Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

บทที่ 4, การป้องกันและช่วยเหลือเด็กที่ได้รับอุบัติเหตุและสารพิษ - Coggle…

- - - - ทำให้เกิดอันตรายต่อโครงสร้าง และหน้าที่ของร่างกาย
  - - - ได้แก่ สารละลายพวก กรดและด่างเข้มข้น น้ำยาฟอกขาว
      - ทำให้เนื้อเยื่อของร่างกายไหม้ พอง
    - - ได้แก่ ฟอสฟอรัส สารหนู อาหารเป็นพิษ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์
      - ทำให้เกิดอาการปวดแสบ ปวดร้อน และอาการอักเสบในระยะต่อมา
    - - ทำให้หมดสติ หลับลึก ปลุก ไม่ตื่น ม่านตาหดเล็ก
      - ได้แก่ ฝิ่น มอร์ฟีน พิษจากงูบางชนิด
    - - ทำให้เกิดอาการเพ้อคลั่ง ใบหน้าและผิวหนังแดง ตื่นเต้นชีพจรเต้นเร็ว ช่องม่านตาขยาย
      - ได้แก่ ยาอะโทรปีน ลำโพง
  - - - คือ ผู้ป่วยหมดสติ ได้รับสารพิษชนิดกัดเนื้อ เช่น กรด ด่าง
      - รับประทานสารพิษพวก น้ำมันปิโตรเลียม เช่น น้ำมันก๊าด เบนซิน
  - - - ถ้ารู้สึกตัวดีให้ดื่มนม
      - อย่าทำให้อาเจียน
      - รีบนำส่งโรงพยาบาล
  - - - รีบนำส่งโรงพยาบาล
      - ห้ามทำให้อาเจียน
      - ระหว่างนำส่งโรงพยาบาล ถ้าผู้ป่วยอาเจียน ให้จัดศีรษะต่ำ เพื่อป้องกันการสำลักน้ำมันเข้าปอด
  - - - ปฏิกิริยาอาจทำให้เกิดอันตรายมากขึ้น
- - - - เช่น ถ้าแผลมีขนาดเท่ากับ 5 ฝ่ามือ ก็ คิดเป็นประมาณ 5% เป็นต้น
  - - - เนื้อเยื่อชั้นผิวหนังจะถูกทำลายเพียงบางส่วน
        เป็นชั้นตื้นๆ มีเฉพาะอาการผื่นแดง ปวดแสบปวดร้อน
    - - มีการทำลายของผิวหนัง แต่ลึกถึงผิวหนังชั้นใน ต่อมเหงื่อและรูขุมขน จะปรากฏอาการบวมแดงมากขึ้น มีผิวหนังพองและมีน้ำเหลืองซึม
    - - บาดแผลที่มีการทำลายของหนังกำพร้าและหนังแท้ทั้งหมด รวมทั้งต่อมเหงื่อ ขุมขน และเซลล์ประสาท และอาจกินลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อหรือกระดูก
  - - - ลดการติดเชื้อ
- - - - จึงมักเอาสิ่งแปลกปลอมใส่ไปในช่องต่างๆ ของร่างกาย
  - - - เนื่องจากลักษณะทางกายวิภาคของทางเดินหายใจส่วนต้นของเด็กมีขนาดเล็กและแคบ
        
        ส่งผลต่อภาวะขาดออกซิเจน
  - - - ให้วางเด็กลงบนแขนของผู้ช่วยเหลือโดยให้ศีรษะต่ำ ตบหลัง (Back Blow)
      - สลับด้วยการอุ้มเด็กนอนหงายบนแขน และใช้นิ้วกลางและนิ้วนางของมือขวากดบนหน้าอก (Chest Thrust) อย่างละ 5 ครั้ง
    - - ใช้เทคนิคกดบริเวณหน้าท้อง (Abdominal Thrust หรือเรียกว่า Heimlich Manuever)
  - - - ดูแลให้เด็กได้รับการรักษาเบื้องต้นอย่างรวดเร็ว
      - ดูแลให้ออกซิเจนตามแผนการรักษา
      - สังเกตบันทึกสัญญาณชีพ ทุก 1-2 ชั่วโมง
      - ประเมินอาการและอาการแสดงของการอุดกั้นทางเดินหายใจ
      - เตรียมอุปกรณ์ในการช่วยเหลือเมื่อเกิด ภาวะฉุกเฉิน เช่น อุปกรณ์ให้ออกซิเจน เครื่องดูดเสมหะ
- - - - ทำให้เกิดภาวะ pulmonary edema
      - ปริมาตรน้ำที่ไหลเวียนในร่างกายลดลง เกิดภาวะ hypovolemia
      - ระดับเกลือแร่ในร่างกายสูงขึ้น หัวใจเต้นผิดปกติ หัวใจวาย ช็อกได้
    - - น้ำจืดจะซึมผ่านเข้าสู่ระบบไหลเวียนโลหิตของปอดอย่ารวดเร็ว
        
        เกิด hypervolemia
      - ระดับเกลือแร่ในเลือดลดลง หัวใจเต้นผิดจังหวะ อาจเกิดภาวะเม็ดเลือดแดงแตกhemolysis
  - - - โดยนวดหัวใจ 30 ครั้ง สลับกับ การเป่าปาก 2 ครั้ง
- - - - (pulselessness)
        
        จับชีพจรว่าเต้นแรงตีหรือไม่เปรียบเทียบกับแขนขาข้างที่ปกติ
      - (pallor paresthesia)
        
        สังเกตการไหลเวียนบริเวณอวัยวะส่วนปลายคือ ปลายมือ ปลายเท้า ผิวหนัง เล็บ
      - (paralysis)
        
        เคลื่อนไหวนิ้วมือนิ้วเท้าไม่ได้จากเส้นประสาทถูกกด
      - (pain)
        
        อาการเจ็บปวดที่มากกว่าเดิม
      - (swelling)
        
        อาการบวม