทําอรรถบําบัด (speech therapy)
3) พัฒนาด้านทักษะทางสังคม
ฝึกเด็กให้ใช้ภาษาทางกายให้เหมาะสม
4) พฤติกรรมบําบัด
5) การบําบัดทางความคิด และพฤติกรรม (CBT)
6) ศิลปะบําบัด
7) ดนตรีบําบัด
8) การฟื้นฟูสมรรถภาพด้านการศึกษา
9) การให้คําแนะนําครอบครัว
10) การฟื้นฟูสมรรถภาพด้านอาชีพ
การพยาบาล
1) การประเมินสภาพ
ซักประวัติ ตรวจร่างกาย ประเมินพัฒนาการ สังเกตพฤติกรรมโดยเฉพาะการเล่นของเด็ก ใช้แบบคัดกรองพัฒนาการตามช่วงวัย ซึ่งแบบประเมินที่นิยมใช้ในประเทศไทย เช่น แบบคัดกรองโรคกลุ่มพัฒนาการผิดปกติรอบด้าน (pervasive developmental disorders screening questionnaire: PDDSQ)
แบบคัดกรองจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วงอายุ
• PDDSQ ท่ีใช้คัดกรองเด็กท่ีมีอายุ 1-4 ปี
• PDDSQ ที่ใช้คัดกรองเด็กที่มีอายุ 4-18 ปี
2) การวินิจฉัยทางการพยาบาล
ตัวอย่างข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
มีพฤติกรรมก้าวร้าวเนื่องจากขาดความสามารถในการควบคุมตนเอง
มีความบกพร่องด้านการมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลอื่น เนื่องจากมีพฤติกรรมแยกตัว
3) การวางแผนและการปฏิบัติทางการพยาบาล
1) การพยาบาลช่วยเหลือด้านเด็กที่มีภาวะออทิซึมสเปกตรัม
ช่วยเหลือในการปรับตัวในชีวิต ฝึกทักษะการสื่อความหมาย ฝึกกิจวัตรประจำวัน ฝึกทักษะทางสังคม แก้ไขพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
2) การพยาบาลช่วยเหลือครอบครัวเด็กท่ีมีภาวะออทิซึมสเปกตรัม
แสดงความเข้าใจยอมรับความรู้สึกของพ่อแม่ที่มีลูกท่ีมีภาวะออทิซึมสเปกตรัม
ช่วยลดความวิตกกังวลของพ่อแม่ ด้วยการให้ความช่วยเหลือปัญหาที่พ่อแม่ต้อง
เผชิญ การให้คําแนะนําในการดูแลลูกซึ่งจะต้องสมารถนําไปปฏิบัติได้จริง มีความชัดเจนและมีเหตุผล
ช่วยลดความรู้สึกผิดหรือกล่าวโทษกันของพ่อแม่ ด้วยการให้ข้อมูลที่ถูกต้องให้พ่อแม่
เห็นความสําคัญของการร่วมมือกันในการดูแลลูกการมีอารมณ์ขันและอดทน
4) การประเมินผลทางการพยาบาล
เป็นการประเมินผลหลังให้การพยาบาลตามตัวชี้วัดที่ได้กําหนดไว้ในเกณฑ์การประเมินผล
นางสาวจิราภรณ์ แก้วขวาน้อย รหัส 180101041 พยบ.ปี 3