Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
covid-19 - Coggle Diagram
covid-19
ที่มา
ขณะนี้ยังไม่มีใครทราบชัดเจนถึงแหล่งกำเนิดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ก่อนหน้านี้มีการสันนิษฐานว่า ไวรัสชนิดนี้อาจเริ่มติดต่อจากสัตว์ป่ามาสู่คน โดยมีต้นตอของการแพร่ระบาดจากงูเห่าจีน (Chinese cobra) และงูสามเหลี่ยมจีน (Chinese krait) ที่นำมาวางจำหน่ายในตลาดสดเมืองอู่ฮั่น ซึ่งเป็นสถานที่พบผู้ติดเชื้อกลุ่มแรก ๆ
ทีมผู้วิจัยสันนิษฐานว่า งูอาจเป็นสัตว์ตัวกลางที่ส่งต่อเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จากค้างคาวมาสู่คน เนื่องจากงูพิษที่อาศัยอยู่ในธรรมชาติล่าค้างคาวในถ้ำเป็นอาหาร แต่ก็ยังคงมีข้อสงสัยว่า ไวรัสโคโรนาสามารถปรับตัวให้อยู่อาศัยและขยายพันธุ์ในร่างกายของทั้งสัตว์เลือดเย็นและสัตว์เลือดอุ่นได้อย่างไร
-
-
การรักษา
Self-care
หากรู้สึกไม่สบาย คุณควรพักผ่อน ดื่มน้ำมากๆ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ กักตัวเองในห้องแยกจากสมาชิกครอบครัวคนอื่นๆ และใช้ห้องน้ำแยก หากเป็นไปได้ ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคบนพื้นผิวที่สัมผัสเป็นประจำ
เมื่ออยู่ที่บ้าน ทุกคนควรทำกิจวัตรประจำวันที่ดีต่อสุขภาพ โดยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ นอนหลับให้เพียงพอ ออกกำลังกายเป็นประจำ และติดต่อคนที่รักผ่านโทรศัพท์หรืออินเทอร์เน็ต เด็กๆ ต้องการความรักและการเอาใจใส่เป็นพิเศษจากผู้ใหญ่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ และโปรดใช้ชีวิตประจำวัน รวมถึงรักษาตารางเวลาตามปกติเท่าที่จะทำได้
ความรู้สึกเศร้า ตึงเครียด หรือสับสนเป็นเรื่องปกติในช่วงวิกฤต การพูดคุยกับคนที่ไว้ใจ เช่น เพื่อนหรือครอบครัวช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ แต่หากรู้สึกเป็นกังวลมาก โปรดติดต่อพูดคุยกับบุคลากรทางการแพทย์หรือนักจิตวิทยาการปรึกษา
Doctor care
หากมีอาการเพียงเล็กน้อยและไม่มีปัญหาสุขภาพอื่นๆ โปรดแยกกักกันตัวเอง หรือติดต่อผู้ให้บริการทางการแพทย์หรือสายด่วนข้อมูลโควิด-19 เพื่อขอคำแนะนำ
โปรดไปพบแพทย์หากมีไข้ ไอ และหายใจลำบาก โดยติดต่อล่วงหน้า
อาการ
ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ จะมีอาการเริ่มแรกคือ มีไข้ ตามมาด้วยอาการไอแห้ง ๆ หลังจากนั้นราว 1 สัปดาห์จะมีปัญหาหายใจติดขัด ผู้ป่วยอาการหนักจะมีอาการปอดบวมอักเสบร่วมด้วย หากอาการรุนแรงมากอาจทำให้อวัยวะภายในล้มเหลว ขณะที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แนะนำว่า หากผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงการระบาดของโรคมีอาการไข้ ร่วมกับอาการทางเดินหายใจอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ ควรรีบพบแพทย์ทันที
-
การวินิจฉัย
โรคไวรัสโคโรนา 2019 มีอาการเริ่มต้นคล้ายผู้ป่วยอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ (Influenza-like illness;ILI) และพัฒนาไปสู่อาการทางเดินหายใจรุนแรงเฉียบพลัน (Severe acute respiratory infection; SARI)ทําให้ผู้ป่วยเสียชีวิต ในบางรายอาจมีอาการท้องเสีย หรือไตวายร่วมด้วย ซึ่งอาการดังกล่าวไม่สามารถแยกได้จากโรคระบบทางเดินหายใจที่มีสาเหตุจากเชื้อไวรัสและแบคทีเรียตัวอื่นๆ ดังนั้นจึงจําเป็นต้องตรวจวินิจฉัย แยกโรค (Non-SARS-CoV-2 testing) เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาได้ถูกต้องและทันเวลาการทดสอบต้องยึดหลักความปลอดภัยและความจําเป็นในการรักษา โดยเฉพาะการตรวจแยกโรคจากสิ่งส่งตรวจระบบทางเดินหายใจ หรือจากระบบอื่นๆ ควรทําในตู้ BSC class II ซึ่งติดตั้งในห้องปฏิบัติการชีวนิรภัยระดับ 2 กรณีไม่มีตู้ BSC class II อาจเตรียมหรือทดสอบสิ่งส่งตรวจจากระบบอื่นที่ไม่ใช่ระบบทางเดินหายใจ ในห้องปฏิบัติการของงานประจํา ด้วยความระมัดระวัง ไม่ปฏิบัติงานพร้อมกับการตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างผู้ป่วยด้วยโรคอื่นๆ และสวมชุดป้องกันตนเอง ( PPE) ให้ถูกต้องและเหมาะสมรายการทดสอบเพื่อการตรวจแยกโรคต้องทําใน BSC class II เช่น
- การตรวจหา Influenza A และ B ด้วย Rapid test kit
- การตรวจ Bacteria ต้องทําในตู้ BSC class II
การป้องกัน
ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า COVID-19 | โควิด19 ที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ มีความรุนแรงเทียบเท่ากับโรคซาร์สมากที่สุด ทำให้ผู้ป่วยมีอาการปอดอักเสบรุนแรงจนถึงแก่ชีวิตได้ องค์การอนามัยโลก ยังไม่สามารถหาที่มาของเชื้ออย่างชัดเจนได้ แต่สันนิษฐานว่าอาจจะมาจากเนื้อสัตว์ป่าที่ซื้อขายอยู่ และปัจจุบันเชื้อไวรัสนี้สามารถแพร่กระจายจากคนสู่คนได้แล้ว จากการถูกไอ จาม หรือสัมผัสกับสารคัดหลั่งของคนที่ป่วย ดังนั้น เราควรดูแลตนเองเพื่อให้ร่างกายห่างไกลจากเชื้อไวรัสโคโรน่า โดยมีวิธีการรับมือ ดังนี้
-
เชื้อไวรัสโคโรน่าติดต่อในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เนื้อสัตว์ เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว ควรทานแบบสุกเท่านั้น
-
-
-
-
-
-
-
ถ้ามีอาการไข้ มีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บคอ ปวดหัว อ่อนเพลีย หายใจเหนื่อยหอบ ให้สวมหน้ากากอนามัย และรีบไปพบแพทย์ทันที!!! ปรึกษาแพทย์ คลิก
-