Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

ทฤษฎีพื้นฐานของการพยาบาลจิตเวช, สมาชิก นางสาวปวรวรรณ ครุฑธา เลขที่ 47 …

- - - - 4.การเข้าถึงความรู้สึกเข้าใจตามการรับรู้ ของผู้รับบริการคือ การที่พยาบาลเข้าใจความรู้สึกของผู้รับบริการ
      - 5.มีการติดต่อสื่อสารที่มีจุดประสงค์ เน้นการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง พัฒนาส่งเสริมและป้องกันปัญหา
      - 3.การมองโลกในแง่ดีและการยอมรับโดยปราศจากเงื่อนไข พยาบาลต้องมีความเต็มใจที่จะเข้าใกล้ผู้รับบริการและพยาบาลมองในแง่ดี
      - 6.มีการถ่ายโอนความรู้สึก เป็นทั้งความรู้สึกด้านบวกเเละด้านลบที่ถ่ายโอนมายังพยาบาลจากความใกล้ชิด
      - 2.การสร้างความไว้วางใจซึ่งเป็นความรู้สึกเชื่อมั่นอย่างจริงใจ ที่บุคคลหนึ่งมีต่ออีกบุคคลหนึ่ง
      - 7.การกำหนดหรือตั้งเป้าหมายชัดเจน สัมพันธภาพเพื่อการบำบัดจะต้องมีการตั้งเป้าหมายเเละปฏิบัติให้บรรลุตามที่ตั้งไว้
      - 1.การเข้ากันได้ พยาบาลจะต้องเข้ากันได้กับผู้รับบริการอย่างกลมกลืน สร้างความรู้สึกให้ผู้รับบริการ ผ่อนคลายเเละปฏิบัติกับผู้รับบริการอย่างเป็นมิตร
      - 8.การมีอารมณ์ขัน เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดในบางสถานการณ์
  - - - คิงอธิบายว่าสิ่งแวดล้อม ประกอบด้วย
        
        สิ่งแวดล้อมภายใน - สิ่งแวดล้อมภายนอก บุคคลจะมีการแลกเปลี่ยนพลังงานกับสิ่งแวดล้อมภายนอกตลอดเวลาเพื่อให้สามารถดำรงชีวิตได้
    - - 1) ระบบของบุคคล (personal system) : พยาบาลและผู้รับบริการจะมีระบบส่วนตัว มีแบบแผนเฉพาะเป็นของตนเองในการสร้างพันธ์กับสิ่งแวดล้อม เมื่อมีการเปลี่ยนแปลง ก็จะปรับเปลี่ยนแบบแผนของตนเอง มโนทัศน์ที่ เกี่ยวข้อง ได้แก่ การรับรู้ อัตตา การเจริญเติบโตและพัฒนาการภาพลักษณ์ กาลเทศะ
      - 2) ระบบระหว่างบุคคล (interpersonal system) : บุคคล 2 คน ขึ้นไปหรือกลุ่มมีปฏิสัมพันธ์กัน พยาบาล ถูกคาดหวังว่าจะเป็นผู้ช่วยลดปัจจัยที่ก่อให้เกิด ความเครียดสำหรับผู้รับบริการและครอบครัว มโนทัศน์
      - 3) ระบบสังคม (social system) : เป็นขอบเขตระบบ บทบาทของสังคม พฤติกรรม และการปฏิบัติที่สร้างขึ้นเพื่อรักษาคุณค่าและกลไก สำ หรับควบคุมการปฏิบัติ กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้อง กับการพยาบาล มโนทัศน์ที่เกี่ยวข้อง
    - - การตั้งเป้าหมายและกำหนดจุดมุ่งหมายที่เป็นไปได้ร่วมกันของพยาบาลและ ผู้รับบริการ
      - การค้นหาแนวทางปฏิบัติ
      - การตกลงร่วมกันถึงวิธีปฏิบัติ ที่ต้องมีความเห็นพ้องต้องกันและยอมรับในวิธี การปฏิบัติ
      - สิ่งรบกวนหรือปัญหา ซึ่งทำให้ผู้รับบริการต้องมาโรงพยาบาล
      - การตอบสนองของผู้รับบริการต่อสิ่งรบกวน
      - และการบรรลุเป้าหมายของการปฏิสัมพันธ์ เป็นพฤติกรรมที่แสดงออกในขั้นสุดท้าย ซึ่งแสดงให้เห็นว่า จุดมุ่งหมายนั้นสำเร็จตามที่ตั้งเอาไว้
      - พฤติกรรมของผู้รับบริการ
  - - - เป็นระบบที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาตามความสามารถและความต้องการดูแลตนเองของผู้ป่วยหรือผู้รับบริการ
        
        ระบบทดแทนทั้งหมด wholly Compensatory nursing system
        
        ระบบทดแทนบางส่วน Partly compensatory nursing system
    - - การกระทำให้ การชี้แนะ การสอน การสนันสนุน และการสร้างสิ่งแวดล้อม
  - - - เป็นการปรับตัวเพื่อรักษาความมั่นคงด้านร่างกาย
      - การปรับตัวในด้านนี้จะสนองความต้องการของมนุษย์ 5 ด้าน คือความต้องการออกซิเจน อาหาร การขับถ่าย กิจกรรมและการพักผ่อน
    - - เป็นการปรับตัวเพื่อนำไปสู่ ความมั่นคงทางจิตใจ
      - อัตมโนทัศน์เป็นความเชื่อและความรู้สึกที่บุคคลยึดถือเกี่ยวกับตนเองในช่วงเวลาหนึ่งเกี่ยวกับรูปร่างหน้าตา ภาวะสุขภาพ การทำหน้าที่
    - - บทบาทปฐมภูมิ (Primary role)
        
        เป็นบทบาทตามอายุ เพศ และระดับ พัฒนาการ
      - บทบาททุติยภูมิ (Secondary role)
        
        เป็นบทบาทที่เกี่ยวกับงานตามระดับ พัฒนาการ เช่น บทบาทการเป็นบิดามารดา บทบาทการเป็นสามีภรรยาและบทบาทตามอาชีพ
      - บทบาทตติยภูมิ (Tertiary role)
        
        เป็นบทบาทชั่วคราวที่บุคคลนั้นได้รับ เช่น บทบาทสมาชิกสมาคม และบทบาทผู้ป่วย
    - - บุคคลมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องและพึ่งพาซึ่งกันและกัน
      - การให้ผู้อื่นได้ พึ่งตนเอง ถ้าบุคคลสามารถปรับตัวได้ก็จะสามารถอยู่ร่วมกับบุคคลอื่นด้วยความรู้สึกมั่นคงปลอดภัย
- - - - Epinephrine และ norepinephrine
        
        มีผลต่อความรู้สึก การมีสมาธิ
        มีความคิดมีจิตใจที่เเน่วเเน่ เเละความวิตกกังวล
      - Serotonin
        
        ส่งผลให้การหลับหรือไม่หลับ ของผู้ป่วยไม่เหมือนกัน
        โดยถ้านอนไม่หลับร่างกายจะมีความตึงเครียดสูง
      - Dopamine
        
        มีความสัมพันธ์กับการเคลื่อนไหวของร่างกายซึ่งจะมากหรือน้อยผิดปกติ เเสดงถึงความผิดปกติของร่างกาย หรืออาจจะมีการเคลื่อนไหวที่เเปลกไป เเละรวมไปถึงการตัดสินใจที่ผิดปกติไป
      - Acetylcholine
        
        มีผลต่อความจำ อาจจะทำให้การจำสับสน
        เช่น เหตุการณ์ใดเกิดก่อนเกิดหลัง
      - Gamma immunobutyric acid
        
        มีผลต่อการตอบสนองของระบบประสาท การคิดหรือการทำงานของสมอง การมีปฏิกิริยาย้อนกลับของสิ่งเล้าที่มากระทบ
    - - 1.การใช้ยา
        
        Antipsychotic drug
        ช่วยในเรื่องการเห็นภาพหลอน หูแว่ว
        
        Anti-anxiety drug
        ลดการคิดวิตกกังวลน้อยลง
        
        Mood stabilizing drug
      - การช็อตไฟฟ้า(ECT)
        
        ทำเพื่อจัดระเบียบใหม่ของระบบประสาท
  - - - แบ่งออกเป็น
        
        1.พฤติกรรมทุกอย่างเกิดขึ้นโดยการเรียนรู้และสามารถจะสังเกตได้
        
        2.พฤติกรรมแต่ละชนิดเป็นผลรวมของการเรียนที่เป็นอิสระหลายอย่าง
        
        3.แรงเสริม (Reinforcement) ช่วยทำให้พฤติกรรมเกิดขึ้นได้
    - - แบ่งออกเป็น 2 ประเภท
        
        พฤติกรรมเรสปอนเดนต์ (Respondent Behavior)
        
        หมายถึงพฤติกรรมที่เกิดขึ้นโดยสิ่งเร้าเมื่อมีสิ่งเร้าพฤติกรรมตอบสนองก็จะเกิดขึ้น ซึ่งสามารถจะสังเกตได้ ทฤษฎีที่อธิบายกระบวนการเรียนรู้ประเภทนี้ คือ ทฤษฎีการเรียนรู้การวางเงื่อนไขแบบคลาสสิก (Classical Conditioning Theory)
        
        พฤติกรรมโอเปอแรนต์ (Operant Behavior)
        
        เป็นพฤติกรรมที่บุคคลหรือสัตว์แสดงพฤติกรรมตอบสนองออกมา โดยปราศจากสิ่งเร้าที่แน่นอน และพฤติกรรมนี้มีผลต่อสิ่งแวดล้อม ส่วนทฤษฎีการเรียนรู้ที่ใช้อธิบาย Operant Behavior เรียกว่า ทฤษฎีการเรียนรู้การวางเงื่อนไขแบบการกระทำ (Operant Conditioning Theory) ซึ่งทฤษฎีนี้เน้นว่าต้องการให้ Operant Behavior คงอยู่ตลอดไป
  - - - Id
        
        เป็นส่วนที่ติดตัวมาโดยกำเนิดป็นส่วนของจิตที่กระตุ้นให้บุคคลแสดงพฤติกรรมตามหลักแห่งความพอใจ
      - ego
        
        เป็นส่วนของจิตใจที่ดำเนินการโดยอาศัยเหตุและผลเพื่อตอบสนองสิ่งที่ตนเองปรารถนาตามหลักแห่งความเป็นจริง
      - Superego
        
        เป็นส่วนของจิตใจที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับมโนธรรม คือความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของคนนั้นๆ
    - - สัญชาตญาณทางเพศ
        ( Sexual of life instinct
        : libido)
        
        ทำหน้าที่ให้มนุษย์แสวงหาความพอใจตามที่ตนเองต้องการ
      - สัญชาตญาณแห่งความก้าวร้าว
        ( Aggressive of instinct : Mortido)
        
        ทำหน้าที่ให้มนุษย์แข่งขันกัน ชิงดีชิงเด่น
    - - การหาเหตุผลมาเข้าข้างตัวเอง
      - โทษคนอื่น/โทษตัวเอง
      - คิดว่าการทำเลวมาแล้วการทำดีจะช่วยลบล้าง
    - - การส่งเสริมพัฒนาการทางด้านสุขภาพ
    - - การตีความฝัน การฝันในสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นในชีวิตปกติ เช่น การฝันว่าวิ่งหนี
      - ถึงแม้ผู้ป่วยจะไม่ฝัน แต่ให้ผู็ป่วยได้พูดออกมาอย่างอิสระ อยากพูดอะไรให้พูดออกมา
      - Hypnosis กึ่งรู้ตัวกึ่งไม่รู้ตัว เรียกว่า การสะกดจิต
      - Psychotherapy
        
        Supportive Psychotherapy
        
        ทำความเข้าใจผู้ป่วย
        
        Insight Psychotherapy
        
        ทำโดยนักจิตวิทยา ต้องมีวิธีการดำเนินการมุ่งเน้นแก้ปมในอดีต
  - - - ผู้รักษาวิเคราห์ผู้ป่วยในฐานะผู้ที่มีศักดิ์ศรี
      - กลับสู่ภาวะรู้จักตนเอง
      - ค้นหาความหมายของชีวิต
      - ผู้ป่วยถูกกระตุ้นความรู้สึกว่าตนมีเสรีภาพ ศักดิ์ศรี คุณค่า สามารถตัดสินใจเลือกพฤติกรรมได้
      - ช่วยเหลือในลักษณะบุคคลที่มีคุณค่า ไม่คำนึถึง ดี เลว
  - - - การบอกอารมณ์ตัวเอง
      - หาสถานการณ์
      - ประเมินระดับอารมณ์
      - หาความคิดอัตโนมัติ
      - ประเมินความคิด
      - ปรับแก้ความคิด