Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 2 แนวคิด ทฤษฎี และหลักการฯ, กลุ่มที่ 14 - Coggle Diagram
บทที่ 2 แนวคิด ทฤษฎี และหลักการฯ
ทฤษฎีและแนวคิดเกี่ยวข้องกับสุขภาพจิตการพยาบาล
แบบจำลองทางชีวการแพทย์
ความไม่สมดุลทางชีวเคมี
Epinephrine => อารมณ์ความเข้มข้นความวิตกกังวล
Nor-epinephrine=> เป็นสารแห่งความโกรธ และเกี่ยวเนื่องกับการป้องกันตัว
Serotonin => นอนหลับ, ตื่น, อยากอาหาร, อารมณ์
Dopamine => การเคลื่อนไหวการตัดสินการรับรู้
Acetylcholine => การเคลื่อนไหวหน่วยความจำ
Gamma immunobutyric acid => การตอบสนองของสมอง,การสะท้อนกลับ
วิธีการรักษา
ยา
เม็ด / ยาและยาฉีด
ยารักษาโรคจิต
ยาต้านความวิตกกังวล & ยากล่อมประสาท
ยารักษาอารมณ์
ยา Anticholinergic
อิเล็กโทร
ชัก
การบำบัด (ECT)
แบบจำลองพฤติกรรม
รูปแบบพฤติกรรม
รุ่น
เรียนรู้จากประสบการณ์ (ปัจจุบัน)
การบังคับใช้ใหม่
วิธีเปลี่ยน
วิธีการกระบวนการลดความวิตกกังวลอย่างมีระบบ
กล้าแสดงออก
การตรวจสอบตนเอง
การเสริมแรงเชิงบวก
การเสริมแรงเชิงลบ
เทคนิคการสร้างแบบจำลอง
การลงโทษ
เทคนิคการสร้าง
คือการปรับแต่งพฤติกรรมจากพฤติกรรมง่ายๆ ไปสู่พฤติกรรมที่ซับซ้อน อาจอาศัยกระบวนการ 2 กระบวนการคือ
Successive approximation
เป็นการใช้เทคนิคการเสริมแรง (Reinforcement) กับพฤติกรรมที่เหมือนหรือใกล้เคียงกับพฤติกรรมที่เราต้องการโดยดำเนินการเป็นขั้นตอน เริ่มต้นด้วยพฤติกรรมแรกๆ ไปจนถึงพฤติกรรมที่เราต้องการโดยดำเนินการเป็นขั้นตอน เริ่มจากพฤติกรรมแรกๆ ไปจนถึงพฤติกรรมขั้นสุดท้าย
Chaining
เป็นการนำพฤติกรรมย่อยๆ ต่างๆ มาเรียงลำดับจากพฤติกรรมแรก (initial) จนถึงพฤติกรรมขั้นสุดท้าย(terminal) แล้วเริ่มฝึกจากพฤติกรรมขั้นสุดท้ายขึ้นมา
แรงจูงใจ
เศรษฐกิจโทเค็น
เทคนิคการผ่อนคลาย
ปัจจุบัน
แบบจำลองมนุษยนิยม
มนุษย์
คุ้ม
การยอมรับ
อย่าตำหนิ
แบบจำลองจิตวิเคราะห์
Id อัตตา Superego
กลไกการป้องกัน
สัญชาตญาณ
พัฒนาการทางเพศทางจิต
วิธีการรักษา
การตีความความฝัน
สมาคมฟรี
การสะกดจิต
จิตบำบัด
จิตบำบัดสนับสนุน
จิตบำบัดเชิงลึก
แบบจำลองความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล
แบบจำลองพฤติกรรมทางปัญญา
ทฤษฎีการพยาบาล
ทฤษฎีทางการพยาบาลของคิงทฤษฎีกระบวนการปฏิสัมพันธ์ (King’s Theory)
บุคคล (Person)
เป็นส่วนหนึ่งของ สังคม เป็นผู้ที่มีเหตุผลและความรู้สึกนึกคิด มีภาษาซึ่ง เป็นสัญลักษณ์สำ หรับใช้ในการสื่อสาร มีการใช้ความคิด มีการกระทำ มีขนบธรรมเนียมประเพณี และความเชื่อ
บุคคลจะแสดงความสามารถในการรับรู้ การคิด การ แสดงความรู้สึกหรืออารมณ์ การเลือกแสดงพฤติกรรม การวางเป้าหมาย การเลือกแนวทางในการปฏิบัติเพื่อ ให้บรรลุวัตถุประสงค์
สิ่งแวดล้อม (Environment)
คิงอธิบายว่า สิ่งแวดล้อม ประกอบด้วย สิ่งแวดล้อมภายในและสิ่งแวดล้อม ภายนอก บุคคลจะมีการแลกเปลี่ยนพลังงานกับสิ่ง แวดล้อมภายนอกตลอดเวลาเพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ ได้ และพยาบาลจัดเป็นสิ่งแวดล้อมของผู้รับบริการด้วย
สุขภาพ (Health)
กระบวนการของการเจริญ เติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ ความเจ็บป่วยอาจมีผลก ระทบต่อบุคคลในทุกกลุ่มอายุและทุกระดับ สถานภาพ ทางสังคมและเศรษฐกิจ ภาวะวิกฤติจะเกิดขึ้นตามวัยหรือ เวลาที่แตกต่างกันในช่วงชีวิต
ภาวะสุขภาพจะสัมพันธ์กับ วิถีทางที่แต่ละบุคคลใช้ในการเผชิญความเครียดจาก การเจริญเติบโตและพัฒนาการ ซึ่งอยู่ภายใต้แบบแผน ทางวัฒนธรรมตามที่บุคคลนั้นกำ เนิดและดำ รงชีวิตอยู่
การพยาบาล (Nursing)
เป็นกระบวนการปฏิสัมพันธ์ ระหว่างการพยาบาลกับผู้รับบริการ ที่มีการแลกเปลี่ยน การรับรู้ข้อมูลซึ่งกันและกัน ผ่านกระบวนการสื่อสาร โดยมีการกำหนดปัญหา กำหนดเป้าหมายร่วมกัน ค้นหา วิธีการปฏิบัติ
ระบบ
ระบบของบุคคล (personal system)
พยาบาลและผู้รับบริการจะมีระบบส่วนตัวหรือมี แบบแผนเฉพาะเป็นของตนเองในการปฏิสัมพันธ์กับ สิ่งแวดล้อม เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของสภาวะรอบตัว ก็จะมีการปรับเปลี่ยนแบบแผนของตนเอง มโนทัศน์ที่ เกี่ยวข้อง ได้แก่
การรับรู้ (perception)
อัตตา (self)
การเจริญเติบโตและพัฒนาการ (growth and development)
ภาพลักษณ์ (image)
เทศะ (space)
กาละ (time)
ระบบระหว่างบุคคล
(interpersonal system)
เมื่อ บุคคล 2 คน ขึ้นไปหรือกลุ่มมีปฏิสัมพันธ์กัน พยาบาล ได้รับการคาดหวังว่าจะเป็นผู้ช่วยลดปัจจัยที่ก่อให้เกิด ความเครียดสำ หรับผู้รับบริการและครอบครัว มโนทัศน์ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่
ปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์ (human interaction)
การสื่อสาร (communication)
ปฏิสัมพันธ์ ที่มีเป้าหมาย (transaction)
บทบาท (role)
ความเครียด (stress)
เจริญเติบโตและพัฒนาการ (growth and development)
ภาพลักษณ์ (image)
เทศะ (space) และกาละ (time)
ระบบสังคม (social system)
เป็นขอบเขตระบบ บทบาทของสังคม พฤติกรรม และการปฏิบัติที่สร้างขึ้นเพื่อรักษาคุณค่าและกลไก สำหรับควบคุมการปฏิบัติ กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้อง กับการพยาบาล มโนทัศน์ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่
องค์การ (organization)
อำนาจหน้าที่ (authority)
อำนาจ (power)
สถานภาพ (status)
การตัดสินใจ (decision making)
ทฤษฎีความ สำเร็จตามจุดมุ่งหมาย
พฤติกรรมของผู้รับบริการ
การตอบสนองของผู้รับบริการต่อสิ่งรบกวน
สิ่งรบกวนหรือปัญหา ซึ่งทำให้ผู้รับบริการต้องมาโรงพยาบาล
การตั้งเป้าหมายและกำหนดจุดมุ่งหมายที่เป็นไปได้ร่วมกันของพยาบาลและ ผู้รับบริการ
การค้นหาแนวทางปฏิบัติ
การตกลงร่วมกันถึงวิธีปฏิบัติ ที่ต้องมีความเห็นพ้องต้องกันและยอมรับในวิธี การปฏิบัติ
และการบรรลุเป้าหมายของการปฏิสัมพันธ์ เป็นพฤติกรรมที่แสดงออกในขั้นสุดท้าย ซึ่งแสดงให้เห็นว่า จุดมุ่งหมายนั้นสำเร็จตามที่ตั้งเอาไว้
ทฤษฎีของโอเรม
(OREM’ s THEORY)
ทฤษฎีระบบการพยาบาล (Theory of nursing system)
ทฤษฎีความพร่องในการดูแลตนเอง (Theory of self-care deficit)
ทฤษฎีการดูแลตนเอง (Theory of self-care)
ระบบพยาบาล ( Nursing system)
เป็นระบบของการกระทําที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาตามความสามารถและ ความต้องการการดูแลตนเองของผู้ป่วยหรือผู้รับบริการ
โอเรมแบ่งระบบการพยาบาลออกเป็น 3 ระบบ คือ
1) ระบบทดแทนทั้งหมด (Wholly compensatory nursing system)
2) ระบบทดแทนบางส่วน (Partly compensatory nursing system)
3) ระบบสนับสนุนและให้ความรูป (Educative supportive nursing system)
วิธีการช่วยเหลือผู้ป่วย
5 วิธี คือ
การกระทําให้
การชี้แนะ
การสอน
การสนับสนุน
การสร้างสิ่งแวดล้อม
ทฤษฎีสัมพันธภาพระหว่างบุคคล
(Interpersonal Relation Theory) ของ Hildegard E. Peplau
คน คือ บุคคล (Person)
ซึ่งแสดงออกซึ่งพฤติกรรม ทั้งด้วยคำพูดและท่าทางที่บอกถึงความต้องการเฉพาะตัวและต้องการความช่วยเหลือ
สิ่งแวดล้อม (Environment)
จะกำหนดด้วย สถานการณ์ที่มีพยาบาลและผู้รับบริการและระบบการพยาบาล
ไม่ได้เจาะจงสิ่งแวดล้อมในด้านผู้ป่วย
สุขภาพ (Health)
เป็นความรู้สึกสบาย เพียงพอ และมีสุข อิสระจากความไม่สุขสบายกายและใจ
การพยาบาล (Nursing)
เป็นสถานการณ์เกิดจากการที่ผู้ป่วยต้องการความช่วยเหลือเมื่อมีปัญหาหรือเสี่ยงต่อการเกิดปัญหา
สัมพันธภาพเพื่อการบำบัด มีลักษณะสำคัญดังต่อไปนี้
การเข้ากันได้ (Rapport)
พยาบาลจะต้องเข้ากันได้กับผู้รับบริการอย่างกลมกลืน ซึ่งความรู้สึกเข้ากันได้จะต้องมีตั้งแต่แรกเริ่มของสัมพันธภาพ รวมทั้งให้เวลากับผู้รับบริการ
การสร้างความไว้วางใจ (Trust)
ซึ่งเป็นความรู้สึกเชื่อมั่นอย่างจริงใจที่บุคคลหนึ่งมีต่ออีกบุคคลหนึ่ง โดยไม่เคลือบแคลงว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ความไว้วางใจตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเสมอต้นเสมอปลายพยาบาลจะต้องมีความสม่ำเสมอและจริงใจ เพราะจะช่วยให้ผู้รับบริการค่อย ๆ สร้างความเชื่อถือในตัวพยาบาล
การมองในแง่ดีและการยอมรับโดยปราศจาก
เงื่อนไข
(Unconditional Positive Regard and Acceptance)
พยาบาลต้องมีความเต็มใจที่จะเข้าใกล้ผู้รับบริการและพยายามมองในแง่ดี
ไม่ตัดสิน โดยมีความเชื่อในคุณค่า ศักดิ์ศรี และความสำคัญของความเป็นบุคคล
การเข้าถึงความรู้สึกหรือเข้าใจตามการรับรู้ของ
ผู้รับบริการ (Empathy)
คือการที่พยาบาลเข้าใจความรู้สึกของ
ผู้รับบริการเหมือนกับที่ผู้รับบริการรู้สึก
หรือเหมือนกับความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับตนเอง แต่ต้องแยกตนเองไว้ต่างหาก ความรู้สึกเหล่านั้นไม่ได้มีผลต่อพยาบาล ความเข้าใจตนเองอย่างดีจะช่วยให้เกิดความตระหนักในความเป็นผู้อื่นได้อย่างแท้จริง
มีการติดต่อสื่อสารที่มีจุดประสงค์
(Purposeful communication)
เน้นการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง พัฒนา
ส่งเสริมและป้องกันปัญหา
มีการถ่ายโอนความรู้สึก (Transference)
อาจเป็นทั้งความรู้สึกทั้งด้านบวกและด้านลบ ที่ถ่ายโอนมายังพยาบาลจากความใกล้ชิดและรู้สึกว่าพยาบาลเป็นเหมือนคนสำคัญของตนเองในด้านต่าง ๆ
การกำหนดหรือตั้งเป้าหมายชัดเจน
(Goal Formulation)
สัมพันธภาพเพื่อการบำบัดจะต้องมีการตั้ง
เป้าหมาย และปฏิบัติให้บรรลุตามที่ตั้งไว้
การมีอารมณ์ขัน (Humor)
เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดในบางสถานการณ์ที่ทั้งพยาบาลและผู้รับบริการกำลังเผชิญอยู่
ทฤษฎีการปรับตัวของรอย
(Roy’s Adaptation Theory)
1) การปรับตัวด้านร่างกาย (Physiological mode) เป็นการปรับตัวเพื่อรักษาความ มั่นคงด้านร่างกาย พฤติกรรมการปรับตัวด้านนี้จะสนองตอบต่อความต้องการพื้นฐานของบุคคล 5 ด้าน
ความต้องการออกซิเจน อาหาร
การขับถ่าย
กิจกรรมและการพักผ่อน
รวมถึงการทำงานของ ระบบต่างๆ ภายในร่างกาย
2) การปรับตัวด้านอัตมโนทัศน์ (Self-concept mode)
เป็นการปรับตัวเพื่อนำไปสู่ ความมั่นคงทางจิตใจ อัตมโนทัศน์เป็นความเชื่อและความรู้สึกที่บุคคลยึดถือเกี่ยวกับตนเองในช่วงเวลาหนึ่งเกี่ยวกับรูปร่างหน้าตา
ภาวะสุขภาพ การทำหน้าที่ รวมไปถึงความเชื่อ ค่านิยม และทุก อย่างที่ตนเองยึดถือ
3) การปรับตัวด้านบทบาทหน้าที่ (Role function mode)
บุคคลมีตำแหน่งและ บทบาทในสังคมของตนเอง
บุคคลจะต้องปรับตัวหรือกระทำตามบทบาทหน้าที่ของตนเองตามที่สังคม คาดหวังได้อย่างเหมาะสม
เพื่อให้เกิดความมั่นทางสังคม บทบาทของบุคคลมี 3 กลุ่ม ดังนี้
3.1) บทบาทปฐมภูมิ (Primary role) เป็นบทบาทตามอายุ เพศ และระดับ พัฒนาการ
บทบาทการเป็นวัยรุ่น
บทบาทการเป็นผู้สูงอายุ
3.2) บทบาททุติยภูมิ (Secondary role) ป็นบทบาทที่เกี่ยวกับงานตามระดับ พัฒนาการ
บทบาทการเป็นบิดามารดา
บทบาทการเป็นสามีภรรยา
บทบาทตามอาชีพ
บทบาทการเป็นพยาบาล
บทบาทการเป็นครู
บทบาทการเป็นนักศึกษา
3.3) บทบาทตติยภูมิ (Tertiary role) เป็นบทบาทชั่วคราวที่บุคคลนั้นได้รับเช่น
บทบาทสมาชิกสมาคม
บทบาทผู้ป่วย
4) การปรับตัวด้านการพึ่งพาซึ่งกันและกัน (Interdependent mode)
บุคคลมี ความสัมพันธ์เกี่ยวข้องและพึ่งพาซึ่งกันและกัน โดยเป็นทั้งผู้ให้และผู้รับความช่วยเหลือเกื้อกูล บุคคล
สามารถปรับตัวด้านการพึ่งพาระหว่างกัน (Interdependence) ได้อย่างเหมาะสมจะต้องมีความ สมดุลระหว่างการพึ่งตนเอง (Independence)การพึ่งพาผู้อื่น (Dependence) และการให้ผู้อื่นได้ พึ่งตนเอง
ถ้าบุคคลสามารถปรับตัวได้ก็จะสามารถอยู่ร่วมกับบุคคลอื่นด้วยความรู้สึกมั่นคงปลอดภัย
การดูแลช่วยเหลือ
ประเมินระดับความสามารถในการปรับตัวของผู้ป่วยทั้ง 4 ด้าน
การช่วยให้ผู้ป่วยสามารถปรับพฤติกรรมที่เป็นปัญหาไปสู่พฤติกรรมที่เหมาะสม
เป้าหมายควรเป็นเป้าหมายที่เกิดขึ้นได้จริงภายหลังที่ได้ปฏิบัติการพยาบาลเสร็จสิ้นลง
ทฤษฎีการพยาบาล: ROY'S ADAPTATION
ทางกายภาพ
บทบาทและหน้าที่
การรับรู้ตนเองภาพลักษณ์ของตนเอง
ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล
บรรทัดฐานทางสังคมสังคม
ความคาดหวัง
การยอมรับทางสังคม
Community mental health care
การดูแลสุขภาพจิตชุมชน
Exist มีอยู่
Independence ความเป็นอิสระ
Free ฟรี
Responsibility ความรับผิดชอบ
Acceptance การยอมรับ
Appraisal การประเมิน
A B C
ANTICEDENCE => พฤติกรรม =>CONSEQUENCES
Rational emotive therapy (RET)
การบำบัดอารมณ์ที่มีเหตุผล
Rational emotive behaviour therapy(REBT)
การบำบัดพฤติกรรมอารมณ์ที่มีเหตุผล
Logotherapy
Reality Therapy
การบำบัดด้วยความเป็นจริง
Gestalt Therapy
การบำบัดด้วยเกสตัลท์
กลุ่มที่ 14
น.ส.เต็มศิริ ก้อนทิพย์ เลขที่ 31 62111301032
น.ส.ธัญพร สุขสกุล เลขที่ 32 62111301033
น.ส.นิรามัย สีลาคำ เลขที่ 39 62111301041
น.ส.บุศกร ชุ่มจิตร เลขที่ 42 62111301044
น.ส.พลอยลดา ขันแข็ง เลขที่ 55 62111301057