Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ระบบบริการสุขภาพจิตและจิตเวชและการนำเสนอแนวคิด ทฤษฎีต่างๆ…
ระบบบริการสุขภาพจิตและจิตเวชและการนำเสนอแนวคิด ทฤษฎีต่างๆ มาใช้ในผู้ป่วยจิตเวช
Nursing Theory
ทฤษฎีทางการพยาบาลของคิง
ทฤษฎีกระบวนการปฏิสัมพันธ์
(King’s Theory)
แบ่งออกเป็น
บุคคล (Person)
เป็นส่วนหนึ่งของสังคม เป็นผู้ที่มีเหตุผล และความรู้สึกนึกคิด มีภาษาเป็นสัญลักษณืในการสื่อสาร มีการใช้ความคิด ขนบธรรมเนียม ประเพณี และความเชื่อ
บุคคลจะแสดงความสามารถในการรับรู้การคิด การแสดงความรู้สึกหรืออารมณ์ การเลือกแสดงพฤติกรรม การวางเป้าหมาย การเลือกแนวทางในการปฏิบัติเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์
คิงอธิบายว่า บุคคลจะมีการแลกเปลี่ยนพลังงานกับสิ่งแวดล้อมภายนอกตลอดเวลาเพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้
สุขภาพ (Health)
เป็นกระบวนการเจริญเติบโต และพัฒนาการของมนุษย์ ความเจ็บป่วยมีผลกระทบต่อบุคคลในทุกกลุ่มอายุและทุกระดับ
เวลาที่แตกต่างกันในช่วงชีวิต ภาวะสุขภาพจะสัมพันธ์กับวิถีทางที่แต่ละบุคคลใช้ในการเผชิญกับความเครียดจากการเจริญเติบโต และพัฒนาการ
การพยาบาล (Nursing)
เป็นกระบวนการปฏิสัมพันธ์ ระหว่างการพยาบาลกับผุู้รับบริการ ที่มีการแลกเปลี่ยน การรับรู้ข้อมูลซึ่งกีันและกันผ่านกระบวนการสื่อสาร โดยมีการกำหนดเป้าหมายร่วมกัน
ระบบ
ระบบบุคคล (personal system)
พยาบาลและผู้รับบริการจะมีระบบส่วนตัวหรือมีแบบแผนเฉพาะเป็นของตนเองในการปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม
เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงสภาวะรอบตัว ก็จะมีการปรับเปลี่ยนแบบแผนของตนเอง
ได้แก่ การรับรู้(perception) อัตตา(self) การเจริญเติบโตและพัฒนาการ(growth and development) ภาพลักษณ์(image) เทศะ(space) และกาละ(time)
ระบบระหว่างบุคคล (interpersonal system)
บุคคล 2 คนขึ้นไปหรือกลุ่มที่มีปฏิสัมพันธ์กัน พยาบาลได้รับความคาดหวังว่าจะเป็นผู้ช่วยลดปัจจจัยที่ก่อให้เกิดความเครียด สำหรับผู้รับบริการ
ได้แก่ ปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์(human interaction) การสื่อสาร(communication) ปฏิสัมพันธ์ที่มีเป้าหมาย(transaction) บทบาท(role) และความเครียด(stress)
ระบบสังคม (social system)
เป็นขอบเขตระบบ บทบาทของสังคม พฤติกรรม และการปฏิบัติที่สร้างขึ้นเพื่อรักษาคุณค่า และกลไกสำหรับควบคุมการปฏิบัติ กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการพยาบาล
ได้แก่ องค์การ(organization) อำนาจหน้าที่(authority) อำนาจ(power) สถานภาพ(stats) และการตัดสินใจ(decision making)
ทั้ง 3 ระบบนี้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูล และพลังงานกันตลอดเวลา
ทฤษฎีความสำเร็จตามจุดมุ่งหมาย
กระบวนการ 7 ขั้นตอน
พฤติกรรมของผู้รับบริการ
การตอบสนองของผู้รับบริการต่อสิ่งรบกวน
สิ่งรบกวนหรือปัญหา ที่ทำให้ผู้รับบริการต้องมาโรงพยาบาล
การตั้งเป้าหมาย และกำหนดจุดมุ่งหมายที่เป็นไปได้ร่วมกันของพยาบาลและผู้รับบริการ
การค้นหาแนวทางการปฏิบัติ
การตกลงร่วมกันถึงวิธีปฏิบัติที่ต้องมีความเห็นพ้องต้องกัน และยอมรับในวิธีการปฏิบัติ
การบรรลุเป้าหมายของการปฏิสัมพันธ์ เป็นพฤติกรรมที่แสดงออกในขั้นสุดท้าย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าจุดมุ่งหมายนั้นสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้
ทฤษฎีของโอเรม
(OREM’ s THEORY)
ทฤษฎี
ทฤษฎีความพร่องในการดูแลตนเอง (Theory of self-care deficit)
ทฤษฎีการดูแลตนเอง (Theory of self-care)
ทฤษฎีระบบการพยาบาล (Theory of nursing system)
ระบบพยาบาล ( Nursing system)
คือ
เป็นระบบของการกระทําที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาตามความสามารถและ ความต้องการการดูแลตนเองของผู้ป่วยหรือผู้รับบริการ
แบ่งเป็น
ระบบทดแทนทั้งหมด (Wholly compensatory nursing system)
ระบบทดแทนบางส่วน (Partly compensatory nursing system)
ระบบสนับสนุนและให้ความรูป (Educative supportive nursing system)
วิธีการช่วยเหลือผู้ป่วย
5วิธี
การสอน
การสนับสนุน
การชี้แนะ
การสร้างสิ่งแวดล้อม
การกระทําให้
ทฤษฎีสัมพันธภาพระหว่างบุคคล
(Interpersonal Relation Theory)
ของ Hildegard E. Peplau
ความหมาย
คน คือ บุคคล (Person) ซึ่งแสดงออกซึ่งพฤติกรรม ทั้งด้วยคำพูดและท่าทางที่บอกถึงความต้องการเฉพาะตัวและ
ยังต้องการความช่วยเหลือให้แก้ปัญหา
สิ่งแวดล้อม (Environment) จะกำหนดด้วย สถานการณ์ที่มีพยาบาลและผู้รับบริการและระบบการพยาบาล
ไม่ได้เจาะจงสิ่งแวดล้อมในด้านผู้ป่วย
สุขภาพ (Health) เป็นความรู้สึกสบาย เพียงพอ และมีสุข อิสระจากความไม่สุขสบายกายและใจ
การพยาบาล (Nursing)
า เป็นการใช้กระบวนการลดความไม่สุขสบายหรือภาวะหมดทางช่วยเหลือ โดยพยาบาลมีปฏิสัมพันธ์กับผู้รับบริการและให้การช่วยเหลือลดความไม่สุขสบาย
ปรับปรุงพฤติกรรม และเพิ่มความสามารถในการดูแลตนเอง แลกเปลี่ยนข้อมูลและการปฏิบัติที่ทำให้เกิดความสอดคล้องระหว่างพฤติกรรม ของผู้รับบริการ
ปฏิกิริยาของพยาบาลและการปฏิบัติการพยาบาลโดยคำนึงถึงองค์รวมของผู้รับบริการ
สัมพันธภาพเพื่อการบำบัด มีลักษณะสำคัญดังต่อไปนี้
การเข้าถึงความรู้สึกหรือเข้าใจตามการรับรู้ของ
ผู้รับบริการ (Empathy)
คือการที่พยาบาลเข้าใจความรู้สึกของ
ผู้รับบริการเหมือนกับที่ผู้รับบริการรู้สึก
แต่ต้องแยกตนเองไว้ต่างหาก ความรู้สึก
เหล่านั้นไม่ได้มีผลต่อพยาบาล
มีการติดต่อสื่อสารที่มีจุดประสงค์ (Purposeful
communication)
เน้นการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง พัฒนา
ส่งเสริมและป้องกันปัญหา
การมองในแง่ดีและการยอมรับโดยปราศจาก
เงื่อนไข (Unconditional Positive Regard and Acceptance)
พยาบาลต้องมีความเต็มใจที่จะเข้าใกล้ผู้รับบริการและพยายามมองในแง่ดี ไม่ตัดสิน โดยมีความเชื่อในคุณค่า ศักดิ์ศรี และความสำคัญของความเป็นบุคคล
มีการถ่ายโอนความรู้สึก (Transference)
อาจเป็นทั้งความรู้สึกทั้งด้านบวกและด้านลบ
ลบ ที่ถ่ายโอนมายังพยาบาลจากความใกล้ชิด
รู้สึกว่าพยาบาลเป็นเหมือนคน
สำคัญของตนเองในด้านต่าง ๆ
การสร้างความไว้วางใจ (Trust)
ซึ่งเป็นความรู้สึก
เชื่อมั่นอย่างจริงใจที่บุคคลหนึ่งมีต่ออีกบุคคลหนึ่ง
เพราะมีความเชื่อมั่นอยู่ภายใน
ความไว้วางใจตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเสมอต้นเสมอปลาย
ช่วยให้
ผู้รับบริการค่อย ๆ สร้างความเชื่อถือในตัวพยาบาล
การเข้ากันได้ (Rapport)
พยาบาลจะต้องเข้ากัน
ได้กับผู้รับบริการอย่างกลมกลืน
ซึ่งความรู้สึกเข้ากันได้จะต้องมี
ตั้งแต่แรกเริ่มของสัมพันธภาพ
การกำหนดหรือตั้งเป้าหมายชัดเจน (Goal
Formulation)
สัมพันธภาพเพื่อการบำบัดจะต้องมีการตั้ง
เป้าหมาย และปฏิบัติให้บรรลุตามที่ตั้งไว้
การมีอารมณ์ขัน (Humor)
เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดในบางสถานการณ์ที่ทั้งพยาบาล
ผู้รับบริการกำลังเผชิญอยู่
ทฤษฎีการปรับตัวของรอย
(Roy’s Adaptation Theory)
การปรับตัวด้านบทบาทหน้าที่ (Role function mode)
บุคคลมีตำแหน่งและ บทบาทในสังคมของตนเอง
บุคคลจะต้องปรับตัวหรือกระทำตามบทบาทหน้าที่ของตนเองตามที่สังคม คาดหวังได้อย่างเหมาะสม
บทบาทของบุคคลมี 3 กลุ่ม
บทบาททุติยภูมิ (Secondary role)
เป็นบทบาทที่เกี่ยวกับงานตามระดับ พัฒนาการ เช่น บทบาทการเป็นบิดามารดา บทบาทการเป็นสามีภรรยา และบทบาทตามอาชีพ
บทบาทตติยภูมิ (Tertiary role)
เป็นบทบาทชั่วคราวที่บุคคลนั้นได้รับ เช่น บทบาทสมาชิกสมาคม และบทบาทผู้ป่วย
บทบาทปฐมภูมิ (Primary role)
เป็นบทบาทตามอายุ เพศ และระดับ พัฒนาการ
การปรับตัวด้านการพึ่งพาซึ่งกันและกัน (Interdependent mode)
บุคคล ที่สามารถปรับตัวด้านการพึ่งพาระหว่างกัน (Interdependence)
ความ สมดุลระหว่างการพึ่งตนเอง (Independence)
บุคคลมี ความสัมพันธ์เกี่ยวข้องและพึ่งพาซึ่งกันและกัน โดยเป็นทั้งผู้ให้และผู้รับความช่วยเหลือเกื้อกูล
การพึ่งพาผู้อื่น (Dependence)
การปรับตัวด้านอัตมโนทัศน์ (Self-concept mode)
เป็นการปรับตัวเพื่อนำไปสู่ ความมั่นคงทางจิตใจ
อัตมโนทัศน์เป็นความเชื่อและความรู้สึกที่บุคคลยึดถือเกี่ยวกับตนเองในช่วงเวลาหนึ่งเกี่ยวกับรูปร่างหน้าตา ภาวะสุขภาพ การทำหน้าที่
รวมไปถึงความเชื่อ ค่านิยม และทุก อย่างที่ตนเองยึดถือ
การดูแลช่วยเหลือ
ประเมินระดับความสามารถในการปรับตัวของผู้ป่วยทั้ง 4 ด้าน
การช่วยให้ผู้ป่วยสามารถปรับพฤติกรรมที่เป็นปัญหาไปสู่พฤติกรรมที่เหมาะสม เป้าหมายควรเป็นเป้าหมายที่เกิดขึ้นได้จริงภายหลังที่ได้ปฏิบัติการพยาบาลเสร็จสิ้นลง
การปรับตัวด้านร่างกาย (Physiological mode)
คือ
เป็นการปรับตัวเพื่อรักษาความ มั่นคงด้านร่างกาย พฤติกรรมการปรับตัวด้านนี้จะสนองตอบต่อความต้องการพื้นฐานของบุคคล
ตอบสนองต่อ 5 ด้าน
การขับถ่าย
กิจกรรมและการพักผ่อน
อาหาร
การทำงานของ ระบบต่างๆ ภายในร่างกาย
ความต้องการออกซิเจน
ทฤษฎีและแนวคิดเกี่ยวกับการพยาบาลสุขภาพจิต (Theories and concepts relating to mental health nursing)
แบบจำลองทางชีวการแพทย์ (Biomedical model)
ความไม่สมดุลทางชีวเคมี
Epinephrine
อารมณ์ (Emotion)
สมาธิ (Concentration)
ความวิตกกังวล (Anxiety)
Serotonin
การนอนหลับ (Sleep)
การตื่น (Wake up)
การอยากอาหาร (Appetite)
อารมณ์ (Emotion)
Dopamine
การเคลื่นไหว (Movement)
การตัดสินใจ (Judgement)
การรับรู้ (Awareness)
Acetylcholine
การเคลื่นไหว (Movement)
ความจำ (Memory)
Gamma immunobutyric acid
การตอบสนองต่อสมอง (Brain response)
การสะท้อนกลับ (Reflection)
วิธีการรักษา
ยา (Medication)
ยาเม็ด (Pill)
ยาฉีด (Injection)
ยารักษาโรคจิต (Antipsychotic drugs)
ยาคลายกังวล (Anti-anxiety drugs)
ยากล่อมประสาท (Sedative)
ยารักษาอารมณ์ (Mood stabilizing drugs)
รักษาด้วยไฟฟ้า (Electro Convulsive Therapy : ECT)
ใช้กระแสไฟฟ้าที่มีความเข้มข้นต่ำ
ผ่านสมองเป็นระยะเวลาสั้นๆ
เพื่อให้ผู้ป่วยเกิดอาการชัก
เพื่อให้สุขภาพจิตดีขึ้น
แบบจำลองพฤติกรรม (Behaviour model)
Model
เรียนรู้จากประสบการณ์ (Learned from experience )
Re-enforcement
วิธีการเปลี่ยน
กล้าแสดงออก (Assertive)
การตรวจสอบตัวเอง (Self Monitoring)
การเสริมแรงทางบวก (positive reinforcement)
การเสริมแรงทางลบ (negative reinforcement)
เทคนิคการสร้างแบบจำลอง (Modeling technique)
เทคนิคการสร้าง (shaping technique)
เทคนิคการปรับแต่ง (Shaping Technique)
คือ
การปรับแต่งพฤติกรรมจากพฤติกรรมง่ายๆ
ไปสู่พฤติกรรมซับซ่อน
อาจอาศัยกระบวนการ 2 กระบวนการ
คือ
Successive approximation
เป็นการใช้เทคนิคการเสริมแรง (Reinforcement)
กับพฤติกรรมที่เหมือนหรือใกล้เคียงกับพฤติกรรมที่เราต้องการ
โดยดำเนินการเป็นขั้นตอน
เริ่มต้นด้วยพฤติกรรมแรกๆจนถึงพฤติกรรมที่เราต้องการ
Chaining
เป็นการนำพฤติกรรมย่อยๆมาเรียงลำดับ
จากพฤติกรรมแรก (initial) จนถึงพฤติกรรมขั้นสุดท้าย (terminal)
แล้วเริ่มฝึกจากขั้นสุดท้ายขึ้นมา
แบบจำลองจิตวิเคราะห์ ( Psychoanalytic model)
Id Ego Superego
กลไกลการป้องกัน (Defense mechanism)
สัญชาตญาณ (Instinct)
การพัฒนาทางเพศทางจิต (Psycho sexual development)
การรักษา
การตรความความฝัน (Dream interpretation)
การสะกดจิต (Free association)
จิตบำบัด (Psychotherapy)
จิตบำบัดเชิงสนับสนุน (Supportive psychotherapy)
จิตบำบัดเชิงลึก (Insight psychotherapy)
แบบจำลองมนุษย์นิยม (Humanistic model)
คือ
การมองว่าทุกคนมีคุณค่า
มีความสามารถ
การที่ทำอะไรผิดทุกคนย่อมมีเหตุผล
แบบจําลองที่มีอยู่ (Existential model)
มีอยู่ (Exist)
ความเป็นอิสระ (Independence)
ความรับผิดชอบ (Responsibility)
การยอมรับ (acceptance)
นิยมว่า
มนุษย์ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพเหมือนกัน 100%
คนทุกคนสามารถเลือกได้ทุกสิ่งในชีวิต
ทุกคนควรยอมรับทุกสิ่งที่เลือก
รูปแบบพฤติกรรมความรู้ความเข้าใจ (Cognitive behaviour model)
ANTICEDENCE
พฤติกรรม (Behavior)
การประเมิน (Appraisal)
วิธีการเปลี่ยน
การบำบัดแบบเน้นเหตุผล อารมณ์ และพฤติกรรม (Rational emotive behaviour therapy :REBT)
การบําบัดเชิงอิโมติฟอย่างมีเหตุผล (Rational emotive therapy :RET)
Logotherapy
เป็นรูปแบบของการรักษาที่ผู้ป่วยได้รับความช่วยเหลือ
ในกระบวนการค้นหาความหมายส่วนบุคคล
การบําบัดด้วยความเป็นจริง (Reality Therapy)
รายชื่อ
น.ส.จุฑารัตน์ เอกเกษตรสิน 62111301015
น.ส.ชลดา บัวบาน 62111301016
นาย ธีภพ จ่ารุ่ง 62111301034
น.ส.มินตรา เครือเหลา 62111301073
น.ส.อัญฌิตา ประการ 62111301108