Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

พยาธิสภาพหู ตา จมูก คอ, image, image, image, image, image, image, image,…

- - - - ปัจจัยทางด้านสุขภาพ ได้แก่ พันธุกรรม ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
      - การใช้ยาหรือสารพิษ เช่น ยาสเตอรอยด์ ยาขับปัสสาวะ
      - ผู้สูงอายุ
      - การขาดสารอาหารในหญิงตั้งครรภ์ ส่งผลทำให้ทารกเป็นต้อกระจกแต่กำเนิด
      - รังสี หรือไฟฟ้าแรงสูง
      - การกระทบกระเทือนหรือบาดเจ็บบริเวณลูกตาโดยตรง
    - - ต้อกระจกโดยกำเนิด (congenital cataract)
      - ต้อกระจกทุติยภูมิ (secondary cataract)
      - ต้อกระจกในวัยสูงอายุ (senile cataract)
    - - ตามัวลงช้าๆ ตามัวมากขึ้นในที่สว่างที่เป็นเช่นนั้นเนื่องจาก ขณะอยู่ที่สว่างรูม่านตาเล็กลงส่วนอยู่ในที่มืดจะเห็นชัด
      - มองเห็นภาพซ้อน เนื่องจากการหักเหของแสงในแต่ละส่วนของแก้วตาเปลี่ยนไป
      - สายตาสั้นลงเพราะแก้วตาเริ่มขุ่น กำลังหักเหของแสงเปลี่ยนไปจึงมองในระยะใกล้ได้ชัด ขณะเดียวกันมองไกลจะไม่ชัด
      - . รูม่านตาจะเห็นขุ่นขาวเมื่อส่องดูด้วยไฟฉาย
      - direct opthalmoscope บริเวณรูม่านตาจะเห็นเป็นเงาดำตามขนาดและรูปร่างของแก้วตาที่ขุ่น
    - - มีวิธีเดียวเท่านั้น คือ การผ่าตัดเอาแก้วตา ที่ขุ่นออก ซึ่งเรียกว่า ลอกต้อกระจก (lens extraction)
      - Intracapsular cataract extraction (ICCE) การผ่าตัดนำแก้วตาที่ขุ่นพร้อมทั้งเปลือกหุ้มแก้วตาทั้งหมดในเวลาเดียวกันการผ่าตัดชนิดนี้มีผลไม่แน่นอน
      - Extracapsular cataract extraction (ECCE)คือ การผ่าตัดนำแก้วตาที่ขุ่นพร้อมทั้งเปลือกหุ้มแก้วตาด้านหน้า
      - Extracapsular Cataract Extraction with Intraocular Lens (ECCE c IOL) เป็นการผ่าตัดเอาแก้วตาออกเหลือแต่เปลือกหุ้มแก้วตาด้านหลังร่วมกับใส่แก้วตาเทียม
      - Phacoemulsification with Intraocular Lens ( PE c IOL) เป็นการผ่าตัดต้อกระจกโดยใช้คลื่นเสียง
    - - ส่วนที่เป็นแก้วตาเทียม (optical portion) ทำหน้าที่หักเหแสงให้ตกบนจอประสาทตา เพื่อให้เห็นภาพชัดส่วน
      - ขาแก้วตาเทียม ( haptic portion) ทำหน้าที่ยึดหรือพยุงให้แก้วตาเทียมอยู่ในตำแหน่งที่ต้องการ ไม่ให้เคลื่อนที่หรือเลื่อนหลุดไป
    - - การดึงรั้งของแผลเย็บ ( Stress on the suture Line) เมื่อความดันในลูกตาสูงจะทำให้แผลเย็บถูกดึงรั้ง
      - เลือดออกในช่องหน้าม่านตา (Hyphema)
      - ความดันลูกตาสูง (Increase intraocular pressure) IOP เกิดจากการไอ การจาม การอาเจียน การก้มหน้าต่ำกว่าระดับเอว
      - การติดเชื้อ ( Infection) เกิดได้จากหลายสาเหตุตาถูกน้ำ ผู้ป่วยขยี้ตา
      - ท่อทางเดินน้ำตาเกิดการติดเชื้อ เกิดจากการบาดเจ็บ
        ขณะผ่าตัด ในการใส่เลนส์
    - - จัดท่านอนไม่นอนทับบริเวณตาที่ได้รับการผ่าตัด จัดสภาพแวดล้อมลดสิ่งรบกวน แนะนำการทำความสะอาดใบหน้า ไม่ให้น้ำเข้าตาข้างที่ทำผ่าตัด เน้นไม่ให้ผู้ป่วยเปิดตา ใช้นิ้วมือแยงตาหรือขยี้ตา ล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง ทั้งก่อนและหลังให้การพยาบาล การพยาบาลเพื่อป้องกันการเกิดความดันลูกตาสูง แผลเย็บฉีกขาด เลือดออกในช่องหน้าม่านตา ให้ผู้ป่วยไม่นอนทับบริเวณตาที่ได้รับการผ่าตัด หลีกเลี่ยงการไอจามแรงๆ การก้มศีรษะต่ำกว่าระดับเอว การตำหมาก หลีกเลี่ยงการออกแรงมากๆ ในการเบ่งถ่ายอุจจาระ การสั่นหน้ามากๆ ขณะแปรงฟัน
  - - - ต้อหินชนิดทุติยภูมิ เกิดตามหลังโรคตาบางโรคหรือโรคภายนอกลูกตาก็ได้เป็นได้ทั้งมุมเปิดและมุมปิด
      - ต้อหินโดยกำเนิด พบได้ตั้งแต่แรกเกิด จากพันธุกรรม
      - ต้อหินชนิดปฐมภูมิ เกิดจากความผิดปกติของทางเดินน้ำเลี้ยงลูกตา
    - - ความดันภายในลูกตาสูง (ปกติ 10-20 ม.ม.ปรอท) ความดันลูกตาสูงเกิดจาก ความผิดปกติของระบบการ ไหลเวียนของ น้ำเอเควียส
      - มีลานสายตา (visual field ) แคบกว่าปกติ
      - ขั้วประสาทตาถูกกดให้บุ๋ม (cupping of the disc)
    - - ปวดตา ตามัว กระจกตาบวม เห็นเป็นสีรุ้งรอบดวงไฟ ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ความดันลูกตาสูง ลานสายตาแคบลง
    - - การใช้ยาหดรูม่านตา จะส่งผลต่อกล้ามเนื้อหูรูดม่านตาทำให้รูม่านตาหดเล็กลง ทำให้มุมม่านตาเปิดกว้าง
      - การพยาบาล
        
        ในผู้ป่วยต้อหินจะให้ยาขยายม่านตา และสังเกตการขยายตัวของรูม่านตาถ้าไม่ขยาย
        
        ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับยาลดความดันลูกตาเพื่อป้องกันการเลื่อนไหลของวุ้นตาออกมาซึ่งทำให้เกิดการลอกหลุดของจอประสาทตาได้
        
        เลี่ยงการเงยหน้าก้มหน้า
        
        หลังผ่าตัดแนะนำผู้ป่วยไม่ควรตะแตงทับข้างที่ผ่าตัด เพื่อป้องกันไม่ให้ความดันลูกตาข้างนั้นสูงขึ้น ให้ผู้ป่วยนอนบนเตียง 6-24 ชม.
      - การทำผ่าตัด
        
        การตัด Trabecular meshwork ร่วมกับตาขาวครึ่งหนึ่งเหมาะสำหรับต้อหินชนิดมุมเปิด
        
        Peripheral iridectomy ( PI ) การตัดม่านตาบริเวณฐานให้เป็นรู
        
        Cyclotherapy การผ่าตัดทำลาย cilliary body ใช้ในผู้ที่มีต้อหินและรักษาโดยทางยา
        
        Goniotomy การใช้เครื่องมือกรีดที่มุมของช่องหน้าม่านตาเพื่อให้เนื้อเยื่อที่หนาตัวผิดปกติ
        
        lazer trabeculoplasty การใช้แสงเลเซอร์ ที่นิยมใช้คือ Argon lazer trabeculoplasty (ALT)
      - . Hyperosmotic agents ทำให้ osmotic pressure ในเลือดสูงขึ้นทำให้ดึงน้ำออกจากเซลล์มานอกเซลล์และขับน้ำออกทางไต
  - - - การเสื่อมของจอประสาทตาหรือน้ำวุ้นตา มักพบในผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีสายตาสั้นมากๆ
      - หลังผ่าตัดต้อกระจก
      - อุบัติเหตุถึงชั้นของจอประสาทตา
      - การอักเสบของคอรอยด์ (choroids) และจอประสาทตา (retina)
    - - มองเห็นจุดดำๆหรือหยากไย่ลอยไปมา (floater) ร่วมกับเลือดออกที่วุ้นตา ถ้ามีการดึงรั้งทำให้มองเห็นแสงวูบวาบในตาคล้ายฟ้าแลบ
    - - ควรให้ผู้ป่วยนอนนิ่งๆ ปิดตาทั้งสองข้าง
      - ในรายที่มีการฉีกขาดหรือลอกหลุดของจอประสาทตามากๆ จะรักษาโดยการผ่าตัด เพื่อให้จอประสาทตาเข้าที่
      - photocoagulation, cryotherapy or retinal cryopexy ,Pneumatic retinopexy เป็นการทำ cryotherapy , Buckling operation ,Vitrectomy
    - - ดูแลให้ absolute bed rest, แนะนำให้งดปัจจัยที่ทำให้จอประสาทตาลอก ได้แก่ การไอ จาม หรืออาเจียนแรงๆ การขยี้ตา ,ได้รับการปิดตาทั้งสองข้าง ,จัดท่าให้นอนคว่ำหรือศีรษะต่ำๆ ,ประเมินภาวะความดันลูกตาสูงได้แก่ การวัดความดันลูกตา อาการ ความรุนแรงของการปวดตา
      - การพยาบาลเพื่อให้ผู้ป่วยมีความรู้เกี่ยวกับการดูแลตนเองที่บ้าน ให้สังเกตอาการที่บ่งบอกถึงจอประสาทตาลอก ได้แก่ การมองเห็นจุดลอยไปมา เห็นแสงคล้ายฟ้าแลบในตา ควรมาพบแพทย์ก่อนวันนัด
  - - - สาเหตุ เกิดจากต่อมไขมันที่โคนตามีการอุดตันและเกิดการติดเชื้อแบคทีเรีย
      - อาการ ปวดที่เปลือกตา ปวดตุบๆบริเวณที่เป็น เป็นตุ่มแข็งแตะถูกเจ็บ บางครั้งมีหนองนูนเป่งหัวขาวๆ เหลืองๆ รอบๆนูนแดงและกดเจ็บ
      - การรักษา
        
        เมื่อเริ่มขึ้นใหม่ๆ ประคบด้วยน้ำอุ่นจัดๆ
        
        ให้ใช้ยาหยอดตาหรือป้ายตาที่ผสมยาปฏิชีวนะถ้าหนังตาบวมแดงหรือมีต่อมน้ำเหลืองหน้าหูโตร่วมด้วย ให้กินยาปฏิชีวนะ
        
        ถ้าเป็นหัวหนอง ควรสะกิดหรือผ่าเอาหนองออก แล้วให้กินยาปฏิชีวนะ
    - - เยื่อยุตาอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย
        
        สาเหตุ เชื้อ Strep.epidermidis, Staph.aureus
        
        อาการ ตาแดง หนังตาบวม มีขี้ตามากเป็นสีเหลืองหรือเขียว ไม่ปวดหรือเคืองตา
        
        การรักษา ใช้ยาป้ายตาหรือหยอดตา ยาปฏิชีวนะ เช่น Terramycin eye ointment, Poly-oph eyedrop. ถ้าหนังตาบวมมากให้กินยา Cloxacillin หรือ Erythromycin
      - Allergic Conjunctivitis
        
        สาเหตุ จากการแพ้ เช่น ฝุ่น ควัน เกสรดอกไม้ อากาศ เครื่องสำอาง โรคภูมิแพ้
        
        อาการ คันตามาก ตาบวม น้ำตาไหล มักไม่มีขี้ตา ตาแดงเล็กน้อย
        
        การรักษา
        
        ให้ antihistamine เช่น Hista-oph eye drop , Alomide eyedrop
        
        ถ้าเป็นมากให้ยาแก้แพ้ เช่น CPM หลีกเลี่ยงสิ่งที่แพ้
        
        ถ้าคันตามากให้ประคบด้วยน้ำแข็ง
      - Viral Conjunctivitis
        
        สาเหตุ ติดเชื้อไวรัส เช่น adenovirus
        
        อาการ ตาแดง เคืองตา หนังตาบวมเล็กน้อย มีขี้ตาเล็กน้อย
        ต่อมน้ำเหลืองหน้าหูโตอาจมีไข้ร่วมด้วย
        
        การรักษา ใช้ยาป้ายตาหรือหยอดตา ยาปฏิชีวนะ
- - - - สำหรับสิ่งมีชีวิต
        เห็บ มด จะกัดแน่น ใช้แอลกอฮอล์ 70% หยอดลงไปฆ่า แล้วค่อยล้าง หรือคีบออก แมลงปีก แมลงสาป ใช้น้ำหยอดเข้าในรูหูจนเต็ม มันจะออกมาเอง ถ้าไม่ออกให้ใช้วิธีเดียวกันกับ มด และเห็บ
      - สิ่งไม่มีชีวิต
        น้ำ ให้ใส่น้ำเพิ่มจนเต็มหู กดติ่งหน้าหู ให้น้ำรวมกันแล้วตะแคงออก
        วัตถุก้อนกลม เล็กๆ ให้ล้างออก
        วัตถุเป็นแผ่นเล็กๆ ชิ้นบาง ให้คีบออก
  - - - เจ็บในหู เมื่อขากรรไกรเคลื่อนไหว หรือ กดหน้าหูจะเจ็บมาก มีไข้ อ่อนเพลีย ต่อน้ำเหลืองหลังหูโต กดเจ็บ ช่องหูบวมแดง
    - - ดูดเอาหนองออก
      - หยอดยาปฏิชีวนะ ผสม ไฮโดรคอร์ติโซน วันละ 4 ครั้ง
      - กรณีที่มีการอักเสบเฉียบพลัน ต้องกินยาปฏิชีวนะ เช่น erythromycin หรือ pennicillin นาน 7-10 วัน
      - ถ้ามีหนองไหล บวมมาก อาจต้องได้ยาป้าย เป็น antibiotic ointment
- - - - หลังใส่ nasal packing แล้ว ถ้าใส่ทั้ง 2 ข้างผู้ป่วยจะต้องหายใจทางปาก และปากจะแห้ง
      - แปรงฟันได้ หากมีแผลในปากกลั้วคอด้วยน้ำยาบ่อยๆ หลีกเลี่ยงน้ำยาที่มีแอลกอฮอล์
      - ห้ามผู้ป่วยดึงก๊อซออก เอง packing จะถูกนำออก หลังจากใส่ไว้ 48-72 ชั่วโมง
      - หลังนำ packing ออก ให้นอนนิ่งๆ 2-3 ชม. ห้ามสั่งน้ำมูกแรงๆ งดแคะจมูก 1 สัปดาห์
  - - - 1.รักษา acute sinusitis ไม่ได้ผล หรือไม่ได้รับการรักษา หรือเป็นซ้ำๆ ทำให้เซลล์ของเยื่อบุไซนัส ไม่สามารถขจัดเอาน้ำและน้ำออกไปได้
      - ฟันกรามบนผุ รากฟันกรามบนอักเสบ เหงือกอักเสบ เชื้อโรคกระจายเข้าสู่ maxillary sinus
      - เชื้อสาเหตุ เป็นกลุ่ม anaerobic หลายๆชนิด และจากเชื้อรา
    - - มีน้ำมูกข้น มูกปนหนอง สีเหลือง หรือสีเขียว กลิ่นเหม็น เป็นลักษณะสำคัญของการติดเชื้อ กลุ่ม anaerobe
      - ปวดน้อยกว่า acute sinusitis ปวดตื้อๆ
      - การได้กลิ่นลดลง
      - x-ray sinus พบว่าทึบ เพราะอาจมีหนองหรือน้ำขัง
    - - หลังผ่าตัดหน้าจะบวม ขอบตาช้ำ เพราะได้รับการกระทบกระเทือนจาการผ่าตัด
      - ดูแลให้นอนศีรษะสูง
      - 3.ประคบเย็น เพื่อบรรเทาอาการปวด และลดบวม
      - บริเวณฟันและเหงือกจะชาไปหลายเดือน เพราะเส้นประสาทถูกตัดขาด
      - ระวังการกระทบกระเทือนแผลในปาก
- - - - Ebstein-Barr Virus (EBV)
      - การสูบบุหรี่ การดื่มสุรา
      - การรับประทานปลาเค็ม
      - การอักเสบของจมูกและไซนัส
    - - อาการเปลี่ยนแปลง เช่น เป็นหวัด คัดจมูกเรื้อรัง หรือภูมิแพ้เรื้อรังรักษาไม่หาย เป็นมากขึ้นเรื่อยๆ มีเลือดกำเดาไหล ตามัว มองเห็นภาพซ้อน ปวดตา หูอื้อ ต่อมน้ำเหลืองข้างคอโต
    - - รังสีรักษา ได้ผลดีในระยะ ที่ 1-2
      - รังสีรักษา ร่วมกับเคมีบำบัด ระยะที่ 3 -4 ทำคู่กันไป หรืออย่างใดอย่างหนึ่งก่อนหลัง
      - การผ่าตัด ทำเฉพาะในรายที่ต่อมน้ำเหลืองที่คอโต จากนั้นร่วมกับการฉายรังสี
      - เลเซอร์ Photo-dynamic therapy (PDT)
  - - - สาเหตุ : ร่างกายได้รับสารรบกวน ที่รบกวนต่อเยื่อบุกล่องเสียงเป็นเวลานาน เช่น
      - การสูบบุหรี่จัด
      - การดื่มสุรา
    - - ระยะแรกเสียงไม่แหบ ต่อมามีเสียงแหบ และจะเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ
      - เจ็บร้อนในคอ ลักษณะเหมือนก้างติดคอ
      - ไอ เนื่องจากสำลักน้ำลาย และมีน้ำลายมาก เพราะกลืนไม่ลง บางรายไอเป็นเลือด แสดงถึงการมีแผลเกิดขึ้น
      - กลืนลำบาก เจ็บเวลากลืน
      - น้ำหนักลด
- - - - เจ็บคอ ไข้สูง อาจถึง 40.5 °C หนาวสั่น เบื่ออาหาร ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย เจ็บคอมากเมื่อกลืนอาหาร
    - - ให้พักผ่อนอย่างเพียงพอ
      - ดื่มน้ำ อย่างน้อย 2,500 cc./day
      - รักษาความสะอาดช่องปากและฟัน กลั้วคอด้วยน้ำเกลืออุ่นๆ หรือน้ำยาบ้วนปาก
      - ถ้าเจ็บมาก ให้ยาอมที่มียาชา หรือวางกระเป๋าน้ำแข็งที่คอ
      - ดูแลเรื่องยาบรรเทาปวด การลดไข้ และความไม่สุขสบาย
      - 5.ให้รับประทานอาหารอ่อนหรืออาหารเหลว
  - - - ดูแลให้ได้รับยาปฏิชีวนะ กลุ่ม penicillin นาน 7 วัน เพื่อรักษาอาการอักเสบ
      - ทำความสะอาดช่องปาก
      - ถ้าเป็นบ่อย แนะนำให้ทำผ่าตัด Tonsillectomy