Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Tuberculosis, อ้างอิง
Podpad.(2016).โรควัณโรค.สืบค้น10 กุมภาพันธ์2564…
Tuberculosis
การวินิจฉัยวัณโรค
การตรวจเสมหะ เมื่อการเอกซเรย์ปอดยีนยันผลได้แล้ว แพทย์จะสั่งตรวจเสมหะเพิ่มเติมโดยวิธีการตรวจนี้แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือวิธีตรวจเชื้อด้วยการส่องกล้องจุลทรรศน์ ซึ่งเป็นวิธีการตรวจแบบพื้นฐานที่สามารถระบุเชื้อวัณโรคได้ และสามารถตรวจได้ทั้งในโรงพยาบาลทั่วไป หรือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล อีกวิธีหนึ่งคือวิธีเพาะเชื้อ ซึ่งจะช่วยให้แพทย์สามารถสั่งจ่ายยาที่ให้ผลในการรักษาที่ดีที่สุดได้ โดยการตรวจนี้จะกินเวลาประมาณ 4-8 สัปดาห์ จึงจะสามารถทราบว่ายาชนิดใดดีที่สุดกับผู้ป่วย
การวินิจฉัยด้วยตนเอง - วัณโรคไม่สามารถวินิจฉัยด้วยตัวเองได้หากอยู่ในระยะแฝง จะสามารถสังเกตความผิดปกติได้ก็ต่อเมื่ออยู่ในระยะแสดงอาการแล้วเท่านั้น ซึ่งถ้าหากมีอาการเกิดขึ้นควรรีบไปพบแพทย์
การวินิจฉัยโดยแพทย์ - เมื่อไปพบแพทย์ ในขั้นแรกแพทย์จะตรวจดูลักษณะของต่อมน้ำเหลืองว่ามีอาการบวมหรือไม่ ร่วมกับการใช้อุปกรณ์สเต็ตโทสโคป (Stethoscope) ซึ่งมีลักษณะเป็นหูฟังเพื่อฟังเสียงการทำงานของปอดในขณะที่หายใจ
การตรวจเลือด เป็นการตรวจที่จะช่วยให้แพทย์ทราบว่าผู้ป่วยมีเชื้อวัณโรคในร่างกายหรือไม่ อีกทั้งยังช่วยยืนยันได้อีกว่าเชื้อวัณโรคนั้นอยู่ในระยะแฝงหรือระยะแสดงอาการ
การตรวจหาเชื้อวัณโรคในระยะแฝง (Interferon Gamma Release Assay: IGRA) เป็นวิธีการตรวจหาเชื้อวัณโรคที่อยู่ในระยะแฝง ซึ่งจะช่วยให้แพทย์สามารถระบุได้ว่าผู้ป่วยมีเชื้อวัณโรคภายในร่างกายหรือไม่
การเอกซเรย์ปอด วิธีนี้จะช่วยให้แพทย์ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของปอด หรือสภาพของปอดในขณะนั้นได้ ช่วยบ่งบอกว่าเป็นวัณโรคปอดหรือไม่
การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ และการอัลตราซาวด์ การตรวจด้วยวิธีซีทีสแกน (CT Scan) เอ็มอาร์ไอ (MRI) หรืออัลตราซาวด์จะช่วยให้แพทย์สามารถเห็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นจากการติดเชื้อวัณโรคตามอวัยวะต่าง ๆ ได้
การตรวจด้วยการส่องกล้อง (Endoscopy) การส่องกล้องมักจะใช้กับผู้ป่วยวัณโรคที่มีอาการแสดงที่อวัยวะอื่น ๆ ซึ่งจะช่วยให้เห็นร่องรอยของการติดเชื้อวัณโรคได้
การตรวจตัวอย่างชิ้นเนื้อ (Biopsy) แพทย์จะทำการเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อจากบริเวณที่มีอาการของวัณโรคไปตรวจด้วยวิธีการส่องกล้อง วิธีนี้จะช่วยให้แพทย์วางแผนการรักษาได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
การตรวจน้ำไขสันหลัง (Lumbar Puncture) ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการของวัณโรคที่สมองและระบบประสาท การเจาะน้ำไขสันหลังจะช่วยให้แพทย์ยืนยันผลได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
การรักษาวัณโรคนั้นสามารถรักษาให้หายได้ โดยการรักษาจะมุ่งเน้นไปที่การใช้ยา ซึ่งการรับประทานอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอจะช่วยควบคุมและรักษาโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ทั้งนี้ผู้ป่วยก็ต้องมีการดูแลสุขภาพควบคู่กันไปด้วยดังนี้
หากรู้สึกอยากรับประทานอาหารในปริมาณมาก ๆ ควรแบ่งเป็นมื้อเล็ก ๆ วันละหลาย ๆ ครั้งแทน แทนการรับประทานมื้อใหญ่
-
ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาวิธีออกกำลังกายที่เหมาะสม หรือใช้การเดินเพื่อออกกำลังกายอย่างน้อยครั้งละ 20 นาที หรือแบ่งการออกกำลังกายเป็นครั้งละ 10 นาที 2 ครั้งต่อวัน แล้วค่อย ๆ เพิ่มเวลาขึ้นเท่าที่จะสามารถทำได้ จะช่วยให้สุขภาพดีขึ้น
-
-
หากผู้ป่วยมีการวางแผนว่าจะย้ายที่อยู่ขณะที่ทำการรักษา ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์เพื่อให้แพทย์ช่วยวางแผน ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่ต่อเนื่อง
การรักษาด้วยการใช้ยา แพทย์อาจใช้ผลการตรวจเพาะเชื้อเสมหะของผู้ป่วยเพื่อพิจารณาว่ายาชนิดใดเหมาะกับผู้ป่วยมากที่สุด และรับประทานอย่างน้อย 6 เดือนขึ้นไป โดยยาที่นิยมใช้ในการรักษาวัณโรคได้แก่
-
-
-
-
-
ภาวะแทรกซ้อนของวัณโรค
-
ข้อต่อเสียหาย วัณโรคจะก่อให้เกิดอาการข้อต่ออักเสบได้ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเกิดขึ้นที่บริเวณสะโพกและเข่า
เยื่อหุ้มสมองอักเสบ วัณโรคอาจก่อให้เกิดเนื้อเยื่อที่หุ้มบริเวณสมองเกิดอาการอักเสบ จนทำให้เกิดอาการปวดหัวเรื้อรัง ซึ่งภาวะแทรกซ้อนนี้อาจส่งผลระยะยาวต่อสุขภาพจิตได้
ปัญหาเกี่ยวกับตับและไต ตับและไตมีหน้าที่ในการกรองของเสียออกจากกระแสเลือด แต่สำหรับผู้ป่วยวัณโรค เชื้ออาจส่งผลให้ทั้ง 2 อวัยวะนี้เกิดปัญหาในระยะยาวจนไม่สามารถทำงานได้ตามปกติได้
โรคหัวใจ ในบางกรณีที่เกิดขึ้นได้น้อย วัณโรคจะเข้าไปจู่โจมบริเวณเนื้อเยื่อใกล้ ๆ กับหัวใจจนทำให้เกิดการอักเสบและเกิดการคั่งของของเหลวทำให้การทำงานของหัวใจผิดปกติ ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
อาการของวัณโรค
ระยะแฝง (Latent TB) ในระยะแฝง เมื่อผู้ป่วยได้รับเชื้อแล้วจะไม่มีอาการใด ๆ แสดงให้เห็น เนื่องจากเชื้อไม่ได้รับการกระตุ้น ทว่าเชื้อแบคทีเรียก็ยังคงอยู่ในร่างกาย และสามารถก่อให้เกิดอาการจนเข้าสู่ระยะแสดงอาการได้ ทั้งนี้หากผู้ป่วยมีการตรวจพบเจอเชื้อในช่วงระยะแฝง แพทย์อาจให้เข้ารับการรักษาและควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อ รวมถึงลดความเสี่ยงที่อาการจะเข้าสู่ระยะแสดงอาการ
ระยะแสดงอาการ (Active TB) เป็นระยะที่เชื้อได้รับการกระตุ้นจนเกิดอาการต่าง ๆ โดยอาการในระยะนี้จะปรากฎให้เห็นได้ชัดเจน ดังนี้
-
-
-
-
-
-
-
-
สาเหตุของวัณโรค
เกิดจากการติดเชื้อไมโครแบคทีเรียมทูเบอร์คูโลซิส (Mycobacterium Tuberculosis) ที่สามารถแพร่กระจายได้ทางอากาศโดยผ่านทางการไอ จาม การพูด และการหายใจ
-
การป้องกันวัณโรค
การดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ อีกทั้งยังไม่ควรอยู่ใกล้ผู้ป่วยวัณโรคติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ หรือหากจำเป็นต้องอยู่ใกล้ผู้ป่วย ก็ควรป้องกันตัวเองด้วยการสวมหน้ากากอนามัย นอกจากนี้ วัณโรคยังสามารถป้องกันได้ด้วยการฉีควัคซีนบีซีจี (BCG)
วัณโรค (Tuberculosis) คือโรคติดต่อที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียรุนแรง ซึ่งสามารถติดต่อกันผ่านทางอากาศได้ด้วยการหายใจ การจาม การไอ หรือการอยู่ร่วมกับผู้ป่วยวัณโรคติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ วัณโรคเป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายได้หากผู้ป่วยรับประทานยาอย่างต่อเนื่อง
-
-
-
-
-