Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

การพยาบาลทารกแรกเกิด บทที่8 - Coggle Diagram

- - - - ทารกในครรภ์มีการแลกเปลี่ยนออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ผ่านรก
      - การเริ่มหายใจครั้งแรกของทารก
        
        การกระตุ้นภายใน
        
        กระตุ้นด้วยสารเคมี
        
        กระตุ้นภายนอก
        
        กลไกการบีบรัด
        
        อุณหภูมิ
        
        การกระตุ้นประสาทรับความรู้สึก
    - - ทารกมีการปรับระบบการไหลเวียนเลือดเหมือนผู้ใหญ่ใน 24-48 ชม.หลังคลอด
      - ทารกในครรภ์การไหลเวียนเลือดผ่านรก
      - ทารกคลอดออกมาการไหลเวียนเลือดเริ่มต้นเมื่อหายใจเข้าครั้งแรก
    - - ทารกในครรภ์อุณหภูมิสูงกว่ามารดา0.3-105 องศสเซลเซียล
      - ปัจจัย
        
        อายุครรภ์
        
        ความสมบูรณืของร่างกาย
        
        ความเจ็บป่วย
      - แหล่งผลืตความร้อนที่สำคัญ
        
        ตับ
        
        หัวใจ
        
        สมอง
        
        ไขมันสีน้ำตาล
    - - ไขกระดูกทำหน้าที่สร้างเม็ดเลือด
      - ปริมาณของเลือดทั้งหมด80-85ml.ต่อน้ำหนักตัว 1kg.เฉลี่ย[300ml.
      - หากตัดสายสะดือช้าออกไป 2 นาทีทารกจะได้รับเลือดเพิ่มขึ้น 50-125ml.
  - - - กระดูกศีรษะเกยซ้อนกัน
      - มีเลือดออกใต้เยื่อหุ้มกระโหลกศีรษะ
      - ศีรษะเล็กกว่าปกติ
    - - การเคลื่อนไหวของใบหน้าสมมาตรกัน
    - - เลนส์ตาใส เยื่อบุตาขาวสะอาด
      - เลนส์ตาขุ่นมีภาวะต้อกระจก ไม่มีลูกตา หางตาชี้ขึ้น
      - Ddwn's syndrome
      - รูม่านตากลม ตอบสนองต่อแสง เท่ากันทั้ง2ข้าง
    - - จมูกสมมาตรกัน
      - รูจมูกมีขนากเท่ากัน มีseptumกั้นกลาง
      - ทารกใช้จมูกหานใจด้วยจมูกข้างเดียว
    - - มุมปากอยู่ในระดับเดียวกัน
      - ตรวจดูว่ามีลิ้นติด
      - ภาวะเพดานโหว่
      - ภาวะปากแหว่ง
      - Swallow&suction erflex
    - - ใบหูพับ
      - ขนาดเล็กผิดปกติ
      - มีติ่งเนื้องอกข้างหู
      - ใบหูอยู่ในระดับเดียวกันกับหางตา
    - - เสียงการหายใจเท่ากันทั้ง2ข้าง
      - อกบุ๋มหรืออกนูน
      - หัวนมมากกว่าปกติ
      - เสียงการหายใจลดลงอาจเกิดถุงลมแฟบ หรือน้ำท่วมปอด
    - - การปิดของผนังหน้าท้อง
      - คลำพบตับ ม้าม และไตได้
      - ไม่มีภาวะผนังหน้าท้องปกคลุม
      - สะดือโป่งนูน
      - ลำไส้ออกมาอยู่หน้าช่องท้อง
    - - งอ เหยียด กำลังของกล้ามเนื้อ
      - ลักษณะนิ้วมือ นิ้มเท้า ลายเส้นฝ่ามือ ฝ่าเท้า
      - จำนวน
    - - ดูและคลำกระดูกสันหลังตั้งแต่กระดูกต้นคอไปถึงกระดูกก้นกบ
      - ดูความโค้งงอ กระดูกผิดรูป หารูเปิดหรือก้อนโป่งนูน
      - ไขสันหลังไม่เชื่อมกัน มีถุงยื่นออกมา
    - - ดูรูเปิด
      - สังเกตการถ่ายขี้เทาภายใน24 ชม.หลังคลอด
    - - มีรูเปิดของท่อปัสสาวะอยู่ด้านบนองคชาติ
      - ขนาด รูปร่าง ตำแหน่ง
    - - การชิดติดกันของ labai
      - ขนาดรูปร่างของ clitoris
      - สิ่งคัดหลั่งจากช่องคลอดปละการขับถ่ายปัสสาวะ
  - - - เท้าปุกแท้้(congenital clubfoot)
        
        เท้าเล็กกว่าปกติ เท้าบิดเข้าข้างใน
        
        ลักษณะยึดติดแข็ง พบรอยลึกของผิวหนังด้านในฝ่ าเท้าและด้านหลัง
      - เท้าปุกชนิดเหิดร่ามกับโรคอื่น(syndrome or teratologic clubfoot)
        
        เท้าปุกติดแข็ง การตัดหรือใส่เฝือก ไม่ค่อยได้ผลมักกลับมาเป็นซ้ำ
      - เท้าปกเทียม(postural clubfoot)
        
        เท้าบิดตั้งแต่อยู่ในครรภ์ พบได้บ่อยในภาวะน้ำคล่ำน้อย
      - การดูแลรักษา
        
        ให้เท้าใช้เดินได้ให้ใกล้เคียงกับเท้าปกติมากที่สุด
        
        การตัดหรือใส่เฝือกจะได้ผลดีในช่วงอ 6 เดือนแรก
        
        ผ่าตัดและใส่รองเท้าประคองเท้า เพื่อไใ่ให้กลับมาเป็นซ้ำ
    - - เนื้อเยื่อใต้ลิ้นติดกับพื้นล่างของช่องปาก
      - ลักษณะ หนา ตึงและสั้น การเคลื่อนไหวของลิ้นถถูกจำกัด
    - - ขี้เทาอัดแน่นบริเวณส่วนปลายลำไส้ส่วนปลาย หรือ ทวารหนัก
      - ลำไส้ทำงานไม่ดี ถ่านขี้เทาช้า ถ่านน้อย สีซีด หรือไม่ถ่ายขี้เทา
      - มักเกิดจากลำไส้อุดตัน
    - - ร่างกายไม่สามารถย่อยน้ำตาลแลคโทสได้สมบูรณ์ ภายหลังได้รับนม 30 นาที ถึง2ชม.
    - - ผิดปกติทั้งร่างกายและจิตใจ
      - ศีรษะเล็กแบนกว้าง ท้ายทอยสั้น ใบหน้ากลม ตาห่าง หางตาเฉียว จมูกเล็ก
      - โรคหัวใจพิการแต่ก าเนิด ต้อกระจก ต้อหิน โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ปัญญาอ่อน
    - - มีพังผืดบางๆกั้นอยู่ปกติพังผืดจะลอกออกได้เองในช่วงครบกำหนดคลอดจนถึง 2-3 เดือนหลังคลอด
    - - จากมารดามีน้ำนมน้อยทารกดูดนมไม่ถูกวิธี
      - เนื่องจากในนมมารดามีสารบางชนิดเปลี่ยนให้เป็ นunconjugatedbilirubin และถูกดูดซึมกลับเข้ากระแสเลือด
- - - - ดูแล BT=36.5-37.5 องศาเซลเซียล
      - วัดอุณหภูมิให้ตรงเวลา
      - วัดอุณหภูมิหลังคลอดให้วัดทางรักแร้ (เมื่อครั้งแรกวัดทางทวารหนักเรียบร้อยกล้ว)
    - - ให้ทารกเข้าเต้าอย่างถูกวิธี ดูดอย่างถูกวิธี ดูดบ่อย
      - สังเกตอาการสำลอกนม
      - สังเกตการสะอึก
      - การอุ้มรอให้อุ้มท่านั่งหรือท่าพาดบ่านาน5-10นาที
    - - ชั่งน้ำหนักทารกทุกวันขณะอยู่ที่โรงพยาบาล
      - ทารก2-3วันหลังคลอดอาจมีน้ำนักลดลงได้
      - จะเพิ่มขึ้นเท่ากับแรกเกิดในวันที่7-10หลังคลอด
    - - อาบน้ำและสระผมด้วยน้ำอุ่นพอดี
      - ใช่สบู่เด็กเช็ดหน้าด้วยน้ำสะอาด
    - - สะดือจะหลุดภายใน7-14วัน
      - ทำความสะอาดโดยใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์ 70%
      - สังเกตอาการผิดปกติที่แสดงว่าสายสะดือมีการติดเชื้อ
    - - เพศหญิง
        
        อาจมีเลือดออกทางช่องคลอดเรียกว่า ประจำเดือนเทียม
      - เพศชาย
        
        ล้างด้วน้ำสะอาดอาจมีเมือกสีขาวเหนียวให้เช็ดเบาๆ
    - - BCG
      - HBV
        
        [บางรายอาจจะปวด หรือบวมบริเวณที่ฉีด อาจมีไข้ต่ำๆ