Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
แนวทางการดูแลรักษาโรคติดเชื้อเฉียบพลันระบบหายใจในเด็ก, การพยาบาลผู้ป่วยที่…
แนวทางการดูแลรักษาโรคติดเชื้อเฉียบพลันระบบหายใจในเด็ก
เสียงหวีด (Wheeze)
หลอดลมฝอยอักเสบเฉียบพลัน (Acute bronchiolitis)
เป็นโรคที่เกิดจาก การติดเชื้อ ทําให้มีการอักเสบของหลอดลมฝอย (bronchiole) เกิดการบวม และหลุดลอกของเซลล์เยื่อบุทางเดินหายใจ ส่งผลให้การระบายเสมหะไม่มี ประสิทธิภาพ ร่วมกับมีการสร้างเสมหะเพิ่มมากขึ้น เกิดการอุดกั้นของทางเดิน หายใจส่วนล่าง
เสียงหวีดที่เกิดร่วมกับการติดเชื้อไวรัส (Viral induced wheeze
สาเหตุ
Intraluminal airway obstruction การเกิดการอุดกั้นของทางเดิน หายใจขนาดเล็ก จากเสมหะและสารคัดหลั่งของทางเดินหายใจ
Intramural airway obstruction เกิดจากการบวมของเยื่อบุทาง เดินหายใจ เมื่อมีการติดเชื้อโดยเฉพาะเชื้อไวรัส ทําให้เซลล์มีปฏิกิริยาอักเสบ (inflammation) ส่งผลให้พื้นทีตัดขวางของทางเดินหายใจเล็กลงอย่างมากจนเกิด เสียงหวีด
Bronchospasm การติดเชื้อบางชนิดกระตุ้นให้เกิดการหดเกร็งของ กล้ามเนื้อหลอดลม (bronchial smooth muscle) จากภาวะหลอดลมไวเกิน (bronchial hyper-responsiveness)
โรคติดเชื้อเฉียบพลันของระบบหายใจส่วนบน (URI)
โรคหวัด (Common cold)
อาการแสดง ได้แก่ เยื่อบุจมูกบวมแดง อาจพบเยื่อบุตาแดง ต่อมนํ้าเหลืองที่คอโต มีpost nasal drip ได้
การรักษา
โรคนี้เป็นโรคที่หายได้เอง โดยไม่จําเป็นต้องให้ยารักษา ไม่จําเป็นต้องให้ ยาต้านจุลชีพ
การรักษาที่อาจช่วยบรรเทาอาการ ที่อาจให้ได้ ได้แก่ การลดไข้ การช่วยให้จมูกโล่ง
โรคคออักเสบ / ทอนซิลอักเสบเฉียบพลัน (Acute pharyngitis/ tonsillitispharyngotonsillitis)
อาการที่สําคัญ คือไข้และเจ็บคอแต่ในเด็กเล็กที่ยังไม่สามารถบอกอาการ ได้จะมาพบด้วยอาการนํ้าลายไหลผิดปกติหรือไม่รับประทานอาหาร
การรักษา
การรักษาตามอาการ การลดไข้ในกรณีมีไข้ให้ยาลดไข้และเช็ดตัวลดไข้ การบรรเทาอาการเจ็บคออาจให้เป็นนํ้าอุ่นผสมนํ้าผึ้งมะนาว
การให้ยาต้านจุลชีพ
ไซนัสอักเสบเฉียบพลัน (Acute rhinosinusitis)
อาการของโรคหวัดที่เป็นแบบต่อเนื่อง (persistent upper respiratory symptoms) คือ มีนํ้ามูกและไอที่ไม่ดีขึ้นติดต่อกันนานกว่า 10 วัน โดยนํ้ามูกมักข้นเหลืองแต่อาจมีสีขาวหรือใสก็ได้
อาการของโรคหวัดที่เป็นแบบรุนแรง (severe upper respiratory symptoms) ได้แก่มีไข้สูงกว่า39 องศเซลเซียส และนํ้ามูกข้นเป็นหนองโดยเกิดขึ้นพร้อมๆ กัน และเป็นติดต่อกัน 3-4 วัน
การรักษา
การรักษาด้วยวิธีดังต่อไปนี้ยังมีการศึกษาน้อย และไม่มีผลสรุปที่ชัดเจน จึงควรพิจารณาเป็นรายๆ ไป
การรักษาจำ เพาะ (specific treatment) ได้แก่ ยาต้านจุลชีพ
โรคหูชั้นกลางอักเสบ (Acute otitis media)
อาการ
ไข้ไอ นํ้ามูกไหล อาเจียน แต่อาการที่สําคัญ คือ การปวดหูในเด็กเล็กที่ยังไม่สามารถพูดได้อาจมีดึงหู ทุบหูร่วมกับ ร้องกวน งอแงผิดปกติหรือไม่ยอมนอน
การรักษา
การรักษาตามอาการ แนะนํา ให้บรรเทาอาการปวดด้วยการใช้ยาแก้ปวด โดยจะเลือกใช้paracetamol หรือ ibuprofen ก็ได้
การรักษาจําเพาะ ปัจจุบันพบว่าสาเหตุของการเกิด AOM ในเด็กนั้น ส่วนหนึ่งเกิด จากการติดเชื้อไวรัส ซึ่งหายได้เองโดยไม่ต้องใช้ยาต้านจุลชีพ
ฝีหลังคอหอย (Retropharyngeal abscess)
อาการ
อาการสําคัญ ได้แก่ ไข้ขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว (spiking fever) คอแข็ง (neck stiffness) เคลื่อนไหวคอและขากรรไกรได้น้อยเพราะเจ็บปวดคอเวลาเคลื่อนไหว คอแข็ง (stiff neck) คอเอียง (torticollis) กลืนลําบาก (dysphagia) เจ็บเวลา กลืน (odynophagia) นํ้าลายไหล
การรักษา
ให้การดูแลรักษาโดยพิจารณาจากอาการของการอุดกั้นทางเดิน หายใจเป็นหลัก
โรคติดเชื้อเฉียบพลันของระบบหายใจส่วนล่าง (LRI)
หลอดลมคอติดเชื้อแบคทีเรีย (Bacterial tracheitis)
อาการ
ผู้ป่วยมักจะเริ่มด้วยอาการ croup ไอเสียงก้อง เสียงแหบ ต่อมามีไข้สูง ไอ มีเสมหะจํานวนมากหายใจลําบาก ตรวจพบ stridor ช่วงหายใจเข้า หรือทั้งเข้า และออก
การรักษา
การดูแลทางเดิน หายใจให้เปิดโล่ง ผู้ป่วยร้อยละ 50-90 จําเป็นต้องใส่ท่อช่วยหายใจ หรือเจาะคอ1,2,5,12,13 หลังจากใส่ท่อช่วยหายใจส่วนใหญ่จําเป็นต้องดูดเสมหะบ่อย พิจารณาถอดท่อช่วยหายใจเมื่ออาการดีขึ้นหรือเสมหะลดน้อยลง
หลอดลมอักเสบเฉียบพลัน (Acute bronchitis)
อาการ
มีไข้ หรืออาจไม่มีไข้ก็ได้ มีนํ้ามูก คัดจมูกนํามาก่อนในช่วง 3-5 วัน ตามมาด้วยอาการของหลอดลม โดยมีอาการ ไอเป็นอาการที่สําคัญที่สุด
ฝาปิดกล่องเสียงอักเสบเฉียบพลัน (Acute epiglottitis)
อาการ
ผู้ป่วยมักมีไข้สูงเฉียบพลัน เจ็บคอมาก กลืนลําบาก นํ้าลายไหล พูดไม่ชัด กระสับกระส่าย หลังจากนั้นจะมีอาการของทางเดินหายใจส่วนบนอุดกั้นตามมา อย่างรวดเร็วภายใน 24 ชั่วโมง
การรักษา
การรักษาแบบประคับประคอง
ให้ออกซิเจนที่มีความชื้น
งดให้อาหารทางปากและพิจารณาให้สารนํ้าทางหลอดเลือดดํา
รบกวนผู้ป่วยให้น้อยที่สุด หลีกเลี่ยงการตรวจช่องคอโดยไม่จําเป็น
ปอดบวม, ปอดอักเสบ (Pneumonia)
อาการ
ไข้ ไอ หอบ ลักษณะทางคลินิกที่ตรวจพบ ได้แก่ - มีไข้ ยกเว้นปอดบวมที่เกิดจากเชื้อ C. trachomatis ก็อาจไม่มีไข้ได - หายใจเร็วกว่าปกติ
กล่องเสียงและหลอดลมอักเสบเฉียบพลัน (Acute laryngotracheobronchitis viral croup)
ผู้ป่วยมีอาการของโรคหวัด เช่น นํ้ามูก ไอเล็กน้อย และไข้ตํ่าๆ (บางราย อาจมีไข้สูงถึง 40 o ซ) นํามาก่อนประมาณ 12-48 ชั่วโมง หลังจากนั้นจะมีอาการ ไอเสียงก้อง เสียงแหบ และหายใจได้ยินเสียง stridor
การรักษาทั่วไป
ดูแลให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายที่สุดเท่าที่จะทําได้ ก่อนการตรวจร่างกายต้อง ไม่ทําให้ผู้ป่วยหวาดกลัวหรือกระสับกระส่าย
พิจารณาให้ออกซิเจนในผู้ป่วยที่มีภาวะพร่องออกซิเจนในเลือด (SpO2 น้อยกว่า 92 % ) และผู้ป่วยทุกรายที่มีภาวะทางเดินหายใจอุดกั้นรุนแรง วิธีการที่แนะนํา คือ การให้ออกซิเจนแบบพ่นจมูก
นระหว่างให้ออกซิเจนแม้จะแก้ไขภาวะ hypoxemia แล้ว ควรเฝ้าระวัง ว่าผู้ป่วยอาจมีภาวะ หายใจล้มเหลวจากการอุดกั้นทางเดินหายใจที่เป็นมากขึ้น ได้
นํ้าในเยื่อหุ้มปอดจากการติดเชื้อ (Parapneumonia effusion)
อาการ
ประวัติ มีการติดเชื้อที่ปอดนํามาก่อน มีไข้ ไอ หอบเหนื่อยถ้ามีนํ้าใน เยื่อหุ้มปอดปริมาณมากอาจทําให้เจ็บหน้าอกขณะหายใจเข้าลึกๆ แน่นหน้าอก นอนราบไม่ได้ หายใจเร็ว หอบเหนื่อย โดยเฉพาะการติดเชื้อที่ปอดที่ได้รับการ รักษาด้วยยาต้านจุลชีพที่เหมาะสมนานกว่า 48-72 ชั่วโมงแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีปัญหาทางระบบทางเดินหายใจ
ปัญหาที่พบบ่อยของระบบทางเดินหายใจในเด็ก
Upper respiratory tract problems
Lower respiratory tract problems