Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลผู้ที่มี ปัญหาสุขภาพจิต - Coggle Diagram
การพยาบาลผู้ที่มี
ปัญหาสุขภาพจิต
ผู้ที่มีภาวะสูญเสีย / ทุกข์โศก
(Loss and Grife)
ความหมายของ Loss
เป็นภาวะสูญเสียทางอารมณ์
ความรู้สึกที่เป็นปฏิกิริยาของการที่บุคคลต้องแยกจาก สูญหาย ปราศจากบางสิ่งบางอย่างที่เคยมีในชีวิต
บุคคลรับรู้ถึงคุณค่าของสิ่งที่สูญเสีย หรือคาดว่ากำลังจะสูญเสีย
อาจเกิดขึ้นทันทีทันใด หรือค่อยเป็นค่อยไป
คาดการณ์ได้หรือไม่สามารถคาดการณ์ได้
อาจทำให้เกิดความชอกช้ำ เจ็บปวดอย่างมากหรือเล็กน้อย
ปัจจัยที่ส่งผลต่อระดับความรุนแรง
และรูปแบบการแสดงออก
ความรู้สึกต่อสิ่งที่สูญเสีย
เป็นการให้คุณค่าและความสำคัญกับสิ่งที่สูญเสีย
บุคลิกภาพและความพร้อม
บุคคลที่มีบุคลิกภาพเข้มแข็ง มองสภาวะการสูญเสียเป็นเพียงเหตุการณ์หนึ่งในชีวิต จะผ่านกระบวนการสูญเสียได้ดีกว่า
ประสบการณ์การสูญเสีย
การเรียนรู้การเผชิญและแก้ปัญหาที่เกิดจากการสูญเสียได้อย่างเหมาะสมในอดีต ประสบการณ์ทำให้บุคคลสามารถปรับตัวต่อการสูญเสียอื่นๆ มากกว่าผู้ที่ไม่ประสบความสำเร็จหรือไม่มีประสบการณ์
แหล่งสนับสนุน
การได้รับแรงสนับสนุนทางครอบครัวและสังคมจะช่วยให้การปรับตัวเร็วขึ้น
ประเภท
การสูญเสียบุคคลสำคัญของชีวิต
การสูญเสียสมบัติหรือความเป็นเจ้าของ
การสูญเสียความสมบูรณ์ทางสรีระ จิตใจ และสังคม
จำแนกตามลำดับขั้นความต้องการของมาสโลว์
การสูญเสียทางกาย (Physiologic loss)
การสูญเสียความปลอดภัย (Safety loss)
การสูญเสียความมั่นคงและความรู้สึกเป็นเจ้าของ (Loss of security and a sense of belonging)
การสูญเสียความเคารพนับถือตัวเอง (Loss of self-esteem)
5.ความสูญเสียที่สัมพันธ์กับการทำเต็มตามศักยภาพของตนเอง (Loss related to self - actualization)
ความหมายของ Grief
Grief
ความรู้สึกเสียใจ ที่เกิดขึ้น เมื่อคาดว่าจะมีการสูญเสีย
Mourning
กระบวนการของการแสดงออกตลอดช่วงที่บุคคลมีอารมณ์ที่เกิดจากการสูญเสีย
Bereavement
ช่วงระยะเวลาในกระบวนการทุกข์โศก นับตั้งแต่เริ่มทุกข์โศก ไปจนกระทั่งปรับตัวกลับคืนสภาวะปกติทางสังคม
ส่วนใหญ่ใช้เวลาไม่เกิน 1 ปี
กระบวนการทุกข์โศก
แบบปกติ
ระยะแรก ระยะเฉียบพลัน
อยู่ในช่วง 4-8 สัปดาห์แรก
ไม่สามารถยอมรับการสูญเสียได้ แสดงอาการช็อคและไม่เชื่อ
เมื่อกลไกปฏิเสธเริ่มลดลง ความรู้สึกเจ็บปวดจะเกิดขึ้นรุนแรงตามระดับสิ่งที่สูญเสีย พบบ่อยคือ ร้องไห้ โกรธ แสดงความไม่พึงพอใจ กล่าวโทษผู้ใกล้ชิดหรือตนเอง
ระยะที่ 2 ระยะเผชิญการสูญเสีย
ใช้เวลา 1-2 ปี
เกิดความรู้สึกผิดปกติทางกาย หมกมุ่นกับสิ่งของที่เป็นสัญลักษณ์ แยกตัว ไม่มีสัมพันธภาพกับผู้อื่น เลื่อนลอย
ไม่ยอมรับความจริง หดหู่ หงอยเหงา ว้าเหว่ ไม่อยากมีชีวิตอยู่ พฤติกรรมนี้จะพบในระยะ 20-60 วันแรก
เมื่อยอมรับการสูญเสีย จะพยายามตัดความสัมพันธ์ต่างๆ กลับคืนสู่สังคมอีกครั้ง
แบบผิดปกติ
ไม่สามาถปรับสภาพจิตให้เป็นไปตามกระบวนการของความทุกข์โศกได้
มีระยะโศกยาวนาน (Prolonged grief) มีความคิดหมกมุ่นกับความทรงจำเก่าๆ ไม่สามารถขจัดความรู้สึกหม่นหมอง เสียใจจากการสูญเสียไปได้เป็นเวลาหลายปี
ปฏิกิริยาทุกข์โศกล่าช้า (Delayed reaction) ไม่สามารถแสดงความเศร้าโศกออกมาทั้งในด้านพฤติกรรมและอารมณ์ ทำให้กระบวนการทุกข์โศกไม่เริ่มต้นหรือสิ้นสุด
แสดงปฏิกิริยาที่ผิดปกติ (Distorted reaction) ไม่สามารถปรับตัวให้เป็นไปตามกระบวนการทุกข์โศก ทำให้เกิดความรู้สึกที่รุนแรงขึ้น พบบ่อยคือซึมเศร้า
A model of five stage ของ Kubler-Ross
ใช้เวลา 6-8 สัปดาห์ และไม่เกิน 6-12 เดือน
มิฉะนั้นจะกลายเป็นภาวะซึมเศร้า
1.ปฏิเสธ (Denial) เป็นความรู้สึกช็อก ไม่เชื่อว่าได้มีการสูญเสียเกิดขึ้น
2.โกรธ (Anger) ผู้อยู่ในภาวะสูญเสียจะรู้สึกโกรธ และแสดงความโกรธออกมา
เขารู้สึกไม่เป็นธรรมที่ภาวะสูญเสียต้องเกิดกับเขา
3.การต่อรอง (Bargaining) บุคคลจะพยายามต่อรองที่จะไม่ต้องเกิดการสูญเสีย
โดยการสวดมนต์ อ้อนวอน ให้สัญญา
4.ภาวะซึมเศร้า (Depression) รู้แน่ชัดว่าแล้วว่าจะเกิดภาวะสูญเสียขึ้นกับตนแน่ จะรู้สึกหมดหวัง หดหู่ เบื่อหน่าย ไม่มีแรง อาจถึงคิดฆ่าตัวตาย
5.ยอมรับ (Acceptance) บุคคลจะยอมรับในภาวะสูญเสียที่เกิดขึ้น และภาวะซึมเศร้าจะหายไป
การพยาบาลในแต่ละขั้นของกระบวนการทุกข์โศก
ระยะปฏิเสธ
ระยะนี้ผู้สูญเสียอาจมึนงง ปฏิเสธไม่ยอมรับ ช็อก
พยาบาลสร้างสัมพันธภาพให้เกิดความเชื่อใจ
พยาบาลเป็นที่ปรึกษา ให้คำแนะนำแก่ผู้สูญเสียในเรื่องต่างๆที่เกี่ยวข้อง
ให้ผู้สูญเสีย ระบายความรู้สึก โดยไม่ต้องสนับสนุนหรือแสดงความคิดเห็น
ให้รับฟังด้วยความสงบ ให้กำลังใจด้วยการสัมผัส และคำพูด
ระยะโกรธและระยะต่อรอง
พยาบาลต้องยอมรับและเข้าใจพฤติกรรมของผู้สูญเสีย
ไม่แสดงอารมณ์โกรธโต้ตอบ ให้ความเห็นใจ มีท่าทีเป็นมิตร
แสดงท่าทีที่เคารพ ให้เกียรติในการแสดงความคิดของผู้สูญเสีย
เปิดโอกาสให้พูดระบายความรู้สึก โดยรับฟังอย่างสงบและตั้งใจ
ระยะซึมเศร้า
พยาบาลยังคงเปิดโอกาสให้ระบายความรู้สึกโศกเศร้า เสียใจ สื่อสารและรับฟังด้วยท่าทีเข้าใจ อาจใช้สัมผัสเพื่อให้กำลังใจ
ประเมินความคิดอยากทำร้ายตนเองหรือความคิดฆ่าตัวตาย
หาแหล่งสนับสนุนทางสังคมหรือหาสิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจ
ให้การดูแลด้านร่างกายในเรื่องสุขอนามัย ความสะอาด และสภาพแวดล้อมเพราะผู้สูญเสียในระยะนี้อาจซึมเศร้าจนไม่สนใจดูแลตนเอง
ระยะยอมรับ
ผู้สูญเสียจะเริ่มปรับตัวยอมรับ และกลับมาดำเนินชีวิตประจำวันตามปกติ
เปิดโอกาสให้ผู้สูญเสียได้เล่าถึงความทรงจำที่ดี การปรับตัวของของผู้สูญเสีย
ให้กำลังใจ สนับสนุนเสริมแรงแก่ผู้สูญเสีย
ส่งเสริมการร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่ช่วยให้จิตใจสงบและผ่อนคลายตามความสนใจ
พยาบาลแนะนำให้ญาติพี่น้องมีส่วนร่วมในการดูแลผู้สูญเสียร่วมด้วย
การพยาบาลผู้ทุกข์โศก
สร้างเสริมความสัมพันธ์ที่เชื่อถือไว้วางใจ
ส่งเสริมให้ลดความรู้สึกเศร้าโศกลง
ส่งเสริมการสร้างและคงความหวังที่เป็นจริง
กระตุ้นให้ผู้ทุกข์โศกเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ
จัดสิ่งแวดล้อมเพื่อการบำบัด
สนับสนุนค้ำจุนจิตใจของญาติ ส่งเสริมสัมพันธภาพที่ดีระหว่างผู้ทุกข์โศกและญาติ
ป้องกันการเกิดปฏิกิริยาที่เศร้าโศกผิดปกติ
ดูแลช่วยเหลือเกี่ยวกับชีวิตประจำวัน
ผู้ที่มีภาวะซึมเศร้า (Depression)
ความหมาย
เป็นปฏิกิริยาที่เกิดจากการสูญเสีย ทำให้เกิดความรู้สึกมืดมน
เหนื่อยหน่าย หดหู่ จิตใจอ่อนเพลีย ทดท้อ รู้สึกตนเองไร้ค่า เกิดความรู้สึกไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป
สาเหตุการเกิดภาวะซึมเศร้า
ปัจจัยทางชีววิทยา
สารสื่อประสาท
การทำงานของต่อมไร้ท่อ
ผลของยาบางชนิด
พันธุกรรม
ปัจจัยทางด้านจิตใจ
ทฤษฎีเกี่ยวกับความคิด
ทฤษฎีจิตวิเคราะห์
อาการแสดงออกของภาวะซึมเศร้า
ทางกาย
เก็บตัว ซ่อนตัว
มีพฤติกรรมกลับสู่วัยเด็ก ร้องไห้ง่าย
ชอบนอนเหมือนคนเกียจคร้าน
ฯลฯ
ทางจิตใจ
เบื่อ เหงาหงอย
ไม่กระตือรือร้น สิ้นหวัง
หดหู่ หงุดหงิด
ฯลฯ
การพยาบาล
สร้างสัมพันธภาพเพื่อการบำบัดระหว่างพยาบาลและผู้ป่วยเพื่อให้
ผู้ป่วยยอมรับความเจ็บป่วย และให้ความร่วมมือในการรักษา
ประเมินสาเหตุของภาวะซึมเศร้า
ประเมินระดับความซึมเศร้า
สอบถามถึงความคิดในการฆ่าตัวตาย
ประเมินอาการที่มีความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย
การพยาบาลด้านจิตใจ
ให้ความเป็นมิตรเป็นเพื่อนเพื่อให้ผู้รับบริการรู้สึกอบอุ่นใจ
สนใจ เอาใจใส่ ตอบสนองในสิ่งที่ผู้รับบริการต้องการอย่างเหมาะสม
รับฟังความทุกข์ความไม่สบายใจ ประคับประคองจิตใจให้คลายทุกข์
ไม่แสดงความเยื่อหน่าย รำคาญ
ไม่กล่าวประนามการกระทำที่ไม่ถูกต้อง แต่แสดงอาการเห็นอกเห็นใจ
ใช้ความสังเกตและไหวพริบในการทายใจผู้รับบริการว่าต้องการอะไร
การพยาบาลด้านร่างกาย
ระวังอุบัติเหตุ เนื่องจากผู้รับบริการขาดความระแวง ไม่มีสมาธิ
ให้ความเอาใจใส่ ดูแลเรื่องอาหาร เพราะจะรับประทานอาหารไม่ค่อยได้ ขาดความหิว
ผู้ป่วยที่นอนไม่หลับ ต้องดูแลสิ่งแวดล้อมในการนอน
ผู้ป่วยไม่สนใจตนเอง ต้องช่วยดูแลด้านความสะอาด และอนามัยส่วนบุคคล
ไม่ให้ทำกิจกรรมที่ยาก ให้ทำกิจกรรมที่เพลิดเพลิน
กิจกรรมบันเทิงควรให้เป็นผู้นั่งดูมากกว่าผู้แสดง
ผู้ที่มีภาวะโกรธ
อารมณ์โกรธ (Anger)
ความหมาย
เป็นอารมณ์/ความรู้สึกพื้นฐานของมนุษย์
ไม่มีความเป็นเหตุผล เป็นความรู้สึกไม่สุขสบาย จากความคับข้องใจ บาดเจ็บ รู้สึกหวาดกลัว
มีความรุนแรงตั้งแต่ระดับขุ่นเคืองใจ ถึงแสดงความเกรี้ยวกราด
ถ้าแสดงอารมณ์โกรธอย่างเหมาะสม จะข่วยแก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ ลดความขัดแย้งที่เกิดขึ้น
ความรู้สึกไม่เป็นมิตร (Hostility)
ความหมาย
เป็นพฤติกรรมก้าวร้าว โดยใช้คำพูดเป็นการแสดงออกทางอารมณ์เพื่อทำร้ายจิตใจทางคำพูด
ไม่คำนึงกฎเกณฑ์ทางสังคม
เกิดจากความรู้สึกว่าถูกคุกคาม และขาดอำนาจ
นำไปสู่พฤติกรรมก้าวร้าวโดยใช้กำลัง
พฤติกรรมก้าวร้าว (Aggression)
ความหมาย
เป็นพฤติกรรมการแสดงอารมณ์โกรธทั้งทางคำพูดและการกระทำ โดยไม่คำนึงถึงสิทธิของผู้อื่น
เป็นการต่อสู้เพื่อให้ได้ตามความต้องการของตนเอง
เกิดจากการที่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์โกรธได้
พบบ่อยในบุคคลที่ขาดความมั่นใจในตนเอง
สาเหตุการเกิดอารมณ์โกรธ
และพฤติกรรมก้าวร้าว
ปัจจัยทางชีววิทยา
Limbic system
Frontal lobe
Temporal lobe
Neurotransmitters
พยาธิสภาพของระบบประสาท
มีเนื้องอกที่สมอง
โรคอัลไซเมอร์
ชัก
ปัจจัยทางด้านจิตใจ
ทฤษฎีคับข้องใจ-ความก้าวร้าว
ทฤษฎีจิตวิเคราะห์
ปัจจัยทางสังคมและวัฒนธรรม
ทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคม
การสังเกตจากตัวแบบ
แนวทางการรักษา
รักษาด้วยยา
ยากลุ่มอาการต้านเศร้า
ยากลุ่มลดความวิตกกังวลและยานอนหลับ
ยาควบคุมอารมณ์
ยาต้านอาการทางจิต
กลุ่มอื่นๆ
แนวทางการพยาบาล
ช่วยให้ยอมรับว่าตนเองกำลังมีอารมณ์โกรธ
ช่วยให้ค้นหาสาเหตุที่ทำให้รู้สึกโกรธ
ช่วยให้ได้ระบายพลังงานภายในที่เกิดจากอารมณ์โกรธออกไปในทางที่เป็นประโยชน์
จัดการกับความรู้สึกโกรธก่อนที่จะแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว
การพยาบาลผู้ที่มีอารมณ์โกรธ
สร้างสัมพันธภาพเพื่อการบำบัด
ฟังอย่างตั้งใจ ให้โอกาสผู้ป่วยได้พูดถึงความรู้สึก
ไม่พอใจออกมา
เมื่ออารมณ์โกรธลดลง ให้ผู้ป่วยสำรวจสาเหตุ
ที่ทำให้ผู้ป่วยโกรธ
จัดให้ผู้ป่วยทำกิจกรรมที่ออกแรง เพื่อปลดปล่อยพลังงานส่วนเกินที่เกิดจากอารมณ์โกรธ
ให้คำแนะนำผู้ป่วยถึงวิธีการจัดการกับอารมณ์โกรธออกไปในทางที่เหมาะสม
การพยาบาลผู้ที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว
พยาบาลเรียกชื่อผู้ป่วยด้วยเสียงที่ดัง น้ำเสียงต่ำ เว้นระยะห่าง 3 ฟุต ระดับสายตาระดับเดียวกัน
บอกให้ผู้ป่วยหยุดพฤติกรรมที่กำลังทำอยู่
ถ้าพูดแล้วไม่ได้ผล อาละวาด ดำเนินการขั้นต่อไปคือ การจับผู้ป่วยเพื่อผูกยึด และรักษาด้วยยา
บอกสาเหตุของการผูกยึดผู้ป่วย
หลังผู้ป่วยมีอาการสงบ เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยระบายความรู้สึกที่ถูกผูกยึด
แนะนำเกี่ยวกับวิธีการจัดการความโกรธอย่างเหมาะสม