Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

PROM : Premature Rupture of Membrance หรือ Prelabor Rupture of Membrance…

- - - - หญิงตั้งครรภ์อายุ 34 ปี G1P0 อายุครรภ์ 28+6 wk by u/s มีน้ำเดิน ( amniotic fluid leakage) เวลา 22.00 น. (28 ก.พ. 64) และมีอาการเจ็บครรภ์ (pain) เวลา 24.00 น. (28 ก.พ. 64)
- - - - C/S if abnormal indicaton
        Fetal distress due to oligohydramnios
      - prolonged ROM ถุงน้ำคร่ำแตกนานกว่า 18 ชม.
        
        GBS Prophylaxis : Group B Streptococcus Prophylaxis เกี่ยวกับการติดเชื้อ ให้ยา ATB คือ Ampicillin 2 g IV q 6 hr
        
        prolonged PROM ถุงน้ำคร่ำแตกนานกว่า 18-24 ชั่วโมง
        ให้ยา ATB คือ Ampicillin 2 g IV then 1 g IV q 4 hr
      - NL with induction of labor
    - - GA < 34 wk
        
        จากเคส
        
        ทำ Vg. swab c/s เมื่อวันที่ 1 มี.ค. 64 ผลออกวันที่ 4 มี.ค. 64 พบ Normal flora
        
        ได้รับ ATB คือ Ampicillin 2g IV q 6 hr + Azithomycin (250) 1 TAB po pc q 6 hr ครบ 48 hr off ไปเมื่อวันที่ 2 มี.ค. 64 (24.00 น.) เพื่อให้prolong PROM สำหรับให้ Dexamethasone 6 mg IM q 12 hr ครบ 4 dose แล้ว off ไปเมื่อวันที่ 2 มี.ค. 64 (18.00 น.) then Amoxicillin (500) 1x3 po pc x 5 วัน แทน Azithomycin
        
        ได้รับยา inhibit ยับยั้งการเจ็บครรภ์คลอด คือ 5%D/W 500 ml + Bricanyl (Terbuline sulfate) 5 amp IV drip rate 30 ,25,20, 10 ml/hr แล้ว off ไปเมื่อวันที่ 3 มี.ค. 64 (10.30 น.) เพื่อปล่อยคลอด เนื่องจาก AFI ลดลงจาก 8.8 เหลือ 6.2 cm.
        
        จากทฤษฏี
        
        ให้ Dexamethasone 6 mg IM q 12 hr x 4 dose
        
        ให้ยา inhibit เพื่อยับยั้งการเจ็บครรภ์คลอด
        
        start ATB (GBS prophylaxis/prolong latency) คือ Ampicillin 2g IV q 6 hr + Azithomycin (250) 1 TAB po pc q 6 hr x 48 hr
        
        ยุติการตั้งครรภ์ ปล่อยคลอด NL เมื่อมี UC หรือ C/S if abnormal indicaton
        Fetal distress due to oligohydramnios
        
        Cx. swab c/s
      - GA ≥ 34 wk
        
        Cx. swab c/s
        
        ให้ Dexamethasone 1 course then delivery
  - - - เกณฑ์การประเมินผล
        1.FHS regular 110-160 ครั้ง/นาที
        2.ทารกในครรภ์ดิ้นดี
        3.ได้รับยาตามแผนการรักษา
      - กิจกรรมการพยาบาล
        1.observe & record on EFM
        
        ประเมินลักษณะสีกลิ่น และปริมาณของน้ำคร่ำที่ไหลออกจากช่องคลอดโดยการสังเกตการมีขี้เทาปนในน้ำคร่ำ ถ้าพบว่ามีขี้เทาดูแลให้ออกซิเจน 5 ลิตร / นาที และจัดให้ผู้คลอดนอนตะแคงซ้าย
        3.ดูแลผู้คลอดให้นอนพักบนเตียงไม่ควรลุกเดินไม่นอนศีรษะสูงและดูแลช่วยเหลือในการทำกิจกรรมต่าง ๆ บนเตียงเพื่อป้องกันน้ำคร่ำไหลออกมากขึ้น
        4.ระมัดระวังการเกิดสายสะดือย้อย โดยเฉพาะในรายที่ทารกมีท่าผิดปกติหรือส่วนนำยังไม่เคลื่อนลงสู่ช่องเชิงกราน โดยให้ผู้คลอดนอนพักตลอดเวลาในท่านอนตะแคงซ้ายห้ามลุกเดิน ดูแลให้ปัสสาวะบนเตียงเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำคร่ำรั่วออกมากขึ้นและป้องกันสายสะดือย้อยและสายสะดือถูกกดจากการที่น้ำคร่ำเหลือน้อยลง
        5.ดูแลให้ได้รับยาตามแผนการรักษาเพื่อกระตุ้นการสร้างสารเคลือบผิวถุงลมปอด (surfactant) ป้องกันการเกิดกลุ่มอาการหายใจลำบาก (respiratory distress syndrome, RDS) ของทารกในรายที่ทารกคลอดก่อนกำหนด คือยา Dexamethasone 6 mg IM q 12 hr
        
        แนะนำให้ผู้คลอดสังเกตการดิ้นของทารกในครรภ์ด้วยตนเองหากพบความผิดปกติแจ้งให้พยาบาลทราบ
        7.เตรียมอุปกรณ์ในการช่วยชีวิตทารกเพื่อช่วยเหลือทารกหลังคลอดทันทีที่พบว่ามีปัญหาการหายใจล้มเหลวพร้อมทั้งรายงานกุมารแพทย์เพื่อเตรียมพร้อมในการให้ความช่วยเหลือ
      - วัตถุประสงค์การพยาบาล : เพื่อให้ทารกได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ และการคลอดดำเนินไปตามปกติ
      - ประเมินผล
        1.FHS regular 110-160 ครั้ง/นาที
        2.ทารกในครรภ์ดิ้นดี
        3.ได้รับยาตามแผนการรักษา ครบ 4 dose แล้ว offไปเมื่อวันที่ 2 มี.ค. 64 (18.00 น.)
      - ข้อมูลสนับสนุน
        SD - จาการซักประวัติ พบว่าหญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์ 28+6 wk by u/s ,มีนำ้เดิน 17 ชม.ก่อนมา รพ.และมีอาการเจ็บครรภ์ 15 ชม.ก่อนมาโรงพยาบาล
        OD - ผล u/s AFI ลดลงจาก 8.8 เหลือ 6.2 cm.
    - - เกณฑ์การประเมินผล
        1.มดลูกไม่มีการหดรัดตัว
        2.ไม่มีอาการเจ็บครรภ์คลอด
        3.นำ้ครำ่หยุดไหล
        4.ได้รับยาตามแผนการรักษา
      - กิจกรรมการพยาบาล
        1.ดูแลให้ผู้คลอดนอนพักไม่ลุกเดินบ่อยถ้าไม่จำเป็นเพื่อป้องกันน้ำคร่ำไหลออกมากขึ้น และสายสะดือย้อย (prolapse cord)
        2.อธิบายให้ผู้คลอดเข้าใจถึงภาวะที่เป็นอยู่พร้อมทั้งให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวและสังเกตอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นเช่นน้ำไหลออกทางช่องคลอดมากขึ้นอาการเจ็บครรภ์และการดิ้นของทารกในครรภ์
        3.ถ้ามีน้ำคร่ำออกมากขึ้นและทารกในครรภ์อยู่ในภาวะขาดออกซิเจนต้องรายงานแพทย์เพื่อรับการช่วยเหลือทันที
        4.งดการตรวจทางทวารหนักและการตรวจทางช่องคลอดโดยไม่จำเป็นเพราะจะทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่ายและเป็นการกระตุ้นให้มดลูกหดรัดตัวมากขึ้น
        5.กรณีที่น้ำคร่ำหยุดไหลและไม่มีภาวะแทรกซ้อนแพทย์อาจให้กลับบ้านควรให้คำแนะนำดังนี้
        5.1 แนะนำผู้คลอดไม่ให้สอดใส่สิ่งต่าง ๆ ในช่องคลอดเช่นการเหน็บยาถ้ากลับบ้านแนะนงดการมีเพศสัมพันธ์เพราะในน้ำอสุจิมีสารโพรสตาแกลนดินส์ (prostaglandins) อาจทำให้มดลูกมีการหดรัดตัว
        5.2 แนะนำผู้คลอดให้หลีกเลี่ยงการกระตุ้นหัวนมเช่นถูสบู่บริเวณหัวนมขณะอาบน้ำการไม่ใส่เสื้อชั้นในหรือระหว่างการมีเพศสัมพันธ์เนื่องจากการกระตุ้นหัวนมทำให้มีการหลั่งสารออกซิโทซินจากต่อมใต้สมองส่วนหลังทำให้มดลูกมีการหดรัดตัว
        5.3 แนะนำงดการทำงานหนักหรือการเดินทางไกล
        5.4 แนะนำรักษาความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกทุกครั้งที่ปัสสาวะหรืออุจจาระ
        5.5 แนะนำสังเกตอาการผิดปกติถ้ามีไข้มีน้ำเดินเจ็บครรภ์หรือทารกในครรภ์ดิ้นน้อยลงให้รีบมาโรงพยาบาล
        5.6 แนะนำการมาตรวจตามนัด
        ุ6.ดูแลให้ได้รับยาตามแผนการรักษา
        
        ได้รับยา inhibit ยับยั้งการเจ็บครรภ์คลอด คือ 5%D/W 500 ml + Bricanyl (Terbuline sulfate) 5 amp IV drip rate 30 ,25,20, 10 ml/hr พร้อมทั้ง observe ภาวะแทรกซ้อนจากการได้รับยายับยั้งการเจ็บครรภ์คลอดและรายงานแพทย์ ได้แก่
        1.ด้านการเผาผลาญระดับน้ำตาลในเลือดสูง (hyperglycemia)
        2.ภาวะแทรกซ้อนของหัวใจและหลอดเลือดหัวใจเต้นเร็วมักไม่เกิน 140 ครั้งต่อนาที แต่เคสนี้ keep อยู่ที่ 120 ครั้งต่อนาที ความดันโลหิตต่ำเจ็บแน่นหน้าอก หัวใจเต้นผิดจังหวะหัวใจวายและปอดบวมน้ำ
        
        ผลข้างเคียงอื่น ๆ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ ตัวสั่น มือสั่น มีไข้
      - วัตถุประสงค์การพยาบาล : เพื่อส่งเสริมการตั้งครรภ์ให้ดำเนินไปจนครบกำหนด หรือ 34 wk
      - ประเมินผล
        -2/03/64
        1.มดลูกไม่มีการหดรัดตัว
        2.ไม่มีอาการเจ็บครรภ์คลอด
        3.นำ้ครำ่ leak 10 ml
        4.ได้รับยายับยั้งการเจ็บครรภ์คลอดตามแผนการรักษา
        -3/03/64
        1.มดลูกไม่มีการหดรัดตัว
        2.ไม่มีอาการเจ็บครรภ์คลอด
        3.นำ้ครำ่ leak 20 ml
        4.off ยา inhibit ยับยั้งการเจ็บครรภ์คลอด เวลา 10.30 นเพื่อปล่อยคลอด เนื่องจาก AFI ลดลงจาก 8.8 เหลือ 6.2 cm.
      - ข้อมูลสนับสนุน
        SD -
        OD - ถุงนำ้ครำ่รั่ว (membrane leakage) ก่อนอายุครรภ์ครบกำหนด
    - - ประเมินผล
        -2/03/64
        1.V/S ปกติไม่มีไข้
        2.นำ้ครำ่มีมีปกติ ไม่มีกลิ่นเหม็น ประมาณ 10 ml
        3.FHS regular 130-160 ครั้ง/นาที
        4.ไม่มีอาการกดเจ็บที่มดลูก
        -3/03/64
        1.V/S ปกติไม่มีไข้
        2.นำ้ครำ่มีมีปกติ ไม่มีกลิ่นเหม็น ประมาณ 20 ml
        3.FHS regular 140-160 ครั้ง/นาที
        4.ไม่มีอาการกดเจ็บที่มดลูก
      - กิจกรรมการพยาบาล
        1.บันทึก V/S q 4 hr
        2.monitoring & record EFM FHR ตามแผนการรักษา
        3.observe ลักษณะ สี กลิ่นของนำ้ครำ่ ปริมาณเพื่อประเมินความรุนแรงของการติดเชื้อ และควรเปลี่ยนผ้าขวางผืนใหม่เมื่อมีนำ้ครำ่รั่วออกมามาก
        4.สอนผู้คลอดให้สังเกตการดิ้นของทารกในครรภื ถ้าผิดปกติให้รีบบอกเพื่อประเมินภาวะสุขภาพของทารกในครรภ์
        5.ติดตามผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ คือผลVg. swab c/s ที่ทำเมื่อเมื่อวันที่ 1 มี.ค. 64 รอผลออกวันที่ 4 มี.ค. 64 และผล CBC เกี่ยวกับจำนวนเม็ดเลือดขาว
        6.ดูแลให้ได้รับยา ATB ตามแผนการรักษา คือ Azithomycin (250) 1 TAB po pc x 6 วัน + Ampicillin 2g IV q 6 hr ครบ 48 hr off ไปเมื่อวันที่ 2 มี.ค. 64 (24.00 น.) then Amoxicillin (500) 1x3 po pc x 5 วัน
      - วัตถุประสงค์การพยาบาล : เพื่อป้องกันการติดเชื้อในโพรงมดลูก
      - ข้อมูลสนับสนุน
        SD - จาการซักประวัติ พบว่าหญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์ 28+6 wk by u/s ,มีนำ้เดิน 17 ชม.ก่อนมา รพ.และมีอาการเจ็บครรภ์ 15 ชม.ก่อนมาโรงพยาบาล
        OD -ทำ cough test positive
        -Nitrazine test positive
      - เกณฑ์การประเมิน
        1.V/S ปกติ โดยเฉพาะ BT 36.5-37.4 องศาเซลเซียส PR 60-100 ครั้ง/นาที
        2.นำ้ครำ่มีมีปกติ ไม่มีกลิ่นเหม็น
        3.FHS regular 110-160 ครั้ง/นาที
        4.ไม่มีอาการกดเจ็บที่มดลูก
        5.ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการไม่พบเชื้อ และผล CBC เม็นเลือดขาวอยู่ในเกณฑ์ปกติ
        WBC 5000-10000 /uL
        Neutrophil 60-70 %
        Lymphocyte 20-25 %
    - - เกณฑ์การประเมินผล
        1.V/S ปกติ โดยเฉพาะ HR < 140 ครั้ง/นาที BP < 140/90 mmHg และ RR < 20 ครั้ง/นาที
        2.ผลตรวจ Electrolyte K อยู่ในเกณฑ์ปกติคือ 3.5-5.1 mmol/L
        3.ผลตรวจ BS อยู่ในเกณฑ์ปกติ คือ 70-99 mg%
        4.ไม่มีอาการและอาการแสดงของผลข้างเคียงจากยา Bricanyl อื่น ๆ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ ตัวสั่น มือสั่น มีไข้
      - กิจกรรรมการพยาบาล
        1.observe & record V/S โดยเฉพาะ (tachycardia) HR < 140 ครั้ง/นาที BP < 140/90 mmHg และ RR < 20 ครั้ง/นาที เพื่อประเมินว่าหญิงตั้งครรภ์มีภาวะแทรกซ้อนจากการได้รับยา Bricanyl หรือไม่ หากพบความผิกปกติให้รายงานแพทย์ทันที
        2.observe อาการและอาการแสดงของผลข้างเคียงจากยา Bricanyl อื่น ๆ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ ตัวสั่น มือสั่น มีไข้
        3.observe ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ
        
        Electrolyte K อยู่ในเกณฑ์ปกติคือ 3.5-5.1 mmol/L แต่เนื่องจากหญิงตั้งครรภ์ มี Electrolyte Kต่ำ 3.42-3.31 mmol/L ร่วมกับมีอาการมือสั่น ใจสั่น เมื่อรายงานแพทย์ และรับ order stat KCl 50 ml po q 3 hr x 2 dose
        
        FBS อยู่ในเกณฑ์ปกติ คือ 70-99 mg%
        4.ดูแลให้ได้รับยาตามแผนการรักษา ดังนี้ 5%D/W 500 ml + Bricanyl (Terbuline sulfate) 5 amp IV drip rate 30 ,25,20, 10 ml/hr แล้ว off ไปเมื่อวันที่ 3 มี.ค. 64 (10.30 น.) เพื่อปล่อยคลอด เนื่องจาก AFI ลดลงจาก 8.8 เหลือ 6.2 cm.
      - วัตถุประสงค์การพยาบาล : ป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากการได้รับยา Bricanyl
      - การประเมินผล (3 มี.ค. 64)
        1.V/S ปกติ โดยเฉพาะ HR < 140 ครั้ง/นาที BP < 140/90 mmHg และ RR < 20 ครั้ง/นาที
        2.ผลตรวจ Electrolyte K อยู่ในเกณฑ์ปกติคือ 3.95 mmol/L
        3.BS สูง 109 mg %
        4.ไม่มีอาการและอาการแสดงของผลข้างเคียงจากยา Bricanyl อื่น ๆ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ ตัวสั่น มือสั่น มีไข้
      - ้ข้อมูลสนับสนุน
        SD : - หญิงตั้งครรภ์บอกว่ามีอาการใจสั่น มือสั่น พอทนได้
        OD : - หญิงตั้งครรภ์ได้รับยา inhibit ยับยั้งการเจ็บครรภ์คลอด คือ 5%D/W 500 ml + Bricanyl (Terbuline sulfate) 5 amp IV drip rate 30 ml/hr (1 มี.ค. 64)
        - BS สูง 138-134 mg % (1-2 มี.ค. 64) ตามลำดับ - Electrolyte Kต่ำ 3.42-3.31 mmol/L (1-2 มี.ค. 64) ตามลำดับ - tachycardia PR เร็วเป็นบางเวลา 120 ครััง/นาที (1-2 มี.ค. 64) ตามลำดับ
    - - เกณฑ์การประเมินผล
        หญิงตั้งครรภ์มีสีหน้าสดชื่นขึ้น และสามารถนอนหลับพักผ่อนได้
      - กิจกรรรมการพยาบาล
        1.อธิบายภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้หลังจากถุงนำ้ครำ่รั่วก่อนเจ็บครรภ์ คือ การคลอดก่อนครบกำหนด Oligohydramnios เป็นต้น และมีแผนการรักษาที่จะได้รับ คือ
        - ให้ ATB คือ Ampicillin 2g IV q 6 hr + Azithomycin (250) 1 TAB po pc q 6 hr จนครบ 48 hr แล้ว off เพื่อให้prolong PROM สำหรับให้ยากระตุ้นการสร้างสารเคลือบถุงลม (lung surfactant) เร่งการเจริญเติบโตของโครงสร้างปอดคือยา Dexamethasone 6 mg IM q 12 hr จนครบ 4 dose แล้ว off then Amoxicillin (500) 1x3 po pc x 5 วัน แทน Azithomycin
        
        ให้ยา inhibit ยับยั้งการเจ็บครรภ์คลอด คือ 5%D/W 500 ml + Bricanyl (Terbuline sulfate) 5 amp IV drip rate 30 ,25,20, 10 ml/hr แล้ว off (10.30 น.) เพื่อปล่อยคลอด เนื่องจาก AFI ลดลงจาก 8.8 เหลือ 6.2 cm.
        2.เปิดโอกาสให้หญฺิงตั้งครรภ์ซักถาม และระบายความรู้สึกเกี่ยวกับเรื่องที่วิตกกังวล รับฟังด้วยความสนใจ และตอบข้อซักถามด้วยความเต็มใจ พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่ผู้คลอดในการเผชิญปัญหาต่างๆ
        3.อธิบายให้ทราบ เกี่ยวกับภาวะสุขภาพของทารกในครภ์เป็นระยะๆ ซึ่งสุขภาพทารกในครรภ์ดิ้นดี FHS regular 110-160 ครั้ง/นาที อยู่ในเกณฑ์ปกติ
        4.ดูแลความสะอาดร่างกาย ทำความสะอาดอวัยวะเพศสืบพันธุ์และเปลี่ยนเสื้อผ้าเมื่อเปีกชื้น เพื่อความสุขสบายทำให้สามารถพักผ่อนได้
      - วัตถุประสงค์การพยาบาล : เพื่อให้หญฺิงตั้งครรภ์รู้สึกวิตกกังวลลดลง
      - การประเมินผล : หญฺิงตั้งครรภ์รู้สึกวิตกกังวลลดลง สามารถนอนหลับพักผ่อนได่้
      - ้ข้อมูลสนับสนุน
        SD : หญิงตั้งครรภ์ซักถามเกี่ยวกับอาการของทารกในครรภ์ว่าปกติหรือไม่
        OD : -
- - - - การติดเชื้อในระบบอวัยวะสืบพันธุ์ส่วนล่างการติดเชื้อโรคทางเพศสัมพันธ์เช่น Chlamyda trachomatis, Neisseria gonorrhea, Group B streptococcus, Trichomonas vaginalis, Bacteria vaginosis เป็นต้น
      - การติดเชื้อเรื้อรังของระบบทางเดินปัสสาวะ(UTI) ทำให้มดลูกมีการหดรัดตัวเพิ่มขึ้น
      - การอักเสบติดเชื้อในถุงน้ำคร่ำ หรือการติดเชื้อในโพรงมดลูก (chorioarmnionitis) อาจเป็นเชื้อแบคทีเรีย โดยเชื่อว่าท็อกซินของเชื้อแบคทีเรียกระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก และสารจากแบคทีเรียหลายชนิด ทำให้ถุงนำ้ครำ่อ่อนแอ และแตกได้ง่าย เช่น protease และ phospholipases หรือเชื้อไวรัส รวมทั้งการติดเชื้อซ่อนเร้น (occult )ในน้ำครำ่
  - - - การคลอดก่อนครบกำหนด เนื่องจากการแตกหรือการอักเสบของถุงน้ำครำ่ จะมีผลทำให้ prostaglandin หลั่งเออกมาทำให้เจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดได้ หรือผลจากการติดเชื้อเองจากถุงนำ้ครำ่แตก ถ้าปล่อยไว้เป็นเวลานานอาจเกิดภาวะติดเชื้ออย่างรุนแรง ทั้งมารดาและทารกจึงจำเป็นต้องให้การตั้งครรภ์สิ้นสุดลง
      - ระยะที่ 2 ของการคลอดยาวนานเนื่องจากมีน้ำคร่ำไหลออกมามาก โดยทำให้กลไกการคลยคระยะ Internal rotation และการเกิด Extention หยุดระงัก เนื่องจากศีรษะหรือส่วนน้ำของทารกไม่แนบสนิทกับเชิงกรานและมีน้ำคร่ำไหลออกตลอดเวลาจนอาจทำให้เกิดการคลอดแห้ง (dy lobot) ทำให้การคลอดใหล่และลำตัวต้องออกแรงดึงมากกว่าผู้คลอดปกติ
      - การติดเชื้อ โดยเฉพาะการติดเชื้อที่ถุงน้ำครำ่ (chlorioarmnionistis) และติดเชื้อต่อเนื่องถึงตัวมดลูกในระยะหลังคลอด (endometritis)
      - กระตุ้นให้มีการเจ็บครรภ์
      - สายสะดือย้อย (prolapse cord) ถ้าพบควรให้ออกซิเจนนอนพักศีรษะอยู่ต่ำ (Trendelenberge) หรือท่างอเข่าชิดอกก้มหน้าลง (Knee – chest face down position) ถ้าอยู่บนรถที่ส่งโรงพยาบาลให้นอนตะแคงซ้าย (Sim's position) ยกสะโพกสูงเนื่องจากท่า Knee-Chest-face-down เป็นท่าที่ไม่ปลอดภัยขณะรถวิ่ง
    - - การเกิดภาวะการหายใจล้มเหลว (Respiratory lifess Sysorne: RDS) ถ้าทารกคลอดก่อนอายุครรภ์ 37 สัปดาห์
      - การเกิดภาวะขาดอออกซิเจน (fetal distress) จากภาวะสายสะดือถูกกดจากการที่น้ำคร่ำรั่วออกมามาก ๆ จนเกิดภาวะ Oligohydramnios ถ้าสายสะดือถูกกดมาก ๆ อาจทำให้ทารกเสียชีวิตได้
      - การติดเชื้อ จากถุงน้ำคร่ำแตกเป็นระยะเวลานาน โดยเฉพาะเมื่อถุงน้ำคร่ำแตกตั้งแต่ 6 ชั่วโมงขึ้นไปมีโอกาสติดเชื้อได้สูงมาก
      - ถ้าถุงน้ำคร่ำรั้วบ่อย ๆ จนเกิดภาวะ Oligohydramnios อาจทำให้ทารกในครรภ์เจริญเติบโตช้าได้ (IUGR) หรือทารกอาจเกิดความผิดปกติ แต่กำเนิดจากการบีบรัดรองถุงน้ำคร่าชั้น chorion ขณะที่ amnion ฉีกขาดทำให้ถุงน้ำคร่ำชั้น amnion บีบรัดส่วนแขน ขา อกหน้าท้อง ใบหน้าของทารกเป็นระยะเวลานาน ทำให้ทารกที่คลอดออกมาพบส่วนที่ถูกบีบรัดมีลักษณะผิดรูปหรือพิการได้
- - - - ผลบวก พบเซลล์ไขมันของทารกติดสีแสดไม่มี nucleus
        
        ผลบวกลวง ไม่มี
      - ผลลบ เซลล์อื่น ๆ ติดสีน้ำเงิน
        
        ผลลบลวง กรณีอายุครรภ์น้อยกว่า 32-34 สัปดาห์เนื่องจากเซลล์ไขมันของทารกมีน้อย
    - - ผลบวก กระดาษเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินหรือสีกรมท่า = จากเคสทำNitrazine test ที่ รพ.หัวเฉียว ได้ผล positive
        
        ผลบวกลวง เกิดจากการปนเปื้อนของเลือด น้ำอสุจิสบู่หรือน้ำยา หรือการติดเชื้อที่มีฤทธิ์เป็นด่าง
      - ผลลบ กระดาษในตราซีนสีเหลืองจะไม่เปลี่ยนสี หรือเปลี่ยนเป็นสีเขียว
        
        ผลลบลวง เกิดจากน้ำในช่องคลอด (ฤทธิ์เป็นกรดและมี pH 4.5) มีมากจนน้ำคร่ำเจือจาง หรือน้ำคร่ำที่ใช้ทดสอบมีปริมาณน้อยมาก
    - - ผลบวก ค่า Enzyme-linked immunosorbent assay (ELISA) มากกว่า 50 ng/dl