Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

วัณโรค (Tuberculosis) ภป-วัณโรคปอด - Coggle Diagram

- - - - การตรวจเสมหะเพื่อดู acid-fast bacilli (AFB) ด้วยการส่องกล้องจุลทรรศน์ การตรวจ AFB ใช้การย้อมสี carbolfuchsin ด้วยวิธี Ziehl-Neelsen
      - การเพาะเชื้อเป็นวิธีตรวจมาตรฐานเพื่อวินิจฉัยวัณโรคซึ่งสามารถช่วยวินิจฉัยวัณโรคได้แม้ว่า มีเชื้อปริมาณน้อย (10-100 ตัวต่อมลD) และย้อมไม่พบเชื้อ AFB อีกทั้งยังสามารถทดสอบความไวของเชื้อวัณโรคต่อยารักษาและวินิจฉัยแยก
      - การตรวจทางอณูชีววิทยาเพื่อหาสารพันธุกรรมของเชื้อวัณโรคในเสมหะ(nucleic acid amplification test) ช่วยวินิจฉัยวัณโรคปอดที่มีความแม่นยําค่อนข้างสูง วิธีการตรวจนี้เรียกว่า Xpert MTB/RIF assay
      - ตรวจพบเสียงหายใจลดลงข้างใดข้างหนึ่ง ร่วมกับเสียง rhonchi ข้างเดียวกันพบในภาวะ endobronchial tuberculosis
      - ข้อแนะนําสําหรับการส่งเสมหะเพาะเชื้อวัณโรคและการทดสอบความไวของเชื้อต่อยาตามคําแนะนําขององ
        
        1.ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดวัณโรคดื้อยา
        ต้องส่งเสมหะเพาะเชื้อทุกราย ได้แก่
        
        ผู้ป่วยที่ยังมีผลย้อมเสมหะพบเชื้อเมื่อสิ้นสุดการรักษาในระยะเข็มขั้น คือ ณ เดินที่ 2 หรือ 3 ของการรักษา
        
        ผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยวัณโรคดื้อยา หรือความชุกของวัณโรคดื้อยาในผู้ป่วยใหม่มากกว่าร้อยละ 3
        
        ผู้ป่วยที่มีประวัติเคยรักษาวัณโรคมาก่อน ได้แก่ มีประวัติขาดการรักษาติดต่อกัน 2 เดือนขึ้นไป (default) และเคยรักษาหายแล้วกลับมาเป็นซ้ํา
        
        ผู้ป่วยติดเชื้อ HIV
        
        ผู้ป่วยที่มีผลการรักษาล้มเหลว (treatment failure)
        
        ผู้ป่วยที่สงสัยการติดเชื้อ NTM
        ต้อส่งเสมหะเพาะเชื้อทุกราย ได้แก่ ผู้ป่วยโรคติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์
    - - การตรวจเม็ดเลือดมักพบความผิดปกติที่ ไม่จําเพาะเจาะจง
      - อาจพบเม็ดเลือดขาวสูงเล็กน้อยและภาวะซีดพบร้อยละ 10 บางครั้งพบเม็ดเลือดขาวต่ํา (leukopenia) หรือเม็ดเลือดสูงคล้ายเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว อาจพบชนิด monocyte และ eosinophil ได้
    - - ความผิดปกติของเกลือแร่อาจพบภาวะโซเดียมต่ําในเลือดพบร้อยละ 11 เป็นผลจากการสร้างฮอร์โมนคล้าย antidiuretic hormone ในปอดที่มีรอยโรค
- - - - ป่วยวัณโรค 10% (Active TB)
        ป่วยใน 2 ปีแรก 5% ป่วยใน 2 ปีหลัง 5%
        
        รับการรักษา
        
        รักษาหาย
        
        ไม่ได้รับการรักษา
        
        ร้อยละ 50% เสียชีวิตภายใน 2 ปี
      - ติดเชื้อแฝง 90% (Latent infection)
        
        การติดเชื้อแฝง ไม่มีอาการป่วย ไม่มีอาการแพร่เชื้อ ไปยังผู้อื่น