Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
เมลิออยโดสิส (Melioidosis) - Coggle Diagram
เมลิออยโดสิส (Melioidosis)
สาเหตุ
เป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรียที่มีสาเหตุจาก Burkholderia (Pseudomonas ) pseudomallei ซึ่งพบได้ในคน และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายชนิด
แพะ
แกะ
หมู
โค
กระบือ
อาการและการแสดง
ปอดติดเชื้อเฉียบพลัน (acute pneumonia) เช่นไข้ ไอมีเสมหะ เจ็บหน้าอก การติดเชื้อ
ในปอดพบได้ประมาณ 50%
ไข้สูง มีอาการ sepsis, severe sepsis หรื septic shock จากการติดเชื้อในกระแสเลือด(bacteremia)
ติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ (urinary tract infection) เช่น ไข้ และอาจมีปัสสาวะแสบขัด การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะพบได้ประมาณ 25%
ติดเชื้อในข้อ (acute septic arthritis) เช่น ไข้ มี
ข้อบวม แดง ร้อน การติดเชื้อในข้อพบได้ประมาณ10% ของผู้ป่วยโรคเมลออยด์ทั้งหมด
ฝี(abscess) ซึ่งพบได้บ่อยในตับ ต่อมน้ำเหลือง ตามผิวหนัง และอาจพบไคในทุกอวัยวะในร่างกายเช่น ฝีในสมอง ฝีในตา ฝีในช่องคอชั้นลึก ฝีในปอด
ต่อมน้ำลายพาโรติดอักเสบเป็นฝี (acute suppurative parotitis)
พบได้ประมาณ 33%ของผู้ป่วยโรคเมลออยด์ในเด็ก
ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการรุนแรงและเฉียบพลัน (ร้อยละ 90%) แต่ผู้ป่วยบางรายก็อาจมีอาการเรื้อรังและให้อาการคล้ายโรคอื่นๆ ได้ เช่น ไอเรื้อรังคล้ายวัณโรค แผลเรื้อรังคล้าย
มะเร็งผิวหนัง
ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวเช่น เบาหวาน ทาลัสซี
เมีย และโรคไต มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเมลิออยโดสิสง่ายกว่าคนปกติ
การรักษา
การรักษาภาวะฉุกเฉิน (acute treatment)
ให้ยา ceftazidime
imipenem หรือ meropenem
แรกรับควรได้รับยาปฏิชั่วนแบบครอบคลุม (empirical treatment) ที่มีมียาceftazidime รวมอยู่ด้วยเช่น cloxacillin(1 gram iv stat and then every 6 hours) + ceftazidime (2 gram ivstat and then every 8 hours)
การรักษาในภาวะฉุกเฉินสำหรับโรคเมลออยด์คือ cefazidime 50mg/kg/dose (up to 2 gram) iv every 6-8 hours หรือ meropenem 25 mg/kg/dose (up to 1 gram) ivevery 8 hoursขนาดยาควรปรับตามค่าการทำงานของไต
การรักษาเพื่อป้องกันการกลับเป็นซ้ำ
(oraleradicative treatment)
การรักษาภาวะฉุกเฉินจนสามารถหยุดยฉีดได้แล้วนั้นต้องรับประทานยาฆ่าเชื้อต่อเนื่องเป็นเวลาอย่างน้อย 12-20 สัปดาห์เพื่อฆ่าเชื้อที่ยังคงเหลืออยู่ใต้วผู้ป่วยให้หมดและป้องกันการกลับเป็นซ้ำของโรค
การวินิจฉัย
การตรวจหาเชื้อด้วยวิธีพืชื่อาร์ (PCR)
ควรได้รับการเพาะเชื้อจากเลือด ปัสสาวะ เสมหะ (ถ้ามี) และสิ่งส่งตรวจอื่นๆ เช่น หนองตามที่ต่างๆ (ถ้ามี)
การวินิจฉัยด้วยการตรวจทางภูมิคุ้มกัน (Serology) เช่น IHA และ IFA มีความไวต่ำ (มักให้ผลลบลวงในผู้ป่วยที่เป็นโรคมลออยด์) ความจ าเพาะต่ำ (มักให้ผลบวกลวงในผู้ป่วยที่ไม่ได้เป็นโรคเมลออยด)
การพยาบาล
การดูแลตามอาการโดยเน้นเรื่องไข้ ฝีหนอง และ
การหายใจถ้ามีอาการทางปอด
พยาธิสภาพ
กลไกการเกิดโรคเมลิออยโคสิสส่วนใหญ่เกิดจากการที่ร่งกายได้รับเชื่อเข้ามาใหม่ส่วนน้อยเป็นผลจากการกำเริบของการติดเชื้อที่มีอยู่เดิมหลังจากมีการติดเชื้อเกิดขึ้นแล้วผู้ป่วยจะเป็นโรคหรือไม่ขึ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายและจำนวนเชื้อที่ได้รับเข้าไปเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิด neutrophils จะทำหน้ที่ในการควบคุมเชื้อในระยะแรกเนื่องจากโรคที่เป็นปัจจัยเอื้อต่อการเกิดโรคเมลออยโคสิสเป็นโรคที่ทำให้หน้ที่ของเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิด neutophls เสียไป
การป้องกัน
ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน และผู้ที่มีบาดแผลควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสดินหรือแหล่งนํ้า เช่น ในนาข้าว ซึ่งเป็นแหล่งที่มีโรคชุกชุม
ในแหล่งที่มีโรคชุกชุม ควรให้ความรู้แก่ประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง หรือมีบาดแผล รอยขีดข่วน ในการป้องกันไม่ให้สัมผัสดินและแหล่งนํ้าโดยตรง เช่น สวมรองเท้าบู๊ท หรือหากจำเป็นต้องรีบทำความสะอาดหลังเสร็จงานทันที