Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ใบความรู้หน่วยที่ 5 ผลของการใช้พลังงานต่อชีวิต และสิ่งแวดล้อม - Coggle…
ใบความรู้หน่วยที่ 5 ผลของการใช้พลังงานต่อชีวิต และสิ่งแวดล้อม
พลังงาน (Energy) เป็นปัจจัยสําคัญต่อการดํารงชีวิตของมนุษย์และจําเป็นต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจความต้องการใช้
พลังงานเพิ่มสูงขึ้นตามการเพิ่มของประชากรโลก การใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิลซึ่งมีอยู่จํากัดได้ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก และส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสิ่งแวดล้อมและความเป็นอยู่ที่ดีของมนุษย์ในยุคปัจจุบัน
ระดับปัญหาสิ่งแวดล้อม
นักสิ่งแวดล้อมแบ่งระดับปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นตามขนาดความเสียหาย และจํานวนคนที่ได้รับผลกระทบดังนี้
(ริเรืองรอง รัตนวิไลสกุล, 2559)
1.1 ปัญหาสิ่งแวดล้อมระดับท้องถิ่น
เช่น การปล่อยเขม่า ควัน เสียงดัง ของโรงสี
ข้าวในชนบท การทิ้งขยะส่งกลิ่นเหม็นในชุมชน เป็นต้น
1.2 ปัญหาสิ่งแวดล้อมระดับประเทศหรือภูมิภาค
เช่นการ
ลักลอบตัดไม้ทําลายป่า การค้ายาเสพติด การลักลอบค้าน้ํามันเถื่อน การขาดแคลนน้ําหรือภัยแล้ง
1.3 ปัญหาสิ่งแวดล้อมระดับโลก
เช่น การเกิดภาวะโลกร้อน การสูญเสียชั้นโอโซน การสูญเสีย
ความหลากหลายทางชีวภาพของโลก เป็นต้น
ผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากพลังงาน
สิ่งแวดล้อมได้รับผลกระทบจากพลังงานทั้งจากขั้นตอนการผลิต การใช้พลังงาน และ ประเภทของพลังงาน (ผลกระทบ
พลังงานต่อสิ่งแวดล้อม, 2548)
2.1 ผลกระทบจากขั้นตอนการผลิต (Environmental impact of energy production)
2.1.1 การผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินลิกไนต์และน้ํามันเตา ก่อให้เกิดมลภาวะทางอากาศมาก
2.1.2 การใช้พลังน้ําเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า
ราษฎรในพื้นที่น้ําท่วมต้องอพยพย้ายที่ตั้งถิ่นฐานใหม่ สัตว์
ป่าสูญเสียที่อยู่อาศัยหรืออาจสูญพันธุ์ไป แร่ธาตุต่าง ๆ
2.1.3 กระบวนการผลิตน้ํามันและก๊าซธรรมชาติ
ได้พบปัญหาน้ําโคลน เศษหิน ดินทราย รวมทั้งการ
ปนเปื้อนของน้ํามันดิบต่อพื้นที่บริเวณโครงการและพื้นที่ใกล้เคียง
2.2. ผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากการใช้พลังงาน (Environmental impact of energy consumption)
2.2.1 การคมนาคมขนส่ง การทํางานของเครื่องยนต์ที่ใช้น้ํามันเบนซินจะปล่อยและควันเสียออกมา ก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์ก๊าซไนโตรเจนออกไซด์
2.2.3 อุตสาหกรรม เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมจากการใช้น้ํามันเตาและถ่านหินลิกไนต์ซึ่งมีปริมาณกํามะถันสูง ก่อให้เกิด
ฝุ่นละออง ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์และก๊าซไนโตรเจนออกไซด์
2.3 ผลกระทบจากประเภทของพลังงานที่ใช้ (Environmenta impact of the type of energy used)
2.3.1 การใช้พลังงานนิวเคลียร์รังสีที่เกิดจากปฏิกิริยานิวเคลียร์อาจรั่วไหลซึ่งเป็นอันตรายมาก
2.3.2 การใช้ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม การเผาไหม้ปิโตรเลียมจะก่อให้เกิดมลภาวะทางอากาศ
2.3.3 การใช้ถ่านหินลิกไนต์มีทั้งการทําเหมือง และการเผาไหม้เนื่องจากสมบัติและองค์ประกอบของถ่านหินเอง
ได้แก่ เกิดน้ําเสียจากบ่อเหมือง น้ํากระด้าง
2.3.4 การใช้กังหันลม ถึงแม้การใช้พลังงานลมจะไม่ก่อให้เกิดมลภาวะร้ายแรงใด ๆ ต่อสิ่งแวดล้อม แต่ในการพัฒนาแหล่งพลังงานชนิดนี้มาใช้เป็นพลังงานทดแทนนั้นควรคํานึงถึง
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ดังนี้
ก. ผลต่อทัศนียภาพ เนื่องจากต้องใช้กังหันขนาดใหญ่ อาจบดบังส่วนต่าง ๆ ของพื้นที่ไป
ข. การเกิดมลภาวะทางเสียง เมื่อใบพัดขนาดใหญ่ทํางานจะเกิดเสียงดังมากรบกวนผู้อยู่ใกล้เคียง
ค. การรบกวนคลื่นวิทยุซึ่งเกิดจากใบพัดของกังหันที่ส่วนใหญ่ทําจากโลหะ เมื่อกังหันหมุนจะทําให้เกิดการรบกวนคลื่นวิทยุและโทรทัศน์ในระยะ 1–2 กิโลเมตรง. ผลกระทบต่อระบบนิเวศ เมื่อติดตั้งกังหันลมขนาดใหญ่อาจทําให้สิ่งมีชีวิตใกล้เคียงอพยพไปหาที่อยู่ใหม่
เนื่องจากแหล่งอาศัยเดิมถูกทลาย
2.3.5 การใช้พลังงานความร้อนใต้พิภพ พลังงานความร้อนใต้พิภพเป็นพลังงานได้เปล่าจากธรรมชาติ สามารถนํามา
ผลิตกระแสไฟฟ้าที่มีต้นทุนต่ําได้แต่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ภาวะโลกร้อน (Global warming)
เราจะเห็นความ สําคัญ
ของชั้นบรรยากาศของโลกได้ว่า ก๊าซเรือนกระจกซึ่งเป็นก๊าซที่เป็นส่วนประกอบของชั้นบรรยากาศของโลกมีคุณสมบัติในการดูดซับคลื่นรังสีความร้อนจากดวงอาทิตย์หรือรังสีอินฟราเรด (infrared) ได้ดีก๊าซเหล่านี้มีความจําเป็นต่อการรักษาอุณหภูมิใน
บรรยากาศของโลกให้คงที่ หากบรรยากาศโลกไม่มีก๊าซเรือนกระจกภูมิอากาศที่ผิวโลกจะเหมือนกับดวงจันทร์ที่ตอนกลางคืน
หนาวจัดตอนกลางวันร้อนจัด เพราะไม่มีชั้นบรรยากาศลดความร้อนจากดวงอาทิตย์และเก็บความร้อนบางส่วนไว้ที่ผิวโลกสิ่ง
ที่ต้องตระหนักก็คือ หากสัดส่วนของก๊าซในชั้นบรรยากาศเปลี่ยนแปลงไปจะมีผลกระทบโดยตรงต่อภูมิอากาศของโลกและจะ
ส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตในด้านต่างๆ ดังนี้ (โองการ วณิชาชีวะ, 2556)
3.1 ผลกระทบจากภาวะโลกร้อน
3.1.1 ด้านนิเวศวิทยา ภาวะโลกร้อนทําให้อุณหภูมิของโลกสูงขึ้น ฤดูร้อนจะยาวนานขึ้น ในขณะที่ฤดูหนาวจะสั้นลง
ภูเขาน้ําแข็งบริเวณขั้วโลกได้รับผลกระทบ น้ําแข็งละลายอย่างรวดเร็วส่งผลให้ระดับน้ําทะเลเพิ่มขึ้นและไหลสู่มหาสมุทรและ
ทะเลอื่น ๆ ทั่วโลก ทําให้เกิดน้ําท่วม แหล่งอาศัยของสัตว์น้ําเปลี่ยนแปลงทําให้สัตว์น้ําบางชนิดอาจไม่สามารถอยู่รอดได้ เป็นต้น
3.1.2 ด้านเศรษฐกิจ ธุรกิจท่องเที่ยวทางทะเลที่สําคัญจะสูญเสียรายเนื่องจากชายฝั่งเกิดการกัดเซาะ และแนวประกา
รับสูญหายไป ในทวีปเอเชียมีโอกาส 66-90 % ที่อาจเกิดฝนและมรสุมรุนแรง คิดเป็นมูลค่าเสียหายทางเศรษฐกิจ
มากกว่า 70,000 ล้านบาท
3.1.3 ด้านสุขภาพ ภาวะโลกร้อนขึ้นทําให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมแก่การฟักตัวของเชื้อโรคและศัตรูของพืชที่
เป็นอาหารของมนุษย์บางชนิดโรคเขตร้อนที่มียุงเป็นพาหะนําโรคจะแพร่กระจายไปยังเขตอบอุ่นได้เชื้อโรคที่ฟักตัวได้ดีใน
สภาพร้อนชื้นของโลกจะเพิ่มขึ้นมากในอีก 20 ปีข้างหน้า โรคที่จะมีการติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น ได้แก่ โรคมาลาเรีย อหิวาตกโรค
และอาหารเป็นพิษ
3.2 วิธีการแก้ไขและป้องกันภาวะโลกร้อน
วิธีการแก้ไขภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้นจากการใช้ทรัพยากรฟุ่มเฟือยของมนุษย์ มีวิธีแก้ไขได้หลายวิธี ซึ่งในที่นี้ได้
รวบรวมข้อมูลจากหลายแห่ง ดังตัวอย่างต่อไปนี้
ก. ปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มตัวดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์
ข. ขับรถด้วยความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะช่วยลดการใช้น้ํามันลงได้20%
ค. การใช้หลอดไฟฟ้าแบบคอมแพคฟลูออเรสเซนต์ช่วยประหยัดไฟฟ้าได้มากกว่าหลอดไส้ถึง 80%
ง. การใช้ฝักบัวชนิดประหยัดน้ํา (Water Efficient Showerhead) แทนการอาบน้ําแบบตักน้ํา สามารถลด
ปริมาณน้ําได้ถึง 25-75%
จ. ใช้วัตถุดิบ ผลิตภัณฑ์ และอาหารที่ผลิตในท้องถิ่นหรือประเทศ เพราะการขนส่งต้องใช้น้ํามันเป็นเชื้อเพลิงและ
ยังปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์
ฉ. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม เช่น ป้ายฉลากเขียว ป้ายประหยัดไฟเบอร์5 และมาตรฐาน
ผลิตภัณฑ์คุณภาพสินค้าเกษตรอินทรีย์เป็นต้น