Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิต, นศพต.รวิสรา ราเหม เลขที่ 49 - Coggle…
การพยาบาลผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิต
ผู้ที่มีภาวะสูญเสีย/ทุกข์โศก
ความหมายของการสูญเสีย
เป็นภาวะสูญเสียทางอารมณ์
บุคคลรับรู้ถึงคุณค่าของส่ิงที่สูญเสีย หรือคาดว่ากำลังจะสูญเสีย
อาจเกิดขึ้นทันทีทันใดหรือค่อยเป็นค่อยไป
คาดการณ์ได้ หรือไม่สามารถคาดการณ์ใด
ปัจจัยที่ส่งผลต่อระดับความรุนแรงและรูปแบบของการแสดงออกของการสูญเสีย
ความรู้สึกต่อสิ่งที่สูญเสีย
เป็นการให้คุณค่าและความสาคัญกับสิ่งที่สูญเสีย เช่นการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก การสูญเสียอวัยวะสาคัญ
ประสบการณ์การสูญเสีย
การเรียนรู้การเผชิญ และแก้ปัญหาที่เกิดจากการสูญเสียได้อย่างเหมาะสมในอดีตเป็นประสบการณ์สำคัญ ที่ทำให้บุคคลสามารถปรับตัวต่อการสูญเสียอื่นๆมากกว่าผู้ที่ไม่ประสบความสาเร็จหรือไม่มีประสบการณ์
บุคลิกภาพและความพร้อม
บุคคลที่มีบุคลิกภาพเข้มแข็ง สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง และมองสภาวะการสูญเสียเป็นเพียงเหตุการณ์หนึ่งในชีวิต จะผ่านกระบวนการสูญเสียได้ดีกว่า
แหล่งสนับสนุน
การได้รับแรงสนับสนุนทางครอบครัวและสังคม จะช่วยให้การปรับตัวเร็วขึ้น
ประเภทของการสูญเสีย
การสูญเสียบุคคลสำคัญของชีวิต
เป็นการสูญเสียที่มีความหมายความสำคัญในชีวิต เช่น
การสูญเสียแบบถาวรและสมบูรณ์ : การตายจาก
การสูญเสียแบบถาวรชนิดไม่สมบูรณ์ : การหย่าร้างที่มีการติดต่อกันเรื่องบุตร
การสูญเสียสมบัติหรือความเป็นเจ้าของ
เป็นการสูญเสียสิ่งของหรือสมบัติต่างๆ เช่น เงิน
การสูญเสียความสมบูรณ์ทางสรีระ จิตใจ และสังคม
เป็นการสูญเสียความสมบูรณ์ มั่นคง ทางกาย จิต สังคมเช่น สูญเสียอวัยวะ
พิจารณาตามแนวคิดการจาแนกลำดับขั้นความต้องการของมาสโลว์ (Maslow’s hierarchy of human need)
การสูญเสียทางกาย (Physiologic loss) เช่น แขนหรือขาขาด ตาบอด หูหนวก
การสูญเสียความปลอดภัย (Safety loss) เช่น อาศัยอยู่ในที่ที่มีการก่อการร้าย ซึ่งเสี่ยงต่อการถูกทำร้าย
การสูญเสียความมั่นคงและความรู้สึกเป็นเจ้าของ (Loss of security and a sense of belonging) เป็นการสูญเสียความรักและสัมพันธภาพกับคนสนิท คนในครอบครัว หรือเพื่อนฝูง เช่น การตาย
การสูญเสียความเคารพนับถือตัวเอง(Loss of self-esteem) การเปลี่ยนแปลงใดๆที่เกี่ยวข้องกับคุณค่าในการทำงาน หรือคุณค่าของสัมพันธภาพของบุคคลที่คุกคามต่อความเคารพนับถือตัวเอง เช่น สูญเสียยศ ตำแหน่ง
ความสูญเสียที่สัมพันธ์กับการทำเต็มตามศักยภาพของตนเอง (Loss related to self-actualization) การมีภาวะที่มาเป็นอุปสรรคขัดขวางต่อการไปสู่เป้าหมาย เช่นต้องออกจากสถาบันการศึกษา
กระบวนการทุกข์โศก
กระบวนการทุกข์โศกปกติ
(Normal grief response)
ระยะแรก ระยะเฉียบพลัน
อยู่ในช่วง 4-8สัปดาห์แรก เป็นช่วงอารมณ์ที่ไม่สามารถยอมรับการสูญเสียได้ จะแสดงอาการช็อคและไม่เชื่อ มักเริ่มด้วยอาการตื่นตะลึง ตกใจ ตัวชา ไม่เชื่อ ปฏิเสธ เพื่อลดความรู้สึกเจ็บปวดและชะลอเวลาในการรับรู้ความเป็นจริง อาจใช้เวลา 2-3ชั่วโมงจนถึงหลายวัน เมื่อกลไกการปฏิเสธเริ่มลดลง ความรู้สึกเจ็บปวดจะเกิดขึ้นรุนแรงตามระดับความสำคัญ
ระยะที่สอง ระยะเผชิญกับการสูญเสีย
ใช้เวลาประมาณ1-2 ปี ปรากฏการณ์ที่สามารถพบได้คือความรู้สึกผิดปกติทางกาย ความหมกมุ่นอยู่กับสิ่งของที่เป็นสัญลักษณ์ มักแยกตัว ไม่มีสัมพันธภาพกับผู้อื่น เลื่อนลอย ไม่ยอมรับความจริง หดหู่ หงอยเหงา
กระบวนการทุกข์โศกผิดปกติ
(Maladaptive grief response)
มีเศร้าโศกยาวนาน (Prolonged grief) คือมีความคิดหมกมุ่นเกี่ยวกับความทรงจำเก่าๆ ไม่สามารถขจัดความรู้สึกหม่นหมอง เสียใจจากการสูญเสียไปได้เป็นเวลาหลายปี
A model of five stages ของ คูเบลอร์-รอสส์
(Kubler-Ross)
ปฏิเสธ(Denial) เป็นความรู้สึกช็อก และไม่เชื่อว่า ได้มีการสูญเสียเกิดขึ้น ระยะนี้บุคคลจะเฉยเมยเงียบไม่สนใจภาวะสูญเสียที่เกิดขึ้น
โกรธ(Anger) ผู้อยู่ในภาวะสูญเสียจะรู้สึกโกรธและแสดงความโกรธออกมา เขาจะรู้สึกว่าไม่เป็นธรรมที่ภาวะสูญเสียจะต้องมาเกิดขึ้นกับเขา
การต่อรอง(Bargaining) บุคคลจะพยายามต่อรองที่จะไม่ต้องเกิดการสูญเสีย ซึ่งอาจจะโดยการสวดมนต์อ้อนวอน
ภาวะซึมเศร้า(Depression) เมื่อรู้แน่ชัดแล้วว่า ภาวะสูญเสียเกิดขึ้นกับตนเองแน่แล้ว จะรู้สึกหมดหวังหดหู่ เบื่อหน่าย ไม่มีแรง จนถึงอาจคิดอยากตายหรือคิดฆ่าตัวตายได้
ยอมรับ(Acceptance) ขั้นนี้บุคคลจะยอมรับในภาวะสูญเสียที่เกิดขึ้น และภาวะซึมเศร้าจะหายไป
การพยาบาลในแต่ละระยะของกระบวนการทุกข์โศก
การพยาบาลในแต่ละระยะของกระบวนการทุกข์โศก
การพยาบาลในระยะปฏิเสธ
ในระยะนี้ผู้สูญเสียอาจมึนงง ปฏิเสธไม่ยอมรับ หรือช็อก
พยาบาลต้องสร้างสัมพันธภาพให้เกิดความเชื่อใจ ซึ่งปกติจะมีการสร้างสัมพันธภาพมาในระยะก่อนหน้านี้แล้ว เพื่อให้เกิดความไว้วางใจ
การพยาบาลในระยะโกรธและระยะต่อรอง
ในระยะนี้พยาบาลต้องยอมรับและเข้าใจในพฤติกรรมของผู้สูญเสีย ไม่แสดงอารมณ์โกรธโต้ตอบกลับไปอย่างเด็ดขาด ต้องให้ความเห็นใจ และมีกิริยาท่าทีที่เป็นมิตร
ให้แสดงท่าทีที่เคารพ และให้เกียรติในการแสดงความคิดของผู้สูญเสีย
การพยาบาลในระยะซึมเศร้า
ในระยะนี้พยาบาลยังคงเปิดโอกาสให้ระบายความรู้สึกโศกเศร้า เสียใจ สื่อสารและรับฟังด้วยท่าทีเข้าใจ อาจใช้สัมผัสเพื่อให้กำลังใจ
ประเมินความคิดอยากทำร้ายตนเอง หรือความคิดฆ่าตัวตาย เพื่อให้การช่วยเหลือหรือส่งต่อจิตแพทย์
การพยาบาลในระยะยอมรับ
ในระยะนี้ผู้สูญเสียจะเริ่มปรับตัวยอมรับ และกลับมาดำเนินชีวิตประจำวันตามปกติ
พยาบาลควรเปิดโอกาสให้ผู้สูญเสียได้เล่าถึงความทรงจำที่ดี การปรับตัวของผู้สูญเสีย และควรให้กำลังใจ สนับสนุนเสริมแรงแก่ผู้สูญเสียให้ผู้สูญเสียได้วางแผนสำหรับ การดำเนินชีวิตในอนาคตด้วยตนเอง
การพยาบาลผู้ทุกข์โศก
สร้างเสริมความสัมพันธ์ที่เชื่อถือไว้วางใจ
สร้างสัมพันธภาพเชิงวิชาชีพแบบ1:1
พูดคุยทักทายสม่ำเสมอและพอเหมาะ
ส่งเสริมให้ลดความรู้สึกเศร้าโศกลง
ให้เวลาผู้ทุกข์โศกได้ระบายอารมณ์เศร้าเสียใจ
สร้างบรรยากาศและเปิดโอกาสให้มีการสื่อสารด้านอารมณ์
ส่งเสริมการสร้างและคงความหวังที่เป็นจริง
ใช้เทคนิคช่วยให้ระบายความรู้สึกหมดหวังท้อแท้ใจ
สนับสนุนวิธีการเผชิญปัญหาที่เหมาะสม โดยเพิ่มกำลังใจและความพยายามต่อสู้กับความรู้สึกเศร้าโศก
กระตุ้นให้ผู้ทุกข์โศกเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ
เพื่อหลีกเลี่ยงการหมกมุ่น
จัดกิจกรรมเล็กๆน้อยๆที่สามารถกระทำได้ด้วยตนเอง
กระตุ้นชักชวนให้ผู้ทุกข์โศกเข้าร่วมกิจกรรมกับผู้อื่น
จัดสิ่งแวดล้อมเพื่อการบำบัด
ดูแลให้อากาศถ่ายเทสะดวก สะอาดและปลอดภัย
มีแสงสว่างเพียงพอ และสงบปราศจากเสียงที่ดังหรือกระตุ้นเกินไป
สนับสนุนค้ำจุนจิตใจของญาติ
อธิบายให้ญาติเข้าใจความรู้สึก และพฤติกรรมของการแสดงออก
ป้องกันการเกิดปฏิกิริยาที่เศร้าโศกผิดปกติ
เฝ้าระวังสังเกตอาการผิดปกติ เช่น มีอาการเศร้าซึมมากขึ้น
ดูแลช่วยเหลือเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวัน
ส่งเสริมให้ได้รับการพักผ่อน
ได้รับอาหารที่เพียงพอ
ผู้ที่มีภาวะซึมเศร้า
ความหมายของภาวะซึมเศร้า
เป็นปฏิกิริยาที่เกิดจากการสูญเสียทาให้เกิดความรู้สึกมืดมนเหนื่อยหน่ายหดหู่
คิดหมกมุ่นว่าตนเองไร้ค่าหรือมีความบกพร่องในการทำบทบาทหน้าที่
สาเหตุการเกิดภาวะซึมเศร้า
ปัจจัยทางชีววิทยา
สารสื่อประสาท
Norepinephrine
มีปริมาณลดลงทำให้เกิดอารมณ์ซึมเศร้า ถ้าสูงทำให้เกิดอาการแมเนีย
Serotonin
มีปริมาณต่ำทำให้เกิดอารมณ์ซึมเศร้า ถ้ามีปริมาณสูงทาให้เกิดอาการแมเนีย
การทำงานของต่อมไร้ท่อ
การทำงานของต่อมไทรอยด์ผิดปกติ
ผลของยาบางชนิด
ผลของยาบางชนิดที่ผู้ป่วยได้รับ เช่น Steroids
พันธุกรรม
พบว่าญาติสายตรงของผู้ป่วยโรคซึมเศร้า มีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้ามากกว่าประชากรทั่วไปประมาณ 2-3 เท่า
ปัจจัยทางด้านจิตใจ
ทฤษฎีเกี่ยวกับความคิด
การที่บุคคลมีอารมณ์ซึมเศร้าเกิดจากการมีความคิดเกี่ยวกับตนเองด้านลบ 3 ด้าน
คาดหวังสิ่งแวดล้อมหรือมองสิ่งแวดล้อมในแง่ลบ
บุคคลมองตนเองในแง่ลบ คิดว่าตนเองไร้ค่าไม่มีความสามารถ
มองอนาคตในแง่ลบ คิดว่าอนาคตของตนเองคงจะล้มเหลว
ทฤษฎีจิตวิเคราะห์
Ego ไม่สามารถทำงานได้อย่างเสรี เพราะถูก Super ego ที่มีอิทธิพลมากคอยลงโทษอยู่
ปัจจัยทางสังคมและวัฒนธรรม
อาการแสดงออกของภาวะซึมเศร้า
อาการที่แสดงออกทางกาย
เก็บซ่อนตัว หลีกเลี่ยงสังคม
มีพฤติกรรมกลับไปสู่วัยเด็ก ร้องไห้ง่าย
นอนไม่หลับ หรือตื่นบ่อย
อาการที่แสดงออกทางจิตใจ
เบื่อ เหงาหงอย
ไม่กระตือรือร้น สิ้นหวัง
จิตใจหดหู่ หงุดหงิด ใจน้อย
การพยาบาล
สร้างสัมพันธภาพ เพื่อการบำบัดระหว่างพยาบาลและผู้ป่วยเพื่อให้ผู้ป่วยยอมรับความเจ็บป่วย และให้ความร่วมมือในการรักษา
ประเมินสาเหตุของภาวะซึมเศร้า เช่น สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก
ประเมินระดับความซึมเศร้า อาจประเมินจากสีหน้าที่เศร้าซึม ร้องไห้ตลอดเวลา
สอบถามถึงความคิดในการฆ่าตัวตาย และการพยายามฆ่าตัวตาย
ประเมินอาการที่มีความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย เช่น ผู้ป่วยจัดการมรดกแบ่งทรัพย์สินแจกจ่ายสมบัติแก่ผู้อื่น
ด้านจิตใจ
ให้ความเป็นมิตร เป็นเพื่อนเ
สนใจ เอาใจใส่
รับฟังความทุกข์ ความไม่สบายใจ
ด้านร่างกาย
ระวังอุบัติเหตุ เนื่องจากผู้รับบริการขาดความระแวดระวัง ไม่มีสมาธิ
ผู้ป่วยที่นอนไม่หลับ ต้องดูแลสิ่งแวดล้อมในการนอน
ผู้ที่มีภาวะโกรธ
ความหมายของอารมณ์โกรธ
เป็นอารมณ์ หรือความรู้สึกพื้นฐานของมนุษย์ เป็นปฏิกิริยาตอบสนองปกติของมนุษย์
ไม่มีความเป็นเหตุเป็นผล เป็นความรู้สึกไม่สุขสบายจากความคับข้องใจ
ความหมายของความรู้สึกไม่เป็นมิตร
เป็นพฤติกรรมก้าวร้าว โดยใช้คาพูดเป็นการแสดงออกทางอารมณ์ เพื่อทำร้ายจิตใจทางคำพูด
ไม่คำนึงกฎเกณฑ์ทางสังคม
ความหมายของพฤติกรรมก้าวร้าว
เป็นพฤติกรรมการแสดงอารมณ์โกรธทั้งทางคำพูด และการกระทำโดยไม่คำนึงถึงสิทธิของผู้อื่น
เป็นการต่อสู้เพื่อให้ได้ตามความต้องการของตนเอง
สาเหตุการเกิดอารมณ์โกรธและพฤติกรรมก้าวร้าว
ปัจจัยทางชีววิทยา
Limbic system
การแสดงอารมณ์และพฤติกรรมของบุคคล ได้แก่ การกินความก้าวร้าว การตอบสนองทางเพศ
Frontal lobe
การกำหนดพฤติกรรมที่ต้องการทำ ตั้งใจทำ และการคิดที่มีเหตุผลมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างอารมณ์และเหตุผล
Temporal lobe
ความจำ การตีความของสิ่งเร้าทางหู
Neurotransmitters
Serotonin ลดลงควบคุมระบบประสาทส่วนกลาง เพื่อลดพฤติกรรมหุนหันพลันแล่น และพฤติกรรมก้าวร้าว
ปัจจัยทางด้านจิตใจ
ทฤษฎีคับข้องใจ ความก้าวร้าว
การที่บุคคลถูกขัดขวาง ไม่ให้ได้รับสิ่งที่คาดหวังไว้ เกิดความคับข้องใจ โกรธ พฤติกรรมก้าวร้าว
ทฤษฎีจิตวิเคราะห์
แรงขับของสัญชาตญาณ คือ แรงผลักดันเพื่อการดำรงชีวิต จะแสดงออกทางเพศทำให้เกิดความรู้สึกพึงพอใจและแรงผลักดันไปสู่ความตาย จะแสดงออกทางความก้าวร้าว
ปัจจัยทางทางสังคมและวัฒนธรรม
ทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคม
การเรียนรู้พฤติกรรมก้าวร้าวด้วยตนเอง หรือการเรียนรู้จากภายนอก
การสังเกตจากตัวแบบ
แบบอย่างที่ไม่เหมาะสม รับรู้พฤติกรรมเหล่านั้นจนเกิดความเคยชินเรียนรู้ว่าการกระทำรุนแรง เป็นวิธีการแก้ปัญหาที่สังคมยอมรับ มีอารมณ์โกรธ พฤติกรรมก้าวร้าว
แนวทางการรักษา
การรักษาด้วยยา
ยากลุ่มอาการต้านเศร้า
ยากลุ่มลดความวิตกกังวล และยานอนหลับ
ยาควบคุมอารมณ์
ยาต้านอาการทางจิต
กลุ่มอื่นๆ
การพยาบาลผู้ที่มีอารมณ์โกรธ
วิธีจัดการกับอารมณ์โกรธ
ออกไปจากสถานการณ์ที่ทำให้เกิดอารมณ์โกรธ
นับเลข 1-100 เพื่อเบนความสนใจหรือให้เวลากับอารมณ์โกรธที่เกิดขึ้น
พูดระบายถึงอารมณ์โกรธที่เกิดขึ้น กับบุคคลที่ไว้ใจได้หรืออาจจะเขียนความรู้สึกโกรธลงในกระดาษ เพื่อช่วยผ่อนคลายอารมณ์โกรธ
ทำกิจกรรมที่ต้องออกแรง เพื่อช่วยปลดปล่อยพลังงานส่วนเกินออกไปในทางที่สร้างสรรค์
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยให้มีความเข้มแข็งทางอารมณ์ได้ดีขึ้น
ให้อภัยกับบุคคลที่ทำให้โกรธ โดยการมองหาข้อดีของบุคคลที่ทำให้โกรธ
การพยาบาลผู้ที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว
ท่าทีของพยาบาล ควรสงบ (Calm) และมั่นคง (Firm)
พยาบาลเรียกชื่อผู้ป่วยด้วยเสียงที่ดังพอ
บอกให้ผู้ป่วยหยุดพฤติกรรมที่กาลังก้าวร้าวอยู่ หรืออาจสะท้อนความรู้สึกของผู้ป่วยเช่น“คุณ...คุณกำลังโกรธ”
ถ้าพูดแล้วไม่ได้ผล หรือผู้ป่วยมีพฤติกรรมก้าวร้าวอาละวาด ดำเนินการขั้นต่อไปของการพยาบาล คือการจับผู้ป่วยเพื่อผูกยึด และการรักษาด้วยยา
หลังจากผูกยึดผู้ป่วยแล้ว ควรบอกถึงสาเหตุของการผูกยึดผู้ป่วย
หลังจากผู้ป่วยมีอาการสงบ ควรเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยได้ระบายความรู้สึกเกี่ยวกับการที่ถูกผูกยึด
ให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการจัดการกับความโกรธ ออกไปในทางที่เหมาะสม
การพยาบาลผู้ป่วยที่ถูกผูกยึด
สังเกตผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด และบันทึกทุก15นาที
ตรวจสอบการไหลเวียนของเลือดที่แขนและขา ควรคลายตาแหน่งที่ผูกยึดทุก 2 ชั่วโมง เพื่อช่วยให้เลือดไหลเวียน
ดูแลไม่ให้ผ้าผูกยึดเสียดสีกับผิวหนังของผู้ป่วย
วัดสัญญาณชีพ
ดูแลให้ได้รับอาหารและน้ำ ดูแลการขับถ่าย
แนวทางในการพิจารณาเลือกใช้
การผูกยึด
มีพฤติกรรมเป็นอันตรายต่อผู้อื่น
การใช้ห้องแยก
ไม่ให้ความร่วมมือ
มีพฤติกรรมวุ่นวาย
ไม่เป็นอันตรายต่อผู้อื่น
ข้อห้ามในการพิจารณาเลือกใช้
การผูกยึด
มีประวัติถูกข่มขืน
หญิงตั้งครรภ์, COPD, Spinal injury, Seizure
ผู้ที่เสี่ยงต่อภาวะ Asphyxia, Sudden cardiac arrest
ข้อห้ามในการพิจารณาเลือกใช้การผูกยึด
มีพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อตนเอง
นศพต.รวิสรา ราเหม เลขที่ 49