Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 11 การพยาบาลผู้ป่วยที่มีพยาธิสภาพระบบกระดูกและกล้ามเนื้อในระยะเฉียบพ…
บทที่ 11 การพยาบาลผู้ป่วยที่มีพยาธิสภาพระบบกระดูกและกล้ามเนื้อในระยะเฉียบพลันและเรื้อรัง (ต่อ)
การพยาบาลผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาโดยการตัดแขนและตัดขา Amputation)
Amputation หมายถึง
การตักส่วนใดส่วนหนึ่งของแขนขา (ออกไปจากร่างกายโดยจะต้องตัดให้ตอแขนหรือตอขาที่เหลือในสภาพที่เหมาะสมแก่การใช้แขนขาเทียมได้ดี
ข้อบ่งชี้ในการทำผ่าตัด Amputation
ในการได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บที่รุนแรงมาก ๆ มีการฉีกขาดของหลอดเลือดและอาจเป็นอันตรายต่อชีวิต TRAUMA (severe tissue damage) traumatic amputation 2. การติดเชื้อ 3. เนื้องอกหรือมะเร็งกระดูก 4. ความพิการ แต่กำเนิด 5. เส้นประสาทได้รับอันตรายทำให้เป็นอัมพาตแขนขา 6.Vascular disease ทำให้เกิดเนื้อตายของอวัยวะ
ชนิดของการตัดแขนขา GClosed amputation
เป็นการตัดอวัยวะส่วนนั้นแลวเย็บปคปลายกระดูกด้วยกล้ามเนื้อและผิวหนังทันทีแล้วใส่ท่อระบายซึ่งใช้ penrose drain หรือ redivac drain เพื่อระบายให้เลือดและน้ำเหลืองซึมออกจากแผลได้ LOpen amputation เป็นการตัดแนวเดียวกันทั้งผิวหนังกล้ามเนื้อและกระดูกทำในผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อและการติดเชื้อนั้นไม่สามารถควบคุมได้
ระดับของการตัดแขน
1. การตัดนิ้วมือ: Ray amputation 2. การตัดระดับข้อมือ: Wrist dlsarticulation 3. การตัดระดับข้อศอก: Elbow dlsartlculation 4. การตัดต่ำกว่าข้อศอก: Below elbow amputation: B.E. 5. การตัดเหนือข้อศอก: Above elbow amputation: A.E. 6. การตัดระดับไหล่: Shoulder dlsartlculatlon resale 4, true การตัดระดับนิ้วเท้า: Toe dlsarticulation 2. การตัดระดับข้อเท้า: Syme's amputation 3. การตัดใต้เข่า: B-K Below knee amputation 4. การตัดระดับเข่า: Knee dlsartlculation 5. การตัดเหนือเข่า: A-KAbove knee amputation 6. การตัดผ่านข้อสะโพก: Hip disartlculation
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล amputation 1. เสี่ยงต่อภาวะตกเลือคจากการผ่าตัดแขนชา•
ประเมินอาการและอาการแสดงของการตกเลือด 0 •ดูแลการทำงานของขวคระบายการสังเกตการไหลเวียนบริเวณแผลผ่าตัดดูแลพันผ้ายืดและยกขาดูแลให้ได้รับสารน้ำทางหลอดเลือดดำดูแลบันทึกสารน้ำเข้าและออก Urine output ดูแลการให้เลือกตามแผนการรักษา.
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล amputation 2. มีอาการปวดบวมบริเวณแผลหลังผ่าตัด
"การประเมินความปวดต้องแยกให้ออกว่าปวดแผลผ่าตัดที่เย็บหรือ Neuroma ปวดจาก Phantom pain" ลักษณะปวดแปลับคล้ายเข็มแทงบีบรัดปวดแสบปวดร้อนไม่แน่นอน "บางรายมี Phantom sensation หรือความรู้สึกหลอนว่าอวัยวะหดเข้ามาหา Stump รู้สึกชารู้สึกแขนขาที่ตัดไปเคลื่อนไหวหรือแกว่งลอยดูแลให้พักตอขาในช่วง 24-48 ชมแรกยกตอขาสูงหรือวางไว้บนหมอน
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล amputation 3 มีการติดเชื้อแผลผ่าตัดในระยะหลัง 48 ชั่วโมงไ
ปแล้วอาจมีการติดเชื้อที่แผล" ดูแลประเมินบริเวณแผลผ่าตัดโดยเฉพาะในรายที่ผ่าตัด Opened stump "ท่าแผลผ่าตัดด้วยหลัก Aseptic technique" ควรประเมินสัญญาณชีพโดยเฉพาะอุณหภูมิในร่างกาย
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล amputation 4. เสี่ยงต่อการเกิดอุปสรรคในการใส่อวัยวะเทียม
จากการพิครูปของตอา (STUMP) บผู้ป่วย A.K. amputation ให้นอนคว่ำหมุนชาเข้าข้างในไม่วางหมอนระหว่างชา D ผู้ป่วย B.K. amputation หลีกเลี่ยงการอยู่ในท่างอตอซาห้ามหนุนหมอน D แนะนำท่าต่างๆที่ควรหลีกเลี่ยง D ดูแลพันผ้าที่ตอแขนขาให้ได้รูปลดอาการบวมพันอวัยวะได้รูปโคนใหญ่ปลายเล็กระวังการเกิด Flexion Contracture
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล amputation 5. อาจเกิดความวิตกกังวลกับสภาพความเจ็บป่วย
และปรับตัว•สร้างสัมพันธภาพกับผู้ป่วยเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยระบายความรู้สึกตลอดจนปัญหาและความต้องการ "พยาบาลปลอบโยนและให้กำลังใจแก่ผู้ป่วยดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดแนะนำเกี่ยวกับเทคนิคผ่อนคลายความวิตกกังวล•ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลตอแขนขาเพื่อให้ผู้ป่วยสามารถสวมแขนขาเทียมได้เร็วที่สุด
ปัญหาทางการพยาบาล amputation Phantom limb sensation
Phantom limb sensation
คิดว่าอวัยวะที่ถูกตัดนั้นคงอยู่ 70-84% นาน 6 เดือน 90%-อวัยวะที่ขาดหายไปหรือถูกตัดไปนั้นติดอยู่และเคลื่อนไหว "คิดว่ามันสั้นลงกว่าปกติอยู่ในท่าทางที่ผิดรูปและเจ็บปวด
มีผู้ตั้งทฤษฎีไว้ 3 กลุ่มคือ
. Peripheral theory ทฤษฎีเหตุประสาทส่วนปลายการไม่พึงพอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น 2.Central theory ทฤษฎีเชื่อมโยงระบบประสาทส่วนกลางของสมองและไขสันหลังการจดจำของระบบประสาทก่อนการถูกตัด 3.Psychogenlc Theory ทฤษฎีทางจิตความรู้สึกที่พยายามต่อสู้กับความจริงที่จะรักษาภาพลักษณ์จึงปฏิเสธการสูญเสีย
อาการเจ็บปวดในส่วนของแขนขาที่ถูกตัด
ไปโดยหาสาเหตุไม่ได้ลักษณะเป็นตะคริว (cramplng) บีบรัด (crushing) ปวดแสบปวดร้อน (burning) ปวดคล้ายเข็มแทง (shooting pain) อาจปวดตลอดเวลาหรือเป็นระยะ ๆ หรือเฉพาะเมื่อไปกระตุ้นถูกจุด (trigger
ภาวะแทรกซ้อนภายหลังการตัดแขนขา
1. Reactionary hemorrhage 2. Secondary haemorrhage 3. Infection 4. Blood clot 5. Tissue necrosis 6. Flexion deformity or Contracture 7. Neuroma 8. Phantom pain and Phantom limb sensation
การบริหารตอขา
การออกกำลังแขนและการกำมือเพื่อเตรียมกล้ามเนื้อสำหรับใช้เครื่องช่วยเดินการออกกำลังกายสำหรับผู้ป่วยที่ถูกตัดขาระดับเหนือเข่า (AK)
การผ่าตัดกระดูกสันหลัง
-การผ่าตัดเชื่อมกระดูกและใส่โลหะยึดตรึงกระดูกสันหลัง (Spinal Fusion with Instrumentation)-การผ่าตัดหมอนรองกระดูกสันหลัง (Lumbar discectomy) เป็นการผ่าตัดเพื่อลดการกดทับรากประสาทจากหมอนรองกระดูกสันหลังที่แตกออกมาเพื่อฟื้นฟูการทำงานของรากประสาทกลับคืนสู่สภาพให้เร็วที่สุด * การผ่าตัดหมอนรองกระดูกคอทับเส้นประสาทโดยการผ่าตัดจากทางด้านหน้าและเชื่อมข้อ (Anterior Cervical Discectomy And Fusion; ACDF)
ข้อเคลื่อน
ข้อเคลื่อนหมายถึง
การหลุคของข้อออกจากแนวปกติทำให้กลายเป็นข้อที่ไม่มั่นคงดังนั้นข้อเคลื่อนจึงเป็นภาวะที่ปลายกระดูกหรือหัวกระดูกสองอันที่มาชนกันประกอบกันขึ้นเป็นข้อเคลื่อนออกจากตำแหน่งที่เคยอยู่ทำให้เยื่อหุ้มข้อนั้นมีการฉีกขาดหรือมีการยึดของเอ็นกล้ามเนื้อเส้นเลือดเนื้อเยื่อและเส้นประสาทบริเวณนั้นมีการฉีกขาดหรือชอกช้ำไปข้อเคลื่อน
อาการข้อเคลื่อนที่พบได้บ่อย>
บวม, ปวด, กดเจ็บบริเวณข้อ»ข้อมีรูปร่างผิดปกติไปจากเดิมสีของบริเวณข้อที่ได้รับบาดเจ็บเปลี่ยนไปจากเดิม»การเคลื่อนไหวข้อทำไม่ได้หรือทำได้น้อยมากผู้ป่วยไม่สามารถเคลื่อนไหวข้อได้ตามปกติมีการหดสั้นของอวัยวะเช่นแขนหรือขา> อาจคลำพบปลายหรือหัวกระดูกที่เคลื่อนออกมาการที่ข้อเคลื่อนอาจมีอันตรายต่อเส้นประสาทและหลอดเลือดใกล้เคียง
การพยาบาลเมื่อมีข้อเคลื่อน
-อย่าพยายามดึงเข้าที่เองเพราะอาจเกิดอันตรายถึงกระดูกหักได้หรือบางรายอาจมีกระดูกหักชิ้นเล็ก ๆ -สิ่งแรกที่ควรทำคือให้ข้อนั้นอยู่นิ่ง ๆ ในท่าที่เป็นอยู่อาจจะใช้มืออีกข้างช่วยประคองในกรณีที่เป็นไหล่หรือข้อศอก-ประคบด้วยน้ำแข็งเพื่อให้เลือดออกน้อยที่สุดรีบมาพบแพทย์ให้จัดการรักษาโดยทันที
แนวทางการจัดการสำหรับผู้ป่วยกระดูกหักและข้อเคลื่อน
1. ในระยะ 24-48 ชั่วโมงแรกโดยอาศัยหลัก“ RICE R ใช้แทนคำว่า Rest I ใช้แทนคำว่า Ice C ใช้แทนคำว่า salon E ใช้แทนคำว่า Elevation> การพัก (Rest) งดการใช้งานส่วนของร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บทันทีโดยเฉพาะในช่วง 6 ชั่วโมงแรกของการบาดเจ็บ> การใช้ความเย็น (Ice) โดยการประคบเย็นซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อลดการมีเลือดออกบริเวณเนื้อเยื่อลดบวมและอาการปวคได้การพ้นผ้ายืด (Compression bandage) เพื่อกคไม่ให้มีเลือดออกในเนื้อเยื่อมากมักใช้ร่วมกับการประคบเย็น> การยก (Elevation) ส่วนของร่างกายที่ได้รับการบาดเจ็บให้สูงกว่าระดับหัวใจเพื่อให้เลือดไหลกลับสู่หัวใจได้สะดวกควรยกสูงไว้ประมาณ 24-48 ชั่วโมง
แนวทางการจัดการสำหรับผู้ป่วยกระดูกหักและข้อเคลื่อน
-ความร้อน (Hot application) การประคบน้ำอุ่น-การบริหารบริเวณที่บาดเจ็บและบริเวณข้างเคียง (Exercise)-เพิ่มการบริหารกล้ามเนื้อมากขึ้น (Advance exercise)-การฝึกกล้ามเนื้อหรือฝึกใช้อุปกรณ์ช่วยเหลือ (Training)
ภาวะแทรกซ้อนกระดูกหักและข้อเคลื่อนใ
นระบบประสาท-การบาดเจ็บที่ประสาทส่วนกลาง-การบาดเจ็บของเส้นประสาทส่วนใหญ่มักเป็น Neurapraxia 2. ระบบการไหลเวียนเลือด-ช็อก (shock) -Compartment Syndrome 3. ระบบหายใจ-ภาวะแทรกซ้อนในระบบหายใจที่เป็นผลมาจากกระดูกหักโดยตรงคือ Pulmonary embolism ซึ่งอาจเกิดจาก Fat embolism หรือจาก Thromboembolism
ภาวะแทรกซ้อนกระดูกหักและข้อ
เคลื่อน 4. การติดเชื้อ (Infection) 5. กระดูกติดเชื้อ (Osteomyelitis) 6.Gas gangrene 7. กระดูกติคผิดรูป (Mal unlon) 8. กระดูกติดช้าและกระดูกไม่ติด (delay Union and non-Union) 9. กระดูกเจริญเติบโตผิดรูป (deformity with growth) 10. ข้อเสื่อม (Post tramatic arthritis) 11. ห้วกระดูกตายจากการขาดเลือดไปเลี้ยง (Osteonecrosls 12. ข้อติด (Jolnt stiffness) 13. ภาวะเหล็กหัก (Implant fallure) 14.Reflex sympathetic Dystrophy 15 ภาวะกดทับจากผือก-Cast sore-Cast Syndrome
การผ่าตัดเปลี่ยนข้อ (joint replacement)
Hip arthroplasty การผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมแบบทั้งหมด (total hip replacement, THR หรือ total hip arthroplasty. THA)
เป็นการผ่าตัดเปลี่ยนทั้งส่วนหัวของกระดูกต้นขา (femur) และเบ้าสะโพก (acetabulum) โคยเอาส่วนของกระดูกที่ตายหรือเสื่อมออกแล้วแทนที่ด้วยข้อเทียมเป็นชุด (Prosthesis) ที่ประกอบด้วยเบ้าเทียมหัวกระดูกต้นขาเทียมโดยหัวกระดูกต้นขาเทียมจะมีลักษณะคล้ายลูกบอลและส่วนก้านที่จะนำไปยึดกับโพรงกระดูกต้นขา
Hip arthroplasty-การผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมเพียงบางส่วน (hemlanthroplasty of the hip)
เป็นการผ่าตัดเอาเฉพาะส่วนหัวของกระดูกต้นขาออกโดยไม่เปลี่ยนเบ้าสะโพกแล้วใส่ข้อเทียมเฉพาะส่วนที่เป็นหัวกระดูกและส่วนก้านเท่านั้นการเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมแบบนี้มักทำในกรณีที่หัวสะโพกผิดรูปโดยเบ้าสะโพกปกติหรือใกล้เคียงปกติและผู้ป่วยต้องรักษาเบ้าสะโพกเดิมไว้
ข้อบ่งชี้ Hip arthroplasty
โรคข้ออักเสบเรื้อรังข้ออักเสบรูมาตอยด์-หัวกระดูกต้นขาตายจากการขาคเลือดไปเลี้ยง-เกิดการเสื่อมของกระดูกอ่อนผิวข้อที่อยู่ระหว่างกระดูกต้นขาและเข้า-จากการใช้งานมากในชีวิตประจำวัน-ผู้ป่วยข้อสะโพกหัก (Fracture) ผู้สูงอายุที่มีการหักเคลื่อนของคอกระดูกสะโพก
อาการข้อสะโพกมีปัญหา-
ปวดข้อสะโพกเมื่อมีการเคลื่อนไหวอาจเดินไม่ได้หรือเดินกะเผลก»กดเจ็บบริเวณข้อสะโพก»มีการลีบของกล้ามเนื้อรอบ ๆ สะโพกและกล้ามเนื้อรอบ ๆ โคนขาบางรายขาจะสั้นจากการหครั้งของกล้ามเนื้อ»ปวดมากแม้อยู่ในขณะพัก
ภาวะแทรกซ้อนที่อาจพบในการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียม
ภาวะแทรกซ้อนที่อาจพบในการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียม 1. ช่วงขณะท่าผ่าตัด (Intraoperative complications) การแตกหักของกระดูกต้นขาหรือกระดูกเบ้า-การบาดเจ็บของหลอดเลือดและเส้นประสาทโดยเส้นประสาทที่มีโอกาสได้รับบาดเจ็บมากที่สุดในการผ่าตัดเข้าทาง posterolateral คือเส้นประสาท Sciatic 2. ช่วงภายหลังการผ่าตัด (postoperative compllcations) 2.1 การเคลื่อนหลุดของข้อสะโพกเทียมมักพบได้บ่อยในช่วง 3 เดือนแรกภายหลังผ่าตัดการใช้งานข้อสะโพกผิดท่าลื่นล้มหรือเกิดอุบัติเหตุทาให้เกิดการเคลื่อนหลุดของข้อสะโพกเทียมซึ่งที่พบได้บ่อยคือการเคลื่อนหลุดไปทางด้านหลัง 2.2 การติดเชื้อของข้อสะโพกเทียมเป็นภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง 2.3 การเกิดลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือคค่าที่ขา 2.4 การสึกหรอและหลวมของข้อสะโพกเทียมโดยเฉพาะ polyethylene อ 2.5 การหักของกระดูกบริเวณข้อสะโพกเทียม 2.6 การบาดเจ็บของเส้นประสาทภายหลังผ่าตัดมักเกิดจากการกดทับจากภายนอก
การพยาบาล
กระดกข้อเท้า (ankle pumps)
ค่อยๆกระดกปลายเท้าขึ้นลงวันละหลาย ๆ ครั้งให้บ่อยที่สุดทุก 5-10 นาทีสามารถเริ่มทำได้ทันทีหลังผ่าตัดเสร็จและทำไปเรื่อย ๆ
กางสะโพก (abduction exercise)
นอนกางขาโดยค่อยๆเลื่อนขาออกไปข้างลำตัวให้กว้างที่สุดเท่าที่จะกว้างได้และเลื่อนกลับทำครั้งละ 10 รอบวันละ 3-4 ครั้ง
การปฏิบัติตัวหลังผ่าตัดข้อสะโพก
0 วันแรกหลังผ่าตัด
บริหารร่างกายในท่านอนควรเริ่มออกกำลังกายให้เร็วที่สุดตั้งแต่หลังผ่าตัดวันแรกเพื่อป้องกันภาวะปอดแฟบและปอดอักเสบให้หายใจเข้า-ออกลึก ๆ ช้าๆโดยหายใจเข้าลึก ๆ ค้างไว้ 30 วินาทีแล้วผ่อนลมหายใจออกช้าๆทำซ้ำ 5-10 ครั้งแล้วหายใจตามปกติวันที่ P
2 หลังผ่าตัด
บริหารร่างกายกล้ามเนื้อขาและกล้ามเนื้อรอบสะโพกในช่วงแรกหลังผ่าตัดจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปบริเวณขาและเท้าเพื่อป้องกันการเกิดก้อนเลือดอุดตันอีกทั้งยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและการเคลื่อนไหวของข้อสะโพก D
วันที่ 3-7 หลังผ่าตัด
บริหารร่างกายและกล้ามเนื้อรอบข้อสะโพกในท่ายืน (standing exercise)
คำแนะนำกับผู้ป่วยว่าหลังผ่าตัด 6 สัปดาห์แรก
"ควรหลีกเลี่ยงการงอข้อสะโพก (flexion) มากกว่า 90 องศาการบิดหรือหมุนข้อสะโพกออกนอกและเข้าในมากเกินไป (external and internal rotation ดูแลจัดท่านอนให้ผู้ป่วยดังนี้-นอนราบหัวสูง 30 องศาขาข้างที่ผ่าตัดกางออก (abduction) ประมาณ 15-30 องศาโดยใช้หมอนวางระหว่างขาทั้งสองข้างเพื่อป้องกันข้อสะโพกเคลื่อนหลุดขาอยู่ในท่าเหยียดตรง-หลีกเลี่ยงการงอขาทันทีการบิดหรือหมุนข้อสะโพกออกนอกและเข้าในมากเกินไป-นอนตะแคงไปข้างที่ไม่ทำผ่าตัดขณะพลิกตะแคงตัวต้องวางหมอนไว้ระหว่างขาทั้งสองข้างพร้อมกับระวังไม่ให้ขาข้างที่ทำผ่าตัดหุบเข้า
คำแนะนำการปฏิบัติตัวเมื่อกลับบ้าน
ขาข้างที่ทำผ่าตัดต้องอยู่ในท่ากางตลอดเวลานอนตะแคงไปทางขาข้างดีและต้องมีหมอนรองระหว่างขาให้ข้อสะโพกข้างที่ทำผ่าตัดกางประมาณ 30 องศาตลอดเวลา "บริหารกล้ามเนื้ออย่างต่อเนื่องย. การขึ้นเตียงให้ใช้ชาข้างดีขึ้นก่อนแล้วตามด้วยขาข้างที่ทำผ่าตัดควบคุมน้ำหนักไม่ให้มากเกินไปเพราะจะทำให้ข้อสะโพกและข้อเข่ารับน้ำหนักมากเกินไปอาจเกิดการเสื่อมและหลวมของข้อสะโพกเทียมเร็วกว่ากำหนด-การใช้ไม้ค้ำยันขึ้นกับความเห็นของแพทย์ว่าควรเลิกใช้เมื่อใด" พบแพทย์ตามนัดหรือมาพบก่อนหากมีอาการผิดปกติ
ข้อห้ามปฏิบัติห้ามทำกิจกรรมใด ๆ ที่ต้องงอสะโพกมากกว่า 90 องศา
ดังนี้ห้ามนั่งไขว่ห้างโดยใช้ขาข้างที่ทำผ่าตัดไขว่ขาข้างห้ามนั่งเก้าอี้ที่มีระดับต่ำกว่าสะโพกเช่นม้านั่งเตี้ย ๆ โซฟาห้ามก้มลงหยิบของบนพื้นให้ใช้ตะขอหรืออุปกรณ์อื่น ๆ ช่วยหยิบห้ามไขวขาหรือบิคขาเข้าด้านในห้ามขี่จักรยานอานเตี้ยห้ามกัมใส่รองเท้าหรือตัดเล็บเองในระยะแรกห้ามนั่งยอง ๆ
การพยาบาลผู้ป่วยผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม (knee arthroplasty)
KNEE ARTHROPLASTY การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมแบบทั้งหมด (total Knee replacement, TKR nia total knee arthroplasty. TKA)
เป็นการผ่าตัดเปลี่ยนผิวที่คลุมกระดูกข้อเข่าทั้งหมดทั้งกระดูก femur และ flbla อาจรวมถึงกระดูกสะบ้า (patella) ด้วยโดยการนำข้อเทียมเข้าไปครอบกระดูกที่เสื่อมจึงเหมาะสมกับผู้ป่วยที่มีปัญหาข้อเข่าเสื่อมขั้นรุนแรงโครงสร้างของข้อเข่าถูกทำลายมากข้อไม่มั่นคงหรือข้อแข็งผิดรูปทำให้เกิดความเจ็บปวดและความทรมานอย่างมากเป็นการเปลี่ยนผิวข้อเข่าใหม่ทั้งหมดเพื่อให้ข้อเข่าเคลื่อนไหวได้ดีขึ้นโดยปราศจากอาการปวด
ภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าตัด knee arthroplasty การเกิดลิ่มในหลอดเลือด (Thrombosls
) และภาวะลิ่มเลือดอุดหลอดเลือด (thromboembolism)) การหายของแผลผ่าตัดไม่ดีการติดเชื้อของแผลผ่าตัด•ความไม่มั่นคงของข้อ (joint Instability) กระดูกหักภายหลังจากใส่ข้อเข่าเทียมการแตกของเอ็นยึดกระดูกสะบ้า (patella tendon rupture) เส้นประสาทเพอร์โรเนียลได้รับบาดเจ็บ (peroneal nerve Injurles)).
การพยาบาลหลังการผ่าตัด knee arthroplast
y-เมื่อกลับมาจากห้องผ่าตัดในระยะแรกจะได้รับการพันข้อเข่าด้วยผ้าสำลีม้วนหนา (Robert jone's bandage or long leg perterior slab) •การจัดท่าให้ขาข้างที่ทำผ่าตัดได้พักในท่าเข่าเหยียค (extention) ป้องกันอาการบวมของขาข้างที่ทำผ่าตัดโดยการวางขาบนหมอนสูง 1-3 ใบหรืออาจจะยกปลายเตียงสูงขึ้นเล็กน้อย-ในช่วง 48 ชั่วโมงแรกหลังผ่าตัดอาการบวมจะเกิดขึ้นได้ง่ายสังเกตอาการผิดปกติของระบบไหลเวียนและการทำลายของ peroneal nerve โดยการตรวจดูปลายเท้าทุก 3-4 ชั่วโมงคูสีผิวการเคลื่อนไหวอุณหภูมิและการรับความรู้สึกที่ลดน้อยลงรวมทั้งคลำชีพจรที่หลังเท้า (Dorsalis Pedis pulse) ถ้าพบอาการผิดปกต้องรีบรายงานแพทย์
วันที่ 3 หลังผ่าตัดฝึกออกกำลังกล้ามเนื้อต้นขาโดยการยกขาที่ทำผ่าตัดให้สูงขึ้นในลักษณะเช่าเหยียดตรงกระตุ้นให้ผู้ป่วยเปลี่ยนอิริยาบถและเคลื่อนไหวร่างกายบ่อยๆลุกนั่งบนเตียงในผู้ป่วยบางรายหลังจากเอาท่อระบายเลือคและ compression Dressing หรือ Jones bandage ออกจะได้รับการเคลื่อนไหวข้อเข่าด้วยการใช้เครื่องเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง (continuous passive motion: CPM) ซึ่งมีหลักการในการให้การดูแลดังนี้ 1. อธิบายการทำงานและวิธีเปิด-ปิดเครื่อง 2. จัดวางขาผู้ป่วยบนเครื่องให้ขาตั้งตรงไม่บิดออกหรือหมุนไปด้านข้างในวันแรกมักจะตั้งเครื่องให้งอเข่าประมาณ 30 องศาและจะค่อยๆเพิ่มขึ้นทุกวันจนผู้ป่วยงอเข่าได้ 90 องศา (ประมาณวันที่ 4-5 หลังการผ่าตัด) arthroplasty บวม Swelling: cold compression ต่อเนื่อง 2-3 wks -elevate ขาบนหมอนโดยยกเท้าให้สูงกว่าหัวใจ -Brulsing (รอยฟกช้า) พบได้บริเวณต้นขาน่องข้อเท้าจะ absorb ได้เอง
การออกกำลังกายหลังการผ่าตัด
knee arthroplasty Ambulate training เดินด้วย walker ประมาณ 4-6 wks หรือตามที่แพทย์สั่ง> แนะนำการนั่งเก้าอี้แทนการนั่งพื้นหรือนั่งพับเพียบ»ไม่ไขว้ขาหรือบิดเข่าการเดินลงน้ำหนัก
การเดินลงน้ำหนัก
-การลงน้ำหนักแบ่งเป็น 5 ประเภทคือ-Non welght bearing ไม่ลงน้ำหนักเลย»-Toe touch welght bearing ลงน้ำหนักไม่เกิน 20% ของน้ำหนักตัว»-Partial welght bearing ลงน้ำหนัก 20-50% ของน้ำหนักตัว-Welght bearing as tolerate ลงน้ำหนัก 50-100% ของน้ำหนักตัว-Full welght bearing ลงน้ำหนักไม่เกิน 100% ของน้ำหนักตัว
โรคกระดูกที่เกิดจากการติดเชื้อ Infectious orthopedics diseases
ข้ออักเสบจากการติดเชื้อ (septic arthritis)
septic arthritis เป็นการอักเสบติดเชื้อที่กระดูกใกล้ข้อหนองที่เกิดขึ้นจะไม่ผ่านไปทางผิวหนัง แต่จะเข้าไปในข้อส่งผลให้มีการอักเสบติดเชื้อของข้อ (septic arthritis) ซึ่งข้อที่พบว่ามีการติดเชื้อบ่อยคือข้อสะโพกข้อเข่าข้อไหล่ข้อศอกและข้อมือ
ข้ออักเสบจากการติดเชื้อ (septlc arthritis)
-พยาธิสภาพเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายทางในกระแสเลือด 2. มีการอักเสบติดเชื้อของกระดูกมาก่อน 3. เข้าสู่ข้อโดยตรง-เชื้อที่เป็นสาเหตุ -Staphylococcus พบทุกช่วงอายุลักษณะทางคลินิกผู้ป่วยผู้ใหญ่ D มีอาการอักเสบของข้อชัดเจนเช่นปวดบวมแดงร้อน D มักเป็นข้อที่อยู่ตื้น ๆ เช่นข้อเข่าข้อมือข้อเท้า D อาการอาจไม่ชัดเจนในผู้ที่เป็น RA, on steroid D ปวดบริเวณข้อปวดมากแม้ขยับเพียงเล็กน้อย D มีของเหลวในช่องข้อเพิ่มมากขึ้น
ภาวะแทรกซ้อนของข้ออักเสบจากการติดเชื้อ (septic arthritis)
1. ทำลายกระดูกอ่อนผิวข้อข้อติดแข็ง 2. ข้อหลุค (ข้อสะโพก) 3. ทำลาย epiphysls ทำให้แขนขายาวไม่เท่ากัน 4. ทำให้เกิด Osteomyelitis ในกระดูกใกล้เคียง
โรคข้อเสื่อม (Osteoarthritis-OA
) ข้อเข่าเสื่อมหมายถึงการที่กระดูกอ่อนของเขามีการเสื่อมสภาพทำให้กระดูกอ่อนไม่สามารถเป็นเบาะรองรับน้ำหนักและมีการสูญเสียคุณสมบัติของน้ำหล่อเลี้ยงเข้าเมื่อมีการเคลื่อนไหวของข้อเข่าก็จะเกิดการเสียดสีและเกิดการสึกหรอของกระดูกอ่อนผิวของกระดูกอ่อนจะแข็งไม่เรียบเมื่อข้อเข่าเคลื่อนไหวจะเกิดเสียงดังในข้อเกิดอาการเจ็บปวดหากข้อเข่ามีการอักเสบก็จะมีการสร้างน้ำข้อเข่าเพิ่งทำให้เกิดการบวมตึงและปวดข้อเข่าเมื่อมีการเสื่อมมากขึ้นข้อเข่าก็จะมีการโก่งงอทำให้เกิดอาการปวดเข่าทุกครั้งที่มีการเคลื่อนไหวและขนาดของข้อเข่าก็มีขนาดใหญ่ขึ้น
โรคข้อเสื่อม (osteoarthritis-OA)
1. อายุ 2. พันธุกรรมและโรคเมตาโบลิซึม> 3. การเปลี่ยนแปลงในเมตาโบลิซึมของการทางานของเซลล์กระดูกอ่อน> 4. โรคที่มีข้ออักเสบ (Inflamatory Joint disease) » 5. การได้รับบาดเจ็บของข้อ (truam อ) 6. ความอ้วน (obesity)
อาการ
1. ปวดอาการปวดในโรคข้อเข่าเสื่อมมักมีลักษณะปวกซื้อทั่วไปบริเวณข้อปวดมากขึ้นเมื่อใช้งานทุเลาลงเมื่อพักการใช้งาน 2. ข้อมืดตึง (stiffness) พบได้บ่อยในช่วงเช้า (morning stiffness) แต่มักไม่นานเกินกว่า 30 นาทีอาการฝึกตึงอาจเกิดขึ้นชั่วคราวในช่วงแรกของการเคลื่อนไหว 3. ข้อใหญ่ผิดรูป (bony enlargement) พบมีข้อบวมใหญ่ซึ่งเกิดจากกระดูกที่งอกโปนบริเวณข้อและอาจพบขาโก่ง (bow leg) เขานิ่ง (knock knee) อาจมีการบวม 4. มีเสียงดังกรอบแกรบ (creplitus) ในข้อเข่าขณะเคลื่อนไหว 5. ทุพพลภาพในการเคลื่อนไหวและการทำงาน (reduced function) 6. ข้อเข่าเคลื่อนไหวได้ จำกัด (restricted movement)
การรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม
1. การรักษาโดยไม่ใช้ยา (Non pharmacologlc therapy) กายบริหารร่างกาย (Therapeutic exercise) "กายบริหารแบบใช้ออกซิเจนและแรงกระแทกต่ำ (low-impact aerobic exercise) เช่นการเดินการปั่นจักรยานการออกกำลังในน้ำเพื่อป้องกันแรงที่กระทำต่อข้อเข่ามากเกินไป" กายบริหารงอเหยียดข้อเข่า (ROM หรือ flexibility exercise) เพื่อป้องกันการยึดติดของข้อกายบริหารเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหน้าขา (quadriceps exercise) เพื่อให้กล้ามเนื้อช่วยลดแรงกระทำต่อข้อเข่า
กระดูกอักเสบจากการติดเชื้อ (osteomyelitis)
เป็นการอักเสบติดเชื้อของกระดูกทุกชั้นตั้งแต่ bone marrow,, Cortex จนถึงชั้น periosteum ตำแหน่งที่พบว่ามีการติดเชื้อบ่อยในวัยผู้ใหญ่คือกระดูกสันหลังเท้าและกระดูกต้นขา
กระดูกอักเสบติดเชื้อเฉียบพลัน (acute osteomyelitis)
เชื้อที่เป็นสาเหตุการตรวจพิเศษบ-staphylococcus aureus 90% CBC, ESR CRP อาการและอาการแสดง X-Ray มักพบความ ป.ป. ในระยะหลัง> 10 วัน-ไข้ปวดบวมแดงร้อนย Periosteal reaction บ Bone scan เคลื่อนไหวน้อยลง (pseudo paralysis) กดเจ็บที่ metaphysis Aspiration การรักษา 1. การรักษาโดยทั่วไป 2. การใส่ splint หรือ traction 4. การผ่าตัด 3. การให้ยาปฏิชีวนะ
กระดูกอักเสบติดเชื้อเรื้อรัง (chronic osteomyelitis)>
สาเหตุ 1. ภาวะต่อเนื่องจาการอักเสบเฉียบพลัน 2. เกิดตามหลังการติดเชื้อจากอุบัติเหตุ (open fracture)
กระดูกอักเสบติดเชื้อเรื้อรัง (chronlc osteomyelitis)
การรักษา-การใช้ยาปฏิชีวนะ-การผ่าตัดการทำผ่าตัดเอากระดูกที่เน่าตายออก (sequestrectomy) แต่ควรทำเมื่อเหมาะสม
โรคกระดูกที่เกิดจากการติดเชื้อ Infectious orthopedics diseases
วัณโรคกระดูกสันหลัง (TB spine)
อาการและอาการแสดง-
น้ำหนักลดผอมเบื่ออาหาร-ปวดหลังร้าวไปรอบตัว (girdle pain) เดินผิดปกติก้าวสั้นงอเข่า, สะโพก-พบ Cold abscess บริเวณเอวสะโพกด้านหน้าและขาหนีบ-การกคไขสันหลังและเส้นประสาทแขนขาอ่อนแรงแนวกระดูกสันหลังผิดปกติเช่นหลังค่อม (kyphosis) X-Ray ระยะแรก-Decalcification ระยะที่สอง-Body destruction narrowing intervertebal disc Kyphosis ระยะสุดท้าย-Sequestrum loss vertebral body Paravertebral abscess CT MRI
การรักษา
1. ให้ยาต้านเชื้อวัณโรค 2IRZE + AIR 2. การผ่าตัด Debridement + Spinal fusion
การพยายาลผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระดูก ่
ปวดเนื่องจากเนื้อเยื่อได้รับบาดเจ็บ-ผู้ปวยเสี่ยงต่อภาวะติดเชื้อที่แผลผ่าตัดเนื่องจาก-ตกเลือด (bleeding)-เสี่ยงต่อการเกิด compartment syndrome (CPS) เนื่องจากเนื้อเยื่อบริเวณ .. ได้รับบาดเจ็บ-เสี่ยงต่อการเกิด pulmonary embolism (PE), deep ven thrombosls (DVT) เนื่องจากมีการหักของกระดูกหักบริเวณ-เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน ได้แก่ แผลกดทับปอคแฟบติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ-ผู้ป่วยวิตกกังวลเกี่ยวกับการผ่าตัดเนื่องจากขาด / พร่องความรู้เกี่ยวกับการผ่าตัด .. -ผู้ป่วยขาค / พร่องความรู้ในการดูแลตนเองหลังผ่าตัด> พร่องการดูแลตนเอง