Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ความผิดปกติของเกล็ดเลือด และ Clotting factor - Coggle Diagram
ความผิดปกติของเกล็ดเลือด และ Clotting factor
Hemophilia
เป็นโรคทางพันธุกรรมที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของปัจจัยการแข็งตัวของเลือด
Hemophilia A เป็นความผิดปกติที่เกิดจากการพร่อง Factor VIII
Hemophilia B เกิดจากการพร่อง Factor X
Hemophilia C เกิดจากการพร่องของ Factor XI
เป็นโรคทางพันธุกรรมที่แฝงมากับโครโมโซมเพศหญิง จึงพบมากในผู้ป่วยเพศชาย
พยาธิสรีระ
พบตั้งแต่เป็นทารกหรือในวัยเด็ก
ผู้ป่วยอาจให้ประวัติที่เกี่ยวข้องกับการมีเลือดออก
อาการแสดง
มีเลือดออกบริเวณข้อซ้ำกันบ่อย ๆ
มีเลือดออกมากภายหลังถอนฟัน
เสี่ยงต่อการเกิดเลือดออกในเยื่อบุช่องท้อง ในกระโหลกศีรษะ และเยื่อบุรอบ ๆหลอดลม
ภาวะแทรกซ้อน
การมีเลือดออกในข้อต่อต่าง ๆ เกิดขึ้นเองโดยที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ
อาจเกิดเลือดออกภายในเยื่อบุช่องท้อง ในกระโหลกศีรษะ
การรักษา
เมื่อมีเลือดออก การดูแลโดยปกติทั่วไปเพื่อห้ามเลือด ถ้าได้ผลไม่ดี ยังมีเลือดออก
การให้ปัจจัยที่ช่วยในการแข็งตัวของเลือด
กรณีที่มีเลือดออกอย่างรุนแรง ต้องทดแทนด้วยปริมาณที่มาก จะทำให้ร่างกายผู้ป่วยเกิดภาวะของเหลวคั่ง
การพยาบาล
ดูแลให้ผลิตภัณฑ์ของเลือดตามแผนการรักษา
ติดตามประเมินอาการผิดปกติการมีเลือดออกง่ายหยุดยากอย่าง ต่อเนื่อง
ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติแก่ผู้ป่วยและญาติเพื่อป้องกันการมีเลือดออก
จัดทำบัตรประจำตัวผู้ป่วยซึ่งระบุ ชื่อ-สกุลของผู้ป่วย กรุ๊ปเลือด โรค ประจำตัวที่เป็นอยู่ และแพทย์ที่รักษา พร้อมกับแนะนำให้ผู้ป่วยพก ติดตัวตลอดเวลา
ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการถ่ายทอดพันธุกรรมของโรค ให้กับคู่สมรสที่ มีประวัติเป็นโรค ฮีโมฟีเลีย หรือ เป็นพาหะของโรค
Thrombocytopenia
เป็นความผิดปกติเมื่อร่างกายมีจำนวนเกล็ดเลือดต่ำกว่าระดับปกติ
สาเหตุ
Decrease platelet production
Decrease platelet survival
Increase platelet destruction
Sequestration of blood in the spleen
Consumption of platelets
Loss of hemorrhage
อาการแสดง
มีจุดเลือดออกที่ผิวหนัง
จ้ำเลือด
เลือดออกใต้ผิวหนัง
ให้ประวัติว่ามีเลือดประจำเดือนออกมาก
มีเลือดออกทางช่องคลอดบ่อย ๆ
มีเลือดกำเดาไหลบ่อย
การรักษา
การใช้ยาสเตียรอยด์ จะช่วยลดการสร้างแอนติบอดี และทำลาย แอนติบอดีที่มีผลต่อเกล็ดเลือด
การตัดม้ามเป็นวิธีที่ขจัดเอาอวัยวะที่ทำหน้าที่ทำลายเกล็ดเลือดออก
การให้ยากดภูมิต้านทาน
การให้เกล็ดเลือดจะเพิ่มปริมาณเกล็ดเลือดประมาณ 1-3 วัน
การพยาบาล
ดูแลป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่ทำให้ร่างกายได้รับบาดเจ็บ ผู้ป่วยที่มีเกล็ดเลือดน้อย
ติดตามประเมินจำนวนเกล็ดเลือดในร่างกายเป็นระยะ
ติดตามประเมินการมีเลือดออกในทุกส่วนของร่างกาย
ติดตามประเมินความรู้สึกตัว
ติดตามผลการตรวจปัสสาวะและอุจจาระ
หลีกเลี่ยงการวัดอุณหภูมิทางทวารหนัก
หลีกเลี่ยงการฉีดยาเข้าทางกล้ามเนื้อ
ให้คำแนะนำผู้ป่วยและญาติสังเกตอาการมีเลือดออก เมื่อพบต้องรีบ
รายงานให้แพทย์ที่รักษาทราบ
หลีกเลี่ยงการเล่นกีฬา การผ่าตัด และการถอนฟัน
หลีกเลี่ยงการใช้ยา แอสไพริน
Disseminated intravascular Coagulation (DIC)
เป็นภาวะที่สูญเสียกลไกการตอบสนองของการรักษา สมดุลในร่างกายที่มีต่อการเจ็บป่วยหรือการเกิดโรค ซึ่ง เกิดขึ้นอย่างรุนแรงอาจถึงแก่เสียชีวิตได้
สาเหตุ
การติดเชื้อ
Neoplasm
Massive tissue injury
Shock
Obstetric complications
อาการแสดง
เลือดออกในเยื่อบุ และเนื้อเยื่อ
Petechiae
Ecchymoses
เลือดหยุดยากหลังจากเจาะเลือด
Hypoxia
Tachypnea
Hemoptysis
Hypotension
Acidosis
การรักษา
รักษาโรคหรือการบาดเจ็บที่เป็นต้นเหตุ
ให้ปัจจัยที่ช่วยในการแข็งตัวของเลือด
การให้ Heparin ใช้เพื่อป้องกันการเกิดลิ่มเลือด
การพยาบาล
สังเกตและจดบันทึกลักษณะของสิ่งคัดหลั่งที่ไหลออกมาจากท่อ ระบายต่าง ๆ ของร่างกาย
สังเกตการมีเลือดออกในตำแหน่งใหม่
หลีกเลี่ยงการฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อ ควรให้ในรูปของยารับประทาน หรือยาฉีดเข้าหลอดเลือด
ติดตามประเมินจำนวนปัสสาวะที่ออกในแต่ละชั่วโมง
คำแนะนำที่จะให้กับผู้ป่วยและญาติ สามารถนำหลักการการพยาบาล ผู้ป่วยที่มีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ (Thrombocytopenia) มาประยุกต์ ใช้ได้