Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่10การพยาบาลผู้ป่วยที่มีพยาธิสภาพโลหิต, image, 152224391…
บทที่10การพยาบาลผู้ป่วยที่มีพยาธิสภาพโลหิต
Hematology
1.Bleeding disorder ปัญหาที่
Platelet ที่ช่วยในการแข็งตัวของเลือด
2.ปัญหาที่กลุ่มเม็ดเลือด
ขาว เช่น leukemia
3.Anemia ปัญหาที่เม็ดเลือดแดง ด้าน
-จำนวน ความสมบูรณ์ธาตุเหล็ก
ความพิการของเม็ดเลือดแดง
Anemia
Iron deficiencyVitamin B12 def.
Aplastic anemiaHemolytic anemia
Sickle Cell Disease
Bleeding
hemophilia A(factor VIII deficiency),
hemophilia B(factor IX deficiency),
von Willebranddisease
Lymphomama
Leukemia
Bleeding Disorder
เลือดออกผิดปกติเป็นภาวะที่มีความสำคัญ เนื่องจากอาจทำให้เกิดความพิการหรือเสียชีวิตได้ หากให้การวินิจฉัยและการรักษาไม่ถูกต้อง ภาวะเลือดออกผิดปกติ หมายถึงภาวะที่มีเลือดออกจากความผิดปกติในกลไกการห้ามเลือดของร่างกาย แพทย์ควรมีความรู้ ความเข้าใจเพื่อที่จะจัดการกับปัญหานี้
อาการ
เช่น
1.อวัยวะที่เลือดออกบ่อยๆ
2.ขนาดของ purpura
3.เลือดมักจะออกเมื่อมีบาดแผล
4.ขนาดจุดเลือดออก
5.จ้ำเขียว (ecchymoses)
6.เลือดออกจากบาดแผลตื้นๆ
7.เริ่มมีอาการเลือดออกหลังมีบาดแผล
Anemia
รูปแบบของ Anemia
Rbc ขนาดปกติNormocyticanemia
Rbc ขนาดใหญ่Macrocyticanemia
Rbc ขนาดเล็กMicrocyticanemia
ปัจจัยของ ANEMIA
ไขกระดูกสร้างเม็ดเลือดแดง
ได้ลดลงโรคของไขกระดูก Aplastic
anemiaไตวายเรื้อรัง
Erythropoeitin ลดลงไทรอยด์ทำงานต่ำ
ขาด B12ขาดธาตุเหล็ก=เสียเลือด
การอักเสบเรื้อรัง=การถูกทำลายเพิ่ม
การตรวจวินิจฉัย
CBC), which determines the number, size, volume, and hemoglobin content ofred blood cells
Blood iron level and your serum ferritin level, the best indicators of your body's total
iron stores
Levels of vitamin B12 and folate, vitamins necessary for red blood cell production
การตรวจวินิจฉัย ได้แก่
LDH : lactate dehydrogenase มีGlobin,
Bilirubin: ค่าสูงกว่าปกติ,Fe,
Iron,Reticulocyte count : ค่าสูงกว่าปกติ,
CBC
symptoms
(อาการ)
•Weakness
• Shortness of breath
• Dizziness
• Fast or irregular heartbeat
• Pounding or "whooshing" in your ears
• Headache
• Cold hands or feet
• Pale or yellow skin
• Chest pain
leukemia
แบ่งตามชนิดของเซลล์มะเร็ง
1มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดมัยอีโลจีนัส (myelogenous leukemia) เป็นชนิดของมะเร็งที่เกิดจากเซลล์ในสาย myeloid เติบโตผิดปกติ
2มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดลิมโฟซิติก (lymphocytic leukemia) เป็นชนิดของมะเร็งที่เกิดจากเซลล์ในสาย lymphoid
มะเร็งเม็ดเลือดขาวสามารถแบ่งได้หลายแบบ ได้แก่ แบ่งตามระยะการเกิดโรค และแบ่งตามชนิดของเซลล์มะเร็ง
แบ่งตามระยะเวลาเกิด
1มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน (acute leukemia) คือการที่เซลล์ตัวอ่อนของเม็ดเลือดขาวแบ่งตัวอย่างรวดเร็ว อาการของโรคจะเกิดขึ้นอย่างฉับพลันและรุนแรง ผู้ป่วยจึงจำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
2มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเรื้อรัง (chronic leukemia) คือการที่เซลล์เม็ดเลือดขาวถูกผลิตออกมามากเกินไป ทำให้ผู้ป่วยมีเม็ดเลือดขาวมากกว่าปกติ เนื่องจากความผิดปกติเกิดขึ้นอย่างช้าๆ ผู้ป่วยอาจไม่มีอาการผิดปกติใดๆ เลยเป็นเวลานับปี แต่สามารถตรวจพบได้จากการตรวจเลือด
อาการ
เม็ดเลือดแดงลดลง ผู้ป่วยอาจมีอาการจากภาวะโลหิตจาง เช่น เหนื่อยง่าย ใจสั่น วิงเวียนศีรษะ
เม็ดเลือดขาวลดลง ทำให้ติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
เกล็ดเลือดลดลง ทำให้มีภาวะเลือดออกง่ายกว่าปกติ อาจพบจุดเลือดออกหรือจ้ำเลือดตามตัว รวมถึงภาวะเลือดหยุดยาก
การวินิจฉัย
การเจาะเลือดตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (complete blood count, CBC) อาจพบฮีโมโกลบินต่ำ เกล็ดเลือดต่ำ จำนวนเม็ดเลือดขาวสูงหรือต่ำกว่าปกติก็ได้ และอาจพบเม็ดเลือดขาวตัวอ่อนได้ แพทย์จะตรวจยืนยันการวินิจฉัย โดยการตรวจไขกระดูก เพื่อนับจำนวนเซลล์ตัวอ่อน ส่งตรวจพิเศษเพื่อแยกชนิดของเซลล์ myeloid และ lymphoid รวมถึงส่งตรวจโครโมโซมเพื่อการพยากรณ์โรค
การเจาะไขกระดูกเป็นการตรวจที่จำเป็นในการวินิจฉัยมะเร็งเม็ดเลือดขาว โดยแพทย์จะใช้เข็มดูดและตัดชิ้นเนื้อบริเวณหลังกระดูกสะโพกหรือหลังกระดูกเชิงกราน (ไม่ใช่การเจาะน้ำไขสันหลัง) ระยะเวลาในการเจาะประมาณ 10-15 นาที และไม่ต้องนอนโรงพยาบาล
โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว หรือลูคีเมีย (Leukemia) เป็นโรคมะเร็งที่เกิดขึ้นในไขกระดูก เกิดจากมีเซลล์เม็ดเลือดขาวตัวอ่อนเติบโตมากผิดปกติโดยไม่ทราบสาเหตุ การแบ่งตัวอย่างไม่หยุดของเซลล์เหล่านี้ ได้ไปรบกวนการสร้างเม็ดเลือดปกติชนิดอื่นของไขกระดูก ทำให้เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาวปกติ และเกล็ดเลือดลดลง ส่งผลให้ผู้ป่วยมีภาวะโลหิตจาง