Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 3.1 การพยาบาลบุคคลที่มีปัญหาจิตสังคม บุคคลที่มีความวิตกกังวลและความ…
บทที่ 3.1 การพยาบาลบุคคลที่มีปัญหาจิตสังคม บุคคลที่มีความวิตกกังวลและความเครียด
ความหมาย
ความวิตกกังวล หมายถึง ความรู้สึกไม่สบาย สับสน กระวนกระวายกระสับกระส่าย หรือตื่นตระหนก ต่อสถานการณ์ใดสถานการณ์หนึ่งที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตและเกรงว่าจะเกิดอันตรายหรือความเสียหายซึ่งอาจ เกิดขึ้นจริงหรือคิดขึ้นเองจากสิ่งที่ไม่รู้ไม่แน่ใจ ซึ่งบอกไม่ได้ชัดเจน
ความเครียด หมายถึง ปฏิกิริยาตอบสนองของร่างกายและจิตใจที่มีต่อสิ่งกระตุ้น (stressor) และบุคคล นั้นได้ประเมินแล้วว่าสิ่งกระตุ้นนั้นคุกคามหรือทำให้ตนเองรู้สึกไม่มั่นคง ปลอดภัย หากบุคคลมีความครียดระดับสูง และสะสมอยู่นาน ๆ จะก่อให้เกิดโรคทางกายและทางจิตได้
ลักษณะอาการและอาการแสดง
ความวิตกกังวล
2) การเบลี่ยนแปลงด้านจิตใจและอารมณ์ มีความรู้สึกหวาดหวั่นกลัว ขาดความมั่นใจ มสับสน ตกใจง่าย หงุดหงิดโกรธง่าย ก้าวร้าว ซักถามมากขึ้น
3) การเปลี่ยนแปลงด้านสังคม รู้สึกว่าช่วยเหลือตนเองไม่ได้ มีปัญหาเรื่องสัมพันธภาพกับผู้อื่น
1) การเปลี่ยนแปลงด้านร่างกาย เช่น หัวใจเต้นเร็ว ท้องเสีย ปัสสาวะบ่อย ปวดศีรษะ
4) การเปลี่ยนแปลงด้านสติปัญญา ความคิด ความจำลดลง คิดไม่ออก หมกมุ่น ไม่ค่อยมีสมาธิ
ความเครียด
2) ด้านจิตใจ สังคม ได้แก่ วิตกกังวล โกรธง่าย หงุดหงิด ซึมเศร้า
1) ด้านร่างกาย ได้แก่ ปวดศีรษะ หูอื้อ ปวดกล้ามเนื้อ อ่อนแรง
3) ด้านพฤติกรม ได้แก่ ร้องไห้ ดึงผม รับประทานอาหารเก่ง ติดบุหรี่
การตอบสนองของบุคคล
ความวิตกกังวล
1) มีพฤติกรรมที่แสดงออกถึงการต่อสู้ (acting out behavior)
2) มีพฤติกรรมชะงักงันหรือถดถอย (paralysis and retreating behavior)
3) มีการเจ็บป่วยทางกาย (somatizing) เช่น เครียดแล้วปวดศีรษะ
4) มีพฤติกรรมเผชิญความวิตกกังวลในเชิงสร้างสรรค์ (constructive behavior)
ความเครียด
1) การตอบสนองด้านร่างกาย
1 การปรับตัวแบบทั่วไปเพื่อตอบสนองความเครียด
ระยะเตือน(alarm reaction) ร่างกายมีภาวะตื่นตัวและเกิดแรงที่จะป้องกันตนเอง
• ระยะช็อก บุคคลจะรับรู้ต่อสิ่งกระตุ้นแบบรู้ตัว หรือไม่รู้ตัว
• ระยะตอบสนองการช็อก ร่างกายจะปรับตัวกลับสู่สภาพเดิม
ระยะต่อต้าน (stage of resistance) ต่อต้านความเครียดเต็มที่
ระยะหมดกำลัง (stage of exhaustion) เมื่อต่อต้านไม่สำเร็จร่างกายจะหมดแรง อ่อนล้า มีการใช้กลไกป้องกันตัวเองที่ไม่เหมาะสม น้ำหนักตัวลดลง ฮอร์โมนสูงขึ้น สูงมากขึ้นเรื่อย ๆ อาจเสียชีวิตได้
2) การปรับตัวเฉพาะที่เพื่อตอบสนองความเครียด เช่น เมื่อเกิดอุบัติเหตุบาดเจ็บที่ขาบริเวณขาจะมีอาการปวด
2) การตอบสนองด้านจิตใจ
หนีหรือเลี่ยง (flight)
ยอมรับและเผชิญกับความครียด (fight)
เรียนรู้ที่จะอยู่กับความเครียด (coexistence)
ชนิด
ความวิตกกังวล
2) ความวิตกกังวลเฉียบพลัน (acute anxiety) เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่มีเหตุการณ์เข้ามากระทบ
3) ความวิตกกังวลเรื้อรัง (chronic anxiety) ความรู้สึกหวาดหวั่นไม่เป็นสุขขาดความปลอดภัย ที่แฝงอยู่ในตัวตลอดเวลา เป็นอุปนิสัยวิตกกังวล
1) ความวิตกกังวลปกติ (normal anxiety) พบได้ทั่วไปเป็นแรงผลักดันให้ชีวิต
ความเครียด
1) ความเครียดฉับพลัน (acute stress) ความเครียดที่เกิดขึ้นทันทีและร่างกายก็ตอบสนองต่อความเครียดนั้นทันที
2) ความเครียดเรื้อรัง (chronic stress) ความเครียดที่เกิดขึ้นทุกวันและร่างกายไม่สามารถ ตอบสนองต่อความครียดนั้น
ระดับ
ความวิตกกังวล
3) ความวิตกกังวลรุนแรง (severe anxiety) +3 มีระดับสติสัมปชัญญะลดลง สมาธิลดลง ไม่สามารถติดตามเนื้อหาของเรื่องราวได้อย่างกว้างขวาง ไม่อยู่กับที่ ไม่สนใจสิ่งแวดล้อม
2) ความวิตกกังวลปานกลาง (moderate anxiety) +2 เมื่อมีเหตุการณ์มากระตุ้น บุคคลจะมีความตื่นตัวและพยายามในการแก้ปัญหาสูงขึ้น
1) ความวิตกกังวลต่ำ (mild anxiety) +1
เป็นปกติในบุคคลทั่วไป จะช่วยกระตุ้นให้บุคคลตื่นตัว
4) ความวิตกกังวลท่วมท้น (panic anxiety) +4 เมื่อไม่ได้รับการระบายหรือแก้ไข จะมีการสะสมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อาจมีภาวะซึมเศร้า หลงผิด ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ตายได้
ความเครียด
2) ความเครียดระดับปานกลาง (moderate stress) ความเครียดในระดับปกติเกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวัน
3) ความเครียดระดับสูง (high stress) เกิดเหตุการณ์รุนแรง ที่แก้ไขจัดการปัญหานั้นไม่ได้
1) ความเครียดระดับต่ำ (mild stress) หายไปได้ในระยะเวลาสั้นไม่คุกคาม
4) ความเครียดระดับรุนแรง (severe stress) ระดับสูงและเรื้อรังต่อเนื่องหรือกำลังเผชิญ เช่น เจ็บป่วยรุนแรง
สาเหตุ
ความวิตกกังวล
2) สาเหตุทางด้านจิตสังคม ด้านจิตวิเคราะห์ านพฤติกรรมและการรู้คิด
3) สาเหตุทางด้านสังคม ทฤษฎีความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล
1) สาเหตุทางด้านชีวภาพ คือ ด้านกายภาพของระบบประสาท ชีวเคมี การเจ็บป่วย
ความเครียด
2) สาเหตุภายในตัวบุคคล เช่น ภาวะเจ็บป่วยที่เผชิญอยู่ ความพิการ การรับรู้และการแปลความหมายที่แตกต่างกันของแต่ละคน
1) สาเหตุจากภายนอก ได้แก่ สิ่งแวดล้อมทางกายภาพ เช่น สภาพภูมิอากาศ ภัยพิบัติ การย้ายถิ่นฐาน ที่อยู่ การเปลี่ยนงาน
การพยาบาล
ความวิตกกังวล
4) การประเมินผล เช่น ผู้ป่วยสามารถบอกความวิตกกังวลที่มีต่อตนเองและผู้อื่นได้
3) กิจกรรมการพยาบาล เช่น สร้างสัมพันธภาพ ดูแลป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น ส่งเสริมให้ผู้ป่วยเกิดการเรียนรู้ในเรื่องสาเหตุของความวิตกกังวล
1) การประเมิน ประเมินระดับความรุนแรงของความวิตกกังวล, ความเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย จิตใจ และสังคม เมื่อมีกังวลเกิดขึ้น, สาเหตุและวิธีการเผชิญกับภาวะวิตกกังวล
2) การวินิจฉัย เช่น มีความผิดปกติด้านการคิดเนื่องจากวิตกกังวลในระดับรุนแรง ระยะสั้น เพื่อลดความวิตกกังวลของผู้ป่วยให้กลับเป็นปกติ ระยะยาว : เพื่อลดความถี่ของการเกิดความวิตกกังวล
ความเครียด
4) การประเมินผล เช่น อาการทางกายทุเลาหรือกลับสู่ภาวะปกติ
3) กิจกรรมการพยาบาล ส่งเสริมและให้กำลังในการฝึกและเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยได้เรียนรู้และเลือกกลวิธีในการจัดการ ความเครียดที่สร้างสรรค์ ฝึกทักษะการคิดเชิงบวก
2) การวินิจฉัย เช่น มีภาวะเครียดในระดับสูงเนื่องจากการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก
ระยะสั้น เพื่อลดความเครียดของผู้ป่วยให้กลับสู่ภาวะปกติ ระยะยาว เพื่อลดความถี่ของการเกิดความเครียด
1) การประเมินอาการทางกาย จิตใจ แบบประเมินความเครียด ST5 ST20